หลายวันผ่านไปโจฮันก็ได้เข้าพบกับนายทุนใหญ่ที่ให้การช่วยเหลือเอเดอริกเสียที การพูดคุยของทั้งสองคนเป็นไปอย่างราบรื่น เสี่ยอิท หรือนายอิทธิพล ไม่ได้สงสัยในตัวของโจฮันแม้แต่น้อย ออกจะพึงพอใจด้วยซ้ำที่ประธานคนใหม่ของบริษัท Good logistics corporation มาพบด้วยตัวเองเพื่อฝากเนื้อฝากตัว
“เที่ยงนี้อยู่ทานข้าวกันก่อนนะครับคุณโจฮัน”
นายอิทธิพลบอกโจฮันหลังจากคุยธุระเรื่องงานเรียบร้อย สายตาของชายวัยกลางคนดูจะพึงพอใจคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าผู้ชายรุ่นลูกมีคุณสมบัติเหมาะสมกับลูกสาวของตน หากเขาได้เป็นพ่อตาของโจฮันจะดีขนาดไหน
“ได้ครับท่าน ผมไม่ขัดข้อง” เขาตอบรับทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะต้องการเข้าใกล้นายคนนี้อยู่แล้ว เรื่องอะไรจะปฏิเสธ แต่สิ่งที่ไม่รู้คือนายอิทธิพลมีแผนมากกว่านั้นถึงได้เอ่ยชวนรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน
“อย่าเรียกทงเรียกท่านเลย เรียกลุงดีกว่า”
คนอยากมีลูกเขยหล่อ รวย ยกมือขึ้นแล้วโบกไปมา ก่อนจะบอกให้โจฮันเปลี่ยนสรรพนามเรียกตนเอง ทั้งที่ปกตินายอิทธิพลค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่าง น้อยนักที่จะยอมให้คนที่เพิ่งรู้จักกันเรียกลุง
“ได้ครับ คุณลุง”
คนตัวโตพยักหน้าหงึกหงัก ไม่ขัดข้อง แต่อดแปลกใจไม่ได้ เหตุใดผู้ชายตรงหน้าอยากสนิทสนมกับตนนัก มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน เขาคิดในขณะฟังนายอิทธิพลพูดต่อ
“แบบนี้สิถึงจะเข้าท่า ฮ่า ๆๆๆ ว่าแต่คุณโจฮันมีแฟนหรือยัง”
หัวเราะด้วยความพึงพอใจเสร็จก็รีบสอบถามเรื่องที่อยากรู้ทันที เนื่องจากลูกสาวคนเดียวของตนยังโสด
“เอ่อ ยังครับ ผมโสด” โจฮันตกใจเล็กน้อยกับคำถาม แต่ก็ยอมตอบอยู่ดีเพราะอยากรู้ว่านายอิทธิพลจะมาไม้ไหน ทั้งชวนกินข้าว ทั้งถามเรื่องสถานภาพ
“แบบนี้ก็ดีเข้าไปใหญ่ ลูกสาวของผมก็โสด”
คนอยากมีลูกเขยรีบเอ่ยถึงลูกสาวอย่างไม่อายปาก และคิดอย่างมุ่งมั่นว่าตนต้องได้เกี่ยวดองกับตระกูลของหนุ่มรุ่นลูกคนนี้ให้ได้
“ครับ” เขาทำหน้านิ่งเมื่อรู้แล้วว่าคนตรงหน้าต้องการสิ่งใด
“ฮ่า ๆๆๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกครับ ผมก็พูดไปเรื่อยเปื่อย อ้าว มาพอดีเลยลูก” ในจังหวะนั้นประตูห้องทำงานได้ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับการปรากฏตัวของจินนิยา
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นมาไหว้บิดา และไม่ลืมที่จะไหว้แขกของบิดาที่เธอเห็นปุ๊บก็ถูกใจปั๊บราวกับรักแรกพบ ใบหน้าของจินนิยาแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้สบตาคมของโจฮันที่กำลังมองเธอเช่นกัน
“นี่คุณโจฮัน ประธานคนใหม่ของ GL”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ จินนี่ค่ะ” เธอยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ก่อนจะยื่นมือออกไปทำความรู้จักกับชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า โจฮันจึงลุกขึ้นมาแล้วรีบยื่นมือไปจับเบา ๆ ตามมารยาท และสัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของผู้หญิงคนนี้ที่มีไม่ต่างจากบิดา
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมโจฮันครับ”
จินนี่ หรือจินนิยา ลูกสาวคนเดียวของเสี่ยอิท ปรายตามองโจฮันตั้งแต่หัวจดเท้าราวกับเจอของถูกใจ มุมปากของเธอยกขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่เดินไปนั่งบนโซฟาเพื่อรอไปรับประทานอาหารเที่ยงพร้อมบิดาและแขกหนุ่มตาน้ำข้าว
ต่างจากโจฮันที่รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาชอบกลกับสายตาของจินนิยา และไม่ชอบเอาเสียเลยที่เธอมองตนคล้ายจะกลืนกินแบบนี้ ถ้ามัดมุกมองก็ว่าไปอย่าง ชายหนุ่มตกใจกับความคิดของตนไม่น้อย ภาพคืนนั้นจึงลอยเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่อยู่
บรรยากาศการรับประทานอาหารของทั้งสามคนเป็นไปอย่างชื่นมื่น จินนิยาดูท่าจะถูกใจโจฮันเอามาก ๆ จึงแสดงออกอย่างออกนอกหน้าแบบไม่อาย คอยดูแลเทกแคร์ราวกับแฟนก็ไม่ปาน สร้างความอึดอัดใจให้แก่โจฮันไม่น้อย แต่เขาเก็บอาการเก่งจึงไม่แสดงด้านมืดให้ใครเห็น
“อาหารที่นี่อร่อยจังเลยนะครับ ผมเพิ่งมาอยู่ประเทศไทย ยังไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารอร่อย ๆ มากนัก คงต้องรบกวนคุณจินนี่พาไปชิมซะแล้วครับ” โจฮันเอ่ยชื่นชม และไม่ลืมที่จะโปรยเสน่ห์ใส่หญิงสาว เมื่อสมองคิดแผนร้ายขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน
“ยินดีมากเลยค่ะ ถ้าคุณโจฮันไม่รังเกียจ จินนี่พร้อมมาก ๆ ค่ะ บอกจินนี่ได้เสมอ ใช่ไหมคะคุณพ่อ”
“ใช่แล้วลูก คุณโจฮันไม่ต้องเกรงใจนะครับ ถือว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน”
สองพ่อลูกสบตากันอย่างรู้ใจ โจฮันจึงยิ้มรับแล้วเอ่ยขอบคุณที่เธอมีน้ำใจช่วยเหลือคนต่างบ้านต่างเมือง หญิงสาวถึงกับเขินตัวแทบแตกเมื่อเจอคำพูดหวาน ๆ บวกกับสายตาหวานซึ้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าตนกำลังตกเป็นเหยื่อแผนร้ายของโจฮัน
เธอร้ายเขารู้ แต่เขาร้ายเธอไม่รู้
ชายหนุ่มยิ้มอย่างคนมีแผนหลังตักข้าวใส่ปากแล้วฟังสองพ่อลูกพูดคุยกันต่อ