คนกับแมว

1521 Words
“แง้ววว...แง้ว” เสียงใสๆ ขนนุ่มๆ ของเจ้าเหมียวตัวเล็กๆ เดินมาเคลียคลอ ถูไถอยู่ข้างลำตัว เมื่อหญิงสาวอุ้มมันขึ้นมาใกล้ๆ แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาใสแจ๋ว อันแสนซื่อบริสุทธิ์ ...เธอก็พบความรักที่แท้จริงอยู่ในนั้น “ว่าไงคะ คนสวยของแม่” “แง้ว” เจ้าเหมียวมันขานรับเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้ามาเอาคางถูไถกับใบหน้าของเธอ น้ำตาที่เปียกอยู่เต็มหน้าเมื่อกี้พลันแห้งเหือดไปในทันที “น้องมาอ้อนแม่ทำไมคะ หิวเหรอลูกเหรอ” กิ่งหลิวอุ้มเจ้าตัวเล็กขี้ประจบขึ้นมาตรงหน้า แล้วก็ประจงจูบซ้ายจูบขวาที่ใบหน้าเล็กๆ อันจิ้มลิ้มนั้นอย่างแสนรัก ... ก่อนจะหันไปเทอาหารเม็ดใส่ชามให้เจ้าเหมียว ในปริมาณที่คะเนว่าเหมียวกินครั้งเดียวหมด แล้วเธอก็นั่งเท้าคางมองเจ้าขนนุ่มมันงับอาหารทีละเม็ดๆ ค่อยๆ เคี้ยวกินอย่างบรรจงด้วยท่าทีเอร็ดอร่อย แต่เรียบร้อยตามแบบเฉพาะตัวที่น่าเอ็นดูยิ่งนัก เหมียวมันกินของมันอย่างนี้นับแต่วันแรกที่เธอเก็บมันมาจากถังขยะ ตอนนั้นแม้มันจะหิวซ่ก เนื้อตัวผอมกะหร่อง แต่ไอ้ตัวเล็กของเธอก็ยังกินอย่างมีมารยาท เธอคิดว่าเพราะเหมียวมันเชื่อใจเธอ มันรู้ว่ายังไงเสียมันก็จะได้กินจนอิ่ม แล้วมันก็จะได้กินเช่นนี้ไปตลอด และมันรู้แล้วว่าของกินแสนอร่อยของมันนี้ไม่มีวันหมด ไม่ต้องรีบร้อนกิน ไม่ต้องแย่งกันกินกับใครที่ไหน ไม่ต้องแข่งกับอะไรเลยแม้กระทั่งเวลา เพราะทุกเวลานาทีของมัน เป็นของผู้หญิงคนนี้...ทั้งหมดเพียงคนเดียวเท่านั้น จนถึงวันนี้ เหมียวมันก็ยังเป็นเช่นนั้น ไม่เคยกินอย่างตะกละตะกรามให้เห็นเลยแม้สักครั้ง ต่อให้มันหิวโหยเพียงใดก็ตาม “อร่อยใช่ไหมล่ะ คนสวยของแม่” หญิงสาวลูบศรีษะเจ้าตัวเล็กอย่างรักใคร่ และอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อมันขานรับด้วยคำว่า “แง้ว” เบาๆ กิ่งหลิวยังไม่หายประหลาดใจที่มันรู้จักชื่อของตัวเองได้แม่นยำ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเรียกมันด้วยชื่อต่างๆ นานาที่แข่งกันผุดขึ้นมาในตอนที่เห็นมันช่วงแรกๆ ซึ่งไม่ว่าเธอจะเรียกมันด้วยชื่อว่า “เซมิ” หรือ ตัวเล็ก หรือ คนสวย หรือ น้อง หรือ ลูก ชื่อทั้งหมดนี้ หมายถึงตัวมันเองทั้งนั้น เหมียวมันรู้ได้อย่างไรกัน... “อาหารเม็ดของน้าเบญจ์นี่ดีจริงๆ เลย อร่อยเนอะลูกเนอะ” เซมิคนสวยหยุดเคี้ยวหยับๆ แล้วหันมามองเธอด้วยอาการเบิ่งตาโต แลบลิ้นเลียริมฝีปากแผล็บหนึ่ง เป็นเชิงให้รู้ว่า มันรับรู้แล้วว่าอาหารเม็ดแสนอร่อยนี้ เพื่อนของแม่มันที่ชื่อ น้าเบญจ์จะหอบหิ้วมาให้มันหม่ำทุกครั้งที่มาที่นี่ หญิงสาวยิ้มให้เจ้าตัวเล็กอย่างเอ็นดู เธอรักมันอย่างสุดใจ รักอย่างที่ไม่เคยรักสิ่งมีชีวิตอื่นใดแบบนี้มาก่อน... รักตั้งแต่ครั้งแรกที่แกะถุงก้อปแก้ปออกมาแล้วได้เห็นใบหน้าเล็กๆ ที่ขะมุกขะมอมไปด้วยเขม่าสีดำเหนียวๆ ของมันในวันนั้น ...ใครกันหนอ ที่เอามันมาทิ้งถังขยะ มนุษย์แบบไหนกันหนอที่ทำกับลูกแมวตัวเล็กๆ นี้ได้ลง นับแต่นั้นมากิ่งหลิวก็ถือเป็นหน้าที่ ที่จะมอบความรักให้กับเจ้าตัวน้อยนี้อย่างสุดจิตสุดใจ เพราะเธอคิดว่าสิ่งที่ลูกแมวตัวนี้ได้รับมาจากมนุษย์คนก่อนหน้านั้น มันโหดร้ายเกินไป ...นับแต่นี้ไป เจ้าตัวเล็กจะต้องมีแต่ความสุขเท่านั้น... เธอสัญญานับแต่วันที่อุ้มมันมาเลี้ยง และเมื่อเธอมอบความรักให้กับเซมิแล้ว สิ่งที่เธอได้รับกลับมาก็เป็นความรักที่ประเมินค่าไม่ได้เช่นกัน ชีวิตเธอในยามนี้ ถ้าไม่มีแมวตัวนี้ ไม่มีเพื่อนสนิทอย่างยิหวาและเบญจ์ เธอก็คงไม่เหลือใคร หรือเหลืออะไรในชีวิตอีกเลย ชีวิต ณ ขณะนี้ ถ้าไม่นับเรื่องน่าตื่นเต้นจากญี่ปุ่นที่ยิหวาส่งข่าวมาแล้ว ...ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา คงมีเพียงการได้กอดจูบลูบหัว เกาคาง เกาพุง หยอกล้อแหย่เล่นกันกับเซมิ และการได้พูดคุยกับเจ้าเหมียวเป็นเพียงความสุขเดียวที่มีของเธอ และ... การได้นั่งมองมันกินอาหารทีละเม็ดๆ เคี้ยวหงับๆ เคี้ยวไป เอียงหัวไปทางซ้ายทีขวาที เลียปากเป็นวงกลมไปด้วย เมื่อกินอิ่มแล้ว หมดจนเม็ดสุดท้ายแล้ว มันก็จะเดินมานั่งเลียมือเลียเท้าให้เธอดู ก่อนจะนอนพิงหรือเอาเอาหัวมาซบที่ตักเธอ หากได้เกาคางให้เสียหน่อยมันก็จะเคลิ้มหลับไป กรนครืดๆ ในลำคออย่างเป็นสุข การมองแมวได้กินจนอิ่ม และดูแมวนอนหลับไป ก็สร้างความสงบทางใจอย่างลึกล้ำประการหนึ่งของเธอเช่นกัน... ที่ผ่านมา ทั้งชีวิต หน้าที่การงาน ครอบครัว ความฝันหรือความหวัง ความรักและความสุขใดๆ จากสิ่งอื่นใดนั้น บ้างร่วงหล่น บ้างแตกหักกระจัดกระจาย ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน และบ้างก็หลบลี้หนีหายไปจากเธอเสียจนหมดสิ้น ...ทุกอย่างมันเริ่มพังภินท์ นับจากวันที่เธอย่างเท้าออกจากบ้านของยายไปได้เพียงสองปี เมื่อสิบปีที่แล้วนั่นเอง กิ่งหลิวหลับตานึกย้อนไปยังภาพเก่าก่อน… แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า เมื่อไรก็ตามที่ได้นึกย้อนกลับไปนั้น ในขณะที่วันเก่าๆ ทำให้เธอมีความสุขเหลือล้นในโลกใบเล็กๆ ... ทว่าวันเก่าๆ นั้นก็จะทำให้เธอมีความเศร้าเหลือคณาด้วยเช่นกัน ตั้งแต่จำความได้ ชีวิตของกิ่งหลิวก็ผูกติดไว้กับยายมาตลอด เพราะแม่ของเธอได้อุ้มเธอที๋ยังตัวแดงๆ เหี่ยวๆ และยังไม่ได้ตั้งชื่อเสียด้วยซ้ำมาฝากไว้ให้ยายช่วยเลี้ยง แล้วแม่ก็หายไปจากคนที่นี่ อยู่นานหลายปี ที่แม่ต้องหนีจากพ่อขี้เมาและเป็นจอมเจ้าชู้ไปนานเช่นนี้ ก็เพราะเบื่อหน่ายที่ต้องวนเวียนอยู่กับความทุกข์ใจซ้ำๆ และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่หนี... ก่อนหน้านี้... ก่อนหน้าที่กิ่งหลิวจะเกิด แม่ก็เคยหนีพ่อไปได้ครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นแม่จูง “การเลิศ” พี่ชายของกิ่งหลิวที่อายุเจ็ดขวบหนีไปด้วย หนีไปได้ไม่นานพ่อก็ไปตามกลับมาแล้วสัญญิงสัญญากันว่าจะเลิกทุกสิ่งที่แม่ไม่ชอบ แต่พ่อก็ทำได้เพียงไม่กี่ปี เพราะตอนที่กิ่งหลิวยังอยู่ในท้องแม่ได้สักหกเจ็ดเดือนเท่านั้นเอง พ่อก็หวนกลับไปสูวังวนเดิมๆ อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อแม่คลอดกิ่งหลิวแล้ว แม่ก็เลยแอบอุ้มเธอเล็ดรอดหนีออกมาจากโรงพยาบาล แล้วเอาเธอมาฝากยายเลี้ยงไว้ แม้แม่เธอจะทิ้งลูกชายให้อยู่กับพ่อ เพราะคิดว่า ในวัยเด็กลูกชายควรอยู่กับพ่อมากกว่าใครอื่น และเขาก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว และแม้แม่จะให้กิ่งหลิวไปอยู่กับยาย แต่แม่ก็ยังคอยส่งข่าวถึงยายกับพ่ออยู่เสมอ และยังสำทับด้วยทุกครั้งว่า หายทุกข์ใจเมื่อไร ทำใจได้เมื่อไรแม่ก็จะกลับบ้านเอง ใครไม่ต้องไปตามหาทั้งนั้น ดังนั้นการไปของแม่หนนี้จึงทอดเวลาได้ยาวนานกว่าครั้งก่อน ชีวิตในวัยเยาว์ของกิ่งหลิวจึงเติบโตมากับยาย โดยมีความทรงจำที่มีภาพพ่อกับพี่ชายแว้บเข้ามาบ้างในบางช่วง ในเวลาที่พ่อพาพี่ชายมาหาเธอ หรือยายพากิ่งหลิวไปหาพ่อบ้าง ตลอดเวลาเหล่านั้น แม้แม่จะคอยส่งเงินมาให้ยายสม่ำเสมอ แต่กิ่งหลิวกลับไม่มีภาพจำของแม่ในระหว่างนั้นเลย อาจจะเพราะเหมือนที่ยายบอกว่าแม่อยู่ไกลมาก และยังต้องทำงานเก็บเงินเพื่ออนาคตของลูก ที่สุด แม่ก็กลับมาอยู่กับพ่ออีกครั้ง... แม่กลับมาในตอนที่กิ่งหลิวเข้าเรียนชั้นประถมแล้ว ตอนนั้นแม่ก็มารับเธอให้ไปอยู่ด้วย แต่กิ่งหลิวไม่ยอมไปร้องไห้สะอึกสะอื้น ทีนี้ทั้งแม่ทั้งลูกต่างก็ร้องไห้กันโฮๆ แต่ต่างคนก็ต่างร้องไห้ ...ร้องด้วยคนละเหตุผล ยายนั่นเองที่เป็นคนบอกว่า ให้กิ่งหลิวเป็นคนเลือกเองว่าจะไปกับพ่อแม่ หรืออยู่กับยาย ...แน่นอนว่าเด็กหญิงเลือกยาย เพราะยายคือโลกใบเดียวของเธอ ยายเป็นของจริง เป็นบุคคลเดียวในชีวิตที่กิ่งหลิวรักที่สุด ...และยายเองก็รักเธอสุดหัวใจเช่นกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD