บทที่ 3 แสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

1882 Words
บทที่ 3 แสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ วันต่อมา..คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์.. เวลา 08.32 น. เมื่อฉันจอดรถในลานจอดรถที่มหาลัยจัดไว้ให้แล้วก็รีบลงจากรถเดินไปตามทางเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำในทันที แต่ยังไม่ทันได้เดินไปถึงไหนเสียงใสเล็กๆก็เรียกฉันเอาไว้ก่อน “ไวน์ทางนี้” “อ้าว เอวา มาแต่เช้าเชียว” ฉันโบกมือและเดินไปหาเธอ ที่นั่งอยู่คนเดียว “เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” เอวาตอบ “อื้อ” ฉันพยักหน้าให้เธอเพื่อเป็นการรับรู้ “เดียร์ล่ะ” เอวาถามฉัน “ยังไม่มามั้ง” ฉันบอกเอวา แล้วนั่งลงข้างเธอ “เมื่อวานเห็นรูปที่ฉันส่งเข้ากลุ่มไหม” เอวาคุยกับฉันอย่างจริงจัง “อะไร” ฉันทำหน้าครุ่นคิดเพราะมีหลายรูปมากที่พวกเธอส่งเข้ากลุ่ม และทำไมเอวาต้องจริงจังขนาดนี้ “อ่าว ก็รูปกลุ่มพี่ว้ากไง” เอวาขยายความทำให้ฉันนึกออกว่าเมื่อวานเพื่อนส่งรูปแก๊งพี่ว้ากเข้ากลุ่ม “เห็นแล้ว” ฉันยิ้มให้เอวาเบาๆ “งานดีใช่ปะ” เอวาถาม “พูดเรื่องอะไร” ฉันงงกับคำถามของเอวา เธอหมายถึงใคร “โอ้ย ฉันหมายถึงหน้าตาดีกันทั้งแก๊งเลยปะ” เอวาทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉัน “กะ ก็ดี” ฉันคิดไปถึงคนหน้านิ่งเมื่อวานที่นั่งกินข้าวด้วยแล้วรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบเลย “เอ๊ย ! ทำไมหน้าแดงอะ” เอวาจ้องหน้าฉันอย่างจับผิด “ปะ เปล่า” ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน “คุยไรกันพวกแก” แล้วก็มีเสียงสวรรค์ดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะถูกเอวาจับผิดไปมากกว่านี้ “อ้าว เดียร์มาพอดีเลย” ฉันหันไปยิ้มให้นาเดียร์ “หวัดดีแก” เอวาเลิกสนใจฉัน แล้วหันไปทักนาเดียร์.. ปรี๊ดดด!!.. “น้อง ๆ คะ มารวมกันทางนี้ค่ะ” ยังไม่ทันที่นาเดียร์จะได้นั่ง ก็มีเสียงนกหวีดที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงประกาศของพี่อิงฟ้าคนสวยตามมา “เฮ้อ ! ยังไม่ทันได้นั่งพักเลย” นาเดียร์หันมาบ่นกับพวกฉันอย่างอิดออด “หึ ใครบอกแกมาสายล่ะ” เอวาหัวเราะเล็กน้อย “ก็รถมันติดนี่” แล้วนาเดียร์ก็ยังเถียงต่อ “อย่าเพิ่งตีกัน ไปกันได้แล้ว” ฉันรีบห้ามทัพแล้วจูงมือเพื่อนทั้งสองไปนั่งรวมกลุ่ม.. “ที่พี่ให้น้องไปนั่นคือใบขอลายเซ็นรุ่นพี่นะคะ” รุ่นพี่อิงฟ้าบอก ทำให้ฉันพลิกใบกิจกรรมดูคร่าวๆ “ให้น้อง ๆ ขอลายเซ็นรุ่นพี่ในมหาลัย ไม่จำกัดนะคะว่าต้องเป็นคณะเราเท่านั้น จำนวน 100 คน ใครจะเกินก็ไม่ว่านะคะ เพราะถือว่าเราได้ทำความรู้จักรุ่นพี่” ‘พี่กอหญ้า’ เพื่อนของ พี่อิงฟ้าพูดเสริมขึ้นมา… ตอนเที่ยง.. “เหนื่อยชิบหาย” นาเดียร์บ่นขณะที่เดินไปโรงอาหารกัน “เออ ให้ออกไปเต้นอะไรก็ไม่รู้ จะมีคลิปหลุดไหมเนี่ย” เอวาก็บ่นบ้าง เพราะสองคนนั้นนั่งคุยกันคิกคักเลยถูกจับไปลงโทษ ฉันก็ได้แต่นั่งหัวเราะเพราะสองคนนี้เต้นได้ตลกมากเรียกได้ว่าไม่ห่วงภาพลักษณ์กันเลยทีเดียว “คิกก” นึกถึงแล้วฉันก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ “หัวเราะอะไรไวน์” แล้วสองสาวก็แปลงร่างเป็นมารหันหน้ามามองจิกฉันทันที “ปะ เปล่า ไปกินข้าวกันเถอะ” ฉันรีบปฏิเสธแล้วเดินนำหน้าสองคนตรงไปที่โรงอาหาร “กินไรดี” เมื่อเข้ามาในโรงอาหาร นาเดียร์ก็ถาม “ก่อนจะหาอะไรกิน หาโต๊ะก่อนมั้ย” เอวาถาม ทำให้ฉันหันไปมองรอบโรงอาหารแล้วก็ต้องทำหน้าเศร้าเพราะเวลานี้ไม่ค่อยมีโต๊ะว่างเลย “ไปสั่งข้าวก่อนเหอะ เดี๋ยวก็ว่างเองแหละ” ฉันบอกเพื่อนๆ “หึ เรื่องกินนี่คือเรื่องใหญ่เลยนะ” นาเดียร์แขวะฉัน “ก็หิวนี่” ฉันดันหลังนาเดียร์ให้เดินไป “งั้นก็ไปกันเถอะ” แล้วเราทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไปหาข้าวกิน ซึ่งฉันเลือกที่จะเดินไปทางร้านอาหารตามสั่งเพราะวันนี้อยากกินกระเพราไก่ไข่ดาว… หน้าร้านไก่จ๋า.. “ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวค่ะ / ข้าวผัดปูหนึ่ง เจ้” ฉันหันขวับไปมองคนที่สั่งพร้อมฉัน แล้วพอคนข้างๆ หันมาก็ทำให้ฉันเบิกตากว้าง “พะ พี่” ฉันกะพริบตาปริบๆ แล้วรีบหันหน้าหนีมองทางอื่น เพราะเขินเขา “หึ ๆ” ฉันได้ยินเสียงคนข้างๆ หัวเราะในลำคอเล็กน้อย “บ้า เกลียดที่สุดเลยเสียงแบบนี้” ฉันทำปากขมุบขมิบ “อ้าว เอ็ม มากินข้าวเหรอ” แล้วเสียงทักทายจากข้างหลังก็ดังขึ้น ทำให้ฉันและคนที่ยืนข้างๆ หันไปมองพร้อมกัน ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก ผมบรอนซ์ดัดรอนเป็นทรงพร้อมกับใบหน้ารูปไข่ที่เนียนกริบ “อืม” คนข้างฉันพูดตอบเสียงในลำคอ “แหม่ วันนี้มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่านะ ทำให้พ่อเดือนวิศวะมากินข้าวกลางวันที่โรงอาหารเนี่ย” พี่ผู้หญิงคนนั้นยิ้มหวานเวลาพูด “เปล่า ตอนบ่ายมีรับน้องน่ะ” คนข้างๆ ฉันตอบเสียงเรียบ ‘นี่เขาชื่อเอ็มเหรอ’ ฉันไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่เพราะอยู่ใกล้เขาและเธอคนนั้นคุยกันฉันจึงได้ยิน “แล้วนี่เอ็มมากับใครเหรอ ไปนั่งกินที่โต๊ะโรสก็ได้นะ” เธอคนนั้นบอก แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าพี่สาวคนนี้มองมาที่ฉันด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเลย “ไม่เป็นไร” แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันอึ้งคือการตัดบทแบบไร้เยื่อใยของพี่เอ็ม “งั้นโรสไปก่อนนะ” พี่คนสวยหน้าชาเลยแหละ ที่ถูกคนข้างๆฉันปฏิเสธ “..” ซึ่งฉันไม่พูด ได้แต่ยืนก้มหน้าและแอบมองพี่ผู้หญิงคนนั้นเดินหนีไปแบบไม่สบอารมณ์ “นี่” “คะ” ก็จู่ ๆ พี่เอ็มก็สะกิดแขนฉัน “เงยหน้าบ้างก็ได้” เขายิ้ม เมื่อได้สบตาฉัน พี่เขาทำหน้านิ่งและยิ้มมุมปากแบบนี้อีกแล้ว “ชิ!” ฉันย่นจมูกใส่ เพราะเขินพี่เขามาก.. เวลาผ่านไปห้านาทีเห็นจะได้ที่เขาและฉันยืนหัวไหล่ชนกันไปมาแล้วต่างคนก็ต่างเงียบ จนเสียงแม่ครัวทักขึ้นมาว่า “ได้แล้วจ้า” “นี่ครับ ทั้งสองจาน” อีกแล้ว ยังไม่ทันที่ฉันจะได้จ่ายเงินค่าอาหารพี่เขาก็จ่ายตัดหน้าฉันอีกแล้ว “พี่คะ จ่ายให้หนูอีกแล้วนะ” ฉันรีบเดินตามคนที่ถือถาดข้าวของเขาและฉันออกมา “หึ อารมณ์เสียอะไร” เขาถามเสียงเรียบ “พี่เป็นใครหนูก็ไม่รู้จักจู่ ๆ ก็มาเลี้ยงข้าว นี่สองครั้งแล้วนะคะ” ฉันว่าเสียงเครียด ส่วนเขาก็ได้แต่มองหน้าฉันนิ่งๆ “พี่ชื่อเอ็ม” เขาแนะนำตัว “ค่ะ เพิ่งรู้ตะกี้นี่แหละค่ะ” ฉันทำหน้าบึ้งใส่เขา “เราชื่อไวโอลิน ชื่อเล่นไวน์” เขาบอกโดยไม่ต้องรอให้ฉันแนะนำตัวเลย “ค่ะ แล้วพี่รู้ได้ไงคะ” ฉันทำหน้ายักษ์ใส่เขา “เรารู้จักกันแล้วนะ” เขาบอกหน้าตานิ่งมาก เหมือนเสือยิ้มยากเลย “อะไรนะ นี่พี่หมายความว่าไง รู้จักกันแล้ว” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ต้องตั้งสติเวลาคุยกับพี่เขา “หึ นั่งตรงไหน” พี่เอ็มกระตุกยิ้มถามฉัน ซึ่งเขาไม่เคยตอบคำถามฉันเลยนอกจากฉันที่เอาแต่ถามเขาฝ่ายเดียว เสียงหัวเราะแบบนี้และยิ้มมุมปากแบบนี้อีกแล้ว ฉันไม่ชอบเลย และมันทำให้ฉันไม่ตอบอะไรได้แต่ชะโงกหน้ามองหาเพื่อนๆ “หาเพื่อนไม่เจอค่ะ” ฉันส่ายหน้าให้เขา เมื่อได้มองตากัน “งั้นไปซื้อน้ำกัน” เขาพยักหน้าบอกฉันให้มองไปทางร้านน้ำ “..” ฉันลังเล แต่ก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายเพราะพี่เขาถือถาดข้าวฉันไปด้วย “เอาน้ำอะไร” พี่เอ็มถามฉัน “เอาชาไข่มุกค่ะ” ฉันไม่ตอบพี่เอ็ม แต่สั่งพี่คนขายน้ำแทน “..” พี่เอ็มเงียบ ฉันจึงหันไปถามเขา “พี่เอาอะไรคะ” “น้ำเปล่าสองขวด” พี่เอ็มสั่ง แล้วฉันก็หยิบน้ำเปล่าขึ้นมาจากถังแล้วเอาให้แม่ค้าใส่ถุง ระหว่างที่รอชาไข่มุกของฉันนั้น ฉันก็มองไปรอบโรงอาหาร “นั่นไงเพื่อนหนู” ฉันบอกพี่เอ็มอย่างดีใจ เมื่อมองเห็นนาเดียร์กับเอวาที่นั่งรวมกับเพื่อนผู้ชายในคณะ “ได้แล้วจ้า” เสียงแม่ค้าทำให้ฉันรีบเดินไปหยิบเอาน้ำ แล้วจ่ายเงินเองทันทีเพราะพี่เอ็มถือจานข้าวอยู่ทำให้หยิบเงินไม่ถนัด “ไม่ทันหนูหรอก” ฉันหันมายิ้มตาหยีให้เขาอย่างผู้ชนะ “หึ !” พี่เอ็มยิ้มมุมปาก “ขอข้าวหนูด้วย” ฉันยื่นถุงน้ำให้เขาแล้วขอถาดข้าวของตัวเองคืน “เดี๋ยวเดินไปส่ง” พี่เอ็มบอกเสียงตึง แล้วเดินนำหน้าฉัน และฉันจำใจต้องเดินตามพี่เขาไปยังโต๊ะที่มีเพื่อนๆนั่งรออยู่ “อ้าว นึกว่าไปไหนแล้ว กำลังจะโทรตาม” เมื่อเดินมาถึงโต๊ะเพื่อนๆ ก็หันมามองฉันทันที “ไหนข้าวแก” เอวาถาม “จะนั่งตรงไหน” แล้วเสียงตึงๆ จากคนข้างหลังก็เรียกสายตาจากเพื่อนๆ บนโต๊ะมองไปยังข้างหลังฉัน “สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ” ทุกคนรีบกุลีกุจอยกมือไหว้เขาทันที คงเป็นเพราะเขาใส่เสื้อช็อปเลยทำให้รู้ว่าเขาคือรุ่นพี่ “ไม่ต้องเกร็ง นั่งกันตามสบายเถอะ” พี่เอ็มบอก “ขอข้าวหนูด้วยค่ะ” ฉันไม่กล้าหันไปมองหน้าพี่เขา เพราะเพื่อนๆต่างพากันมองมาที่ฉันและพี่เอ็ม “จะนั่งไหน มันไม่มีที่นั่ง” พี่เอ็มไม่ยอม แต่เขาหันมามองหน้าฉันแทน ฉันจึงมองไปที่โต๊ะก็เห็นว่าเต็มหมดแล้ว “มานั่งข้างเราก็ได้ไวน์” แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วขยับให้ฉันนั่ง “ขอบใจนะ” ฉันยิ้มให้เขาแล้วหันไปจะหยิบเอาจานจากคนตัวโต แต่สายตาของพี่เอ็มที่มองมาทำให้ฉันต้องวางจานข้าวไว้ที่เดิม “จะให้นั่งเบียดกันอย่างนั้นเหรอ” เขาพูดเสียงเข้ม พร้อมหันไปมองเพื่อนคนนั้นตาขวาง “เอ่อ ก็มันไม่มีที่นั่งนี่” ฉันตอบเสียงติดอ่าง “ไปนั่งกับพี่” “พี่คะ” ฉันรีบเรียกคนถือจานข้าวที่เดินออกไปไกลแล้ว “รีบมาไวน์ ก่อนที่พี่จะโมโห” พี่เขาพูดเหมือนบังคับเสียงดังมาก จนทุกคนในโรงอาหารพากันมองมาทางฉันด้วยสายตาเดียวกัน…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD