Chapter 1 สาวใช้
อากาศหนาวโรยตัวลงมายังคฤหาสน์เดรอซซี ที่ตั้งอยู่ชานเมืองแห่งหนึ่งของประเทศอิตาลี รสิตาห่อไหล่ด้วยความหนาว ใบหน้าสวยสะคราญอ่อนเยาว์ซับสีแดงระเรื่อรับอากาศที่คุ้นชินนับแต่เกิด หญิงสาวสวมชุดเครื่องแบบแม่บ้านของคฤหาสน์ เดรสแขนตุ๊กตาสีดำ ถูกสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาว ซึ่งนอกจากชุดนอนแล้ว นี่เป็นชุดเพียงแบบเดียวที่หญิงสาวจำเป็นต้องสวมทุกวันมานับแต่จำความได้
“โรส”
สิ้นเสียงเรียกเคร่งขรึมจากทางด้านหลัง ร่างอวบอ้วนของแม่บ้านวัยกลางคนก็เดินมาหยุดตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยเย็นชา นีน่าหรี่ตามองเด็กสาวอย่างชิงชัง ก่อนออกคำสั่ง
“อย่าลืมไปเก็บกวาดห้องคุณอัลเบอร์โตด้วย มะรืนนี้คุณชายจะกลับจากสวีเดนแล้ว อย่าให้ฉันเห็นว่ามีฝุ่นสักแค่ปลายนิ้วในห้องส่วนตัวของคุณชาย ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
หัวหน้าแม่บ้านของคฤหาสน์สะบัดตัวหันเดินไปอีกทางทันทีโดยไม่รอให้หญิงสาวตอบกลับ ราวกับรังเกียจกระทั่งวจีตอบสักคำของรสิตา สาวน้อยถอนหายใจเฮือก เธอก็พอรู้อยู่บ้างว่าทำไมนีน่าจงเกลียดจงชังเธอ ทั้งที่กับสาวใช้คนอื่น นีน่าก็ไม่แสดงกิริยาชิงชังถึงเพียงนี้ แต่ช่างหัวนีน่าเถอะ
การกลับมาของอัลเบอร์โต เดรอซซี ต่างหาก ที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกหัวใจพองโต...
ตระกูลเดรอซซีมีลูกชายฝาแฝดสามคนที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย ลูกชายคนโต ลูซิโอ เป็นนักแสดงชื่อดังที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน ตอนนี้ติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่บัลแกเรีย
อาโม ศึกษางานในธุรกิจจิลเวลลีของครอบครัวมาสองปีแล้วนับตั้งแต่เรียนจบ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่บ้านพักส่วนตัวในตัวเมือง บริษัท Demon’s love ผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นนำของอิตาลีก่อตั้งโดยบิดาของเขา ริค เดรอซซี นักธุรกิจมือฉมัง เจ้าของคฤหาสน์และทรัพย์สินมหาศาลจนถูกนับเป็นผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆ ในวงการธุรกิจของอิตาลี
ส่วน อัลเบอร์โต น้องชายคนสุดท้องของครอบครัว ถูกส่งไปเรียนต่อที่สถาบันชั้นนำของสวีเดนตั้งแต่จบเกรดสิบสอง จนตอนนี้เรียนจบปริญญาโทสาขาการออกแบบอัญมณีแล้ว
หลายปีแล้วที่อัลเบอร์โตจากบ้านนี้ไป... ตอนนั้นรสิตายังเป็นเด็กสาวอายุเพียงสิบสามปี เธอยังจำได้ดีว่าการเติบโตในฐานะสาวใช้ของตระกูลเดรอซซีนั้นขมขื่นเพียงใด
มารดาของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่รสิตายังจำความไม่ได้ พ่อของเธอเป็นหัวหน้าพ่อบ้านเก่าแก่วัยชราที่ตอนนี้ก็ทิ้งเธอกลับไปพบพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์แล้ว เธอเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว อย่างแปลกประหลาด ความที่เป็นเด็กลูกครึ่งตาสีน้ำตาล ผมสีดำ และมีผิวพรรณผุดผาดสีน้ำผึ้งเหมือนมารดาชาวไทย ทำให้เธอถูกลูกคนรับใช้ด้วยกันกลั่นแกล้งเสมอ
โดยเฉพาะ ดีโน ลูกชายสารเลวของนีน่า!
ทุกครั้งที่ถูกดีโนแกล้ง อัลเบอร์โตจะยื่นมือมาช่วยเธอเสมอ ทั้งที่เขาเองก็เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบแกล้งดึงผมเปียเธอเป็นประจำ อัลเบอร์โตเคยบอกว่าเขาเกลียดดีโนเพราะดีโนนิสัยเสีย สถุล กักขฬะ ในขณะที่ดีโนก็แอบด่าอัลเบอร์โตลับหลังว่าเย่อหยิ่งจองหอง ส่วนรสิตานั้นในอดีตเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครเลย และอยากให้พวกเด็กผู้ชายปล่อยให้เธอทำงานโดยไม่ตามก่อกวนมากกว่า แค่เป็นลูกคนใช้ก็เหนื่อยพอแรงแล้ว เธอไม่อยากสู้รบปรบมือกับใคร
วันหนึ่งอัลเบอร์โตเรียกเธอไปรับใช้ส่วนตัวและอาศัยหลับนอนในตัวคฤหาสน์ชั้นล่างโดยได้รับอนุญาตจากบิดาของเขาแล้ว ตอนนั้นเขาอายุสิบเจ็ด ส่วนเธออายุสิบเอ็ดปี แต่รสิตาก็โตช้ากว่าสาวอิตาลีจึงยังถูกมองว่าเป็นเด็กแปดขวบอยู่เสมอ เธอดูแลขัดถูห้องนอนส่วนตัวของเขาเป็นงานหลัก ซักผ้าทำอาหารว่างให้เขาเป็นงานรอง เป็นหนึ่งปีที่รสิตาวุ่นวายหัวหมุนเพราะอัลเบอร์โตไม่เคยปล่อยให้เธอมีเวลาว่าง
และเป็นหนึ่งปีที่อาจเพราะความใกล้ชิดหรืออะไรก็แล้วแต่... ทำให้บางครั้งเมื่อเขามองมา
หัวใจของรสิตาก็เต้นแรง...
เด็กสาวในเวลานั้นไม่ยอมรับว่ามันคือความรัก เธอปฏิเสธและปัดความรู้สึกหวั่นไหวทิ้งไปเสียทุกครั้งและสั่งให้ตัวเองก้มหน้าก้มตาทำงาน เผลอเผล็บเดียว อัลเบอร์โตก็เดินทางไปเรียนต่อไกลถึงสวีเดน เธอถูกสั่งย้ายให้ไปดูแลริคแทนลูกชายคนเล็กของเขา แต่ริคผู้ตกพุ่มม่ายก็ไม่ใช้งานเธอหนักเหมือนอัลเบอร์โต หกปีมานี้เรียกได้ว่ารสิตาอยู่สบายขึ้นมาก แต่ในขณะเดียวกันความโชคดีของเธอก็จุดไฟริษยาในใจของสาวใช้หลายคน โดยเฉพาะนีน่า เสียจนเธอได้รับรางวัลเป็นศัตรูตัวเอ้รุ่นแม่ขึ้นมาโดยแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
รสิตาถอนหายใจยาว เธอลากถังใส่อุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของอัลเบอร์โตที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีมาตลอดหกปีราวกับว่าเขายังใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เธอเองเป็นคนดูแลทำความสะอาดโดยไม่มีใครสั่ง เพราะริคยืดหยุ่นกับการใช้งานเธอมากเสียจนรสิตามีเวลาว่างมากมาย และมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องของคุณชายคนเล็กอยู่เสมอ
หญิงสาวใช้เวลาปัดกวาดเช็ดถูไม่นานก็ไม่มีความสกปรกส่วนไหนของห้องให้ต้องลงมือทำ เธอจึงถือวิสาสะหยิบหนังสือบนชั้นวางมานั่งอ่านเล่นบนพื้นพรมข้างเตียง
อัลเบอร์โตชอบอ่านหนังสือ แต่ส่วนใหญ่เป็นหนังสือปรัชญาหรือไม่ก็เศรษฐศาสตร์หรือหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีที่เขาสนใจเท่านั้น กระนั้นเกือบสิบชั้นที่ตู้หนังสือตู้หนึ่ง จะมีนวนิยายรักฉบับเก่าจนเหลืองกรอบเก็บไว้อย่างดี เป็นของสะสมของมารดาของเขาที่จากไป อัลเบอร์โตหวงมาก และไม่เคยรู้เลยว่ารสิตาแอบหยิบมาอ่านจนเกือบหมดทุกเล่มแล้ว
ต้องขอบคุณอัลเบอร์โตที่เคยสอนการอ่านเขียนหนังสือให้เธอ รสิตาคิดด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยหนังสือของแม่เขา ก็ช่วยพาเธอออกจากความอึดอัดเบื่อหน่ายในแต่ละวัน และเดินทางสู่ดินแดนที่ไม่มีใครเข้ามาคอยชี้นิ้วสั่งอย่างหยาบคายหรือรังแกเธอได้
หญิงสาวใช้เวลากับหนังสือเล่มล่าสุดอย่างเพลิดเพลินและเริ่มง่วงแต่ก็สนุกจนวางไม่ลง รสิตาบอกตัวเองว่าจะขอพักสายตาสักประเดี๋ยว จึงซบหน้าลงกับสตูลปลายเตียงและวางหนังสือไว้ไม่ห่างจากมือนัก พระอาทิตย์ลับหายไปทางทิศตะวันตกนานแล้ว พระจันทร์เต็มดวงเปล่งแสงสีทองกลางเวิ้งฟ้า ตอนที่มีใครคนหนึ่งไขประตูเข้ามาในห้อง
กลิ่นโคโลญจน์ผสมกลิ่นเหล้าราคาแพงกรุ่นฟุ้ง...