Chapter 5 ไม่ใช่ไม่ชอบ

1258 Words
ตื่นมาอีกทีตอนสายก็ไม่เจอเธอแล้ว... อัลเบอร์โตลุกนั่งเปลือยบนฟูกนอนสีขาว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ศีรษะปวดจี๊ดจนระบม เขาเมาค้าง... เมื่อคืนดูเหมือนจะดื่มมากเกินไปกว่าที่คิดไว้ และดูเหมือนเขาจะทำเรื่องใหญ่มากๆ ลงไปด้วย ชายหนุ่มจ้องมองหยดเลือดบนเตียงแล้วก็ล้มตัวนอนหงายมองเพดาน โอ พระเจ้า! เขานอนกับเด็กรับใช้ในบ้านตั้งแต่คืนแรกที่กลับมาจากสวีเดน ได้ไงวะ!? ‘ฉันรักเธอ โรซี่’ เสียงกระซิบของตัวเองดังลอดเข้ามาในภวังค์ ตอนนั้นเขามั่นใจในสิ่งที่พูด แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้วว่าเขารู้สึกถึงขั้นนั้นจริงหรือแค่แรงอารมณ์พาไป แต่ก็ดันมีเซ็กส์กับเธอไปแล้ว...มันดีมากด้วย เขาไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนั้นมาก่อนเลย ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ก่อนลุกขึ้นเดินเข้าไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วสวมเสื้อผ้าเดินกึ่งวิ่งลงไปชั้นล่าง เขาเจอนีน่า แม่บ้านเก่าแก่ที่บันไดล่างสุด ทักทายเล็กน้อยก็ตรงดิ่งเข้าครัวทันที เขาหิวด้วยนั่นแหละ แต่ที่มากกว่าหิวเขาอยากคุยกับเธอมากกว่า ในครัวไม่มีใครอยู่เลยเพราะสายมากแล้ว อัลเบอร์โตจึงหันเดินไปทางห้องพักส่วนตัวของรสิตาแทน เขารีรอให้พ้นจากสายตาของนีน่าก่อนจึงจับลูกบิดประตู แต่พบว่ามันล็อค ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ล็อคอยู่ก็ดีจะได้รู้ว่าเธออยู่ข้างในห้อง ‘ก๊อกๆ’ “โรส ฉันเอง” เงียบ... ไม่มีเสียงความเคลื่อนไหวใดๆ ข้างในนั้น อัลเบอร์โตหันรีหันขวาง สบถเบาๆ ก่อนเดินกึ่งวิ่งขึ้นไปที่ห้องทำงานของบิดา ริคเก็บกุญแจทั้งหมดไว้ในตู้เก็บกุญแจเสมอ เขาหาอยู่นานกว่าจะเจอกุญแจสำรองห้องของเธอ แต่เมื่อเดินกึ่งวิ่งลงบันไดมา ประตูนั้นก็คลายล็อคไปเสียก่อน และด้านในไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงเตียงหลังเล็กกับตู้เสื้อผ้าในห้องโล่งๆ ไร้สมบัติพัสถานใดเท่านั้น ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เดินควงพวงกุญแจเข้าไปนั่งลงบนเตียงนอนแข็งๆ มองไปโดยรอบเห็นความเป็นอยู่ของเธอแล้วก็ยอกขมอยู่ในใจ รสิตาเป็นเด็กสาวที่น่าสงสาร เรื่องนั้นเขารู้ดี เธอขาดพ่อ ขาดแม่ ขาดครอบครัว ขาดความรัก ไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนประชากรชาวอิตาลีทั่วไปทั้งที่ตอนนี้เธอควรได้รับการศึกษาชั้นไฮสกูลปีสุดท้าย เธอควรได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย หรืออาจเลือกทำงานตามความฝัน แต่เธอไม่มีโอกาสอะไรสักอย่าง นอกจากทำงานรับใช้ตระกูลเดรอซซีไปวันๆ ราวกับเป็นมรดกที่พ่อแม่เธอทิ้งไว้ให้ และเธอต้องรักษา มันไว้จนวันตาย “อุ๊ย คุณชาย” เสียงทักจากหน้าประตูที่เปิดทิ้งไว้ทำให้ชายหนุ่มหันมองไป เขาเห็นนีน่ายืนมองเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตะลึงและสงสัย “เข้าไปทำอะไรในห้องของโรสคะ หรือเด็กคนนั้นขโมยอะไรจากห้องคุณชายมา!” “เปล่านี่” เขาตอบหน้าตาเฉย “แล้วฉันจะทำอะไรอยู่ที่ไหน ห้องใคร ในบ้านหลังนี้ในฐานะลูกชายของริคไม่ได้หรือไง ฉันหรือนีน่ากันแน่เป็นเจ้าของบ้าน” นีน่าหน้าเสีย ก้มศีรษะนิดหนึ่งอย่างระวังก่อนหันหลังเดินออกไป รสิตาอู้งาน เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำเลยตลอดระยะเวลาการทำงานสิบกว่าปี เธอชอบทำงานบ้าน ชอบดูแลริค และเอ้อ... ชอบดูแลอัลเบอร์โตมากด้วยตอนที่เขายังไม่ไปเรียนต่อที่สวีเดน หญิงสาวนั่งกอดเข่ามองฟ้าอวลเมฆอยู่ริมน้ำใต้ต้นไม้ ไม่ไกลจากรั้วของคฤหาสน์เดรอซซีมากนัก โชคดีที่ริคไม่ได้สร้างบ้านไว้ใจกลางเมืองจนเธอไม่มีที่จะหนีไปนั่งสงบพักใจได้ แต่เขาเลือกจะสร้างบ้านไว้ในที่ห่างไกล สงบ เงียบ และที่ดินส่วนใหญ่แถบนี้เป็นของตระกูลเดรอซซี จึงไม่มีเพื่อนบ้านมากนัก ริคปล่อยที่ดินฝั่งนี้เป็นที่รกร้าง ยามฤดูใบไม้ผลิหญ้าจะขึ้นรกรุงรัง เขียวสบายตา แต่ฤดูหนาวแบบนี้จะว่าไปตรงนี้ก็หนาวเอาเรื่อง แต่รสิตา ไม่อยากอยู่ในบ้านนี่ ยิ่งเมื่อเช้าอัลเบอร์โตมาหาเธอถึงที่ห้องทั้งที่เขาไม่เคยทำแบบนั้นเลย มันทำให้เธอกลัว กลัวว่าเรื่องแบบเมื่อคืนนี้จะเกิดขึ้นอีก ไม่ใช่ไม่ชอบ... หญิงสาวคิดอย่างกระดากอาย ใบหน้าอ่อนใสซับสีแดงราวเลือดนก เธอซุกหน้าตัวเองลงกับเข่า ไม่อยากรับรู้อีกแล้วว่าอนาคตจะเกิดอะไรต่อไป คำว่า ‘รัก’ นั้นจริงหรือ? คุณชายผู้สูงศักดิ์แบบเขาน่ะหรือจะรักผู้หญิงต่ำต้อยแบบเธอ เขาไปเรียนไกลถึงต่างประเทศตั้งหกปี เอาเวลาที่ไหนมาชอบพอเธอกัน ตอนที่เขาไป เธอก็เพิ่งอายุราวๆ สิบสองปีเอง เขาที่อายุสิบแปดแล้วจะรักเด็กแบบเธอได้อย่างไร เขาหลอกฟันเธอ ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว คิดแล้วรสิตาก็ใจหาย หญิงสาวปลดปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเสียใจ กระทั่งเสื้อคลุมตัวโตถูกโยนลงบนไหล่ เธอสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของเสื้อที่ยืนล้วงกระเป๋ามองมาอย่างเฉยเมย ก่อนรีบลุกขึ้นยืนก้มหน้า สองมือบีบกันแน่นอย่างกดดัน “ทำไมไม่เปิดประตูให้ฉัน” เขาตำหนิ “แล้วทำไมหนีมาอยู่ที่นี่ งานการไม่มีทำหรือไง” รสิตาก้มหน้าต่ำลงไปอีก ไหลเล็กห่อลู่ ก่อนตอบเสียงแหบระโหย “ขอโทษค่ะ... คุณชาย” เธอดูบอบบางราวตุ๊กตากระเบื้องที่แตกร้าว เสียจนอัลเบอร์โตสะท้อนใจแต่ก็ไม่รู้จะปลุกปลอบยังไง ได้แต่โมโหตัวเองอยู่ในใจที่ปากไม่เคยตรงกับใจเลยเสียที! เขาอยากดึงเธอมากอด จูบปลอบให้เธอหายสั่น ไม่ใช่มาตำหนิดุว่ากลบเกลื่อนความอ่อนไหวในใจตัวเองแบบนี้ แต่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายบ้าๆ ก็ผูกรัดเขาไว้อย่างน่ารำคาญ และชายหนุ่มก็ปัดมันไม่ไปออกเสียด้วย “ช่างเถอะ กลับบ้านได้แล้ว” ไวกว่าความคิด มือหนายื่นออกไปดึงมือนุ่มให้เดินตาม แต่เธอกลับสะบัดมือเขาออกอย่างไม่คาดฝัน รสิตาเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาตื่นตกใจ หยาดน้ำตายังไหลรินเป็นสาย “เฮ้!” เขาตกใจตัวเองเหมือนกันที่ตะคอกเธอ แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะตกใจกว่า เพราะใบหน้าอ่อนเยาว์ซีดเผือดราวกระดาษ อัลเบอร์โตจึงพยายามข่มอารมณ์ไม่ได้ดั่งใจลง และใช้ความเร็วที่เป็นต่อรวบตัวเธอมาบดจูบดื่มด่ำ หมายจะใช้สัมผัสจากร่างกายถ่ายทอดความรู้สึกในใจในเมื่อคำพูดมันไม่ช่วยอะไรเขาเลย ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก มองสบตาตื่นตระหนกราวกวางตัวน้อยอย่างเอ็นดู และพอใจที่ใบหน้าเนียนใสมีสีแดงระเรื่อแตะแต้มอีกครั้ง “อย่าปฏิเสธฉัน” เขากระซิบ “อะไรที่ฉันสั่ง เธอต้องทำตามทั้งหมด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD