10.โชคชะตา

1329 Words
ไปกันใหญ่แล้ว... ใครจะไปแต่งงานกับเขากัน!! "ข้ามิได้หมายความว่าเช่นนั้น อีกทั้งเราแค่..." "ท่านแม่ทัพจะแต่งงานอย่างนั้นหรือครับ!!" จุนเฟิงเดินเข้ามาพร้อมกับทหารอีกสองคนที่กำลังหอบกระดาษพะรุงพะรัง และเนื่องจากเสียงตะโกนของจุนเฟิงทำให้ตอนนี้ทหารที่อยู่ด้านนอกแห่เข้ามาออเต็มหน้าประตูห้องของหนิงหลง เย่วเล่อยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ก่อนที่เธอจะปั้นยิ้มที่แสนงดงามขึ้นมา "อ่า..ว่าที่ฮูหยินของท่านแม่ทัพงดงามมากจริงๆ" "ไม่ใช่แบบนั้น..." "นั่นเถ้าแก่เนี้ยคนงามไม่ใช่รึไง ยินดีด้วยนะขอรับท่านแม่ทัพในที่สุดก็มีบุรุษที่สามารถเอาชนะใจของเถ้าแก่เนี้ยได้" คำยินดีอีกมากมายนับไม่ถ้วนถูกกล่าวขึ้นมาโดยที่ไม่มีใครสักคนฟังคำปฏิเสธจากเธอเลย พวกเขาต่างโห่ร้อง สรรเสริญและยินดี "ทำไมเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะครับเถ้าแก่เนี้ย สินสอดพวกนี้คืออะไรกัน?" อาเหยาเงยหน้าขึ้นมาจากกล่องไม้หลายร้อยกล่องที่ถูกส่งมา ส่วนเย่วเล่อในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงที่มีขวดเหล้าวางเรียงราย "ไม่รู้สิ ในเมื่อเขาส่งมาให้ก็รับเอาไว้เถอะน่า" ถึงอย่างไรการแต่งงานกับหนิงหลงก็มิได้แย่อะไร เพราะว่าหลังจากนี้จะไม่มีบุรุษหน้าไหนมาเกาะแกะเธออีก แล้วก็จะไม่มีสตรีไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ตัดความกังวลเรื่องที่เขาจะไปจุมพิตหรือว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีอื่นได้เลย การไปหาเขาหรือว่าการที่เขามาหาเธอ..ก็จะทำได้สะดวกมากขึ้น นับว่าเป็นเรื่องราวที่ไม่ว่ามองทางใดเธอก็ล้วนแล้วแต่ได้ประโยชน์ทั้งนั้น เพราะเธอเคยผ่านการแต่งงานมานับครั้งไม่ถ้วนจึงมิได้รู้สึกอันใดกับการที่จะแต่งงานกับหนิงหลงเลย สุดท้ายเราจะหย่าและจากกันในสักวัน หรือถ้าโชคดีหน่อย แน่นอนว่าถ้าเขาถูกใจเธอมากพอเราอาจจะครองคู่จนแก่เฒ่า...ให้ความตายพรากเขาไปจากเธอเงียบๆ เรื่องราว..ความรักที่งดงามลึกซึ้งดุจดั่งในนิทานนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก ใครจะสามารถรักกันได้ขนาดนั้นกัน "จดหมายจากท่านแม่ทัพชูขอรับ.." อาเหยาวางม้วนกระดาษลงเบื้องหน้าของเย่วเล่อ เธอหยักยิ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าชูชางคงจะเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้วเป็นแน่ "ข้าเดินทางจนถึงเมื่อฟู่หนานแล้ว ที่นี่งดงามมากทีเดียว หากว่าเจ้ามาด้วยเจ้าจะต้องชอบมันมากแน่ๆ แถมสตรีที่นี่ยังงดงามมากๆอีกด้วย ภาวนาให้ข้านั้นตัดใจจากเจ้าได้ในเร็ววัน หากว่าเจ้ามิได้รับจดหมายจากข้าแล้ว นั่นแปลว่าข้านั้นสบายดี ข้าอาจจะแต่งงานกับสตรีสักคนที่นี่...แต่หากมีจดหมายส่งหาเจ้าอีก..แปลว่าข้ายังตัดใจจากเจ้าไม่ได้ อย่าตอบกลับมาเพราะข้าจะยิ่งคาดหวัง หวังว่าเจ้าจะมีความสุขมากๆนะอ้ายฉิง" จะต้องมีแน่นอน สตรีที่คู่ควรกับเจ้าน่ะชูชาง ได้แต่ภาวนาให้เจ้าหาสตรีผู้นั้นเจอในเร็ววัน ส่วนข้ากำลังจะแต่งงาน.. เมื่อชีวิตที่ยาวนานนับนิรันดร์นี้สิ้นสุดลงเพราะว่าเธอสูญเสียพลังปราณไป ในใจก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเล็กๆ เธอมิได้หวาดกลัวความตาย แต่ดันหวาดกลัวว่าจะสูญเสียความรักไปอีกครั้ง... แต่ทว่าอีกครึ่งใจกลับปรากฏเป็นความยินดีขึ้นมา เพราะในเมื่อเธอในยามนี้คือมนุษย์คนหนึ่ง เช่นนั้นก็สามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ราวกับว่านี่คือวันสุดท้ายของชีวิต ความรู้สึกมากมายตีกันมั่วไปหมด แต่เย่วเล่อตั้งใจเอาไว้แล้วว่าถ้าเธอไม่ได้พลังปราณคืนมาก็ไม่เป็นไร เธออาจจะขอร้องให้หนิงหลงพาเธอไปที่ป่าเทพเซียนเพื่อให้เธอบอกลาลี่ถิงและท่านอาจารย์ก่อนจะจากลาไป.. ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร นี่คือจุดจบที่สวยงามของเธอ การใช้ชีวิตมาพันกว่าปีมันน่าเบื่อหน่ายเกินไปแล้ว หากนี่คือช่วงสุดท้ายของชีวิตเช่นนั้นก็แค่ใช่ชีวิตไปตามความต้องการก็พอ หนิงหลงเดินเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษในมือ เขามิทราบว่าเย่วเล่อชอบกินอะไร เขาคิดเพียงแต่ว่าเดิมทีนางคือจิ้งจอกหิมะ ลูกท้อตากแห้งพวกนี้เหล่าจิ้งจอกชอบกินมาก เช่นนั้นนางก็น่าจะชอบมันเหมือนกัน เขาวางถุงผลไม้ตากแห้งลงเบื้องหน้าของเย่วเล่อ พร้อมกับนั่งลงเคียงข้างเธอ เรานั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมซูฮวายามเย็นที่ผู้คนยังไม่มากเท่าไหร่ เย่วเล่อหยิบลูกพลับตากแห้งนั่นมากัดเบาๆ นี่เขาคิดว่าเธอเป็นจิ้งจอกจริงๆหรืออย่างไร ถึงได้นำผลไม้พวกนี้มา "หวานดีหรือไม่?" "ก็..ไม่ได้แย่" "เดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงในจวนตระกูลหลิง สหายร่วมรบของข้ากำลังจะเข้าพิธีหมั้น หากว่าเจ้าว่าง...เราไปด้วยกันดีหรือไม่" นานเท่าไหร่แล้วที่เธอมิได้ใกล้ชิดกับมนุษย์ ไม่ไปร่วมงานหรือว่าไม่คบค้าสมาคมด้วย มีเพียงชูชางเท่านั้นที่เย่วเล่อพูดคุยด้วยมากที่สุดในบรรดามนุษย์ทุกคน ไหนๆยามนี้เธอก็ถือเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ลองใช้ชีวิตเช่นมนุษย์ดูสักครั้งน่าจะไม่มีอะไรเสียหาย "เอาสิ วันๆข้าอยู่แต่โรงเตี๊ยมรู้สึกเบื่อเหมือนกัน..." หนิงหลงส่งยิ้มให้เธอ "คืนนี้...ข้าจะค้างที่นี่" คำกล่าวที่แผ่วเบาราวกับเป็นคำกระซิบของเขาทำเอาหัวใจของเธอพลันเต้นแรงขึ้นมา เราสบตาก่อนจะหันหน้าหนีพร้อมๆกัน ใบหน้าของเย่วเล่อพลันเห่อร้อน และขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่หล่อเหลาของหนิงหลงเองก็ไม่ต่างกัน เขาพยายามเก็บกั้นความกระดากอายเอาไว้ภายในแต่ทว่าก็ทำได้ยากเย็น ทั้งที่เขากล่าวออกมาเองแท้ๆแต่ทว่าก็ดันมาแสดงอาการที่เขินอายเองเสียนี่ ไม่สมกับเป็นเขาเลยจริงๆ "อะ..อื้ม ท่านทานอะไรมารึยัง?" หนิงหลงส่ายหน้าเบาๆ เขาทำงานแบบเดิม เหมือนเดิมในทุกๆวัน ต่างกันตรงที่เขาอยากให้ถึงยามเย็นเร็วๆ อยากจะให้ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไวๆเพราะเขาอยากจะมาหาเย่วเล่อ ในใจพลันคิดคิดถึงเธอตลอดเวลา ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะรอคอยเขาอยู่รึเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอรอคอยจุมพิตจากเธออย่างใจจดใจจ่อเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอรู้ตัวอีกทีตัวเองก็มายืนอยู่ที่หน้าโรงเตี๊ยมนี้แล้ว.. "อาเหยา ขออาหารสักสามสี่อย่างหน่อยสิ ข้าจะทานข้าวพร้อมกับท่านแม่ทัพ" อาเหยาก้มหน้าลงพร้อมกับเดินไปสั่งพ่อครัว เขาเหลือมองใบหน้าที่งามล้ำของเถ้าแก่เนี้ยก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคนนั่น เถ้าแก่เนี้ยที่ไม่เคยเสียอาการไม่ว่าฝั่งตรงข้ามจะเป็นบุรุษแบบไหน แต่กลับแสดงท่าทีเขินอายต่อหน้าท่านแม่ทัพ หากว่านี่โชคชะตา ก็นับว่าเป็นโชคชะตาที่เขารอคอยมานานทีเดียว เนื่องจากอาเหยารับใช้เย่วเล่อมานาน สิ่งที่เขาอากจะเห็นคืออยากให้เจ้านายของเขามีความรักและมีความสุขกับการได้รักใครสักคนเสียที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD