บริณัยบอกกับตัวเองว่าเธอเมาเขาเลยต้องมาส่งเธอถึงห้องเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางแม้ว่านี่จะเป็นคอนโดของเธอก็ตาม ชายหนุ่มหญิงสาวเดินคู่กันมาเงียบ ๆ โดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาจนถึงหน้าประตูห้องของเธอ
“ขอบคุณนะคะ”
“ครับ…งั้นผมขอตัวก่อนนะ”
หลังจากที่เอ่ยลากันแล้วอารียากำลังจะปิดประตูชายหนุ่มกลับใช้มือดันประตูไว้เสียก่อน
“เอ่อ…”
บริณัยอึกอัก เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าทำอย่างนี้ไปทำไม เขารู้สึกเหมือนไม่อยากจะปล่อยเธอไป ทั้งคู่ประสานสายตากันนิ่ง
“อาย…ผม…เอ่อ…พรุ่งนี้ถ้าคุณไม่ไหวผมอนุญาตให้คุณลางานได้” เหมือนเขาจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจไม่ได้พูดตามที่คิด
“ขอบคุณค่ะ”
อารียาหลุบตาลงต่ำ สายตาที่เขาใช้มองมาในตอนนี้ทำให้เธอตัวร้อนผ่าวไปหมดและเกิดความคิดร้าย ๆ มากมายจนไม่กล้าสู้หน้าเขา แต่บริณัยกลับทันเห็นแววตาแสนเศร้าของเธอ ทันใดนั้นเขาจึงรวบตัวเธอเข้ามากอดไว้แนบอก แล้วโน้มหน้าลงประทับจูบที่ริมฝีปากอิ่มที่เขาหลงใหล
จูบคราวนี้ไม่ได้เพียงแตะผะแผ่วแล้วผละจาก แต่กลับลึกซึ้งเปิดเปลือยความปรารถนาซึ่งกันและกัน
อารียาแม้ไม่เคยจูบ แต่เมื่อเจอกับผู้ช่ำชองในเกมรักเช่นบริณัยก็คล้อยตามไม่ยาก อีกทั้งใจหนึ่งนั้น…เธอเต็มใจ…
ริมฝีปากอิ่มถูกดูดกลืนบดเคล้าตามแรงปรารถนาที่ถูกปลดปล่อยออกมา ยามที่ได้เจอหน้าเธอทุกวันบริณัยมีความคิดอยากทำแบบนี้กับเธอเป็นร้อย ๆ ครั้ง จินตนาการไปว่าปากสวยได้รูปนี้จะหวานสักแค่ไหน และตอนนี้เขาพบคำตอบแล้วว่าหวานมาก มากเหลือเกินจนทำให้ความยับยั้งชั่งใจเลือนหายไปหมดสิ้น เมื่อลิ้มรสความหวานจากภายนอกจนหมดสิ้นลิ้นสากก็สอดเข้าไปควานหาความหวานจากในโพรงปาก พัวพันลิ้นเล็กเล่น หยอกเย้า ดูดดึงอยากที่นึกอยากจะทำ
อารียาหัวใจเต้นแรงปั่นป่วน จูบเร่าร้อนจากคนที่ตนแอบชอบทำให้เธอหวามไหวไปหมด ใจเธอกำลังต่อต้านกันอย่างหนัก สมองกำลังรุกไล่บอกว่าควรจะพอได้แล้ว
แต่…อา…เธอรู้สึกดีเหลือเกิน
จนกระทั่งชายหนุ่มละจูบออกมาซุกไช้ใบหน้าลงกับซอกคอ ประพรมจูบไปตามโนมเนื้อที่โผล่พ้นเสื้อผ้า และโดยไม่ทันตั้งตัว บริณัยก็ช้อนตัวอารียาถือวิสาสะเดือนเข้าไปในห้องนอน เขาวางเธออย่างแผ่วเบาบนเตียงนอนแล้วตามไปทาบทับ