ช่วงพักเที่ยงท่านประธานจะออกไปข้างนอกทานข้าวแล้วพบลูกค้าช่วงบ่าย เขาต้องจำใจพาเลขาไปด้วยไม่อย่างนั้นเธอจะสรุปงานให้เขาไม่ได้
“ไปบอกให้นาเดียเตรียมตัว หาชุดอื่นให้ใส่หน่อยสิแต่งตัวอย่างกับมนุษย์ป้าลูกค้าที่ไหนเห็นคงส่ายหน้า”
“ได้ครับ”
บอสเดินออกมาหาหญิงสาวข้างนอก ตอนนี้นาเดียกำลังคุยโทรศัพท์กับแผนกบุคคลอยู่ เธอกดวางสายก่อนจะหันมายิ้มให้ผู้ช่วยของท่านประธาน
“มีอะไรเหรอคะ”
“บ่ายนี้ท่านประธานต้องไปพบลูกค้าท่านให้คุณนาเดียไปด้วยครับ แต่ว่าท่านให้คุณนาเดียเปลี่ยนชุด”
“ไม่เปลี่ยนค่ะ นาเดียสะดวกแบบนี้”
“เอ่อ คือผมว่า…”
หญิงสาวไม่สนใจที่จะฟัง ถ้าเธอเปลี่ยนชุดเป็นสาวสวยมีหรือที่พี่มินจะจำไม่ได้ อย่าลืมนะว่าเธอเป็นดีไซเนอร์การแต่งตัวไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว พี่มินเขารู้ดีเพราะฉะนั้นเธอจะต้องเป็นสาวเฉิ่มที่สุดเท่าที่จะทำได้
“บอกท่านประธานว่านาเดียไม่เปลี่ยนค่ะ การแต่งกายไม่ได้มีผลกับการทำงานนี่คะแต่ถ้าจะให้เปลี่ยนนาเดียจะโทรศัพท์ไปหาคุณหญิงแม่ของท่านประธานว่าแต่งตัวแบบไหนดีถึงจะถูกใจท่านประธาน”
เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปปิดคอมพิวเตอร์แล้วก็เก็บของเตรียมตัวไปพบลูกค้ากับเขา บอสหลับตาลงอย่างคิดหนักถ้าเขาไปรายงานท่านประธานว่าเธอพูดแบบนี้รับรองว่าโกรธมากแน่นอน
“พร้อมยังจะได้ไปกัน นี่ยัยเฉิ่มฉันให้ผู้ช่วยบอกเธอให้ไปเปลี่ยนชุดไม่ใช่เหรอ”
มินเดินออกมาก็มองหน้านาเดียอย่างสงสัย บอสหันไปมองหน้าเจ้านายอย่างลำบากใจเขาเห็นสีหน้าของผู้ช่วยก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“เปลี่ยนชุดแล้วมันทำให้งานออกมาดีขึ้นเหรอคะ”
“เธอนี่เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ เออ ไปสภาพนี้แหละตามใจ”
เขาสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะเดินนำออกไปทันที นาเดียวิ่งตามเขาไปส่วนบอสก็ถอยหายใจออกมาอย่างคิดหนัก เขาต้องอยู่ท่ามกลางสงครามประสาท ถ้าเป็นเลขาคนอื่นคงถูกไล่ออกไปแล้ว แต่นี่คือคุณหญิงฝากมาเขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมากนัก
ตอนนี้ทั้งสามคนมาถึงที่โรงแรมใจกลางเมือง เป็นสาขาของเขาเองและเป็นสถานที่นัดพบลูกค้าในวันนี้ จริงๆก็แค่เลี้ยงขอบคุณที่ใช้บริการโรงแรมของเขาเป็นสถานที่พักเวลานำทัวร์จากต่างประเทศเข้ามา ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังต่อสัญญารึเปล่าเขาจึงอยากทำให้ทางนั้นประทับใจและต่อสัญญาไปอีกปีสองปี แต่ท่่าทางจะคว้าน้ำเหลวเพราะเลขาของเขาเนี่ยแหละ
“เธออย่าทำงานฉันพังนะยัยเฉิ่ม”
“ทำไมถึงว่านาเดียแบบนั้นคะ นาเดียคุยเก่งนะ”
“เหอะ! เธอนะเหรอรสนิยมแย่ไม่มีจุดสนใจเลย แล้วจะเอาอะไรมาช่วยฉัน นั่งเงียบๆนะไม่ต้องพูดอะไรฉันจัดการทุกอย่างเอง”
เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ขนาดแต่งตัวแต่งหน้าเธอยังทำไม่ได้เลยจะให้ไปคุยกับลูกค้าต่างชาติที่มีรสนิยมสูงอยู่ในประเทศที่ไฮเทค เลขาเขาไม่น่ารอด
ทั้งสามคนนั่งอยู่ในโรงแรมห้องVIP นาเดียหันไปกระซิบพนักงานเขาโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันที ไม่นานลูกค้าชาวต่างชาติก็มาถึง ทั้งสามคนลุกขึ้นต้อนรับก่อนจะนั่งลงแล้วคุยกัน
“เป็นเกียรติมากเลยนะครับที่ได้เจอ ไม่ทราบว่ามิสเตอร์อาร์มันโด้จะเดินทางกลับวันไหนครับ”
“อาทิตย์หน้าครับ ผมว่าจะเที่ยวเล่นอีกซักหน่อยประเทศไทยมีอะไรน่าเที่ยวเยอะแยะเลย ผมชอบมาก”
“ถ้าอยากให้ทางเราช่วยแนะนำอะไรก็บอกได้เลยนะครับ แล้วยังทำทัวร์มาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอยู่มั้ยครับ”
มินเริ่มเข้าเรื่องการท่องเที่ยว เผื่อว่าทางเขาจะจัดทริปประเทศเพิ่มโดยปกติบริษัทของเขาจะให้ลูกค้าจองทริปปีหนึ่งต่อหนึ่งประเทศ แต่ถ้าประเทศไหนมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะก็อาจจะมีซ้ำสองได้
“ยังไม่แน่ใจเลยครับคงต้องคิดดูก่อน ว่าแต่เปลี่ยนเลขาใหม่อีกแล้วเหรอครับ คนนี้ดูเรียบร้อยดีนะครับ”
“สวัสดีค่ะมิสเตอร์อาร์มันโด้ นาเดียค่ะ”
“สวัสดีครับคุณนาเดีย”
มิสเตอร์อาร์มันโด้เอ่ยทักทายพร้อมกับยื่นมือไปตรงหน้าเธอ หญิงสาวยื่นมือไปจับเขากลับก่อนจะยิ้มออกมา พนักงานเดินมาพร้อมกับเมนูเครื่องดื่มให้กับทุกคน มิสเตอร์อาร์มันโด้หันไปถามนาเดียที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“คุณนาเดียมีเครื่องดื่มแนะนำมั้ยครับ ไวน์อะไรแบบนี้”
มินกับบอสหันไปมองหน้าเธอทันที ท่าทางเฉิ่มๆแบบนี้น้าจะไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ แล้วลูกค้าก็ช่างถามถูกคนด้วย เขากำลังจะอ้าปากช่วยพูดแต่หญิงสาวก็ตัดบทพูดออกมาก่อน
“นาเดียว่ามิสเตอร์อาร์มันโด้น่าจะชิมไวน์หลากหลายประเทศมาบ้างแล้ว ถ้าให้แนะนำจริงๆไม่รู้ว่าคุณจะดื่มรึเปล่า”
“ไหนลองแนะนำมาสิครับ ผมอยากลองดู”
เขายิ้มออกมาอย่างสนใจผู้หญิงตรงหน้า ดูเป็นคนมีอะไรมากกว่าภาพลักษณ์เพราะดูฉลาดพูดฉลาดคิดน่าสนใจมาก เธอหันไปหาพนักงานก่อนจะเรียกให้เข้ามา พวกเขาวางแก้วไวน์ลงก่อนจะเทใส่แก้วให้ลูกค้า ตอนเธอเดินเข้ามาเห็นตั้งอยู่หน้าเคาน์เตอร์เยอะมากและแอบเห็นตัวที่เธอเคยไปชิมมาครั้งหนึ่งตอนไปทานร้านอาหารในต่างประเทศ ทางร้านบอกว่าเป็นไวน์ของไร่ทางเหนือแต่ว่ามันอร่อยมากเลยสั่งมาให้ลูกค้าชิม
“อันนี้เป็นไวน์จากไร่ทางภาคเหนือค่ะ นาเดียเคยชิมครั้งหนึ่งรสชาติดีเลยค่ะแต่ว่าไม่ได้วางขายทั่วไป เขาหมักไว้ให้ที่ไร่ชิมเท่านั้นแล้วก็ร้านอาหารใหญ่ๆของไทยจะมีให้ลูกค้าไว้ชิมแต่หาซื้อร้านค้าทั่วไปไม่ได้ค่ะ เห็นว่าต้องสั่งล่วงหน้าอย่างต่ำเป็นเดือนลองชิมดูนะคะ”
“น่าสนใจจริงๆ”
มิสเตอร์อาร์มันโด้ยกไวน์ขึ้นจิบก่อนจะร้องว้าวออกมาทันที เขาชอบดื่มไวน์ที่ไม่ฝาดและตัวนี้รสชาติดีมากอย่างน่าทึ่ง”
“ว้าว อร่อยมากหอมที่สุด”
“วันนี้ดื่มได้เท่าที่ต้องการเลยนะคะ สำหรับลูกค้าVIPทางเราบริการอย่างเต็มที่ค่ะ”
นาเดียยิ้มออกมาก่อนจะหันไปให้พนักงานรินไวน์ต่อ จากนั้นมินกับบอสก็เหมือนมากนั่งให้โต๊ะเต็มเพราะดูลูกค้าจะสนใจคุยกับเลขาของเขาเป็นพิเศษ และที่สำคัญเธอพูดเก่งมากแถมยังเล่าสถานที่ในประเทศไทยหลายที่ให้ลูกค้าฟังด้วย
“แสดงว่าผมยังทัวร์ประเทศไทยไม่หมดใช่มั้ยเนี่ย”
“ยังมีอีกเยอะค่ะที่เที่ยวในประเทศไทย ถ้ามิสเตอร์อาร์แมนโด้อยากให้นาเดียแนะนำก็ยินดีมากเลยค่ะ”
เขายิ้มออกมาอย่างถูกใจก่อนจะหันไปกระซิบกับผู้ช่วยของเขา จากนั้นก็หันไปหามินก่อนจะเอ่ยเสียงสดใส
“ผมว่าจะทำทริปท่องเที่ยวประเทศไทยอีกซักปีหนึ่ง เพราะฟังจากคุณนาเดียพูดมันน่าสนใจมากๆอาจจะต้องรบกวนร่วมงานกับคุณมินอีกครั้งหนึ่งยังสนใจอยู่มั้ยครับ”
มินยิ้มออกมาทันทีก่อนจะรีบตกลงอย่างไม่คิด บริษัททัวร์ของมิสเตอร์อาร์มันโด้นั้นทำรายได้ให้เขาหลักร้อยล้านต่อปีด้วยเป็นบริษัททัวร์ที่มีชื่อเสียงมากพาลูกทัวร์บินมากรุ๊ปหนึ่งก็แทบจะเต็มโรงแรมแล้ว
“ได้สิครับผมยินดีมาก”
“งั้นเดี๋ยวผมให้ผู้ช่วยส่งรายละเอียดให้นะครับ ผมจะไปประชุมกับทางพนักงานอีกทีแล้วจะส่งสัญญามาให้ทางออนไลน์”
“ได้เลยครับทางเรายินดีมากที่จะได้ร่วมงานกับมิสเตอร์อาร์มันโด้อีกครั้ง”
สองคนจับมือกันก่อนจะชนแก้วฉลอง นาเดียหันไปยิ้มให้มินก่อนจะยักคิ้วอย่างกวนๆ เขากระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่คิดว่าเธอจะมีความสามารถซ่อนอยู่เยอะมาก และที่นาเดียทำก็เพื่อพิสูจน์ว่าการแต่งกายไม่ได้มีผลในการคุยกับลูกค้าหรอก ไหวพริบและความรู้รอบตัวของเธอต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จไปได้