ไป๋เซ่อรู้สึกหน้าเสียจึงหันไปถามมู่ลี่หยาง “ข้าพูดอะไรผิดหรือ หงเซ่อสอนข้ามาเช่นนี้”
“เจ้าพูดไม่ผิดหรอก อย่าถือสาข้าเลยนะ” หวงหลันเป็นเจ้าของหอสุราเจี่ยนตาน ที่นี่ไม่ได้ชื่อเสียงโด่งดังเพราะเรื่องสุราเท่านั้น ยังมีอาหารเลิศรสแลดนตรีไพเราะขับกล่อมผู้คนที่เข้ามาเยือน
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้ม ไป๋เซ่อก็ยิ้มตาม นางเหมือนเด็กน้อยที่อยู่ในร่างของหญิงสาว เดิมทีมู่ลี่หยางไม่ได้อยากพานางมาด้วย แต่พ่อบุญธรรมให้พานางมาเปิดหูเปิดตา เพื่อช่วยฝืนความทรงจำและเผื่อว่าจะได้เบาะแสครอบครัวของนาง
“ข้าเอาของที่แม่นางสั่งไว้มาส่ง” มู่ลี่หยางเอ่ยขึ้น เขานำลาเทียมรถลากมาด้วย เมื่อขายของเสร็จก็จะได้ซื้อข้าวสารและเกลือกลับไปด้วย หากมีเงินเหลือก็จะได้ซื้อขนมไปฝากเด็กๆ
“ดูรีบร้อนเสียจริง นายพรานมู่มีธุระรึ?”
“ข้าต้องพานางไปซื้อเสื้อผ้า” เขาปรายตามองไปทางไป๋เซ่อที่ยืนมองรอบตัวด้วยท่าทีตื่นเต้น
“เสื้อผ้า?” หวงหลันมองหญิงสาวอีกครั้ง นางสวมเสื้อผ้าของบุรุษอยู่และเดาได้ไม่ยากน่าจะเป็นเสื้อของนายพรานมู่เอง “ถ้าไม่รังเกียจ ข้ามีเสื้อผ้าชุดเก่าของสาวใช้อยู่ เอาไปใส่ได้ จะได้ประหยัดเงิน เก็บเงินไว้ซื้อข้าวสารเลี้ยงเด็กๆ เถิด”
“แต่...”
“ได้...ข้าใส่ได้หมด” ไป๋เซ่อพยักหน้ารับราวเด็กน้อย “เก็บเงินไว้ซื้อข้าวสารเถิด เมื่อเช้าหงเซ่อก็บ่นว่าข้าวจะหมดแล้ว”
ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาถูกใจหวงหลันนัก นางคว้าข้อมือของไป๋เซ่อให้เดินตามไปด้านใน มู่ลี่หยางเดินตามแต่หวงหลันโบกมือไล่
“เจ้าขนของลงแล้วรอให้เถ้าแก่จางตรวจสินค้าก่อน”
“เอ่อ...”
“ข้าดูแลนางเอง ไม่ได้เอานางไปฆ่าไปแกงหรอก”
หวงหลันหัวเราะอย่างมีจริตแล้วพาไป๋เซ่อหายไปด้านใน
มู่ลี่หยางได้แต่มองตาม เขาไม่สะดวกเข้าไปด้านในเพราะเป็นเขตหวงห้าม จึงได้แต่ทำตามที่หวงหลันสั่ง ร่างกายสูงใหญ่กำยำแบกหามอย่างคล่องแคล่ว ผู้อื่นไหว้วานให้เขายกของหนัก เขาก็ทำให้โดยไม่อิดออด อาศัยว่าที่แห่งนี้รับซื้อของป่าที่เขานำมาขายโดยไม่กดราคาเหมือนที่อื่น สิ่งใดที่พอทำได้ เขาเต็มใจช่วย ทว่าครั้งนี้เขาเพียงแต่เป็นห่วงไป๋เซ่อ เกรงว่านางจะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองหรือผู้อื่น
“มีเรื่องใดรึ ปกติไม่เห็นเจ้าใจลอยเช่นนี้” เถ้าแก่เอ่ยถามอย่างเป็นกันเองขณะส่งพวงเงินให้มู่ลี่หยาง
“ข้าเป็นห่วง...น้องสาว”
“น้องสาว?” เถ้าแก่จางเลิกคิ้วประหลาดใจ “เจ้าพาเด็กๆที่บ้านหมอมู่มาด้วยรึ ข้าไม่เห็นผู้อื่น นึกว่าเจ้ามาเพียงลำพังจึงใช้งานเจ้าเกินเวลาไปมาก”
มู่ลี่หยางไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ทว่าหวงหลันก็เดินนำออกมา นางรู้ว่ามู่ลี่หยางชะเง้อมองหาหญิงสาวก็หัวเราะคิกคักแล้วเบี่ยงตัวให้ไป๋เซ่อก้าวออกมายืนด้านหน้า ไป๋เซ่อสวมชุดสาวใช้เรียบง่ายแต่ไม่อาจปกปิดความงามไร้เดียงสาได้ ริมฝีปากสีชาดคลี่ยิ้มราวกับเด็กน้อยได้ของถูกใจ แน่นอนว่าสตรีนางใดก็มักชื่นชมเสื้อผ้าสวยงามทั้งนั้น ในมือของนางยังมีเสื้อผ้าอีกสองชุดที่หวงหลันมอบให้
“นั่น...น้องสาวเจ้ารึ” เถ้าแก่จางถึงกับถามออกมาอย่างไม่เชื่อ
“ข้าเป็นน้องสาวของเขา” ไป๋เซ่อพยักหน้ายืนยัน แต่หวงหลันยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะ ไป๋เซ่อเอียงคอมองด้วยสีหน้างุนงงก่อนสบตากับมู่ลี่หยาง
“ข้าพูดอะไรผิดหรือ? หงเซ่อสอนข้ามาเช่นนี้จริงๆนะ”
“เจ้าพูดไม่ผิดหรอก” มู่ลี่หยางถอนหายใจ นางใสซื่อถึงเพียงนี้ถ้าขาดคนดูแลจะเป็นเช่นไร
“อ่อ...เข้าใจแล้ว” เถ้าแก่จางพูดขึ้นตามด้วยรอยยิ้ม คงเป็นคนที่หมอมู่ช่วยไว้เหมือนเด็กกำพร้าคนอื่นๆ เพียงแต่ครั้งนี้เป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง “เจ้าชื่ออะไรนะ”
“ไป๋เซ่อเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้ม
“ชอบเสื้อผ้าที่ข้าหรือไม่” หวงหลันเอ่ยถาม
“ชอบเจ้าค่ะ ชอบมาก” ไป๋เซ่อยิ้มกว้าง “ข้าไม่ต้องใส่เสื้อของพี่ลี่หยางแล้ว”
“แค่กๆ” มู่ลี่หยางถึงกับสำลักน้ำลายตัวเอง แล้วปรับสีหน้าครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “ขอบคุณแม่นางหวงหลัน”
“ขอบคุณแม่นางหวงหลัน” ไป๋เซ่อพูดตามมู่ลี่หยาง
“เจ้าทำอะไรอยู่ที่บ้านท่านหมอมู่รึ” เถ้าแก่จางถามแววตามีเลศนัย
ไป๋เซ่อเห็นแววตาเช่นนั้นแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาจึงขยับไปซ่อนกายอยู่ด้านหลังมู่ลี่หยาง หวงหลันหัวเราะร่าแล้วใช้พัดในมือตีต้นแขนเถ้าแก่จางเบาๆ
“เจ้าก็ทำให้เด็กกลัว”
“ข้าแค่ถาม...เผื่อนางอยากมาทำงานที่นี่”
“ทำงาน?” ไป๋เซ่อโผล่หน้ามาจากแผ่นหลังของมู่ลี่หยาง “ได้เงินหรือไม่”
“ทำงานก็ต้องย่อมได้เงินสิ” หวงหลันหัวเราะ
“ถ้า...ถ้าเช่นนั้น...”
“เจ้าไม่ต้องทำสิ่งใดทั้งสิ้น” มู่ลี่หยางเอ่ยเสียงดุทำเอาไป๋เซ่อสะดุ้งแล้วหดตัวกลับไปอยู่ด้านหลังเช่นเดิม
“ได้ๆ นางไม่ต้องทำสิ่งใดทั้งสิ้น” หวงหลันพูดล้อพรานหนุ่ม “แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็แวะมาที่ได้เสมอ”
“ขอบคุณ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ “ขอตัวลา”
“เดินทางดีๆล่ะ”
เถ้าแก่จางกับแม่นางหวงหลันเอ่ยขึ้นพร้อมกัน แต่ใบหน้ากลั้นหัวเราะ มู่ลี่หยางหมุนตัวเดินออกมาแต่เพราะคนข้างหลังเดินช้ามาก เขาจึงคว้าข้อมือข้างหนึ่งกึ่งลากกึ่งจูงให้เดินไปที่รถลากเทียมลาที่จอดอยู่ด้านหลัง เขาเห็นนางนิ่งไปจึงเอ่ยถาม
“มีเรื่องใดรึ”
“เอ่อ...พี่ลี่หยางไม่ชอบให้ข้ารับของจากแม่นางหวงหลันใช่หรือไม่” นางถามแต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบก็ก้มมองเสื้อผ้าที่ถือมาอย่างเสียดาย “เช่นนั้นข้าจะเอาไปคืน”
“เขามอบให้ด้วยน้ำใจ เจ้าก็รับไว้เถิด”
“ข้ารับไว้ได้จริงๆหรือ?”
“ได้”
“แน่นะ”
“อื้ม”
มู่ลี่หยางอ่อนใจแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้นาง เป็นรอยยิ้มที่ทำเอาไป๋เซ่อตาพร่าไปชั่วขณะ เขาเห็นนางเหม่อลอยก็กระแอมไอออกมา ไป๋เซ่อจึงได้สติแล้วส่งยิ้มกว้าง
“ข้าชอบ”
“ชอบอะไร”
“ชอบที่พี่ลี่หยางยิ้ม”
ถ้อยคำของนางทำเอามู่ลี่หยางชะงัก พลันสีหน้าค่อยๆ กลายเป็นแดงเรื่อจนเขาต้องหันหลังให้
“เจ้า...ขึ้นไปนั่งบนรถเถอะ ข้าจูงลาคนเดียวก็พอ”
“แต่ว่า...”
“กล้าดื้อกับข้ารึ”