และทั้งวันผู้กองดนัยก็วุ่นวายอยู่กับการไปแนะนำตัวเองกับหน่วยงานต่างๆรวมไปถึงประชุมเรื่องที่ทางโรงพักจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเขาในค่ำคืนนี้ด้วย ตัวเขายังไงก็ได้และไม่อยากขัดผู้ใหญ่ถ้าท่านอยากจัดเขาก็โอเคไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว
“งานเลี้ยงคืนนี้เราจะจัดที่สนามในโรงพักนะ ชาวบ้านเค้าจะมาแสดงดนตรีต้อนรับด้วย แล้วก็อาหารสั่งที่ร้านน้องหญิงเล็ก สารวัตรไปสั่งให้เมื่อเช้าแล้วเห็นว่าทำทันแหละ”
“ขอบคุณทุกคนมากนะครับที่ต้อนรับผมเป็นอย่างดีเลย ผมจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่นะครับผู้กำกับ”
เขายกมือขอบคุณผู้กำกับที่ดูใจดีมากเหมือนคนก่อนเลย เพื่อนร่วมงานดีแบบนี้เขาเอนจอยในการทำงานมากเป็นพิเศษ
“เอาล่ะเดี๋ยวไปเจอผู้อำนวยการโรงเรียนอำเภอแม่พาสักหน่อย เป็นผู้หญิงนะยังสาวอยู่เลย”
“ท่าทางจะเก่งน่าดูนะครับ”
“เก่งแหละ ไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนพากันขึ้นรถไปพร้อมกับตำรวจท่านอื่นขับรถมาถึงที่หมายก็ลงไปทักทายทุกคนรวมถึงคุณครูในโรงเรียนด้วย เขายกมือไหว้ทักทายทุกคนก่อนจะมองสบตากับคุณครูท่านหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะมองเขาไม่วางตา
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะผู้กอง ฉันครูต่ายค่ะเป็นครูสอนภาษาไทยยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
เขายิ้มออกมาก่อนจะหันไปทักทายคนอื่นต่อ หญิงสาวมองตามก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย ผู้กองคนใหม่หน้าตาดีรูปร่างดูแข็งแกร่งดูดีมากจนน่าตกใจ เห็นทางตำรวจนายอื่นเม้าท์กันมาว่าเขายังโสดไม่แฟนและเธอก็โสดนะน่าจะคุยกันได้เพราะเธอเองก็ดูดีไม่ได้แย่อะไรเลย เป็นข้าราชการครูดูเหมาะสมกันมาก
“สนใจผู้กองเหรอจ้ะครูต่าย”
“ก็ตามประสาคนโสดป่ะ…”
“ร้ายจริงๆ”
ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี วัยอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วควรจะหาคู่ครองที่เหมาะสมกันได้แล้วและที่เล็งไว้ตอนนี้ก็คือผู้กองดนัยยังไงล่ะ
จากนั้นเขาก็มาแวะทานข้าวกลางวันที่ร้านของหญิงเล็กพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่น พวกเขาสั่งข้าวคนละจานแต่ว่าผู้กองได้มากินก่อนใครเพื่อน
“อันนี้ของผู้กองดนัยจ้ะ”
“ขอบคุณจ้ะน่าอร่อยเชียว”
เขายิ้มออกมาก่อนจะตักชิมก่อนใครเพื่อน ทุกคนมองทั้งสองคนสลับกันอย่างแปลกใจทำไมสองคนดูสนิทกันมากขนาดนี้ หรือว่าเคยรู้จักกันมาก่อน
“สองคนดูสนิทกันนะ รู้จักกันมาก่อนรึเปล่า”
“อ่อคือว่า…”
“ไม่จ้ะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยสักนิด พอดีว่าผู้กองเค้ามากินข้าวเช้าแล้วก็สั่งทิ้งไว้จ้ะก็เลยได้เร็วกว่าคนอื่น งั้นหญิงเล็กขอตัวก่อนนะจ้ะไปทำกับข้าวในครัวต่อ”
เธอเอ่ยออกมาอย่างร้อนตัวก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที ผู้กองดนัยยิ้มออกมาขำๆก่อนจะนั่งทานต่อโดยยังมีสายตาของนายตำรวจท่านอื่นที่มองมาอย่างจับผิดอยู่ เขาแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงกลัวคนอื่นจะรู้ความจริง ทั้งที่พ่อกับลูกก็ไม่ใช่คนเดียวกันซะหน่อย อีกอย่างเพิ่งรู้ว่าเธอไปเปลี่ยนนามสกุลด้วยน่าจะไปใช้ของแม่ล่ะมั่งท่าทางจะอยากลืมอดีตจริงๆ
“ว่าแต่เมื่อกี้ตอนไปที่โรงเรียนผมแอบเห็นคุณครูเค้ามองผู้กองตาเป็นประกายเลยนะ สงสัยผมคงต้องยกตำแหน่งขวัญใจสาวๆให้ผู้กองซะแล้วล่ะมั่งเนี่ย”
“โธ่สารวัตรครับ ผมก็แค่คนธรรมดาที่อยากมาทำหน้าที่เพื่อประชาชนเท่านั้นเอง ส่วนใครจะรักจะชอบใครผมก็ไม่สนใจอะไรหรอกนะเพราะว่าผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“ใครกัน… คงไม่ใช่คุณครูคนสวยเมื่อกี้ใช่มั้ย”
สารวัตรเอ่ยถามอย่างสงสัย เขายิ้มออกมาขำๆเมื่อสารวัตรทำดูทำหน้าตาสงสัยมากท่าทางจะแอบชอบสาวรึเปล่าแต่ได้ข่าวมาว่าสารวัตรเค้ามีแฟนแล้วนะทำไมยังเจ้าชู้อีก ส่วนเขานั้นไม่เคยเจ้าชู้แน่นอนและถ้าได้รักใครรักจริงรักคนเดียวเท่านั้น
“ผมเพิ่งเคยเจอเธอเองนะครับสารวัตร”
“จริงด้วยแหละ แล้วไปคนนั้นยกให้ผมเถอะผมจองไว้แล้ว”
“ระวังเมียรู้ล่ะสารวัตร”
ผู้กำกับเอ่ยดักคอสารวัตรเล่นเอาเขาถึงกับสำลักน้ำ ทุกคนบนโต๊ะหัวเราะคิกคักอย่างสนุกก่อนจะมองเมนูใหม่ที่ไม่มีในร้านและไม่มีใครสั่งด้วย
“อะไรเหรอน้องหญิงเล็ก พวกพี่ไม่ได้สั่งนะ”
“เอามาให้ลองชิมจ้ะเมนูใหม่เพิ่งลองทำ เผื่อว่าทุกคนชอบจะเอามาลงเป็นเมนูของร้าน”
“น่ากินนะเนี่ย อ่ะชิมๆทุกคน”
ทุกคนช่วยกันลองชิมเมนูใหม่ของหญิงเล็กรวมถึงผู้กองดนัยที่ตักชิมตามคนอื่น แต่ว่าเขาได้กินเมื่อเช้าแล้วรสชาติดีมากเอาเรื่อง ก็ถึงบอกว่าแปลกใจมากที่เธอทำอาหารเก่งมากขนาดนี้
“หืม อร่อยเอาเรื่องอยู่นะ”
“นั่นสิแปลกแต่อร่อย”
“เอามาลงเมนูร้านเลยจะได้สั่ง”
ทุกคนสนับสนุนและเห็นด้วยว่าควรเอามาทำเป็นอีกเมนูของร้านเพราะรสชาติดีทีเดียว เธอยิ้มออกมาแก้มปริดีใจมากที่ทุกคนชอบอาหารที่เธอทำ เอาจริงเธอชอบมีเพื่อนมากเลยนะแต่มาคิดดูว่าตัวเองไม่คู่ควรจะมีเพื่อนหรือมีใครกลัวทุกคนจะรังเกียจ
“ซื้อขนมมาฝากด้วยอยู่ที่รถไปเอาสิ”
เขาส่งกุญแจรถไปให้หญิงสาว เธอรับมาก่อนจะเดินออกไปที่รถของเขาแล้วเปิดถุงหลายใบออกมา ก็เป็นขนมไทยขนมเค้กทั่วไปที่เธอชอบกิน ถือว่าเขารู้จักเธอพอสมควรนะถึงได้ซื้อของพวกนี้มาให้ เธอปิดรถให้เขาก่อนจะเดินเข้าไปข้างในแล้วส่งกุญแจรถคืนไปให้
“ขอบคุณนะจ้ะน่ากินมากเลย”
“กินเยอะๆเย็นนี้จะไปงานเลี้ยงต้อนรับพี่มั้ย”
“ไปสิจ้ะต้องเอากับข้าวไปส่งอยู่”
เธอยิ้มออกมาก่อนจะมองทุกคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอมาจากที่ไหนและถ้ามีใครรู้ว่าเธอกับผู้กองรู้จักกันมาก่อนคงจะความแตกในเร็ววัน แต่เขาก็ยังชวนคุยอยู่ตลอดเธอก็เกรงว่าจะมีคนสงสัย
“งั้นเจอกันนะเดี๋ยวพี่ต้องไปแล้ว”
เธอไม่พูดอะไรคิดเงินให้ผู้กำกับชำระเงินจากนั้นก็เดินไปส่งทุกคนที่หน้าร้าน บางส่วนก็แยกกลับอีกทางบางส่วนก็ไปเข้าห้องน้ำเหลือแค่ผู้กองเท่านั้นที่ยืนรอสารวัตรอยู่หน้าร้าน อยู่ๆแก๊งคุณครูเดินเข้ามาบังเอิญเจอเขาก็เอ่ยทักทายทันที
“เจอกันอีกแล้วนะคะ”
“ครูต่ายมาทานข้าวกลางวันเหรอครับ พวกเราทานอิ่มไปแล้วพอดีเลย ร้านนี้อาหารอร่อยนะครับ”
“อร่อยค่ะต่ายก็มากินบ่อย เสียดายจังเลยนะคะไม่อย่างนั้นจะชวนกินด้วยกัน”
เธอเอ่ยออกมาอย่างน่าเสียดาย อยากจะสานความสัมพันธ์แต่ว่าเธออยากให้ฝ่ายชายเป็นคนออกตัวก่อน แต่ดูท่าทางเขาไม่สนใจเธอเลยสงสัยต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“เอาไว้โอกาสหน้านะครับ”
“ได้ค่ะ งั้นไปทานข้าวก่อนนะคะเอาไว้เจอกันใหม่”
เขายิ้มให้หญิงสาวก่อนจะหันไปมองหญิงเล็กที่ตอนนี้หน้าบึ้งใส่เขาอย่างชัดเจน และดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจอะไรเขาบางอย่าง
“ทำไมมองพี่แบบนั้น”
“พี่ไฟท์ดูมีคนรู้จักเยอะจังเลยนะคะ ใช่สิมีหญิงเล็กเป็นเพื่อนคนเดียวมันไม่พอใช่มั้ย”
เธอเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจที่เขาไปทำสนิทสนมกับทุกคนเหมือนที่ทำกับเธอ เขาเกาหัวอย่างมึนงงก็ทักทายตามมารยาทปกติไปสนิทสนมตอนไหน…
“พี่ทักทายตามมารยาท เราเพิ่งเจอกันครั้งเดียวเองนะ อีกอย่างคนเรามันต้องมีเพื่อนมีคนรู้จักบ้างจะอยู่ตัวคนเดียวไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ”
“หญิงเล็กมีพี่ไฟท์เป็นเพื่อนคนเดียวก็พอแล้วนี่ไม่เห็นต้องมีเพื่อนอีกหลายคนเลย ไม่รู้แหละถ้าพี่ไปสนิทกันคนอื่นหญิงเล็กจะไม่เป็นเพื่อนกับพี่แล้ว”
เธอเอ่ยออกมาเสียงจริงจังก่อนจะสะบัดหน้าหนีออกไปทันทีทิ้งให้เขามึนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว อะไรของเธอเนี่ยนี่ใจคอจะไม่ให้เขาคบใครเลยเหรอ…
“อะไรของเธอเนี่ย เฮ้อ!”