bc

พรานพิทักษ์หัวใจ

book_age18+
275
FOLLOW
1K
READ
HE
billionairess
heir/heiress
blue collar
bxg
lighthearted
campus
mythology
secrets
shy
like
intro-logo
Blurb

มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี

แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้

ทว่าทันทีที่นางลืมตา

นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง

เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง

แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง

เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า!

“พี่ลี่หยาง!”

“นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน”

“ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”"

“ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน”

“พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น

“นอนเสีย!”

เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป

แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง

แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.

...........

chap-preview
Free preview
ตอนที่1. จำอะไรไม่ได้เลย
ไป๋เซ่อ-ฟู่เหยียนอวี้ : มีฐานะเป็นน้องสาวของประมุข ฟู่อวิ๋นเชิง มู่ลี่หยาง :  นายพรานหนุ่มเป็นเด็กกำพร้าที่หมอมู่จาง    หมิ่นอุปการะ มู่จางหมิ่น : หมอชาวบ้านที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายสิบ          ชีวิต ฟู่อวิ๋นเซิง : ประมุขพรรคมาร หลิวชิง  : มือขวาฟู่อวิ๋นเชิง  ตอนที่1. จำอะไรไม่ได้เลย หญิงสาวขยับข้อมือที่เจ็บไปมาราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน ยังไม่ทันที่สมองจะลำดับเหตุการณ์ต่างๆนานา เสียงฝีเท้าคนเข้ามาใกล้เรียกดวงตาสีนิลให้หันขวับไปมองทันที  ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมป้องกันตัว  ดวงตาหรี่มองไปทางประตูห้องที่เปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กหญิง เด็กน้อยอ้าปากกว้างแล้วหันไปส่งเสียงดังนอกประตู “ฟื้นแล้ว! ฟื้นแล้ว! พี่ลี่หยางมาดูเร็ว พี่สาวฟื้นแล้ว!” เสียงของ ‘หงเซ่อ’ เด็กหญิงวัยสิบสองตะโกนเรียกพี่ชายที่ลานบ้าน ร่างเล็กของเด็กสาวประคองถาดอาหารที่มีชามข้าวต้มกับผักดองใกล้ฟูกนอน  โดยไม่สนใจท่าทางของอีกฝ่ายที่มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ฟื้นแล้ว...”    ‘มู่ลี่หยาง’ ได้ยินเสียงเด็กน้อยชัดเจน เขาโยนฟื้นบนบ่าลงแล้ววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง ร่างของชายหนุ่มวัยยี่สิบชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ดวงตาคมจ้องมองไปที่หญิงสาวลุกขึ้นนั่งฟูกนอนในท่าที่เตรียมจะพุ่งกระโจนออกไปทั้งที่สวมเสื้อคลุมเนื้อหยาบและหลวมโพรก เขาเผลอกลืนน้ำลายที่เห็นไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยผิวกายขาวผุดผ่องดุจหยกใส “ใจเย็นๆ ไม่มีผู้ใดทำอันตรายเจ้า” มู่ลี่หยางชูมือสองข้างขึ้นเพื่อแสดงเจตนาว่าไม่มีอาวุธในมือ  แต่เด็กหญิงที่เกล้าผมเป็นมวยก้อนกลมๆ สองข้างนั้นกลับทิ้งตัวนั่งข้างหญิงสาวที่ยังมีแววตาตื่นตระหนก หงเซ่อชะโงกหน้าไปใกล้ๆเพื่อจ้องมองดวงตาสีนิล “หรือนางฟังภาษาเราไม่รู้เรื่อง”   หงเซ่อเอียงคอมองอย่างสงสัย เด็กหญิงเป็นคนดูแลหญิงสาวแปลกหน้าด้วยตนเอง นางไม่เคยเห็นสตรีงดงามอย่างนี้มาก่อน “หรือนางอาจเป็นเทพเซียนก็เป็นได้” “เหลวไหล” มู่ลี่หย่างส่ายหน้าไปมา แต่เขาต้องยอมรับว่านาง ‘งดงาม’ กว่าสตรีใดที่เขาเคยพานพบมา หญิงสาวบาดเจ็บได้ยินก็ข่มใจหลับตาชั่วครู่ แต่เหมือนสมองกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ   ร่างที่นั่งอยู่เกิดซวนเซหมดเรี่ยวแรงทรงตัว มู่ลี่หยางรีบเข้ามาประคองร่างบางก่อนที่จะล้มลงหัวฟาดพื้น เขาประคองร่างอ่อนนุ่มให้นอนอีกครั้ง   หงเซ่อรีบวิ่งไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามใบหน้าและเนื้อตัวที่พ้นเสื้อผ้าซึ่งเป็นเสื้อของชายหนุ่ม เด็กหญิงร่างเล็ก เสื้อผ้าที่นางมีไม่สามารถให้พี่สาวคนสวยใส่ได้ และที่สำคัญ ฐานะของพวกเขาค่อนข้างยากจน จะซื้อเสื้อผ้าสักคราก็ต้องรอปีใหม่ จึงต้องใช้เสื้อผ้ามู่ลี่ หยางให้อีกฝ่ายใส่แทนไปก่อน            “ใจเย็นๆ ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเจ้า เอ่อ…เจ้าฟังรู้เข้าใจหรือไม่?”  มู่ลี่หย่างบ่นก่อนถอนหายใจหนักๆ  ผิวขาวเหมือนราวกับหิมะกับดวงตาสีนิลลึกลับทำให้เขาเริ่มหวั่นๆ ที่จะสนทนากับอีกฝ่าย “ทำอย่างไรดี พ่อบุญธรรมก็ยังไม่กลับ”   หงเซ่อพึมพำขณะยื่นผ้าไปเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย แล้วหงเซ่อก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกคว้าข้อมือไว้ “ที่-นี่-ที่-ใด” เสียงตะกุกตะกักของหญิงออกมา น้ำเสียงค่อนข้างแหบแห้งจนคนฟังรู้สึกเวทนา “นางพูดได้!” หงเซ่อดีใจ แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ “พี่สาว ปล่อยแขนข้าก่อน กระดูกข้าจะหักแล้วนะ” “อ๊ะ!” หญิงสาวรีบปล่อยมือทันที นางกวาดตามองอย่างตื่นตระหนกแต่ลดความระแวงลง “ดีจริง  เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ” มู่ลี่หยางยิ้มดีใจไม่แพ้กัน   “เจ็บ-มือ-ปวด-หัว”   หญิงสาวนัยน์ตาสีนิลค่อยพูดที่ละคำ เหมือนพยายามค้นหาคำพูดให้ได้ตามใจคิด  “พ่อบุญธรรมตรวจแล้ว บาดแผลไม่หนักหนาแต่เจ้าหมดสติไปถึงสามวันสามคืน”  ชายหนุ่มยิ้มให้ เขาเห็นนางเพิ่งฟื้นจึงไม่อยากเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้พบนางในสภาพชุ่มโชกไปด้วยโลหิต “บ้านเจ้าอยู่ที่ใดหรือจะให้พวกเราติดต่อญาติให้เจ้า” หงเซ่อชะโงกหน้าเข้ามาถาม “บ้าน-ญาติ-หมด-สติ-สาม-วัน”  ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างงุนงง  ยิ่งพยายามคิดระลอกคลื่นแห่งความเจ็บปวดก็ถามโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนต้องยกมือขึ้นนกุมศีรษะและร้องครางออกมา “พี่ใหญ่” หงเซ่อหันไปทางมู่ลี่หยางอย่างร้อนรน “อย่าถามอะไรพี่สาวเลย ท่าทางนางเจ็บปวดมาก” มู่ลี่หยางพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาเห็นพ้องกับน้องสาว ประคองให้หญิงสาวแปลกหน้าลงนอน “เจ้าพักผ่อนก่อน อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย” ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเขาจนชายหนุ่มหายใจลำบาก นางไม่เหมือนหญิงสาวชาวบ้านเลยสักนิด แววตาหยิ่งทะนงและแม้อยู่ในเสื้อผ้ามอซอแต่กลับไม่อาจปกปิดความงามของนางได้เลย “ไม่ต้องห่วงนะ ที่ผ่านมาข้าเป็นคนดูแลพี่สาวเอง”  หงเซ่อลูบผมหญิงสาวเบาๆ ท่าทางของนางเหมือนมารดาที่ปลอบโยนลูก แต่นางคงลืมไปว่าตนเองอายุเพียงสิบสองขวบเท่านั้น อาจเพราะนางต้องดูแลเด็กๆ ในบ้านอีกหลายคน จึงทำตัวเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ “ที่นี่เป็นบ้านของท่านหมอมู่จางหมิ่น นี่พี่ชายข้าชื่อมู่ลี่ หยาง ส่วนข้ามู่หงเซ่อ ในบ้านยังมีเด็กๆอีกหลายคน แต่พี่สาวไม่ต้องกลัวนะ พวกเราเป็นเด็กกำพร้าที่ท่านหมอมู่เก็บมาเลี้ยง คนในบ้านนี้จึงแซ่มู่กันหมด เพราะฉะนั้นพี่สาวพักผ่อนให้สบายใจเถิด”  หงเซ่อยิ้มจนดวงตาหยีเล็ก “พี่สาวชื่ออะไร” “ชื่อ?” “ใช่!ชื่อที่คนอื่นเรียกเจ้านะ”  ทั้งที่บอกว่าจะไม่ถาม แต่เด็กหญิงก็อดไม่ได้ “ชื่อ?” นางนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “ไม่-รู้” “หา!”    มู่หงเซ่อหันไปทางพี่ใหญ่ เขายืนนิ่งมองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างหงเซ่อนึกได้รีบยกมือขึ้นปิดปาก นางเผลอส่งเสียงดังเกินไป คนป่วยเองก็ตกใจไม่น้อย พี่ชายใช้สายตามองอย่างปรามน้องสาว “ค่อยๆคิดไม่ต้องรีบร้อน”   เสียงทุ้มเอ่ยให้กำลังใจ ยิ่งเห็นนาง ยกมือกุมศีรษะไปมาร่างบางดิ้นทุรนทุรายได้ความเจ็บปวดเหมือนถูกโบยตีด้วยแส้ที่มองไม่เห็น   ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามากดไหล่สองข้างให้นอนแนบบนฟูกนอน เขาออกจะประหลาดใจที่รู้สึกถึงเรียวแรงที่มากมายกว่าที่คิดไว้ นางพยายามขืนตัวให้หลุดพ้นจากการควบคุมของอีกฝ่าย  หญิงสาวตกใจจนกระโดดหนีไปยืนอีกมุมหนึ่งของห้อง   หญิงสาวสะบัดศีรษะไปมาจนเส้นผมยาวสยายสะบัดไปมา ชายหนุ่มรวบมือสองข้างของหญิงสาวไว้ด้านหลังก่อนใช้วงแขนรัดเธอไว้   ริมฝีปากเขากระซิบคำปลอบโยนที่ริมหูจนอีกฝ่ายสงบลง เขารู้สึกได้ถึงชีพจรที่เริ่มเต้นสม่ำเสมออีกครั้ง “ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไร” “พี่ลี่หย่างเกิดอะไรขึ้น นางถูกผีเข้าหรือ?” “เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล” มู่ลี่หยางดุน้องสาว “เจ้าไปดูสิว่าพ่อบุญธรรมกลับมาหรือยัง”  “ได้ ข้าจะไปรอหน้าบ้าน” เด็กหญิงกระโดดขึ้นทันที นางรีบสาวเท้าเดินออกมาถึงหน้าประตูแล้วหันกลับมา            “พี่ใหญ่แน่ใจนะว่าไม่ต้องตามนักพรตมาไล่ผี”.  

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.7K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.1K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.8K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook