ตาสบตากันอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเปิดเปลือยโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยก็รับรู้ความรู้สึกของกันและกัน
อารียาส่งยิ้มให้เขา ยิ้มที่เต็มทั้งปากและตา ไม่ใช่ยิ้มที่เจือไปด้วยรอยเศร้าโศกที่ปิดไว้ไม่มิดอย่างทุกที
“คุณบลู คืนนี้อายฝันดีจังค่ะ” เธอเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างเปี่ยมสุข
“ฝันว่าอะไรครับ” เขาเอ่ยถามและเอามือลูบผมเธอไปด้วย จ้องมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เคยใช้มองผู้หญิงคนไหนมาก่อนแม้แต่คู่หมั้นตนเอง
“อายกำลังฝันว่าอายมีคุณบลูอยู่ตรงหน้าอายอย่างนี้ อายสามารถจับต้องคุณได้” เธอบอกพร้อมกับลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของชายในดวงใจ
สัมผัสของหญิงสาวและดวงตาสุกสกาวที่ฉายชัดถึงความสุขผิดกับในเวลาปกติที่เธอมักจะเลี่ยงมองหน้าเขาตรง ๆ
“อาย…ผมไม่อยากห้ามใจแล้วนะ”
“นี่เป็นความฝันของอาย อายรักคุณบลูได้แค่ในความฝัน”
สติเส้นสุดท้ายขาดผึงเพราะคำว่า ‘รัก’ คำเดียว ใจชายหนุ่มลิงโลดที่ได้ยิน มันทำให้รู้ว่าเธอเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับเขา
เขาก้มลงจูบปากหวาน ๆ อีกครั้ง แต่พอเคลื่อนใบหน้าลง จูบไล้ไปตามผิวกายหอมกรุ่น เขากลับต้องหยุดชะงักลงเพราะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
คนตัวเล็กใต้ร่าง เธอนิ่งมาก
บริณัยยกตัวขึ้นมาดู ปรากฏว่าเธอหลับไปเสียแล้ว เขาพลันได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ถึงกับถอนใจอย่างโล่งอก
เกือบไปเสียแล้ว...
“ผมขอโทษนะ”
บริณัยที่ไฟปรารถนากำลังลุกโชนแผ่วลงทันที แม้ร่างกายอันเย้ายวน ใบหน้าสวยงามของอารียาจะอยู่ใกล้เขาแค่เอื้อม แต่เขาก็ทำได้เพียงแต่หักห้ามใจเท่านั้น
เขามองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้ม แล้วก็ตัดใจลุกขึ้นมา แต่ก่อนจะก้าวขาออกจากห้องก็ยังไม่วายจัดแจงห่มผ้าให้เธอให้เรียบร้อย แล้วพาตัวเองออกไปอย่างเงียบ ๆ ไม่แน่ใจว่าหากอยู่นานกว่านี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่
คืนนั้นทั้งคืนบริณัยได้แต่ครุ่นคิดกับตัวเอง ใจหนึ่งกลับแสนยินดีเมื่อได้รับรู้ความในใจจากปากของเธอ คนเมามักไม่โกหก แต่อีกใจหนึ่งกลับรวดร้าว เขาจะมีผู้หญิงพร้อมกันถึงสองคนไม่ได้ และเฌอริมาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร
“คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” บริณัยลองถาม
“ฉันทำอะไรน่าเกลียดไปหรือเปล่าคะ” อารียาเป็นกังวลเพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็ปกติดีทุกประการ แม้ว่าเมื่อคืนเธอคงเมามากจนนอนทั้งชุดที่สวมใส่เสียอย่างนั้น
ไม่เลย...เขาอยากบอกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่น่าเกลียดเลยสักนิด แต่น่ารักเสียมากกว่า และมันก็มีอิทธิพลต่อหัวใจเขาจนกระทั่งถึงตอนนี้
“ไม่หรอกครับ คุณแค่เมาแล้วหลับเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นฉันค่อยเบาใจหน่อย” เธอส่งยิ้มและทำท่าโล่งใจ ไม่ได้ผิดสังเกตกับท่าทีบางอย่างของชายหนุ่มแม้แต่น้อย
“มีอะไรอีกรึเปล่าคะ” อารียาถามเพราะคิดว่าเจ้านายหนุ่มอาจจะต้องการสั่งงานอะไรเพิ่ม
“เปล่าครับ ผมไปทำงานต่อก่อนนะ” เขาผละออกจากหญิงสาวที่เหมือนจะเป็นพันธนาการที่คล้องความต้องการลึก ๆ ของเขา ออกมาได้สำเร็จ เพราะหากเขาหลงอยู่กับเธอนานอีกหน่อย ใจที่โลดแล่นไม่หยุดหย่อนนี้ คงลงมือทำบางอย่างเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาที่อัดแน่นจนเกือบล้นออกมาอย่างแน่นอน