bc

รุ่นพี่จอมว็ากกับยายรุ่นน้องจอมดื้อ

book_age16+
967
FOLLOW
5.9K
READ
HE
love after marriage
age gap
heir/heiress
bxg
lighthearted
mystery
brilliant
loser
campus
highschool
childhood crush
like
intro-logo
Blurb

สวัสดีค่ะฉันชื่อ ‘ไวโอลิน’ และมีชื่อเล่นว่า ‘ไวน์’ มารู้จักกันคร่าวๆ พอเนอะ ฉันคือสาวน้อยหน้าตาลูกครึ่งเพราะแม่เป็นคนญี่ปุ่นส่วนพ่อเป็นคนไทย เป็นคนตัวเล็กสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบห้าเซนติเมตรเท่านั้น ฉันเรียนปีหนึ่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เพราะว่าชอบวาดรูปมากแล้วครอบครัวของฉันก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบอีกด้วย ที่บ้านมีสตูดิโอถ่ายภาพเล็กๆ อยู่ที่จังหวัดชลบุรี พ่อกับแม่ของฉันไม่ใช่คนรวยแต่ก็ไม่ได้ขัดสนจนไม่มีเงินส่งฉันเรียนสูงๆหรอกนะ

ท่านทั้งสองสนับสนุนให้ฉันเรียนในสิ่งที่รัก เพราะว่าเป็นลูกคนเดียวยังไงพวกท่านก็อยากให้ฉันสืบทอดกิจการอยู่แล้ว และฉันยังมีเพื่อนสนิทอยู่หนึ่งคนชื่อว่า ‘นาเดียร์’ ซึ่งฉันกับนาเดียร์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมจึงพร้อมใจกันมาเรียนคณะเดียวกันแต่คนละสาขา..

สวัสดีครับผมชื่อ ‘ธีรเดช’ มีชื่อเล่นว่า ‘เอ็ม’ จุดเด่นของผมคือความหล่อแถมยังสูงหนึ่งร้อยแปดสิบสามเซ็นติเมตรและว้ากมาก ผมเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมการบินปีสาม ครอบครัวของผมทำธุรกิจเกี่ยวกับสนามบินจึงทำให้ผมเลือกเรียนสายนี้ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่สามคน คนแรกคือ ‘ไอ้ไทม์’ มันเรียนอยู่คณะเดียวกันกับผมแต่คนล่ะสาขา ส่วนอีกสองคนเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์คือ ‘ไอ้ราชา’ และ ‘ไอ้พาสต้า’ ผมกับพวกมันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็กส่วนเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ไปเดี๋ยวพวกคุณก็รู้จักพวกมันเองล่ะครับ..

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 รุ่นน้องปีหนึ่งน่ารักว่ะ
บทที่ 1 รุ่นน้องปีหนึ่งน่ารักว่ะ ณ..มหาวิทยาลัย M..เวลา 10.12 น. “ปีหนึ่งเงียบ !” เสียงตะคอกจากตรงหน้าดังขึ้นมาจนทำให้ทุกคนที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่นั้นพากันตกใจ และเมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ฉันและเพื่อนๆ ก็เลยพากันเงียบกริบ ติ้ง !..เสียงมือถือดังขึ้น ทำให้ฉันที่นั่งอยู่แถวหน้านึกด่าคนที่ส่งข้อความเข้ามาหาฉันในเวลานี้เสียจริง “บ้าเอ้ย ใครนะ” ฉันแอบมองรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบมือถือออกจากกระเป๋าขึ้นมาดู และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยนาเดียร์ที่ส่งข้อความมาทางไลน์ Nadia : ห้องน้ำคนเยอะมากอะแก ฉัน : ห้องน้ำคนเยอะ หรือแกไม่อยากเผชิญหน้ากับพวกพี่ๆ เขา ที่มีฉายาพี่ว้ากน่ากลัวทั้งห้าคนนี้กันแน่หา ! Nadia : ห้องน้ำคนเยอะจริงๆ ฉัน : แอบถ่ายภาพพวกรุ่นพี่ส่งให้นาเดียร์ Nadia : ส่งภาพอิโมจิหัวเราะเยาะ ฉัน : รีบมาเร็วๆเลย ถ้าเธอมาช้าถูกรุ่นพี่ทำโทษเอาฉันไม่รู้ด้วยนะ Nadia : เออๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละ “นี่รุ่นน้องคนนั้นตั้งใจฟังพวกพี่ๆบอกหน่อย” เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งดังจนทุกคนตกใจรวมทั้งฉันด้วย ซึ่งสายตาพิฆาตของรุ่นพี่มองมาทางฉันหรือเปล่าฉันไม่รู้ “หนูเหรอคะ” ฉันทำหน้าเลิ่กลั่กยกมือชี้ที่ตัวแล้วมองไปที่รุ่นพี่ ก็เห็นว่าพวกพี่ๆ หน้านิ่งกันมากแต่ก็ต่างพยักหน้าใส่ฉันหงึก ๆ “ก็เราน่ะสิจะใครอีก ถ้าไม่อยากถูกทำโทษก็รีบเก็บมือถือซะ” รุ่นพี่อีกคนสั่งเสียงแข็ง “ค่ะ” ฉันยกมือขอโทษแล้วเก็บของเข้ากระเป๋า และในตอนที่ฉันกำลังเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋านั้นก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากทางด้านหลัง ฉันจึงหันหลังไปมอง “คิกๆ” ‘ชิ !’ ฉันกระตุกมุมปากเล็กน้อยเพราะไม่สบอารมณ์ เมื่อถูกเพื่อนร่วมคณะที่ยังไม่รู้จักกันมาหัวเราะเยาะใส่แบบนี้ “เงียบ ! และฟังพวกพี่ทางนี้ ก่อนอื่นพี่ขอสวัสดีน้อง ๆทุกคน” รุ่นพี่พูดขึ้นอีกครั้งแต่น้ำเสียงก็ยังคงวางอำนาจบังคับเหมือนเดิม “สวัสดีครับ / ค่ะ” ฉันและเพื่อนๆ ต่างก็ยกมือไหว้สวัสดีพวกพี่เขากันหมด “เสียงมีแค่นี้หรือยังไง เด็กคณะนี้” แล้วพี่อีกคนที่ยืนข้างๆ พี่คนแรกก็ตะโกนขึ้น “สวัสดีครับ / ค่ะ” แล้วพวกฉันก็ต้องสวัสดีพวกพี่เขาใหม่อีกรอบ “อืม หนักแน่นขึ้นมานิดนึง สวัสดี พี่ชื่อราชา” “พี่...” แล้วพี่ทั้งห้าคนที่ยืนอยู่ทางด้านหน้าก็แนะนำตัว โดยแต่ละคนหน้าตานิ่งกันทั้งนั้น ไม่เคยยิ้มกันเลย.. “เอาล่ะ วันนี้พี่จะปล่อยให้พวกน้องได้รู้จักกันและสนุกกันไปก่อน แล้วเราค่อยมารู้จักกันให้มากกว่านี้” พี่ราชาพูดแล้วก็เดินนำหน้าทุกคนออกไป ปล่อยให้พวกรุ่นน้องปีหนึ่งได้แต่นั่งมองหน้ากันและหันมองตามพวกพี่เขาไปตาปริบๆ สิบนาทีต่อมา.. “เอาล่ะค่ะน้อง ๆ ไหนมีใครยังไม่ได้ป้ายชื่อบ้างคะ” แล้วก็มีพี่คนอื่นๆเดินเข้ามาพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี สงสัยจะเป็นพี่ๆแผนกสันทนาการ เพราะพวกพี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีมาก “เธอ” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดและสะกิดฉันเบาๆ “อะไร” ฉันถามพร้อมหันไปมอง “หวัดดี” เธอทักทายด้วยการยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันก็ยิ้มตอบ แต่ฉันไม่ลืมหรอกนะว่าก่อนหน้านี้เธอแอบหัวเราะฉันอยู่ “หวัดดี” “เราชื่อ เอวานะ” เธอแนะนำตัว “อืม เราชื่อไวโอลิน” ฉันบอก “เธอมีชื่อเล่นไหม ฉัน วา” เธอถามและบอกชื่อเล่นของเธอ “ไวน์” ฉันบอกเพียงสั้นๆ “เธอมาคนเดียวเหรอ มีเพื่อนรึยัง เราขอเป็นเพื่อนด้วยคนสิ” เอวาชวนคุยยาวเป็นหางว่าว “ได้สิ เรามากับเพื่อนคนหนึ่งชื่อนาเดียร์ อยู่ข้างหลังเดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก” ฉันบอกเธอไป พร้อมกับมองยัยนาเดียร์ที่แอบโบกมือให้ฉันอยู่ ซึ่งเธอนั่งอยู่ด้านหลังสุดทางโน้น “ดีเลย อยู่หลายคนสนุกดี” เอวาว่าพร้อมมองตามสายตาของฉันไปยังยัยนาเดียร์ ช่วงเวลาที่ฉันนั่งคุยกับเอวาและเพื่อนใหม่สี่ห้าคนอยู่นั้น รุ่นพี่ก็พูดเสียงดังขึ้นมาแต่น้ำเสียงยังคงอารมณ์ดีและไม่ได้ว้ากเหมือนพวกพี่ราชาก่อนหน้านี้ พลางบอกพวกฉันว่า “น้อง ๆ คะ หันหน้ามาทางนี้ค่ะ” “เลิกเรียนแล้วค่อยคุยกันนะ” ฉันบอกเอวา “โอเค” เอวาพยักหน้า ทั้งฉันและเอวาก็พากันหันหน้ากลับไปฟังรุ่นพี่ หลังจากนั้นพวกรุ่นพี่ก็แจกสมุดคู่มือของปีหนึ่งมาแล้วให้พวกเราอ่านกฎของมหาวิยาลัย คณะ แล้วก็เพลงต่างๆ “การรับน้องเราจะได้ร้องทุกเพลงของมหาลัยและคณะของเรานะคะ” รุ่นพี่คนหนึ่งบอก ทำให้ฉันอุทานเสียงเบาคนเดียวในใจว่า ‘หา ? ตายแล้วเยอะขนาดนี้สมองปลาทองอย่างฉันจะรับได้ไหมเนี่ย’ ฉันขมวดคิ้วเอียงคอมองเนื้อเพลงตาโต เอ๊ะ ! ทำไมรู้สึกเหมือนมีคนมอง เคยเป็นไหมถ้ามีคนจ้องเรานานๆ จะรู้สึกอึดอัดซึ่งตอนนี้ฉันเป็นอยู่ ฉันเงยหน้าจากสมุดตรงหน้าแล้วมองไปรอบๆ ว่ามีคนมองฉันอยู่รึป่าว แล้วสายตาของฉันก็ไปหยุดที่คนกลุ่มหนึ่งเข้าพอดี นั่นก็คือกลุ่มพี่ว้ากที่ยืนมองน้อง ๆ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ที่ทำให้ฉันหยุดมองก็คือมีหนึ่งคนในนั้นที่กำลังมองมาทางฉันอยู่ เขาไม่ใช่รุ่นพี่ที่คณะของฉัน เพราะวันนี้พี่ๆ ใส่ชุดนักศึกษามากันหมดแต่พี่คนนั้นใส่เสื้อช็อปสีกรม ผมที่ดำสนิทนั้นช่างเข้ากับใบหน้าที่แสนจะเพอร์เฟคเสียจริงๆ ฉันยอมรับเลยว่าพี่เขาหน้าตาดีมาก สายตาสีเข้มที่มองมาทางฉันนั้นนิ่งและเยือกเย็นแต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง ฉันเอียงคอมองเขาอย่างสงสัยว่าเขามองอะไรแต่เขาก็ไม่ละสายตาไปจากตรงที่ฉันนั่งอยู่สักที “ไวน์ อันนี้อ่านว่าเมฆปะ เค้าพิมพ์ผิดหรือเปล่า” แล้วเสียงจากทางด้านหลังก็ทำให้ฉันหันไปหาเพื่อน “ใช่ๆ พิมพ์ผิด” ฉันพยักหน้าเออออไปกับเอวาเพราะหนังสือพิมพ์ผิด พอหันหน้ากลับมา ฉันก็แอบชำเลืองมองไปยังกลุ่มพี่ว้ากเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเห็นว่าเขามองฉันอยู่ เขามองจนฉันไม่กล้าสบตาเลยล่ะ มันรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้ายังไงก็ไม่รู้ “บ้า ไม่รู้จะมองอะไรกันนักกันหนา” ฉันบ่นให้เขา แล้วแกล้งมองไปทางอื่น… คณะวิศวกรรมศาสตร์ ห้องประธานสโมสรนักศึกษา.. ปัง!.. “ไอ้เอ็ม ! นี่มึงหลบมางีบเหรอวะ” เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกนั้น ทำให้ผมลืมตาขึ้นแล้วมองไปที่บุคคลที่เข้ามา “มือไม่มีเหรอวะ” ผมถามอย่างไม่สบอารมณ์ เกลียดที่สุดก็พวกไม่เคาะประตูนี่แหละ “เออ โทษว่ะ” ไอ้ไทม์ยกมือขึ้นทำท่ายอมรับผิดแล้วเดินมาหาผม พร้อมนั่งหมิ่นบนขอบโต๊ะยกขาข้างหนึ่งขึ้นเหยียบเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างหน้าผม “มีไรวะ” ผมเอ่ยถามมันแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าของผมเงยมองเพดานและหลับตาลง “ไปหาไอ้ราชากัน” ไอ้ไทม์ว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ไปทำไม” ผมถามพลางหรี่ตามองหน้ามัน “เอ้า ไอ้นี่ก็ไปหาเพื่อนไง เปิดเทอมทั้งทีมึงไม่คิดถึงพวกมันเหรอวะ” ไอ้ไทม์มันทำท่ากระดี๊กระด๊าแล้วยกมือมาดันหัวไหล่ของผมเบาๆ “ขอสาระหน่อยได้ไหมวะไทม์” ผมยิ้มมุมปากใส่มัน เพราะคำว่าคิดถึงของมันนี่โคตรจะปลอมเลย จะบอกให้นะว่าพวกมันน่ะเจอหน้ากันทุกวันไม่มีวันหยุดหรอก คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าพวกมันไปเจอกันที่ไหนถ้าไม่ใช่ร้านเหล้า “เออ ไปเปิดหูเปิดตาไงเห็นไอ้พาสมันว่าเด็กคณะมันมีแต่คนเด็ดๆทั้งนั้นเลยว่ะ” นั่นไง ผมว่าแล้วว่าคนอย่างไอ้ไทม์ในสมองมันไม่มีเรื่องอะไรหรอกนอกจากเรื่องผู้หญิง “กูไม่ไป” ผมปฏิเสธไปเพราะขี้เกียจไป “ไม่ได้ มึงต้องไป” ไอ้ไทม์เสียงแข็งใส่ผม “มึงต้องการอะไร” ผมจ้องหน้ามันตาเขม็ง “กูก็แค่อยากให้มึงไปเปิดหูเปิดตาไง นะ นะ เอ็มนะ ไปด้วยกันนะ” ไอ้ไทม์ทำหน้าออดอ้อน จนผมขนลุกซู่เลย “ขนลุก สัสไทม์” ผมทำหน้าขยะแขยงใส่มันพร้อมกับชูแขนให้มันดู “ไปด้วยกันสิวะ นะ” ไอ้ไทม์ว่าแล้วก็ดึงผมให้ลุกขึ้นยืน “อย่ามาจับกู” ผมว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง “มึงจะไปกับกูแล้วใช่ปะวะ” ไอ้ไทม์ยืนเท้าเอวมองผม “เออ” ผมตอบรับอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ “ต้องอย่างนี้สิวะเพื่อน ไปไหนไปด้วยกัน” ไอ้ไทม์ยกมือขึ้นมากอดคอผม แล้วออกแรงลากคอผมออกจากมาห้องทันที “กูเดินเองได้ สัสไทม์” ผมว่าแล้วก็เอาแขนของมันออก แล้วเดินนำหน้ามันไปหาเพื่อนคนอื่นๆ ที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้องแล้ว... ผมเดินเข้ามาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์พร้อมไอ้ไทม์และเพื่อนอีก 3 คน ตลอดทางก็ได้รับความสนใจพอสมควรเพราะกลุ่มของพวกผมค่อนข้างที่จะดัง และยังใส่เสื้อช็อปเข้ามาอีกทำให้มันดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เมื่อเดินเข้ามาในลานรับน้องของคณะนี้แล้วก็เห็นว่าไอ้ราชา ไอ้พาส และเพื่อนอีก 3 คน ยืนอยู่ด้านหน้าแถมน้อง ๆ ยังคงคุยกันจ้อแจ้ไม่สนใจพวกมันเลย “ปีหนึ่ง เงียบ !” พอไอ้ราชาตะโกนขึ้นมาเท่านั้นแหละ เงียบกริบเลย แล้วสายตาผมก็ไปสะดุดกับคนหนึ่งที่นั่งเกือบข้างหน้า พอได้ยินไอ้ราชาตะโกนเท่านั้นแหละถึงกับสะดุ้งตกใจเลย ผมแอบเห็นผู้หญิงข้างหลังหัวเราะเธอด้วยซึ่งเธอก็น่าจะรู้เพราะก้มหน้างุดลงไป ‘หึ น่ารักดี’ ผมยิ้มมุมปากเมื่อพูดชมเธอคนเดียวในใจ พอพวกนั้นแนะนำตัวเสร็จมันก็เดินออกมา ทำให้ผมเห็นหน้าของน้องคนนั้นชัดมาก ‘เชี่ยยย น่ารักสัส’ ผมกระตุกยิ้ม เมื่อมองหน้าเลิ่กลั่กของเธอ ผมนี่อยากจะหัวเราะดังๆ เธอคงงงกับเพื่อนผมที่จู่ ๆ ก็เดินออกมา แล้วพอพวกปีสองที่เป็นสันทนาการแจกป้ายชื่อ แล้วออกออกจากห้องเธอก็หันไปพูดกับเพื่อนข้างหลัง.. “ไงวะ ไปไงมาไง” ไอ้ราชา มันถามพร้อมทั้งกับก้าวเท้าเข้ามาหาพวกผม “แม่ง เด็กคณะมึงมีแต่คนน่ารักทั้งนั้นเลยว่ะ” ไอ้ไทม์ที่ยืนดูสาวๆ อยู่พูดขึ้น “คณะมึงไม่มี ?” เพื่อนที่เป็นพี่ว้ากของคณะนี้ถามขึ้น “เหอะ มึงถามมาได้ไง คณะวิศวะนะเว้ยผู้หญิงนี่คือของแรร์ไอเทม” ไอ้ไทม์ตอบกลับไปอย่างหัวเสีย ‘หึ ก็จริงนะ คณะผมผู้หญิงน้อยมาก อย่างสาขาผมก็มีแค่สองคนเอง แล้วยิ่งไอ้ไทม์มันเรียนเครื่องกลไม่มีผู้หญิงเลยครับ’ ผมหัวเราะและคิดคนเดียวในใจ “หึ สมน้ำหน้า ใครบอกมึงอยากเท่” ไอ้พาสว่าขึ้นมาอย่างสะใจ “ฮ่า ๆ” แล้วเพื่อนคนอื่นๆ ก็หัวเราะชอบใจ ที่ไอ้ไทม์มันเลือกเรียนเครื่องกลก็เพราะว่า ก่อนที่จะจบมอหกที่โรงเรียนมีการสำรวจว่าเรียนอะไรถึงจะเท่และเป็นขวัญใจสาวๆ ซึ่งส่วนใหญ่โหวตวิศวะแล้วก็สาขาเครื่องกลเลยทำให้ไอ้ไทม์มันเลือกเรียนสาขานี้ เหตุผลโคตรปัญญาอ่อนเลยไม่รู้มันคิดได้ยังไง “แล้วมึงล่ะ ทำไมมาได้วะ” พอหัวเราะจนเหนื่อยแล้ว ไอ้พาสมันก็หันมาถามผม “ไอ้นี่เหรอ กูไปลากมันมาจากห้องสโมสรเอง” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะไอ้ไทม์มันแย่งตอบเรียบร้อยแล้ว ไอ้พาสพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปชี้สาวๆ ให้ไอ้ไทม์ดู ผมจึงหันไปสนใจน้องคนนั้นต่อ ในตอนนี้เธอกำลังนั่งอ่านหนังสือคู่มือของมหาลัยอยู่ ซึ่งท่าทางของเธอนั้นทำให้ผมยิ้มมุมปาก ด้วยท่าทางขมวดคิ้วสงสัยนั้นของเธอ ‘น่ารักสัส’ ผมพูดคนเดียวในใจ ปากสีเชอรี่นั้นทำท่าขมุบขมิบ คงจะอ่านเพลงมหาลัยหรือคณะอยู่แล้วไหนจะทำตามองบนอย่างเอือมๆ นั่นอีก และดูเหมือนว่าผมจะมองเธอมากเกินไปเพราะเธอรู้สึกตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆ ทันที และแล้วผมกับเธอก็สบสายตากัน น้องทำท่าสงสัยว่าผมมองอะไร แล้วผมไม่คิดที่จะละสายตาออกจากเธอ ไหนจะท่าเอียงคอสงสัยนั่นอีกมันทำให้ผมใจละลายเลยครับ ‘แม่ง ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้วะ’ ผมและเธอมองหน้ากันอยู่นานจนเพื่อนข้างหลังเธอสะกิดทำให้เธอละสายตาไป พอคุยกับเพื่อนเสร็จก็มีชำเลืองตามามองผมแล้วก้มหน้างุดๆ หึ ! ทีเมื่อกี้นี้ยังมองผมอย่างสงสัยอยู่เลย “มองตาไม่กะพริบเลยนะมึง” เสียงของเพื่อนที่นั่งข้างๆ ทำให้ผมละสายตาจากคนหน้าสวย “..” ผมไม่ตอบคำถาม เมื่อหันไปมองไอ้ราชาที่เป็นคนพูด “ใครมองใครวะ” ไอ้พาสที่นั่งคุยกันกับเพื่อนคนอื่นๆอยู่ มันชะโงกหน้ามาถาม “เสือก !” ผมพูดแล้วก็เดินไปนั่งลงข้างๆ ไอ้ราชา “อ้าว ไอ้ห่านี่ กูไม่รู้ก็ได้” ไอ้พาสทำท่างอนเป็นตุ๊ด แล้วหันไปคุยเรื่องผู้หญิงกับไอ้พวกนั้นต่อ ผมจึงหันไปมองน้องผู้หญิงคนนั้นต่อซึ่งเธอน่ารักถูกใจผมมาก ปรกติผมไม่เคยมองผู้หญิงแล้วจ้องนานขนานนี้ยิ่งมองยิ่งหลงใหลครับ “สนใจเหรอวะ” ไอ้ราชาถามขึ้น “หึ” ผมไม่ตอบอะไร ถึงปฏิเสธไปมันก็คงไม่เชื่อเพราะผมไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิง แต่กับคนนี้ผมสนใจจริงๆ…

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook