ทั้งสองคนทานข้าวด้วยกันอยู่นานจนอิ่มจากนั้นก็ชวนกันไปหากาแฟอร่อยดื่มกันต่อในคาเฟ่ไม่ไกลจากที่ร้านมาก เขาสั่งกาแฟมาสองแก้วก่อนจะเดินมานั่งลงข้างหญิงสาว
“ไม่ถ่ายรูปเหรอร้านเค้าสวยนะ”
“ไม่เอาจ้ะ”
เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่ม เมื่อก่อนไปที่ไหนเธอจะถ่ายรูปทุกที่ถึงแม้ว่าจะไปคนเดียวเธอก็มีความสามารถในการถ่ายออกมาให้สวยที่สุด แต่ตอนนี้มันเหมือนเธอไม่กล้าทำอะไรสักอย่างยิ่งต้องเป็นจุดสนใจเธอไม่ชอบเลยทั้งที่เมื่อก่อนเธอเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก
“พี่ถ่ายให้”
“ไม่เอาหรอกจ้ะฉันไม่อยากให้คนมอง นั่งดื่มเฉยๆก็ได้”
เธอปฏิเสธเสียงแข็งแต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ฟังเลย ลุกขึ้นมากุมมือเธอพาไปหามุมสวยๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาถ่ายให้
“ยิ้มหน่อยพี่จะถ่ายให้”
“พี่ไฟท์อ่ะ”
เธอเหลือบซ้ายมองขวาก่อนจะยิ้มให้กล้องของชายหนุ่มหลายท่า และความเคยชินมันทำให้เธอเผลอโพสท่าหลายท่าและนี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เธอเสียพ่อไปหลังจากนั้นเธอไม่เคยทำในสิ่งที่ชอบทำอีกเลย
“สวยนะเนี่ยยิ้มหวานเชียว”
“ไหนขอดูหน่อยจ้ะ”
เธอเหลือบสายตามองหน้าจอโทรศัพท์ของชายหนุ่มก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างพอใจ เป็นผู้ชายที่ถ่ายรูปสวยใช้ได้เลยนะ ใครได้เป็นแฟนคงชอบใจที่ถ่ายรูปให้สวยแบบนี้
“ขอได้มั้ยจ้ะ”
“เอาไลน์มาสิจะส่งให้”
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ชายหนุ่มแสดงคิวอาร์โค้ดทันที เขากดส่งรูปถ่ายทุกรูปให้หญิงสาวก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ในที่สุดเขาก็ได้ไลน์เธอแล้วซึ่งถือว่าสำเร็จไปขั้นหนึ่งถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เบอร์โทรศัพท์ก็ตาม
“สวยจัง ถ่ายรูปสวยแบบนี้แฟนพี่ไฟท์คงยิ้มแก้มปริแน่นอนเลย”
“พี่โสดนะยังไม่มีแฟน”
“โกหกรึเปล่า จะไม่มีได้ยังไง”
หญิงเล็กทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่เพราะขึ้นชื่อว่าตำรวจจะต้องเจ้าชู้และมีแฟนแน่นอนไม่มีทางโสดได้นาน แต่เขาจะไม่มีเลยเหรอเขาคือรองสารวัตรนะต้องมีผู้หญิงมาติดบ้างแหละ
“หญิงเล็กก็เห็นว่าพี่ทำงานหนักมากไม่มีเวลาที่จะคุยกับใครเลย และไม่รู้ว่ามาที่นี่จะงานหนักกว่าที่เก่ารึเปล่า แต่ถ้ามันสบายขึ้นพี่ก็คิดไว้ว่าจะมีแฟนสักคนนะ”
เขามองหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ หญิงเล็กจอมใสซื่อไม่ค่อยเข้าใจที่เขาจะสื่อก็พยักหน้าทำเหมือนเข้าใจที่เขาพูด
“ก็ดีนะจ้ะพี่ไฟท์จะได้ไม่เหงาไง”
“อืม… โอเคไปดื่มกาแฟกัน”
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆเมื่อหญิงสาวดูไม่ค่อยเข้าใจเขาเลยไม่ว่าจะพูดอะไรก็ตามแต่ ทั้งสองคนเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเธอหยิบโทรศัพท์มากดดูรูปที่เขาถ่ายให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็อดยิ้มตามไม่ได้ เอาจริงเธอเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงแจ่มใสมากเลยนะถึงแม้ว่าจะดูร้ายแต่เธอก็ไม่ได้คิดร้ายกับใคร ด้วยการที่เจออะไรมามากมายจึงทำให้เธอต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองโดยการเย็นชากับทุกสิ่งและเลือกที่จะอยู่คนเดียวปิดกั้นทุกอย่างในชีวิต
“อัพรูปลงโซเชียลสิ”
“ไม่เอาหรอกจ้ะ ถ้าลงเดี๋ยวคนอื่นก็รู้สิว่าหญิงเล็กย้ายมาอยู่ที่นี่ อีกอย่างไม่มีบัญชีโซเชียลแล้วเพราะปิดไปหมดแล้ว”
เธอเอ่ยออกมาเสียงเบาก่อนจะเก็บโทรศัพท์แล้วหยิบขนมไปป้อนชายหนุ่ม
“อ่ะหญิงเล็กป้อน”
“ใจดีอะไรเนี่ย”
ถึงจะสงสัยแต่เขาก็ยังอ้าปากงับขนมที่เธอป้อนอยู่ รู้สึกดีมั่งที่มีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างคอยเอาใจแบบนี้ ส่วนหญิงเล็กเธอก็รู้สึกดีมากที่มีคนที่สามารถคุยด้วยได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าเขาจะรู้ความจริงเมื่อไหร่ไม่ต้องคอยพะวงสารพัดในชีวิต การมีเขาในตอนนี้ทำให้เธอสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่
“ขอบคุณนะจ้ะที่ไม่รังเกียจกัน แถมยังอยู่เป็นเพื่อนด้วยพาออกมาเที่ยวทั้งที่เวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยออกมาจากร้านอาหารเลยยกเว้นไปซื้อของเท่านั้น”
เธอมองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงจริงจังมาก ผู้กองดนัยกุมมือเธอเอาไว้ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน
“ต่อจากนี้ถ้าอยากไปไหนบอกพี่นะ พี่จะพาไปทุกที่เลย”
“จริงนะ”
“อืม สัญญา”
เขายื่นมือไปเกี่ยวก้อยหญิงสาวตรงหน้า เธอยิ้มกว้างออกมาทันทีอย่างดีใจที่ต่อไปนี้จะได้ออกไปเที่ยวเล่นบ้างไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆคนเดียวอีกต่อไป
“ขอบคุณนะจ้ะพี่ไฟท์ น่ารักที่สุดเลย”
เช้าวันต่อมา….
ผู้กองดนัยตื่นนอนแต่เช้าด้วยความสดชื่นแต่งชุดตำรวจเต็มยศเตรียมตัวไปทำงานวันแรก แต่ที่ต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพราะว่าหญิงเล็กส่งข้อความมาหาเขาบอกว่าให้มากินข้าวเข้าที่ร้าน เขาใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงหญิงเล็กเตรียมกับข้าวไว้ให้เรียบร้อยแล้วพร้อมทานได้เลยเมื่อมาถึง
“พี่ไฟท์มานั่งนี่เร็วหญิงเล็กทำกับข้าวเสร็จแล้วจ้ะ”
เธอเห็นชายหนุ่มก็เดินมาหาก่อนจะลากเขาไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่เธอจัดไว้ เขามองอาหารตรงหน้าอย่างแปลกใจ วันนี้มาในเมนูอาหารเช้าสไตล์อังกฤษไอ้ที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงไม่ได้โม้แหละทำได้จริงๆ
“น่ากินมากเลยนะ”
“กินเลยจ้ะ เดี๋ยวหญิงเล็กจะไปทำข้าวกล่องให้พวกพี่จ่ากับคนอื่นๆก่อน จะต้องเอาไปส่งที่โรงพักอีกห้ากล่อง แล้วก็มีของคุณหมอคุณพยาบาลในโรงพยาบาลอีกสอบกล่อง เยอะแยะไปหมดเลย”
เธอยิ้มออกมาก่อนจะวิ่งเข้าไปในครัวทันที ผู้กองดนัยมองตามหญิงสาวไปก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยจากนั้นก็เริ่มทานอาหารที่เธออุตส่าห์ทำไว้ให้จนหมด และเมื่อกินจนอิ่มเขาก็เดินไปหาหญิงสาวในครัวซึ่งตอนนี้อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนกำลังเอากล่องใส่ถึงอยู่ เธอเงยหน้ามองสบตากับชายหนุ่มพอดีก็ยิ้มกว้างออกมาเล็กน้อย
“พี่ไฟท์อิ่มแล้วเหรอจ้ะ”
“อิ่มแล้วพี่จะจ่ายเงินอ่ะคิดเงินหน่อย”
“ไม่เป็นไรจ้ะไม่เก็บเงินหรอก”
“ได้ยังไงของซื้อของขาย”
เขาหยิบเงินแบงค์พันขึ้นมาก่อนจะเดินไปใส่มือหญิงสาวไว้ เขาไม่อยากกินฟรีหรือเอาเปรียบเธอเด็ดขาดของซื้อของขายแค่เธอทำให้ก็ดีมากแล้ว
“คิดเงินไปเลยไม่ต้องเลี้ยง”
“แต่ว่า…”
“อันนี้จ่ายล่วงหน้าด้วยนะ เอาแบบข้าวสามมื้อเลยเพราะขี้เกียจหากินเอง”
เขามัดมือชกหญิงสาวเพื่อให้เธอทำอาหารให้ทุกเวลาจะได้เจอกันบ่อยๆ ชายหนุ่มเหลือบสายตามองข้าวกล่องที่วางอยู่ก่อนจะเอ่ยถาม
“อันนี้ของใคร”
“อ่อของพี่จ่าจ้ะ ลูกน้องของพี่ไฟท์ไงถามทำไมเหรอ”
“เดี๋ยวพี่เอาไปส่งเอง มาสิ”
เธอนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้าทันทีอย่างเต็มใจให้เขาช่วย เพราะจะได้เอาเวลาไปส่งข้าวกล่องที่อื่นต่อ
“ห้ากล่องนะจ้ะเก็บเงินให้ด้วย”
“อ่ะพี่เลี้ยงพวกเขาเอง”
เขาส่งเงินแบงค์ห้าร้อยไปให้อีกใบก่อนจะยื่นมือไปหยีผมหญิงสาว
“ไม่ต้องทอนนะพี่ไปทำงานก่อน กลางวันจะมากินข้าวด้วย”
“เดี๋ยวหญิงเล็กทำของอร่อยรอนะจ้ะ”
“โอเค เจอกันตอนกลางวัน”
เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปจากร้านอาหาร หญิงสาวมองเงินในมือก่อนจะมองตามชายหนุ่มไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี
เมื่อผู้กองดนัยมาถึงที่ทำงานเขาก็เอาข้าวกล่องไปวางไว้ให้ลูกน้องที่นั่งอยู่หน้าโรงพัก
“ข้าวกล่องมาส่งครับทุกคน”
“อ่าว… ทำไมน้องหญิงเล็กคนสวยไม่มาส่งเองครับผู้กอง”
“น้องหญิงเล็กคนสวยไม่ว่าง เจอผู้กองดนัยคนหล่อไปก่อนแล้วกัน ไม่ต้องจ่ายนะผมเลี้ยง”
เขาหัวเราะออกมาขำๆก่อนจะเดินเข้าไปข้างในอย่างอารมณ์ดีสุดๆ จ่า หมู่และคนอื่นๆหันไปมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ ผู้กองเพิ่งมาถึงเมื่อวานเองไม่น่าจะรู้จักเจ้าของร้านได้นะหรือว่าเมื่อวานเจอกันแล้วได้คุยกันก็เลยสนิทกันเร็ว
“แปลกๆนะว่ามั้ย”
“นั่นสิ…”
“ทำไมผู้กองถึงมาส่งข้าวกล่องแทนล่ะ… น่าคิดนะ”