ขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้องทำงานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น บริณัยจึงหยิบมันขึ้นมาดูพอเห็นว่าใครเป็นคนโทรมาก็กดรับสาย
“ว่าไงครับริมา”
“เมื่อวานตกลงคุณได้เซ็นสัญญามั้ยคะที่รัก” เสียงหวาน ๆ จากเฌอริมาดังขึ้นจากปลายสาย
“สำเร็จเรียบร้อยดีครับ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มพอใจพร้อมกับเดินผ่านเข้าห้องไป
อารียามองดูท่าที รอยยิ้มของชายหนุ่มที่เธอเฝ้าฝัน กำลังคุยออกรสกับหญิงคนอื่นซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอเอง แม้จะรู้สึกเจ็บจนหัวใจสั่นไปหมด แต่เธอก็ต้องกลั้นใจ กล้ำกลืนความรู้สึกที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเอาไว้
“คิดอะไรอยู่อารียา” เธอพูดบ่นตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเอาข้อมูลที่วางไว้มาคีย์ลงคอมพิวเตอร์ตามหน้าที่ของตัวเอง
“เย็นนี้ ช่วยเลื่อนนัดให้ผมหน่อยนะอาย” บริณัยเดินออกมาพร้อมคำสั่งที่ทำให้อารียารู้สึกเจ็บอีกนิด
“ได้ค่ะคุณบลู”
เธอไม่ได้ถามอะไรเขาอีก เพราะรู้เต็มหัวใจว่าบริณัยคงยกเลิกนัดเพื่อไปเดตกับเฌอริมาแน่นอน แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเขาทั้งสองคนเป็นแฟนที่คบกัน ส่วนเธอเป็นแค่ลูกน้องเขา จะไปเรียกร้องอะไรได้ ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเขาเป็นแฟนเพื่อนรัก ไหนจะเรื่องที่เธอเคยได้ยินเฌอริมาพูดเรื่องความเร่าร้อนของทั้งสองคนบ่อย ๆ แม้จะอยากเดินหนีเรื่องราวที่ขยี้หัวใจเธอให้แหลกสลายมากแค่ไหน แต่เบื้องหน้าที่เธอสวมหน้ากากเพื่อนรักของอีกฝ่ายเอาไว้ เธอก็จำเป็นต้องจำใจฟังด้วยความเจ็บช้ำ
“เออ เรื่องเมื่อวาน...” บริณัยเกริ่นนำ ตั้งแต่เช้าเขาสังเกตกิริยาของเลขาสาวอยู่ตลอด แต่เธอกลับทำตัวได้เป็นปกติมาก ผิดกับเขาที่แม้ภายนอกจะวางตัวเรียบเฉยเพียงใด แต่ภายในกลับกระวนกระวายใจแทบบ้า
“เออ...ฉันขอโทษด้วยนะคะที่ต้องเป็นภาระให้คุณ”
เมื่อวานเธอจำได้ว่าไปกินข้าวกับเขา เธอดื่มไวน์ไปไม่มากแต่นั่นก็เพียงพอให้คนที่คออ่อนอย่างเธอเป็นทุนเดิมเมาได้แล้ว โชคดีที่เธอไม่ได้เมาแอ๋จนน่าเกลียด เธอเหมือนมีสติรับรู้แต่ก็ไม่ได้รับรู้ทุกอย่าง เหมือนเธอหลงลืมบางสิ่งบางอย่างไป ตอนเช้าตื่นมาอีกทีตัวเองก็นอนอยู่บนเตียงดังเช่นปกติ เธอจำได้แค่ว่าชายหนุ่มมาส่งเธอถึงคอนโด เขาเห็นว่าเธอเมาจึงขึ้นไปส่งที่ห้อง หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก