ตอนที่ 9

1060 Words
เพื่อนสาวพูดตรงประเด็นคนฟังถึงกับหน้าตึง ไม่ใช่แค่มนตราที่คิดเช่นนั้นแม้กระทั่งตัวเขาก็คิดเช่นกัน “งานจะจัดอยู่แล้วยกเลิกไม่ได้หรอก แค่หมั้นเท่านั้น”พยายามหาข้อแก้ตัวมาหักล้าง มนตราเดินออกมาจากขอบหน้าต่างทอดสายตามองเพื่อนชาย ร่างเพรียวค่อยย่อกายลงแหงนมองใบหน้าคมเข้ม มือสองข้างยกขึ้นจับใบหน้าไว้แล้วสบตา “อย่าทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเสียใจเลย ถ้าทิวาไม่ได้รักเขา ไม่ได้ชอบเขาก็อย่าทำแบบนี้เลย สงสารผู้หญิงคนนั้นเถอะนะ มันเหมือนว่าเราไปให้ความหวังเขา” มือหนาจับข้อมือเพื่อนสาวออกห่างจากใบหน้าแล้วลุกยืนเต็มความสูง ลมหายใจถูกระบายออกมาสีหน้าเคร่งเครียด มนตราหยุดยืนด้านหลังแล้วสอดมือกอดเอวหนาไว้ “ลองคิดดูให้ดีทิวา... ถ้าหมั้นกับผู้หญิงคนนั้น ต่อไปก็ต้องแต่งงานตามคำสั่งของแม่อีก ทิวา... ไม่คิดถึงจิตใจพี่ภัทรบ้างเหรอ พี่ภัทร”ยังไม่ทันได้พูดต่อ “หยุดพูดสักที!”เสียงเข้มตวาดลั่น เกาะมือเพื่อนสาวออกแล้วหันขวับมองด้วยแววตาเจ็บปวด “มนขอโทษ มนไม่ได้ตั้งใจ...” มือถูกยกกุมขมับแน่นระบายลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงหลายครั้ง กรามถูกขบเป็นสันนูน มนตราก้าวเท้าเข้าใกล้อีกครั้ง แต่ชายหนุ่มกลับเขยิบออกห่างรักษาระยะด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น “ผมจะกลับล่ะ ขอตัวก่อนมน”เขาตัดบทเดินหนีออกไป ร่างเพรียวตามติดไปส่งเขาหน้าบ้าน ชายหนุ่มเปิดประตูรถนั่งประจำที่แล้วขับออกไป มนตรายืนมองรถคันนั้นลับสายตา มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อยแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี วิรงรองเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ จนแล้วจนรอดบุตรชายก็ยังไม่ลงมาจากชั้นบนเสียที ไม่นานนักสาวใช้ที่เธอใช้ไปตามวิ่งตาเหลือกลงมาสีหน้าตระหนก “คุณผู้หญิงคะ คุณทิวาไม่อยู่ที่ห้องค่ะ!” “อะไรนะ!”วิรงรองออกมาสีหน้าตกใจ มือเหี่ยวย่นรีบคว้าโทรศัพท์ในกระเป๋าสีหน้าร้อนรน กดเบอร์โทรหาบุตรชายทันที “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” มือถือตกลงสู่พื้นยกมือขึ้นกุมขมับร่างกายร่วนเซจนจะล้มพับ “คุณผู้หญิง!”สาวใช้ในบ้านร้องเรียกก่อนช่วยกันพยุง “ตาทิวา ทำไมทำกับแม่แบบนี้ ฮือๆๆๆ”ยาดมถูกจอที่จมูก วิรงรองเกิดอาการเครียดหนักเธอจะตอบเพื่อนว่าอย่างไรดี โรงแรมหรูระดับห้าดาวกลายเป็นสถานที่จัดงานหมั้นหมายของประธานบริษัทไฮเจคดีไซน์จำกัด กับคุณหนูแสนสวยแห่งตระกูลผู้ดีเก่า วิราชย์ ณ บดินทร์ ร่างอรชรในชุดไทยประยุกต์ผมถูกรวบเกล้าขึ้นประดับด้วยปิ่นมุกสร้อยคอทำจากอัญมณีหลากสี ข้อมือถูกสวมทับด้วยกำไลทองลายพญานาค ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยสีโทนส้มอ่อน ส่งให้ดูงดงามสมกุลสตรี “เสร็จแล้วค่ะคุณเรนคนสวย”ช่างสาวประเภทสองเอ่ย “ขอบคุณนะคะ” เรนิการะบายยิ้มยืนมองตัวเองในกระจก หากพี่ทิวามาเห็นเขาคงชอบใช่ไหม ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตู่ห้องแต่งตัวดังขึ้น ประตูเปิดออกพาวินีเดินเข้ามาหาบุตรสาว เพียงแค่เห็นน้ำตาคนเป็นแม่ก็ปริ่มออกมา รวบร่างลูกกอดไว้แน่น “แม่คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียก “ลูกของแม่โตแล้วนะ” “แค่หมั้นเองค่ะแม่ ยังไม่ได้แต่งสักหน่อย ไม่ต้องห่วงนะคะเรนยังอยู่กับแม่อีกนาน” จับมือแม่ไว้พยายามปลอบเพื่อให้คลายเศร้า “แล้ว... พี่ทิวามาหรือยังคะแม่” ถามไปพาลเขินขึ้นมา แก้มเนียนเลยแดงระเรื่อ “น่าจะมาแล้วจ้ะ สงสัยอยู่อีกห้อง ทำไมเรนอยากเจอพี่เขาเหรอ”พาวินีแกล้งแซวบุตรสาว “ปะ...เปล่านะคะ!”เสียงหวานแก้ตัวออกไป หลุบตามองพื้นด้วยความอาย “เดี๋ยวแม่ไปดูงานก่อนนะลูก เผื่อมีอะไรไม่เรียบร้อย” “ค่ะ” พาวินีเดินดูงานด้านนอกเพื่อตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง สายตากวาดมองรอบๆ จนหยุดลงที่เพื่อนสนิทกำลังเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้ใบหน้าซีดเซียว “เป็นอะไรหรือเปล่าวิ!”พาวินีถามสีหน้าตระหนก “ฮือๆๆ ฉันขอโทษพา ตาทิวาหายตัวไปแล้ว ไอ้ลูกไม่รักดีมันหนีงานหมั้น!” “อะ...อะไรนะ!” แทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เสียงของวิรงรองทำให้ผู้คนในงานเริ่มหันมาให้ความสนใจรวมถึงสื่อมากมาย “เกิดอะไรขึ้นวิ ทำไมทิวาถึงทำแบบนั้นล่ะ”สีหน้าตื่นตระหนกของพาวินียิ่งเรียกแขกในงานให้มามุ่งดูมากขึ้น “ฉันก็ไม่รู้ เมื่อเช้าให้คนใช้ไปเรียกตาทิวาไม่ได้กลับบ้าน แต่ฉันเช็คแล้วรถก็ยังอยู่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!” พาวินีแทบทรุดลงกองกับพื้น แขกเหรื่อมากมายพ่วงด้วยนักข่าวลูกสาวเธอได้เป็นขี้ปากชาวบ้าน ไม่น่าเลยจริงๆ ไม่น่าด่วนใจร้อนเลย “ช่างมันเถอะ ฉันขอตัวไปหาลูกก่อนนะ”พาวินีบอกเพื่อนแล้วรีบเลี่ยงออกไป เสียงเอะอะโวยวายด้านนอกทำให้ช่างในห้องแต่งตัวรีบออกไปดู เรนิกามองผู้คนด้วยความงุนงง ประตูเปิดอ้าออก เรนิกามองผู้มาเยือนเห็นแม่เดินเข้ามาสีหน้าไม่สู้ดี “มีอะไรคะแม่ เกิดอะไรขึ้น...”ถามเสียงเบา แววตาสับสน “เรน... ฟังแม่นะลูก ทิวา... เขาหนีงานหมั้นไปแล้ว” “อะ...อะไรนะคะ”ถึงแม้จะย้อนถามแต่ร่างกายแทบทรงตัวไม่อยู่ ทรุดลงกองกับพื้นยกมือปิดปากสะอื้นออกมา “เรน!”พาวินีรีบเข้าไปพยุงบุตรสาว ไม่ไหว... ไม่มีแม้แต่แรงจะหยัดยืน เจ็บ... ไม่นึกเลยว่าเขาจะทำร้ายเธอได้ลงคอ ทำไม... หากไม่ต้องการจะรับปากเธอไปเพื่ออะไร ใจร้ายเหลือเกินไม่เคยเลยสักครั้งที่จะคิดร้ายกับเขา หัวใจดวงนี้ถูกทำลายจนย่อยยับไปแล้ว ดวงตาพร่ามัว สมองหนักอึ้งไปหมด “เรน!”เรียกบุตรสาวไว้แล้วรีบประคองร่างแน่นิ่งเพราะเป็นลม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD