ตอนที่7. ละเมอ

1185 Words
เขาหันมาดุ ดุนางเหมือนเวลาดุเด็กกำพร้าในบ้านท่านหมอมู่ ไป๋เซ่อส่ายหน้าไปมาแล้วปีนขึ้นไปนั่งบนรถเทียมลา มู่ลี่ หยางเห็นนางนั่งเรียบร้อยดีแล้วจึงจูงลาเดินออกมา ไป๋เซ่อมองผู้คนรอบกาย ราวกับเคยเห็นภาพเหล่านี้มาก่อน ขณะนั้นเอง รถม้าหรูหราคันหนึ่งเคลื่อนผ่านสายตาของนาง ม่านหน้าต่างขยับไหวแต่กลับมองเห็นบุรุษหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านใน หญิงสาวยกมือขึ้นกุมขมับ มีบางสิ่งต่อต้านความคิด แล้วภาพบางอย่างก็ซ้อนเข้ามาในความทรงจำ นางต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดแต่พลาดท่าถูกทำร้ายจนร่วงตกหน้าผา นางปวดหัวจนแทบหลั่งน้ำตา เหตุใดรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งที่ต้องทำ และต้องทำให้สำเร็จ “ไป๋เซ่อ” มู่ลี่หยางเห็นสีหน้าขาวซีดก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่เมื่อไม่ได้ยินนางขานรับ เขาก็เรียกนางอีกครั้ง “ไป๋เซ่อ” หญิงสาวตวัดสายตาจ้องมอง แววตาคมกริบราวมีดปีกจักจั่น “เจ้าเรียกใคร ...ชื่อของข้า...” “ชื่อของเจ้า?” มู่ลี่หยางจ้องมองนาง พลันหญิงสาวส่ายหน้าไปมา ยกมือขึ้นกุมขมับร่างโอนเอนราวกิ่งหลิวต้องลม เขายื่นมือไปประคองให้เอนตัวลงนอนแล้วหยิบหมวกปีกกว้างมาพัดให้คลายร้อน “ไป๋เซ่อ ...เจ้าปวดหัวอีกแล้วรึ” “พี่ลี่หยาง” นางลืมตามองเขาทำตาปริบๆ ราวเด็กน้อย “ข้า....” “ปวดหัวก็นอนนิ่งๆ เราจะกลับบ้านกัน” “ไม่ได้...ยังไม่ได้ซื้อข้าวสาร” “เจ้าปวดหัวมาก ข้าจะพากลับไปให้พ่อบุญธรรมตรวจอาการ” “ข้าดีขึ้นแล้ว” นางยืนยัน มู่ลี่หยางนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าเจ้าชื่ออะไร” “ข้าชื่ออะไร?” นางทำหน้างุนงง “ข้าชื่อไป๋เซ่อ” มู่ลี่หยางเพียงแค่พยักหน้ารับไม่พูดอะไรอีก ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในอก เขามองเลยไปยังรถม้าที่เพิ่งเคลื่อนผ่านไป ไม่ว่านางจะเป็นใคร เขาก็ตั้งใจว่าจะดูแลนางจนกว่านางจะพบครอบครัวที่แท้จริงของนาง. .... การเคลื่อนไหวด้านนอกทำให้มู่ลี่หยางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว เขาปรับสายตากับความมืดครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ย่างเท้าออกไปอย่างเงียบเฉียบ ทว่าภาพที่เห็นทำเอาเขายืนมองด้วยความตกใจ ราวกับภาพวาดใต้แสงจันทร์กระจ่างมีเงาร่างอรชรยืนอยู่ ผมดำยาวสยายพลิ้วไหวตามสายลมราตรี “ไป๋เซ่อ” มู่ลี่หยางเรียกแล้วเดินเข้าไปใกล้ หญิงสาวไม่หันมาเขาจึงเอื้อมมือไปแตะไหล่นางเบาๆ เจ้าของร่างจึงหันมาแต่แววตาดูว่างเปล่า เขาจับไหล่ให้นางหันมาเผชิญหน้ากับเขา “ไป๋เซ่อ” เขาเพิ่มน้ำเสียงเรียกนางอีกครั้ง ดวงตาคู่งามปิดเปลือกตาลงครู่หนึ่งแล้วร่างเย็นเยียบก็อ่อนยวบลง เขารีบประคองนางไว้ก่อนที่จะล้มลงไป “ไป๋เซ่อ” เขาเรียกนางซ้ำอีก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นนางเดินละเมอออกมาที่ลานบ้านเช่นนี้ หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้น นางมองเขาอย่างงุนงงพลันรู้สึกหนาวจึงขดตัวซุกในอกราวกับลูกนกพลัดตกรัง “พี่ลี่หยาง” มู่ลี่หยางช้อนร่างนุ่มขึ้นแล้วพากลับมาที่พักของตน วางนางลงบนที่นอนแล้วคลี่ผ้าห่มคลุมร่างนางไว้ เท้าเล็กๆ ถูไปมา เขาส่ายหน้าแล้วหยิบเสื้อของตนมาคลุมเท้าเพิ่มความอบอุ่นให้คนตัวเอง “ข้า...ละเมออีกแล้วหรือ?” นางถามหลังจากได้รับไออุ่นห่ม ความจริงนางไม่แน่ใจว่าผ้าห่มผืนนี้อุ่นกว่าผืนของนาง หรือเพราะผ้าห่มผืนนี้มีกลิ่นไอของมู่ลี่หยางอยู่ นางเห็นเขาปูผ้าหน้าเตียงก็ลุกขึ้นแล้วยื่นมือไปดึงข้อมือเขาไว้ “ข้าทำให้พี่ลี่หยางลำบากอีกแล้ว” “อย่าคิดมาก” เขาเป็นคนยิ้มยาก พยายามจะยิ้มให้นางแต่หน้าตาคงดูแปลกพิกล “นอนเถอะ” “ข้าไม่ควรยึดที่นอนพี่ลี่หยาง” นางลุกขึ้นหมายจะลงมานอนที่พื้นเอง แต่มือใหญ่จับไหล่กลมมนกดลงที่นอนแล้วตวัดผ้าห่มคลุมร่างอย่างรวดเร็ว “อย่าดื้อ นอนเสีย” ไป๋เซ่อไม่กล้าดื้อดึงอีก ในห้องมีเพียงแสงสลัวจากพระจันทร์ นางไม่เข้าใจ เหตุใดนางจึงหลงลืมตัวเองไปหมดสิ้น และยามค่ำคืนเดินละเมอจนทำให้พี่ลี่หยางต้องเดือดร้อนอยู่เสมอ ในความทรงจำอันลางเลือนนั้น นางดูเป็นสตรีเหี้ยมโหดเอาแต่ใจ หากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ทำร้ายผู้อื่นได้ทันที นางไม่ชอบสตรีผู้นั้นเลย “คิดสิ่งใดอยู่ หลับได้แล้ว” น้ำเสียงราบเรียบแม้ไม่อ่อนโยนแต่ไป๋เซ่อรู้ว่ามีความห่วงใยเต็มเปี่ยม นางพลิกตัวมองแผ่นหลังของมู่ลี่หยางที่นอนหันหลังให้นาง “ข้าพยายามคิดให้ออกว่าตัวเองเป็นใคร” นางพูดเสียงเบาแต่มู่ลี่หยางได้ยินชัดเจน “ถ้าข้าคิดออกจะได้ไม่เป็นภาระให้พี่ลี่หยางและหงเซ่อ” “เจ้าไม่ใช่ภาระ” เขาพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “แต่ถ้าข้าจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าบ้านของตนอยู่ที่ไหน ข้าก็ต้องรบกวนพี่ลี่หยางไปตลอด” “เจ้าไม่ได้รบกวนข้า” เขาพูดทั้งที่หันหลังให้ “ข้าดูแลเจ้าได้” “แต่ถ้าข้าจำไม่ได้เลย” “ข้าก็จะดูแลเจ้า” เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยอย่างหนักแน่น “ตลอดไป” ถ้อยคำของชายหนุ่มราวกับจุดกองไฟลูกเล็กๆ ในอกของหญิงสาว ใบหน้าหวานระบายยิ้มอย่างดีใจ เมื่อใจผ่อนคลายก็ทำให้หญิงสาวง่วงงุนและผล็อยหลับไป ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้มู่ลี่หยางรู้ว่านางหลับแล้ว เขาจึงพลิกตัวหันกลับมามองใบหน้าที่หลับใหลของนาง เมื่อครู่... เขาไม่ได้พูดให้นางสบายใจเท่านั้น แต่เขาตั้งใจทำเช่นนั้นจริงๆ หลายครั้งที่เห็นนางทุกข์ทรมานกับการปวดศีรษะ ทำให้สงสารนางอย่างมาก หากการได้ความทรงจำกลับคือต้องแลกกับที่เห็นนางทรมานเช่นนั้น เขา...เขาก็ขอดูแลนางไปชั่วชีวิต ให้นางเป็นไป๋เซ่อที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ตลอดไป เช้าตรู่มู่ลี่หยางขึ้นเขาล่าสัตว์เช่นทุกวัน หงเซ่อแม้จะเป็นเพียงเด็กหญิงแต่กลับดูแลทุกคนได้ดีนัก โดยเฉพาะไป๋เซ่อที่เชื่อฟังหงเซ่อทุกอย่าง หมอมู่ตรวจดูอาการของไป๋เซ่อตามคำบอกเล่าของมู่ลี่หยางที่เห็นนางปวดศีรษะมาก มีบางเรื่องที่เขารู้แต่หลังจากไต่ตรองดูแล้วคิดว่าไม่พูดดีกว่า การที่นางเป็นไป๋เซ่อเช่นนี้อาจดีกับตัวนางเองก็เป็นได้ “ไป๋เซ่อ” “เจ้าค่ะ” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มกว้าง “อยู่ที่นี่มีความสุขหรือไม่” หญิงสาวพยักหน้ารับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD