บทที่ 1 การมาของเขา ‘โจฮัน ไดริเกอร์’
“คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่กำลังเดินสวนกับคุณตอนนี้ไม่ใช่ มนุษย์ต่างดาว!”
ประโยคชวนสงสัยข้างต้นปรากฏอยู่ในภาพบิลบอร์ดตามท้องถนนเพื่อประชาสัมพันธ์ละครเรื่องใหม่ของช่องน้อยสี ที่มีเนื้อหาใจความเกี่ยวกับชายหนุ่มนอกโลกมาพบรักกับหญิงสาวบนโลกใบนี้
มัดมุก มานีวัฒน์ เบะปากมองบนพร้อมกับส่ายหัว เพราะไม่เคยเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว เธอกำลังขับรถคันโปรดไปทำงาน ในระหว่างที่รถติดไฟแดงได้เหลือบไปเห็นข้อความดังกล่าวจึงอดจะพูดแขวะไม่ได้
“ฉันไม่เชื่อหรอกย่ะ มนุษย์ต่างดาวจะมีจริงได้ยังไง ถ้ามีจริงก็เจอไปนานแล้วเซ่”
เอ่ยจบไฟจราจรก็เปลี่ยนสีทันที เธอจึงค่อย ๆ ออกตัวตามรถคันหน้าอย่างช้า ๆ สักพักก็เดินทางถึงสถานที่ทำงานซึ่งอยู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ด้วยความที่มัดมุกมาทำงานเช้ามากทำให้ไม่ต้องพบเจอกับสภาพจราจรติดขัด
วันนี้เจ้านายคนใหม่เข้ามาทำงานเป็นวันแรก ทำให้พนักงานทุกคนอดตื่นเต้นไม่ได้ รวมถึงมัดมุกด้วย สาวน้อยสาวใหญ่จึงพากันแต่งตัวแต่งหน้าให้ตัวเองดูดีกว่าทุกวัน
“หัวหน้า สวัสดีค่ะ วันนี้มาเช้าจังเลยนะคะ” สาวหน้าใสเอ่ยถามหัวหน้างานด้วยรอยยิ้มพลางเย้าแหย่ เพราะไม่ค่อยบ่อยนักที่จะเห็นกิตติมาทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าอย่างนี้
“แน่นอนสิ วันนี้เจ้านายคนใหม่มาทำงานทั้งที พี่ต้องมาดูความเรียบร้อยของแผนกเราหน่อย” ชายที่มีอายุมากกว่าตอบตามจริงในขณะยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม มัดมุกจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วกระซิบถามเบา ๆ ด้วยความสงสัย
“ทำไมเหรอพี่ เจ้านายคนใหม่เขาจะเข้ามาตรวจเหรอ”
“เห็นว่าท่านจะไปทุกแผนก”
“พี่กิต หนูถามจริงเหอะ ได้ข่าวว่าท่านประธานคนใหม่เนี่ยเป็นผู้มีอิทธิพลของประเทศอเมริกา จริงไหมพี่ เห็นว่ามีกิจการพวกกาสิโนอยู่ในลาสเวกัส มาเก๊า ไต้หวัน สิงคโปร์ หลายประเทศเลย จริงปะพี่กิต”
เพราะได้ยินสาว ๆ ในออฟฟิศคุยกันถึงเรื่องของเจ้านายคนใหม่ ทำให้เธอสงสัยไม่น้อย และอยากรู้ว่าจริงไหมที่โจฮันคือมาเฟีย นอกจากธุรกิจสีขาวแล้วยังประกอบธุรกิจสีเทาด้วย โดยเฉพาะการพนันที่กาสิโนของเขาต้อนรับนักพนันกระเป๋าหนักเท่านั้น หากมีเงินต่ำกว่าห้าสิบล้านไม่ต้องคิดจะเข้าไปในกาสิโนของเขาเด็ดขาด
“พี่ไม่รู้ว่ะ เอ็งเจอหน้าท่านก็ลองถามดูสิ”
“อย่าดีกว่าพี่กิต หนูยังอยากทำงานที่นี่อยู่ ยังไม่พร้อมตกงาน รอมีผัวรวย ๆ ก่อนค่อยตกงาน”
“ขอให้น้องพี่สมปรารถนา ขอให้ได้ขอให้โดน ขอให้เจอเร็ว ๆ นี้ เพี้ยงงงงง”
“สาธุพี่กิต ถ้าหนูได้ผัวรวย ๆ เหมือนพี่สาวหนู สัญญาเลยค่ะ หนูจะไม่ลืมพี่กิตคนนี้เด็ดขาด”
“พูดแล้วห้ามคืนคำ”
หัวหน้ากับลูกน้องเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนจะแยกย้ายไปทำธุระของตนเองเพราะอีกนานกว่าจะถึงเวลาเข้างาน มัดมุกจึงเลือกลงไปข้างล่างของอาคารเพื่อเข้าไปซื้ออาหารในร้านสะดวกซื้อ
ในระหว่างที่เธอกำลังเดินผ่านชั้นวางหนังสือ สายตาอันแหลมคมก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่มีข้อความตัวใหญ่ ๆ เขียนว่า ‘ความลับของจักรวาล’
ไม่รู้อะไรดลใจให้คนที่ไม่ค่อยชอบเรื่องดาราศาสตร์ถึงจับหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาแล้วพลิกหน้าพลิกหลัง จากนั้นก็เอาใส่ตะกร้าที่กำลังถือเพื่อไปชำระเงินหน้าเคาน์เตอร์พร้อมด้วยสินค้าชนิดอื่น ๆ
เมื่อถึงเวลาแปดโมงตรง หน้าอาคารของบริษัทก็มีรถคันหรูขับเข้ามาจอด จากนั้นเหล่าบอดี้การ์ดก็วิ่งไปเปิดประตู ครู่เดียวผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวคล้ายชาวตะวันตก ก็ปรากฏตัว ก่อนหันไปมองรอบ ๆ แล้วยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ก้าวเท้าฉับ ๆ ไปข้างหน้าตามเลขาฯ ของตนที่เดินนำไปก่อนแล้ว
โจฮัน ไดริเกอร์ ประธานบริษัทคนใหม่ของ Good logistics corporation ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งทั้งหมด ไม่ว่าจะทางบก ทางอากาศ หรือทางเรือ เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวานเพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จโดยการเอาเรื่องงานมาบังหน้า
“เชิญครับคุณโจฮัน” เลขาฯ ใบหน้าดุดันผายมือให้เจ้านายของตนเองเดินเข้าไปในห้องทำงานที่ตกแต่งใหม่ทั้งหมด ไม่เหลือเค้าโครงเดิมของประธานบริษัทคนเก่าแม้แต่น้อย รอยยิ้มพึงพอใจจึงปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง
“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างคุณอังเดร” เขานั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยก็เอ่ยถามลูกน้องของตนเองทันที
“เช้านี้คุณโจฮันต้องพบกับผู้บริหารของบริษัท ส่วนช่วงบ่ายเข้าไปทำความรู้จักกับทุกแผนกของบริษัท”
“อืม แค่นี้ใช่ไหม แล้วเอกสารที่ให้เตรียมพร้อมหรือยัง”
“เรียบร้อยครับ ด้านขวามือของคุณโจฮันคือข้อมูลของพนักงาน GL สาขาประเทศไทย ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยและแม่บ้านครับ”
“ขอบใจมาก ผมขอเวลาดูเอกสารสิบนาที”
“ครับ”
แล้วเอกสารที่เสียบอยู่ในแฟ้มหนาปึกก็ถูกเปิดออก โจฮันใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็สามารถจดจำบุคคลที่อยู่ในกระดาษได้ทั้งหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางความไม่แปลกใจของเลขาฯ หนุ่มเพราะรู้จักโจฮันเป็นอย่างดี
ครู่เดียวต่อจากนั้นทั้งสองคนก็ปรากฏตัวในห้องประชุมใหญ่ที่มีผู้บริหารรวมถึงหัวหน้าแผนกต่าง ๆ มารวมตัวกันเพื่อทำความรู้จักกับท่านประธานคนใหม่ที่เข้ามาเทกโอเวอร์บริษัทแทนประธานคนเก่าซึ่งประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก เนื่องจากติดการพนันถึงขั้นต้องเอาบริษัทแลกกับหนี้สิน
การพบปะระหว่างประธานกับผู้บริหารและพนักงานระดับหัวหน้าผ่านไปอย่างราบรื่น โดยไม่มีใครสงสัยเลยว่าโจฮันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกต่างหาก เพราะรูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมไม่มีผิด ทั้งสีผิว ดวงตา กิริยาท่าทาง แต่ใช่ว่าชายหนุ่มผู้นี้จะไม่มีความแตกต่างเลย
หากแต่ความแตกต่างนั้นอยู่ในส่วนของสมอง เพราะเขามีความฉลาดมากกว่าอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เสียอีก โจฮันจึงสามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ ได้ภายในหนึ่งนาทีอย่างแม่นยำ
ลองเอานามบัตรใครสักคนให้ชายผู้มาจากนอกโลกคนนี้ดูสิ ไม่ถึงสองวินาทีเขาก็สามารถจดจำข้อมูลในนามบัตรได้ทั้งหมด โดยไม่มีความผิดพลาดแม้แต่น้อย
ความพิเศษนี้แทบจะหาไม่ได้ในมนุษย์บนโลกใบนี้ แต่หาได้ไม่ยากในที่ที่โจฮันเติบโตและจากมาเพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ
“มีใครจะสอบถามอะไรผมไหมครับ” เขากวาดตามองผู้คนที่อยู่ในห้อง ก่อนจะตั้งคำถามด้วยท่าทางผ่อนคลาย ไม่ได้ดุดันอย่างที่ใคร ๆ ร่ำลือกัน
“...” แต่ไม่มีใครตั้งคำถามสักคน ชายหนุ่มจึงสั่งปิดประชุมและแยกย้ายไปทำงานของตนเอง โดยไม่ลืมที่จะบอกว่าช่วงบ่ายเขาจะไปเยี่ยมทุกแผนก จากนั้นไม่นานภายในห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนก็เหลือเพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น
“ข้อมูลที่ให้ไปหาถึงไหนแล้วอังเดร”
เจ้านายเอ่ยถามลูกน้องด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แววตาแฝงไปด้วยความเคียดแค้นยามที่สมองคิดถึงตัวต้นเหตุที่ทำให้ตนต้องถ่อสังขารมาไกลเพื่อมาจัดการปัญหา ก่อนที่อะไร ๆ จะไม่ทันการณ์แล้วทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้พบเจอกับหายนะ อย่างเช่นที่ดาวเคราะห์ของตนต้องเผชิญ
“มันหนีมาอยู่ที่ประเทศนี้จริง ๆ ครับ แต่คนของเรายังหาตัวมันไม่เจอ”
“อืม ค้นหาต่อไปจนกว่าจะจับตัวมันได้ รีบหน่อยแล้วกัน เราช้ากว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว”
“ครับคุณโจฮัน ผมจะรีบสั่งให้คนของเราค้นหาตัวมันให้เจอเร็ว ๆ ก่อนที่เรื่องร้ายแรงจะเกิดขึ้น”
“คุณไปพักเถอะ ผมขออยู่ในห้องนี้สักพัก”
ลูกน้องคู่ใจไม่เซ้าซี้ต่อจึงค้อมตัวให้เจ้านายก่อนเดินออกจากห้องไป แล้วปล่อยให้โจฮันนั่งอยู่เพียงลำพัง
แต่ชายหนุ่มนั่งอยู่อย่างนั้นเพียงครู่เดียวก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่มัดมุกเปิดเข้ามาพอดี ทำให้หญิงสาวถลาไปข้างหน้าแล้วเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเจ้านายอย่างไม่ตั้งใจ
ราวกับเวลาหยุดหมุนเมื่อสายตาสองคู่สบประสานกัน ก่อนที่มัดมุกจะตั้งสติได้แล้วรีบเด้งตัวออกจากอ้อมกอดของเขา
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่ามีคนยืนอยู่ที่ประตู คุณเป็นอะไรไหมคะ”
มัดมุกเอ่ยขอโทษพร้อมสำรวจคนตรงหน้าไปด้วยว่าเขามีอาการบาดเจ็บตรงไหนไหม
“ผมไม่เป็นไร แล้วคุณเป็นอะไรไหม”
โจฮันถามพลางเก็บรายละเอียดผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า
“สบายดีค่ะ แล้วคุณเป็นใครคะ ทำไมถึงอยู่ในห้องนี้ได้”
เธอถามด้วยความสงสัย และเก็บรายละเอียดของโจฮันไปด้วยเช่นกัน
“แล้วคุณเป็นใคร ทำไมถึงเดินเข้ามาในห้องนี้”
โจฮันไม่ตอบแต่ถามกลับ
“ฉันถามคุณก่อนนะคะ กรุณาตอบคำถามฉันด้วย หรือว่าคุณเป็นพนักงานใหม่” มัดมุกชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจที่ชายไม่คุ้นหน้าไม่ยอมตอบคำถามของตนพลางตั้งข้อสันนิษฐาน เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน ยิ่งรูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้ไม่พลาดแน่นอน
“หึ ๆ ครับ ผมเป็นพนักงานใหม่ ผมตอบแล้ว คุณตอบบ้างสิ”
“ฉันมาเอาของที่หัวหน้าลืมเอาไว้ค่ะ ขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวก่อนครับคุณ”
“มีอะไรอีกคะ ฉันต้องรีบหาของ รีบไปทำงาน”
“เจอกันช่วงบ่ายนะครับ คุณมัดมุก มานีวัฒน์ พนักงานแผนก IT มีพี่สาวหนึ่งคน มีหลานสาวสองคน และหลานชายสองคน สถานะปัจจุบันโสดสนิท”
พูดจบเขาก็ยิ้มมุมปากแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้มัดมุกยืนกะพริบตาปริบ ๆ มองตามหลังด้วยความสงสัย เหตุใดพนักงานใหม่ถึงได้รู้ข้อมูลของตนเยอะขนาดนี้ แล้วเขาทำงานแผนกไหนกัน ทำไมเธอไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง
แต่ความสงสัยของหญิงสาวก็ถูกเฉลยโดยแม่บ้านของบริษัทที่เข้ามาเก็บกวาดห้องประชุม ทำให้ใบหน้าขาวใสอมชมพูถึงกับถอดสี หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มพลางเอามือขึ้นมาปิดปาก ก่อนจะถามแม่บ้านคนดังกล่าวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“จะ...จริงเหรอป้านี ผู้ชายคนเมื่อกี้คือประธานบริษัทเรา”
“จริงสิหนูมุก ป้าได้ยินเต็มสองรูหู เขาเรียกท่านประธาน ชื่ออะไรนะ ป้าจำไม่ได้ ชื่อฝรั่ง ๆ หน่อย”
“โจฮัน ไดริเกอร์”
“ใช่เลย ชื่อนี้แหละ ป้าจำได้”
“หนูซวยแล้วป้านี พี่กิตช่วยมุกด้วยยยยยย”
มัดมุกวิ่งหน้าตั้งกลับไปยังแผนกแล้วเข้าไปหาหัวหน้างานทันที ก่อนเล่าเรื่องราวที่ตนเข้าใจผิดคิดว่าโจฮันเป็นพนักงานใหม่และเผลอแสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อท่านประธานออกไป
จากนั้นก็เอามือพนมขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ช่วยคุ้มครองตนด้วย เพราะเธอยังไม่อยากตกงานตอนนี้ ขอมีผัวรวย ๆ ก่อนค่อยว่ากัน โดยไม่รู้เลยว่าสวรรค์ได้ส่งผู้ชายคนนั้นมาแล้ว ผู้ชายที่ไม่ใช่มนุษย์บนโลกใบนี้ แต่เป็นมนุษย์ต่างดาว