“เจ้านายคิดอะไรอยู่เหรอครับ”
หลังจากแยกย้ายกับสองพ่อลูกคู่นั้นและขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย อังเดรก็ถือโอกาสเอ่ยถามโจฮันทันทีด้วยความสงสัย เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายของตนมีแผนจะทำอะไร ถึงได้เล่นหูเล่นตากับจินนิยาเหลือเกิน ดูไม่ใช่โจฮันคนเดิม แล้วไอ้ที่ตนเข้าใจว่าเจ้านายชอบมัดมุกคืออะไร
“ฉันจะใช้เธอเป็นเครื่องมือ”
“มันจะดีหรือครับ”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ผมว่าเธอดูร้าย ๆ ยังไงก็ไม่รู้ อาจจะทำให้งานของเรามีปัญหาได้นะครับ”
“นายคิดแบบนั้นเหรอ”
“ครับ คุณโจฮันลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณมัดมุกก่อนไหมครับ เผื่อเธอมีความเห็นต่างจากผม”
“ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าเธอรู้จะทำยังไงต่อ หึ!”
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่รู้ตัวยามที่คิดถึงใบหน้าของลูกน้องสาว จากนั้นก็สั่งให้อังเดรออกรถทันทีจะได้กลับถึงบริษัทเร็ว ๆ
ส่วนคนที่โดนพูดถึงกำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นตามคำสั่งของโจฮัน ที่สั่งให้เธอเจาะข้อมูลบริษัทของนายอิทธิพล
แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างนั้นมีทีม IT เก่งพอสมควร ทำให้เธอเครียดไม่น้อย ใบหน้าจึงบูดเบี้ยว คิ้วขมวดมุ่น ในขณะที่มือทั้งสองข้างรัวแป้นพิมพ์ไม่หยุด ทว่าสุดท้ายข้อมูลที่โจฮันต้องการก็ตกมาอยู่ในมือของเธอจนได้
“เยส! สำเร็จสักที มัดมุกซะอย่าง”
หญิงสาวยิ้มร่าด้วยความดีใจเมื่องานที่ได้รับมอบหมายประสบผลสำเร็จ ก่อนจะเอาข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาส่งให้เจ้านายทางอีเมลลับ จากนั้นก็รีบลบข้อมูลทุกอย่างออกจากคอมพิวเตอร์เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าตนกำลังทำอะไร
“มุกไม่ไปกินข้าวเหรอ มัวแต่ทำงานอยู่นั่นแหละ” อิงลดาเข้ามาถามมัดมุกหลังกลับมาจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ
ก่อนไปเธอได้ถามมัดมุกแล้วแต่มัดมุกบอกให้ไปก่อน ขอทำงานที่ค้างอีกสักหน่อย เสร็จแล้วจะรีบตามไปเลย จนเธอกินข้าวเสร็จเพื่อนสนิทก็ยังไม่มาเสียที
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ” มัดมุกเงยหน้าขึ้นมาถาม ก่อนจะก้มมองนาฬิกาบนข้อมือสวย
“ก็ใช่น่ะสิ นี่จะบ่ายแล้วนะ แกรีบไปกินข้าวเถอะ”
“โอเค ๆ ฝากบอกหัวหน้าด้วยนะ เดี๋ยวกลับมา” มัดมุกรีบคว้าโทรศัพท์ หยิบกระเป๋าสตางค์ ก่อนจะเดินลิ่ว ๆ ออกไปด้วยความรวดเร็ว ปล่อยให้เพื่อนสนิทยืนส่ายหัวเบา ๆ ด้วยความเหนื่อยใจ เพราะมัดมุกเป็นอย่างนี้บ่อย ทำงานจนลืมเวลา ทำให้เธออดเป็นห่วงเรื่องสุขภาพไม่ได้ โดยเฉพาะโรคกระเพาะที่เป็นมานานแสนนาน
“เฮ้อ! บ้างานขนาดนี้เดี๋ยวก็ได้ล้มหมอนนอนเสื่ออีกหรอกยัยมุก”
อิงลดาบ่นเบา ๆ ในขณะที่เดินกลับไปที่โต๊ะของตนเอง
ตัดไปที่มัดมุกซึ่งกำลังยืนอยู่ในลิฟต์ดี ๆ ก็เริ่มเอามือไปจับบริเวณท้อง ใบหน้าเริ่มแสดงความเจ็บออกมาเพราะอาการโรคกระเพาะกำเริบจริง ๆ ตามที่เพื่อนสนิทบ่น
เมื่อประตูลิฟต์เปิดเธอจึงเดินลิ่ว ๆ ไปยังร้านขายยาทันที สักพักก็ออกมาพร้อมกับถุงยาที่บรรจุทั้งยาน้ำและยาเม็ดตามคำแนะนำของเภสัชกรประจำร้าน
“มุก มาทำอะไรที่นี่” เสียงเรียกทางด้านหลังทำให้คนเจ็บต้องหันกลับไปมอง
“คุณโจฮัน” หญิงสาวเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยความตกใจ
“คุณเป็นอะไรเนี่ย ทำไมหน้าซีดจัง”
เขาเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ หลังจากเห็นมัดมุกทำหน้าแปลก ๆ แล้วเอามือไปจับบริเวณหน้าท้อง ก่อนขึ้นห้องทำงานชายหนุ่มอยากแวะร้านสะดวกซื้อจึงแยกกับเลขาฯ ซื้อของเสร็จเดินออกมาก็เห็นมัดมุกพอดี
“ปวดท้องกระเพาะค่ะ เดี๋ยวกินยาก็หาย”
มัดมุกไม่คิดจะปิดบังจึงเอ่ยไปตามจริง แต่อาการปวดกำลังกำเริบทำให้น้ำเสียงที่เปล่งออกไปค่อนข้างเบาหวิวจนชายหนุ่มอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงอาสาจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ บริษัท
“ไหวไหม ไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวผมพาไปเอง”
“ไหวค่ะ มุกยังไม่ได้กินข้าวแค่นั้นเอง เดี๋ยวจะไปกินร้านนั้น”
เธอปฏิเสธแล้วชี้ไปที่ร้านอาหารชื่อดังตรงหน้า ชายหนุ่มจึงถือวิสาสะเข้าไปประคอง โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลางานแล้วทำให้ไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่อย่างนั้นมัดมุกได้เป็นข่าวดังไปทั่วบริษัทแน่ที่อยู่ ๆ เจ้านายหนุ่มก็เข้ามาถึงเนื้อถึงตัวอย่างนี้
“เอ่อ ปล่อยมุกดีกว่าค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นมันจะไม่ดี” เธอสะบัดตัวเบา ๆ ด้วยความเกรงใจ
“ช่างสิ ใครพูดอะไรไม่เข้าหู ผมก็แค่ไล่ออก” เขาเอ่ยอย่างเอาแต่ใจหาได้สนใจใบหน้าเหวอ ๆ ของคนในอ้อมกอดเลยสักนิด มัดมุกจึงปล่อยเลยตามเลย เจ้านายอยากทำอะไรก็เชิญ
หลังจากเข้ามาในร้านอาหารเรียบร้อย หญิงสาวก็ยกขวดยาขึ้นมาซดทันที ตามด้วยน้ำเปล่าอีกหลายอึกท่ามกลางความเป็นห่วงของโจฮันที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน และอดตำหนิคนตรงหน้าไม่ได้ที่ทำงานจนลืมเวลากินข้าว
“ทำไมถึงไม่กินข้าวเที่ยง นี่มันบ่ายแล้วนะคุณมัดมุก”
“ทำงานเพลินน่ะค่ะ รู้ตัวอีกทีก็บ่ายแล้ว วันนี้กินชาเย็นเข้าไปด้วยแหละ อาการเลยกำเริบ”
“ต่อไปห้ามคุณลืมกินข้าวอีก ห้ามคุณกินชาอะไรนั่นด้วย เข้าใจไหม”
“แต่มุกชอบนี่คะ ชาเย็นของอร่อยเลย”
“อร่อยแต่เจ็บแบบนี้ มันสมควรเหรอ”
“ค่าาาาาา คุณโจฮันอย่าดุสิ มุกสำนึกผิดไม่ทัน”
“ยังจะมาเล่นอีก คุณอยากกินข้าวอะไร เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
“จริงเหรอคะ งั้นมุกเอา...”
คนชอบของฟรีตาโตเท่าไข่ห่าน ลืมความปวดไปชั่วขณะเมื่อมีคนเลี้ยงข้าว ก่อนจะหันไปเรียกพนักงานให้มาจดรายการอาหารที่อยากกิน ไม่นานนักเหล่าอาหารอันโอชะก็วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า เธอจึงไม่รอช้า รีบลงมือยัดทุกอย่างลงกระเพาะ แต่ลืมไปว่าตนเองนั้นกำลังปวด กินได้ไม่กี่คำก็ไม่เอาแล้ว
“ไม่หมดก็ช่างเถอะ อย่าฝืนเลย สงสารร่างกาย”
“ค่ะ แล้วนี่คุณโจฮันทานอะไรมาหรือยัง มุกลืมถามเลย”
“ผมเรียบร้อยมาแล้ว วันนี้ไปกินข้าวกับนายอิทธิพล มีลูกสาวเขาไปด้วย”
“คุณหนูจินนี่ใช่ไหมคะ”
“คุณรู้จักด้วยเหรอ”
“ไม่รู้จักสิคะแปลก เธอออกจะสวย เป็นลูกสาวนักธุรกิจ ใคร ๆ ก็ให้ความสนใจทั้งนั้น”
“ใช่ เธอสวยจริง ๆ แหละ ผมเลยคิดว่าผมจะจีบเธอ”
“ฮะ! คุณจะจีบเธอ” ประโยคบอกเล่าของเขาทำเอาเธอตกใจเป็นอย่างมาก น้ำเสียงที่เอ่ยออกจึงดังไปทั่วร้านอาหารเป็นเหตุให้โจฮันต้องรีบยกมือขึ้นไปปิดปากเธอ
เขารีบลากหญิงสาวออกจากร้าน กลับขึ้นห้องทำงานทันที เพื่อคุยเรื่องแผนที่จะเอาไปใช้กับจินนิยา แต่หารู้ไม่ว่ากำลังหาเรื่องใส่ตัวจากความหึงหวงของมัดมุกที่กำลังก่อตัวขึ้นมา