หลังจากที่แยกจากมิสเตอร์อาร์มันโด้ทั้งสามคนก็กลับมาที่บริษัท ตลอดทางเขาก็ยังไม่ยอมขอบคุณหญิงสาวเพราะกลัวเสียศักดิ์ศรี
“วันนี้ทำดีเดี๋ยวจะให้โบนัสพิเศษ”
“นาเดียไม่ได้ต้องการโบนัสค่ะ”
หญิงสาวยิ้มแก้มปริก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มตาใสแป๋ว เขาหันไปมองหน้าผู้ช่วยอย่างสงสัยบอสยักไหล่ไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร
“ไม่รู้นะครับ”
เขาหันไปมองหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ให้โบนัสแล้วไม่อยากได้แล้วจะเอาอะไรคงไม่ใช่ของแบรนด์เนมบ้านรถอะไรหรอกนะมากไปหน่อย
“แล้วจะเอาอะไรล่ะ”
“คำขอบคุณจากปากของท่านประธานค่ะ”
นาเดียยิ้มออกมาก่อนจะเอามือป้องหูรอฟังสิ่งที่เธอขอจากเขา บอสได้ยินแบบนั้นก็หลุดขำออกมาทันทีก่อนจะเก๊กหน้าครึ่มเมื่อมินหันไปมองเขาตาขวาง
“มากไปล่ะยัยเฉิ่ม”
“แค่คำขอบคุณเองง่ายกว่าควักเงินจ่ายโบนัสพิเศษตั้งเยอะ หรือว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคอ”
นาเดียเอ่ยออกมาอย่างไม่กลัวเกรง คนอย่างพี่มินไม่กล้ากับเธอเยอะหรอกถึงตอนนี้จะไม่รู้ว่าเธอเป็นใครหรือว่าไม่มั่นใจก็ตามแต่ เธอเชื่อว่าเขาไม่ทำร้ายผู้หญิงมากสุดก็แค่หาเรื่องมาแกล้งเธอก็เท่านั้น
“เอ่อ ผมกลับห้องทำงานดีกว่า”
บอสหันไปยิ้มให้นาเดียก่อนจะรีบเดินออกไปทันที บอกเลยว่าศีลเสมอกันมาก ชายบ่นหญิงเถียงทะเลาะกันไม่มีใครยอมใคร นี่เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาเห็นว่ากล้าต่อล้อต่อเถียงท่านประธานโดยไม่กลัวถูกไล่ออก บอกแล้วไงว่าคนนี้เด็กเส้นของจริง
“ออกไปได้ล่ะฉันจะทำงาน”
“ไม่ขอบคุณนาเดียจริงเหรอ นี่อุตส่าห์ทำทุกวิธีเพื่อเอาใจมิสเตอร์อาร์มันโด้เลยนะ แต่ก็ช่างเถอะค่ะนาเดียเข้าใจก็เป็นถึงท่านประธานใครจะไปลดตัวมาขอบคุณพนักงานจริงมั้ยคะ ไม่ต้องให้โบนัสหรอกค่ะจริงๆแล้วมันเป็นหน้าที่ของเลขาอยู่แล้ว”
หญิงสาวพูดจบก็เดินคอตกออกไปทันที คนอะไรก็ไม่รู้พนักงานทำดีขนาดนี้คำขอบคุณซักคำก็ไม่มี ใช่สิตำแหน่งใหญ่โตนี่ เหอะ!
“เออๆ ขอบคุณพอใจยัง”
นาเดียที่กำลังจะเปิดประตูออกไปก็หยุดเดินก่อนจะยิ้มออกมาทันที เธอหันไปมองชายหนุ่มยิ้มแก้มปริมองเขา มินที่เห็นรอยยิ้มของนาเดียก็มองอย่างไม่ละสายตา เหมือนมากเหมือนนาเดียคนที่เขารู้จัก ทำไมถึงยิ้มเหมือนกันขนาดนี้
“พอใจแล้วค่ะ นาเดียไปทำงานนะคะ”
เหมือนเขาจะได้สติเบือนหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
“อืม ไปสิ”
หญิงสาวอมยิ้มแก้มปริก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี ผู้ชายปากแข็งทำเป็นเย็นชากับเธอคอยดูเถอะจะทำให้รักให้หลงเลย ชิ!
คล้อยหลังหญิงสาวออกไปเขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้นะไม่ใช่สิเธอไม่ใช่นาเดียเด็กน้อยของเขา คนนี้ดื้อรั้นไม่ฟังใครแต่คนที่เขารู้จักน่ารักและไม่เถียงเขาแบบนี้ เขาหยิบโทรศัพท์มากดเข้าโซเชียลไปส่องดูเธอ หญิงสาวเป็นคนไม่ชอบอัพรูปของตัวเองจะชอบถ่ายรูปธรรมชาติแล้วก็ชุดที่ตัวเองออกแบบเท่านั้น สถานะล่าสุดคือกำลังรับงานใหม่ออกแบบชุดไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ที่ฝรั่งเศส งานยุ่งขนาดนี้คงไม่เอาเวลามาแกล้งเขาที่นี่หรอกมั่ง
“ไม่ใช่หรอกน่าเขาคงคิดไปเอง”
เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทรไปหาเธอ เสียงโทรศัพท์สั่นจากในกระเป๋านาเดียหยิบมาดูก่อนจะตาโตอย่างตกใจเมื่อเป็นพี่มินที่โทรแชทเข้ามา เธอรีบกดปิดหน้าจอก่อนจะมองไปยังประตูหน้าห้อง หญิงสาวรีบกดปิดโทรศัพท์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองอีกเครื่องขึ้นมากดเล่น
มาวินลุกขึ้นเดินออกไปดูหญิงสาวอย่างจับผิด เขากดโทรอีกรอบแล้วค่อยๆแง้มประตูออกไปดู ภาพที่เห็นคือเธอกดอะไรซักอย่างก่อนจะวางลงหน้าคอมพิวเตอร์แล้วทำงานต่อ เขาพยายามโทรอีกหลายครั้งแต่มันก็ไม่ได้ขึ้นที่หน้าจอของเธอ แสดงว่าคงไม่ใช่คนเดียวกันนี่เขาคิดมากไปเองใช่มั้ย
“ท่านประธานมีอะไรจะใช้เหรอคะ”
นาเดียเงยหน้าไปสบตากับเขาพอดีก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเอ่ยถามเสียงสดใส เขากดปิดหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเดินออกมาหาเธอแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“เธอมีไลน์ฉันหรือยัง เป็นเลขาไม่มีไลน์ของเจ้านายใช้ได้ที่ไหน”
“จริงด้วยค่ะงั้นขอแอดไลน์นะคะ”
นาเดียหยิบโทรศัพท์มากดเข้าคิวอาร์โค้ดก่อนจะยื่นไปตรงหน้าเขา ชายหนุ่มแสกนเสร็จก็เด้งขึ้นมาเป็นรูปของเธอสวมแว่นตายิ้มสดใสชื่อไลน์คือนาเดียเฉยๆแค่นี้ก็ทำให้เขาหายข้องใจแล้วล่ะว่าไม่ใช่คนเดียวกัน
“เดี๋ยวจะเชิญเข้ากลุ่มนะ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“อืม”
เขาตอบรับเสียงเบาก่อนจะรีบเปิดประตูกลับเข้าไปในห้องทำงานทันที ชายหนุ่มกดเข้าไปในแชทของนาเดียเด็กน้อยที่น่ารักของเขาอีกครั้งก่อนจะมองรูปถ่ายของเธอ คล้ายกันมากจริงๆแต่ช่างเถอะพิสูจน์ขนาดนี้ถ้าใช่คงมีโป๊ะบ้างแหละ แต่นี่ไม่มีอะไรเพราะฉะนั้นถือว่าไม่เกี่ยวข้องกันอย่างที่คิด
‘พี่มินโทรหานาเดียเหรอคะ กำลังหลับอยู่เลยตื่นมาเข้าห้องน้ำค่ะ’
เขามองหนาจอโทรศัพท์กดอ่านข้อความก่อนจะรีบขอโทษขอโพยลืมไปว่าที่นั่นคงมืดอยู่
‘ขอโทษทีพี่ลืมไปว่าที่นั่นมืด เรานอนเถอะพี่เป็นห่วงเฉยๆ’
‘นาเดียสบายดีค่ะ งั้นไปนอนต่อนะคะ’
‘ค่ะ ฝันดีนะ’
เขาวางโทรศัพท์ลงก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ไปต่างประเทศเกือบห้าปีแล้วมั่งยังไม่มีวี่แววจะกลับมาเลย ถ้านานกว่านี้อีกซักปีเขาจะหาเมียแต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดเลย เด็กอะไรไม่รู้มาบอกเขาว่าห้ามมีแฟนเรียบจบกลับมาจะแต่งงานด้วย เหมือนถูกบังคับเลยแต่เขาเต็มใจนะถ้าเป็นนาเดีย เห็นกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเธอก็น่ารักสำหรับเขาที่สุด นี่ก็รอว่าเมื่อไหร่จะกลับมาแต่ไม่กล้าเซ้าซี้หรือเร่งเร้าอะไรเยอะเพราะกลัวว่าเธอจะมีห่วงที่นี่แล้วไม่ได้ทำตามความฝัน รู้มาจากคุณแม่ว่านาเดียก็ยังโสดไม่มีใคร มาโม้ให้ฟังว่าน้องรอแต่งงานกับเขาแค่คนเดียว เขาจึงไม่มีแฟนจนถึงตอนนี้ ถึงจะไม่ได้รับปากแต่ก็ไม่กล้ามีไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“เราคงคิดมากไปเอง เฮ้อ!”
ทางด้านของนาเดียหลังจากที่ชายหนุ่มกลับเข้าไปเธอรีบเปิดโทรศัพท์ทักเขาไปเพราะยังไม่อยากให้เขาสงสัยตอนนี้ และดูจากคำตอบของเขาน่าจะหายสงสัยแล้วล่ะ
“เกือบไปแล้วเรา เฮ้อ!”