ครู่เดียวเท่านั้นบนฟูกขนาดใหญ่ก็มีร่างของสองหญิงชายกำลังนอนทับกันอยู่ในท่าหวาดเสียว
มัดมุกดิ้นขลุกขลัก ๆ เพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ชวนเสียตัวนี้ แต่เจ้านายหนุ่มกลับไม่ยอมง่าย ๆ แรงบีบข้อมือของเธอจึงเพิ่มขึ้นทำให้หญิงสาวหลุดเสียงร้องออกมา
“โอ๊ยเจ็บ ปล่อยมุกนะคุณโจฮัน” เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เริ่มรู้สึกโกรธโจฮันขึ้นมาจริง ๆ
“เจ็บเหรอ ผมขอโทษ” เขาเอ่ยด้วยความสำนึกผิดในขณะที่คลายแรงบีบแต่ไม่ยอมปล่อย
“ขอโทษแล้วก็ปล่อยสิ ถ้าไม่ปล่อยนะ มุกจะร้องไห้ดัง ๆ เลยคอยดู” ขู่เหมือนลูกหมาน้อย หากเขายังไม่ยอมปล่อยเธอจะใช้เสียงให้เป็นประโยชน์ แต่ลืมไปว่าตนเองนั้นอยู่ในบ้านของโจฮันเพียงสองคน ต่อให้แหกปากร้องก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี
“โอเค ๆ ไม่ต้องร้องหรอก ผมแค่แกล้งคุณเล่น”
เห็นสีหน้าจริงจังของคนใต้ร่างทำให้โจฮันตัดสินใจเฉลยความจริง ก่อนจะปล่อยให้มัดมุกเป็นอิสระแล้วนอนลงข้าง ๆ เธอที่ตอนนี้เด้งตัวขึ้นมาจ้องตาโจฮันด้วยความโมโหสุดขีดหลังจากได้ยินว่าตนเองโดนแกล้ง
“แกล้ง! แกล้งแบบนี้เนี่ยนะ มันเกินไปแล้ว”
“มันไม่เกินไปหรอก ก็คุณอยากรู้เอง ผมก็แค่สาธิตให้ดู”
“คุณมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ”
“แล้วใครบอกว่าผมเป็น”
“กรี๊ดดด! ปากแบบนี้มันต้องโดน รู้จักมัดมุกน้อยไปซะแล้ว ย้ากกกกก ตายซะเถอะ ไอ้เจ้านายบ้า”
“เฮ้ยยยย หยุดนะคุณ ผมบอกให้หยุด โอ๊ยๆๆๆ อย่า ๆๆๆ โอ๊ยยยยย”
โจฮันร้องเสียงหลงเมื่อโดนหญิงสาวเอาหมอนฟาดไม่ยั้ง พร้อมกับร้องโอดโอยลั่นห้องนอนใหญ่ด้วยความเจ็บ กลายเป็นว่าตอนนี้เขาคือลูกไก่ในกำมือเธอ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด
มัดมุกเหมือนนางยักษ์ไม่มีผิด ทั้งโกรธ ทั้งโมโหที่โดนกลั่นแกล้งอย่างนั้น จึงกลายร่างเป็นจอมมารสั่งสอนมนุษย์ต่างดาวหนุ่มอย่างลืมตัว มารู้อีกทีห้องนอนของเขาก็เต็มไปด้วยนุ่นสีขาวที่หลุดออกมาจากหมอนซึ่งขาดไปทั้งหมดสองใบ
“สมน้ำหน้า อยากแกล้งมุกดีนัก ฮึ่ย! คิดแล้วโมโห หรือจะเอาอีก”
เธอหายใจเหนื่อยหอบขณะที่ยืนเท้าสะเอวต่อว่าเจ้านาย ยิ่งคิดยิ่งโมโห จึงหยิบหมอนขึ้นทำท่าจะฟาดอีกฝ่ายสักรอบด้วยแรงทั้งหมด
ชายหนุ่มเลยยกมือขึ้นมาห้าม พ่นคำขอโทษออกมาแทบไม่ทันเมื่อได้เห็นฤทธิ์เดชของหญิงสาวยามที่กำลังโมโห
“พอ ๆ ผมเหนื่อย เจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว เอาเป็นว่าผมขอโทษ ผมสัญญาว่าจะไม่แกล้งคุณแบบนี้อีก”
“ลองคุณแกล้งมุกแบบนี้อีกสิ คราวนี้จะไม่เอาแค่หมอนมาฟาด”
“โอเค ต่อไปผมจะไม่แกล้งคุณอีก แต่เอาจริงเลย” รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏตรงมุมปาก แววตาของเขาเจ้าเล่ห์จนเธออดสงสัยไม่ได้ โจฮันจะเอาจริงเรื่องอะไร
“เอาจริงอะไรของคุณ พูดให้มันกระจ่างหน่อย”
“อึ๊บคุณไง ต่อไปผมทำจริง ระวังตัวก็แล้วกัน”
“กรี๊ดดดดดด ไอ้มนุษย์ต่างดาวหื่น ตายซะเถอะ”
พอได้ยินแบบนั้นคนจะโดนจับทำเมียก็อารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รอให้เวลาเสียเปล่า หมอนใบสุดท้ายจึงถูกนำมาใช้งาน มัดมุกไล่ฟาดคนหื่นที่กำลังวิ่งหนีไปทั่วห้องนอนอย่างเอาเป็นเอาตาย กว่าทุกอย่างจะจบลงได้ก็ตอนที่ต่างคนต่างเหนื่อย
โจฮันเห็นสภาพห้องนอนแล้วถึงกับส่ายหัว ก่อนจะเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่าคืนนี้ตนจะไปนอนที่ห้องของเธอด้วย โทษฐานที่เธอทำห้องของเขาพัง ถึงแม้ต้นเหตุจะเกิดจากตัวเองก็ตาม
ทำให้คืนนี้สองหนุ่มสาวต้องนอนห้องเดียวกันอย่างช่วยไม่ได้ แต่ยังดีที่เขายอมนอนบนพื้น ไม่อย่างนั้นเธอคงหลับไม่ลงแน่ เพราะภาพที่เขาจับเธอกดบนโซฟายังวนเวียนอยู่ในหัว
หารู้ไม่ว่าจริง ๆ แล้วโจฮันตั้งใจทำแบบนั้น ไม่ได้คิดจะกลั่นแกล้งอย่างที่แก้ตัว แต่กลัวว่าเธอจะโกรธก็เลยตัดใจยอมถอย ก่อนที่อะไร ๆ จะกู่ไม่กลับแล้วเลยเถิด
อีกอย่าง เขายังไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วไอ้ความรู้สึกดีที่มีให้มัดมุกคือเรื่องจริงหรือแค่เหงาตามประสาคนไกลบ้านไกลเมือง
“คุณทำให้ผมสับสน จุ๊บ!”
ชายหนุ่มพึมพำหลังจากที่ลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ หญิงสาว ก่อนจะก้มลงไปจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างอดใจไม่ไหว แต่ไม่ได้รุกล้ำเข้าไปเพราะกลัวมัดมุกตื่น และตบท้ายด้วยการจูบราตรีสวัสดิ์บริเวณหน้าผากนูนอย่างแผ่วเบา
จากนั้นก็กลับไปนอนบนพื้นตามเดิม เพียงครู่เดียวก็หลับสนิท เลยไม่เห็นว่ามัดมุกกำลังลืมตาโพลงในความมืดด้วยอาการใจเต้นรัว เพราะไม่ได้หลับอย่างที่โจฮันเข้าใจ เธอจึงรู้ว่าเขาทำอะไรกับปากของตนเอง
“คนบ้า คุณก็ทำให้ฉันสับสนเหมือนกัน”
มุมปากแย้มรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยอาการขวยเขินพลางเอามือขึ้นลูบตรงริมฝีปาก ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมโปง ไม่นานก็หลับสนิทไปอีกคนด้วยความสุขใจ
ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของตนตกอยู่ในสายตาของเอเดอริกตลอดเวลาผ่านการนั่งสมาธิเพ่งจิตอยู่ภายในห้องนอนเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินของตึกร้างแห่งนั้น
ความสามารถพิเศษนี้เขาได้มาไม่ต่างจากโจฮัน แต่ต้องแลกกับอาการเจ็บทางกาย
เพราะทุกครั้งที่ชายหนุ่มเพ่งจิตร่างกายจะปวดร้าวปวดกระดูกไปหมด ราวกับมีเชือกนับร้อยมารัด ทำให้เขาตัดสินใจใช้ความสามารถพิเศษนี้เท่าที่จำเป็น
“หึ แล้วเจอกันมัดมุก หนูทดลองคนต่อไป”