ตอนที่ 5 มอมเหล้า

1206 Words
ปาร์ตี้ช่วงเย็นหลังจากที่คิดหาทางออกเรื่องปัญหาของตัวเองได้แล้วศรุตาก็ใจชื้นพร้อมจะเผชิญสถานการณ์ เธอยอมออกมาร่วมปาร์ตี้เล็กๆ ที่พ่อของเธอและน้าบริพัฒน์ปวารณาตัวเป็นเชฟและเตรียมอาหารด้วยตัวเอง โดยขอความร่วมมือด้านแรงงานและสถานที่จากพนักงาน แต่ไม่ได้สั่งให้ทำให้แต่อย่างใด หญิงสาวผวาน้อยๆ เมื่อเห็นบุรินทร์สวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกางเกงขาสั้นสีฟ้าน้ำทะเลเดินมาที่บริเวณริมหาดที่จัดโต๊ะกินข้าวโต๊ะใหญ่เอาไว้ เขาจ้องตาเธอน้อยๆ พร้อมกับเอ่ยถามต่อหน้าทุกคน “อาการดีขึ้นรึยัง น้องทราย” ในใจเขาไม่ได้อยากถามเรื่องนี้แน่นอน เขาอยากรู้เรื่องที่บอกให้เธอพูดต่างหาก “ดีขึ้นแล้วค่ะ” เธอบอกอ้อมแอ้ม เขาแค่พยักหน้าตอบก่อนจะเดินแยกไปหาบิดา กับลุงชัชชัยที่ปิ้งซี่โครงหมูหมักอยู่ ศรุตาชะเง้อมองหาวฤทธิ์ จนมารดาที่นั่งอยู่ข้างเธอแซ็ว “ทรายมองหาพี่ไวท์อยู่หรือเปล่า ไหนบอกว่าไม่สนใจแต่ตอนเขาไม่อยู่ชะเง้อหาใหญ่เลย” “เปล่าเสียหน่อยค่ะแม่” เธอแค่หาโอกาสคุยและตกลงเรื่องแต่งงานกับเขาเท่านั้นล่ะ แต่เหมือนเขาหายไปเลย “เห็นน้าวีณาบอกว่าพี่เขามีงานด่วน เหมือนว่าละครที่เพิ่มตอนเอาไว้จะซ่อมบางฉาก ก่อนฉาย เลยต้องรีบไปถ่ายละครก่อนกำหนด” พอมารดาบอก น้าวีณาที่เดินนำพนักงานเสิร์ฟที่ถือถาดเครื่องดื่มมาเสิร์ฟมาถึงโต๊ะพอดี “มาแล้วค็อกเทลรสอร่อย” น้ำในแก้วสีหวานถูกหยิบให้แต่ละคน โดยแก้วของศรุตาเป็นค็อกเทลที่ชงสูตรเดียวกัน แต่ไม่ใส่เหล้าเหมือนของคนอื่น การพูดคุยถึงวฤทธิ์ก็ไม่มีอีกต่อไป หญิงสาวนึกไปถึงว่าที่คู่หมั้นที่เขาเป็นดารามีชื่อของช่อง แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกยินดีจะแต่งงานกับเขานัก เพราะข่าวฉาวมากมายนอกนั้นแล้วเขายังไม่ได้ใส่ใจไยดีเธอ ส่วนคนพี่นั้นเธอไม่โอเคมากๆ ถ้าจะแต่งงานกับเขา แต่จากสถานการณ์ของครอบครัวมันบังคับให้ต้องแต่งงานกับคนใดคนหนึ่ง ทำไมน้าวีณาไม่มีลูกชายอีกสักคนนะ ถ้าเกิดมีจริงๆ เธอจะแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นอย่างไม่มีข้อกังขาเลยทีเดียว “หนูทรายดีขึ้นแล้วเหรอจ๊ะ” “ดีขึ้นแล้วค่ะ” เธอบอกอีกฝ่าย กำลังจะฉุดแขนวีณาไปหาที่คุยกัน แต่บุรินทร์เดินเข้ามา เธอหลบตาเขาแล้วหันมองไปทางอื่น เกลียดสายตาเขาจริงๆ “อาหารเรียบร้อยแล้วครับ มีอาหารจากครัวของโรงแรมด้วยกำลังเอามาเสิร์ฟ เดี๋ยวนั่งโต๊ะกันเลยนะครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ ผายมือให้นั่งด้วยเสียงทุ้มเรียบ ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนก็ไม่อยากเชื่อหรอกว่าเบื้องหลังท่าทางนิ่งๆ เรียบร้อยนั่นร้ายกาจขนาดไหน แต่เพราะว่าเห็นด้านร้ายๆ ของเขามาก่อนนั่นล่ะ เธอถึงได้ถลึงตาใส่เขา ในตอนที่ผู้ใหญ่เดินไปนั่งแล้ว เขายังยืนมองเธออยู่ เพราะโต๊ะเป็นวงกลม ศรุตาเลยต้องนั่งคู่กับบุรินทร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอถนัดขวาส่วนเขาถนัดซ้าย แก้วเครื่องดื่มที่วางข้างๆ กันนั้น ถึงได้โดนสลับกันโดยคนที่หญิงสาวเพิ่งค่อนขอดในใจว่าร้ายกาจอย่างจงใจ เพราะค็อกเทลสูตรที่ผสมน้ำผลไม้หลายอย่างจนออกรสเปรี้ยวหวานของวีณาคนที่กินเข้าไปเลยไม่รู้ว่าได้ดื่มเหล้าเข้าไปแล้ว อาการมึนๆ บังเกิดขึ้นอีกครั้ง แก้มสวยที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ เห็นชัดว่ามีสีแดงขึ้นจนวีณาทัก “ทราย แก้วสลับกับพี่เขาหรือเปล่า ทำไมหนูหน้าแดงๆ เหมือนเมาเลย” ผู้ใหญ่ที่คุยกันเพลินและสนใจกับอาหารตรงหน้าหันมามองหญิงสาวเป็นตาเดียว คนที่รู้สึกว่าตัวเองมึนๆ แก้มร้อนๆ และเชื่องช้าผิดปรกติยกมือกุมแก้มตัวเองมองทุกคนก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่หั่นเนื้อออสเตรเลียย่างสูตรลุงบริพัฒน์เข้าปากตัวเองแบบสบายใจ เขาหันมาหาเธอและศรุตาเห็นแววล้อเลียนชัดเจน ชัดเลยว่าเธอได้กินเหล้าเพราะใคร “ทรายเผลอกินเหล้าเข้าไปแน่เลยค่ะ แต่แก้วที่กินไม่เห็นออกรสเหล้าเลย” “พี่น่าจะวางใกล้แก้วของทรายเกินไป” คนที่พูดยิ้มกริ่ม ศรุตาเม้มปากแน่น ถึงจะมึนหากแต่เธอเห็นความไม่ปรกติในน้ำเสียงของเขา เขาจงใจแกล้งเธอแน่นอน “แม่ก็บอกอยู่ว่าหลอดสีฟ้าน่ะของเรา ของหนูทรายหลอดสีชมพู ลูกน่ะผิดเอง เป็นยังไงบ้างหนูทราย แก้วของเกรย์ แม่ใส่เหล้าเยอะกว่าปรกติด้วย” วีณาดุลูกชายแล้วมองศรุตาอย่างเป็นห่วง หญิงสาวส่ายหน้าเล็กน้อย “ทรายมึนนิดหน่อยค่ะ ทรายขอโทษที่ต้องเสียมารยาทอีกครั้งนะคะ แต่ทรายต้องขอไปพักผ่อนที่ห้องก่อน” “ตามสบายเลยหนูทราย เสียมารยาทอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น ไปพักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้มีทริปรอบเกาะจะได้ออกไปเที่ยวกัน” “ค่ะ” ศรุตารีบตกลงดีที่ว่ายังกินไปไม่หมดแก้วไม่งั้นคนที่คออ่อนแบบเธอคงได้พับคาโต๊ะให้ขายหน้าเป็นแน่ หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วกลับพบว่ามึนกว่าเก่า ก่อนที่ทุกคนจะบอกให้บุรินทร์ไปส่งเธอ หญิงสาวก็นั่งลงแล้วหันไปกระซิบมารดา “แม่ไปส่งทรายหน่อยได้ไหมคะ ทรายเวียนหัว” “ตายจริง เมาเหรอ” มารดาพูดเสียดัง “เดี๋ยวแม่ไปส่งเอง ขอตัวก่อนแป๊บหนึ่งนะทุกคน” สรีหันไปบอกคนบนโต๊ะอาหาร แต่วีณาท้วงไว้ก่อน “ให้ตาเกรย์ไปส่งก็ได้สรี เผื่อว่าเดินไม่ไหวจะได้ช่วยประคอง ทำผิดเองรับผิดชอบด้วย” วีณาสั่งลูกชาย ไม่มีใครทันสังเกตสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ของศรุตาสักคน เพราะบิดามารดาของหล่อนเชื่อใจว่าบุรินทร์เป็นสุภาพบุรุษและเธอมีฐานะเป็นคู่หมั้นของน้องเขา เลยไว้ใจ ศรุตากลั้นใจลุกขึ้นแล้วเดินกลับห้อง พยายามข่มความมึน แม้แทบจะเดินเป๋แต่เธอพยายามประคองตัวเพื่อไม่ให้เขาต้องมาวุ่นวาย น่าอัศจรรย์ที่ความพยายามบังคับตัวเองของเธอสำเร็จ หญิงสาวเดินไปถึงหน้าห้องพักโดยที่คนตัวสูงทำได้เพียงเดินตามมาห่างๆ เขากอดอกยืนมองตอนเธอพยายามไขกุญแจเข้าห้อง เสียบยังไงก็ไม่เข้า เธอว่าเธอเล็งดีแล้วนะ! “เอามานี่” เขาคว้ากุญแจจากมือของเธอแล้วไขให้เอาบุญ ไม่แปลกใจเมื่อประตูเปิดแล้วเธอไม่ขอบคุณเขาสักคำ นั่นเป็นการพยายามดื้อในแบบของเธอที่เธอต้องตั้งใจทำที่สุดแล้วกระมัง เขายิ้มมุมปากเมื่อเธอมีสายตาระแวง แต่เขาก็ไม่ได้เดินตามเข้าไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD