ตอนที่ 6

1208 Words
  รั้วบ้านวิราชย์ ณ บดินทร์มีโอกาสได้ต้อนรับวิรงรองอีกครั้ง พาวินีสั่งสาวใช้ให้มาเสริฟ์กาแฟและของว่างต้อนรับแขก จังหวะนั้นเรนิกาเดินลงมาจากชั้นบนพอดี “เรนมานี่หน่อยลูก”พาวินีเรียกบุตรสาว เรนิกาเดินมาตามคำสั่งนั่งลงข้างมารดาสีหน้าไม่สู้ดี วิรงรองเอื้อมจับมือว่าที่ลูกสะใภ้ แววตาทอประกายด้วยความชื่นชม เรนิกาเหมาะกับบุตรชายของตนมากเลยทีเดียว “หนูเรนอย่าไปถือพี่ทิวาเค้าเลยนะ ช่วงนี้พี่ทิวาทำงานหนักเลยหงุดหงิดง่ายแต่แม่จัดการให้เรียบร้อยแล้วนะ”วิรงรองบอก เรนิกาเหลือบมองมารดาเขาท่าทางขัดเขินเหตุใดถึงได้เรียกตัวเองแทนว่าแม่กับเธอเล่า “ค่ะคุณอา” มือบางถูกปล่อยเป็นอิสระ วิรงรองหันไปให้ความสนใจเพื่อนรุ่นเดียวกันต่อ “พาวันนี้ฉันมีเรื่องสำคัญจะมาปรึกษา หนูเรนอยู่ด้วยก็ดีเลย” “เรื่องอะไรเหรอ?”สีหน้าแปลกใจ เมื่อเห็นเพื่อนระบายยิ้มออกมา “ฉันอยากจะขอหมั้นหนูเรนให้ตาทิวาน่ะ” ดวงตาเรียวเบิกกว้างถ้อยคำที่ได้ยินอยู่นั้นใช่เรื่องจริงหรือเปล่า หมั้นอย่างนั้นหรือ... กับพี่ทิวา ทั้งๆ ที่เขาตั้งท่าเหมือนจะรังเกียจเสียมากกว่าแล้วทำไมอาวิรงรองถึงได้ขอหมั้นเธอ “จะดีเหรอวิ ทิวาไม่ได้ชอบยัยเรนไม่ใช่เหรอ”คนเป็ฯแม่ออกความเห็น เพราะทิวาไม่มีทีท่าว่าจะชอบบุตรสาวเลยสักนิด ลมหายใจยาวทอดถอน “ทิวาเป็นคนปากแข็ง ไม่ค่อยยอมรับอะไรหรอก” เธอไม่กล้าเล่าเรื่องในอดีตให้เพื่อนฟัง เพราะคิดว่าพาวินีคงไม่มีวันให้บุตรสาวมาแต่งงานกับลูกชายเธอแน่ “มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอวิ ฉันว่าให้สองคนเค้าคบหากันมากกว่านี้ดีกว่าไหม”เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แล้วบุตรสาวเธอเป็นผู้หญิง “แค่หมั้นเองพา ไม่ได้จับแต่งงานกันสักหน่อย อย่างน้อยก็อยากจองหนูเรนไว้ก่อน”ปรายสายตามองมาทางเรนิกา หญิงสาวก้มหน้างุดเพราะรู้สึกขัดเขิน “ฉันน่ะยินดีอยู่แล้วเพราะเป็นลูกชายเธอ แต่ยัยเรนจะเอายังไงไม่รู้เหมือนกัน ฉันคงตามใจลูก” พาวินีหันไปมองบุตรสาวเห็นก้มหน้านิ่งอยู่ “เรนล่ะว่ายังไงลูก จะหมั้นกับพี่เขาไหม” มือไม้กำลังสั่นความคิดตีกันมั่วไปหมด เธอชอบพี่ทิวานี่คือความจริง แต่พี่ทิวาคิดยังไงนั้นไม่อาจรู้ ท่าทางเขาเหมือนผลักตัวเองให้ออกห่าง ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ใคร จริงๆ แล้วเรื่องที่พี่พสินบอกกับเธอนั้นยังคาใจอยู่ “ทิวาเป็นพวกเด็กมีปัญหาปมมันเยอะ” ปมที่ว่าคืออะไรกันแน่ จะพอมีโอกาสไหมที่เขาจะยอมรับในตัวเธอ บางครั้ง... ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ยึดติดกับเขา หรือเพราะแววตาแสนเศร้านั้น “พรหมลิขิต โชคชะตา”เธอนึกได้สองคำนี้ พี่ทิวาเปรียบเหมือนพรหมลิขิตและโชคชะตาของเธอ ชายหนุ่มมากมายก้าวผ่านเข้ามา ไม่เคยมีใครเรียกความสนใจได้นอกจากเขา จะยอมรับหมั้นดีไหม... หมั้นกับพี่ทิวาแล้วเอาชนะใจเขาให้ได้ “เรนจะหมั้นค่ะ”ตอบรับผู้ใหญ่ไป น้ำเสียงจริงจังจนวิรงรองมองแล้วอมยิ้ม “แน่ใจแล้วเหรอลูก”พาวินีถามย้ำอีกครั้ง “ค่ะแม่ หนูจะหมั้นกับพี่ทิวาค่ะ” “ดีมากเลยจ้ะหนูเรน เป็นอันตกลง เดี๋ยวฉันจะกลับไปจัดการเรื่องฤกษ์ให้แล้วจะโทรมาบอกนะพา”วิรงรองบอกน้ำเสียงตื่นเต้นลุกยืน “จะกลับแล้วเหรอวิ”หันไปถามเพื่อนสีหน้าสับสน “กลับแล้วสิ จะรีบไปเตรียมงานหมั้น” เรนิกายกมือกระพุ่มไหว้เห็นมารดาเดินไปส่งเพื่อนหน้าบ้าน ร่างบางทรุดลงนั่งบนโซฟาราวกับคนหมดแรง   ตัดสินใจถูกหรือเปล่านะที่รับหมั้นไป พี่ทิวาจะคิดยังไงบ้าง   มารดาเธอเดินกลับเข้ามา ท่าทางเหมือนจะถามอะไร เรนิการีบลุกยืนคิดชิ่งหนีก่อนไม่อยากตอบ แต่เสียงประกาศิตดังขึ้น “อย่าเพิ่งไปไหนยัยเรน คุยกับแม่ก่อน!” ร่างบางหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเดิม พาวินีนั่งลงตรงข้ามกับบุตรสาวสบตาเหมือนต้องการค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง “ลูกไม่ชอบไม่ใช่หรือไอ้การคลุมถุงชน แม่เห็นปฏิเสธมาตลอดแล้วทำไมคราวนี้ถึงยอม”พาวินีถามสีหน้าเคร่งเครียด ความจริงเธอเองก็ชอบทิวาแต่เหมือนว่ามันเร็วไป “เรนชอบพี่ทิวาค่ะแม่ แม่อาจจะมองว่ามันเร็วไป แต่เรื่องของหัวใจมันห้ามกันไม่ได้ เรนชอบพี่เค้าจริงๆ”เธอตอบมารดาตามตรง เพราะไม่รู้จะปิดบังไปเพื่ออะไร คนเป็นแม่ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ได้ยินคำตอบเช่นนี้รู้สึกพอใจ ตอนแรกนึกว่าบุตรสาวอาจอกหักจากหนุ่มคนไหนมาเลยประชดด้วยการหมั้นกับชายอื่น พอบอกว่าชอบทิวาเลยรู้สึกโล่งใจขึ้นมา “ได้ยินแบบนี้แม่ก็ดีใจ อย่างน้อยลูกสาวแม่ไม่ได้หมั้นเพราะประชด ถ้าลูกมีความรู้สึกดีๆ ให้กับทิวาแม่ก็ยินดี”พาวินีเดินไปนั่งข้างบุตรสาวโอบกอดไว้แน่น   กลับจากทำงานเหมือนเช่นประจำทุกวัน ร่างสูงสาวเท้าเข้าตัวบ้านสายตาเหลือบเห็นมารดานั่งรออยู่ดั่งทุกวัน วิรงรองเงยหน้าจากงานฝีมือสบตาบุตรชาย แววตาเหมือนทุกทีไม่เคยเห็นประกายแห่งความสุขฉายในนั้น “ทานข้าวมาหรือยังทิวา” “ผมทานมาแล้วครับ” เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง วิรงรองเดินจูงมือบุตรชายมานั่ง เห็นท่าทีมารดาทิวากรรู้ดีว่าต้องมีเรื่องให้เขาลำบากใจอีกเช่นเคย “แม่คุยกับหนูเรนแล้วนะ หนูเรนรับหมั้นทางเราแล้ว”รอยยิ้มระบายทั่วใบหน้า แต่ตัวเขากลับอึดอัด สีหน้าเคร่งเครียด เรนิกาคิดอะไรถึงได้รับหมั้น เธอน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่เคยคิดเป็นอื่นเลย... หรือถ้าจะคิดก็ใช่ว่าเขาจะต้องได้เธอมายืนข้างกาย “แม่ครับ ผมไม่พร้อมจริงๆ น้องเรนยังสาวยังสวยเราให้เธอพบผู้ชายดีๆ เถอะ อย่ามาจมปลักอยู่กับผมเลย”บอกมารดาเสียงเครียด เขาไม่อยากทำร้ายเรนิกาจริงๆ “ก็แค่หมั้นตาทิวา อย่าเรื่องมากทำตามที่แม่สั่งก็พอ เรื่องอื่นแม่ไม่เคยว่าทำเพื่อแม่สักครั้งไม่ได้หรือไงกัน!” ชายหนุ่มถอนใจยาวออกมาความกดดันแผ่ซ่าน เหตุใดมารดาต้องกดดันเขาถึงเพียงนี้ เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมามันก็สร้างความเจ็บปวดให้เขามากพออยู่แล้ว ถ้าเกิด... เรนิกาเป็นเหมือน... ภรรยาเก่าของเขาแล้วเขาจะทำเช่นไร เกินพอแล้วเขารับมันไม่ได้อีกแล้วความทรมานเหมือนตายทั้งเป็น “ผมทำไม่ได้... เห็นใจผมเถอะครับแม่”ชายหนุ่มบอกเสียงเครือ เหงื่อกาฬเริ่มผุดซึมเต็มใบหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD