เฌอลิณณ์พยักหน้าหงึก ๆ ปากของคุณสุดหล่อทาบประกบลงมา ความฝันของเธอเหมือนจริงจนแทบบ้า ลิ้นนุ่ม ๆ ที่กำลังต้อนรัดลิ้นของเธอก็เหมือนจริง เสียงจ๊วบจุ๊บนี่ก็ด้วย ทำไมเหมือนเกิดขึ้นจริง ๆ เลย บ้าไปแล้วเจ้าบ่าวแต่งงานอยู่กับเจ้าสาว จะมาดูดปากเธอตอนนี้ได้ยังไง นี่คือความฝันแน่ ๆ
“จุ๊บ...จุ๊บ อืม ผมไม่ไหวแล้ว”
“คะอารายไม่ไหว” คนถูกมอมเมาด้วยจูบแบบดูดดื่ม สมองมึนเบลอจนรับรู้อะไรไม่ได้อีกต่อไป
“ตรงนี้มันปวดปายหมด” ตรงนี้ที่เขาพูดถึงมันกำลังแข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
เฌอลิณณ์มองตามสายตาของเขาลงไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เผลอวางฝ่ามือทาบลงไปบนนั้นดู
“ว้าว แข็งมากจริง ๆ ด้วย ตรงนี้ของผู้ชายมานแข็งแบบนี้เองเหรอ” เธอทำหน้างงเอียงซ้ายขวาเหมือนคนไม่เคยจับของใครมาก่อน
“อยากเห็นไหม” อีกคนก็หลอกล่อเต็มที่
“อืม”
“เรามาถอดกานดีกว่า”
“อืม ถอดก็ถอด” ทั้งคู่ต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าให้กัน เข้าขั้นทุลักทุเลด้วยกันทั้งสองคน ก่อนจะไม่เหลืออาภรณ์สักชิ้นบนตัว
“หนาว ๆ ฝันอารายหนาวได้ด้วย” เฌอลิณณ์ยกท่อนแขนปิดหน้าอกเอาไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมาเป็นอันต้องตะลึง กับบางอย่างใจกลางตัวของเขา ที่มันกำลังเด้งตัวส่ายไปมา ล่อตาล่อใจของเธอเหลือเกิน
“มันดิ้นได้ด้วย” เฌอลิณณ์เอียงคอมองซ้ายทีขวาที ตามจังหวะการเคลื่อนไหวของสิ่งนั้น
“คุณคนสวยคูณสวยมาก” เขาชมตาปรือเยิ้มไม่ต่างไปจากฝ่ายหญิง ความฝันของเขามันสมจริงมาก จนเขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ผลักตัวหญิงสาวลงไปนอนบนเตียงเบา ๆ
“คุณคนสวยคืนนี้มาเป็นเจ้าสาวผมนะ”
“ได้ค่าคุณสุดหล่อ ชอบ ๆ เป็นเจ้าสาว อิอิ”
“เดี๋ยวก่อน ๆ นี่ ๆ แหวน ๆ อยู่หนาย” เขาลนลานลงไปหาแหวนในกระเป๋ากางเกง มาสวมให้กับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง
“พอดีเลย” กลทีป์ก้มลงไปจูบปากของคนด้านล่าง แต่ถูกอีกคนผลักออก ถอดแหวนแล้วปาทิ้งไป กิ๊ง...กริ๊งง...
“อ้าว ไหงทามงั้นล่ะคุณคนสวย”
“แหวนครายก็ไม่รู้ ถ้าคุณอยากให้แหวนฉานนะ คุณต้องรักฉานก่อน รู้เรื่องนะ” คนงอนทำตาคว่ำใส่เขา ตบแก้มเขาเบา ๆ ไปด้วย
“คร้าบ ๆ ได้คร้าบ” กลทีป์รับปากแล้วก็เงียบไป เพราะความงดงามตรงหน้าดึงดูดสายตาเขาอยู่ ก้มลงประกบปากจูบกับคนด้านล่าง ความหอมหวานคละเคล้าไปกับกลิ่นแอลกอฮอล์ สมองพร้อมกระโจนใส่กองไฟพิศวาสอย่างไม่กลัวตาย
“อืมม...อือ” จูบมันดีขนาดนี้เลยเหรอ เฌอลิณณ์เหมือนคนฝันไม่ยอมตื่น หลับตาเผยอริมฝีปากแลกลิ้นกับเขาอย่างดุเดือด เธอทำได้แค่ในฝันเท่านั้นแหละ ในชีวิตจริงเขาคือสามีของนภาวดีไปแล้ว
“อื้อทามอาราย” หญิงสาวสะดุ้งเพราะปากของเขา กำลังดูดยอดอกของเธอแบบเอาเป็นเอาตาย ทั้งเจ็บและรู้สึกอย่างอื่นร่วมไปด้วย
“กินนมงายคร้าบ” คนพูดยังไม่เงยหน้าขึ้น จากทรวงอกอวบหยุ่นทั้งสองข้าง
“ไม่เอามานเจ็บ”
“หืม ทำไมเจ็บล่ะ ตรงนี้มันม่ายเจ็บหรอก”
“บอกว่าเจ็บก็เจ็บสิ” คนเจ็บยอดอกเริ่มงอแง เนื้อตัวร้อนผะผ่าวขึ้นแบบแปลก ๆ พยายามจะดันตัวเขาออก
“นี่คุณสุดหล่อ”
“คร้าบ”
“คุณเอาอารายมาทิ่มขาฉัน มันร้อนปายหมดแล้วเนี่ย” เธอบ่นเพราะมันร้อนไปทั้งตัวจริง ๆ แต่เขาสิเอาแต่จูบไปทั่วเนื้อตัว ฝ่ามือก็ขยำไปทุกส่วนของร่างกาย เฌอลิณณ์หลับตาลงแน่น ๆ ไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป ปล่อยให้เรื่องราวนี้อยู่ในความฝันแสนหอมหวานนี้ต่อก็แล้วกัน
“จ๊วบ ๆ จุ๊บ ๆ” เขาจูบต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนถึงต้นขาขาวเนียนนุ่ม สายตาจดจ้องอยู่กับเนินเนื้อสาวที่กลีบดอกปิดสนิทแน่น ลองเอานิ้วแตะเบา ๆ อีกคนก็สะดุ้งสุดตัว ค่อย ๆ ลูบดอกตูมอย่างเบามือ ก่อนจะแทรกนิ้วเข้าด้านในอย่างช้า ๆ
“จะเจ็บ ไม่เอา ๆ” อีกคนก็ดิ้นพล่านไม่ยอมหยุด
“ไม่เจ็บ ๆ ผมจาทามเบา ๆ” กลทีป์ไม่รับรู้ความจริงของเรื่องนี้อีกต่อไป ด้านล่างเขาเจ็บหนึบไปหมด ความฝันนี้มันหอมหวานเกินกว่าที่เขาจะปล่อยให้หลุดมือไป มีแค่ตอนนี้เวลานี้ที่เขาพอจะเยียวยาจิตใจของตัวเองได้ จูบปิดปากคนด้านล่าง ดูดลิ้นเล็กที่เงอะงะไม่ประสา แต่กระตุ้นความอยากได้ดีเยี่ยม ดันท่อนขาเนียนนุ่มออกจากกัน จับท่อนลำจดจ่อ แล้วแทรกพรวดเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“อ๊า ! ฮึก ! มันเจ็บ !”
“ไม่รู้แล้วโว้ย” จะฝันหรือไม่ใช่ ช่างหัวมันแล้ว ตอนนี้กลทีป์ต้องการปลดปล่อยอย่างเดียว ขยับสะโพกเข้าใส่อย่างช้า ๆ ก่อนจะเริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“เจ็บนิดเดียว ๆ” ริมฝีปากก็จูบปลอบคนด้านล่างไปด้วย แต่เหมือนอีกฝ่ายจะปิดตาแน่นไม่อยากลืมขึ้นมาอีก ไม่ว่าเขาจะจับเปลี่ยนท่าไปทางไหน ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย
“คุณคนสวย”
“หืม”
“ยังเจ็บอยู่ไหม”
“มะ...ม่าย แต่ว่ามาน...อ๊ะ แปลก” คนที่บอกว่าแปลก กำลังจิกผมของเขาเอาไว้แน่น แอ่นอกให้เขาดูดดื่มอย่างถนัดถนี่ ฝันอะไรมันจะสมจริงได้เพียงนี้
“เรียกว่าเสียวจาดีกว่าคร้าบ”
“อือ” เนื้อตัวล่องลอยคล้ายฝันตามแต่เขาจะนำพา พอตื่นขึ้นมาทุกอย่างคงหายวับไป เฌอลิณณ์กอดเขาเอาไว้แน่น ๆ ใบหน้าเขาอยู่ใกล้แค่คืบ แต่ขยับเขยื้อนไม่ยอมหยุด ด้านล่างเธอเจ็บจนชาแต่ก็เสียวอย่างที่เขาบอกจริง ๆ เธอหลุดเสียงครางออกมาดัง ๆ เพราะไม่อาจต้านทานอารมณ์ใคร่ในฝันนี้ได้ ไม่ต่างไปจากเขา ที่ครางเสียงกระเส่าดังขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงที่ดังก้องอยู่ในความฝันของทั้งคู่นั้น
“ฮึก ๆ แฮ่ก ๆ”
“ม่ายอาวแล้ว”
“จาปายหนาย มานี่”
“อ๊ะ...อ๊า !”
“อืมม...ซีดดส์อ่าส์”
“ใกล้แล้ว ๆ”
“แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ”
“โอ๊ะโอ๊วว !”
ทุกอย่างเลือนรางลง ก่อนจะค่อย ๆ ดับวูบไปด้วยกันทั้งคู่
เสียงสายเรียกเข้าดังขึ้นไม่ยอมหยุด ตามด้วยเสียงนาฬิกาปลุกของเฌอลิณณ์ ทำให้คนบนเตียงเริ่มขยุกขยิกไปมา คนลุกก่อนคือกลทีป์ ตามด้วยเฌอลิณณ์ที่ลุกตามอย่างหงุดหงิด ทั้งคู่ค่อย ๆ หันไปมองหน้ากัน
โอ๊ะ ! ตกใจจนหันหน้าหนีไปคนละทาง ไม่มีใครขยับเขยื้อนตัวไปไหน เหมือนกำลังคิดว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้นมันคืออะไร เฌอลิณณ์มองสูทเจ้าบ่าวที่ตกอยู่บนพื้น แล้วหันไปมองหน้าเขาอีกรอบ
“ฉิบหายล่ะ” เธอหลุดคำพูดไม่น่าฟังออกมาอย่างขวัญเสีย เธอนอนกับเจ้าบ่าวของนภาวดี
อีกคนเสยผมขึ้นลวก ๆ กลทีป์จำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร แล้วมาอยู่ในห้องหอของเขาได้อย่างไร
“ไม่ได้ฝันเหรอ ! / นึกว่าฝัน !” เฌอลิณณ์กับกลทีป์โพล่งออกมาพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม ทั้งคู่เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้านี้เป็นอย่างดี
เฌอลิณณ์กวาดสายตามองดอกไม้ที่ประดับเต็มห้อง ห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด เธอลูบผ้าปูเตียงสีขาวระบายมุ้งมิ้ง กลีบดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนแซมขาว เกลื่อนเต็มพื้นห้อง นี่มันห้องหอชัด ๆ หน้าเริ่มซีดตัวเริ่มสั่น
“ฉันขอโทษค่ะคุณ ฉันไม่รู้ว่ามาอยู่ในห้องหอของคุณได้ยังไง ขอโทษจริง ๆ ค่ะ” พูดแล้วลนลานปีนลงจากเตียง
“โอ๊ย !” แต่ก็พลาดลื่นผ้าห่มลงไปกองอยู่บนพื้น
“สะโพกหักแล้วมั้งนี่” เธอปวดระบมไปทั้งตัว และยิ่งช่วงล่างด้วยแล้ว เหมือนผ่านมรสุมมาอย่างหนัก หืม มรสุมรักบนเตียงนอนอย่างเร่าร้อนเหรอ ความทรงจำบางอย่างพาดผ่านเข้ามาในหัว ไม่จริง เธอร้อนแรงกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ
“ผมคงทำแรงไป ผมขอโทษ” กลทีป์เข้าใจคำว่าสะโพกหักของอีกฝ่าย เขารื้อความทรงจำอันคลุมเครือได้แล้ว ยกฝ่ามือขึ้นลูบหน้าลงแรง ๆ
“ผมนึกว่าฝันอยู่”
“โอย ฉันก็นึกว่าฝันอยู่เหมือนกันค่ะ เอางี้ดีไหมคะ เราทำเหมือนเรื่องนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นได้ไหมคะ ฉันต้องถูกฆ่าแน่ ๆ ถ้าเกิดมีใครรู้ ว่าแอบมีอะไรกับเจ้าบ่าวของงานแบบนี้ โอย พ่อแม่คุณอากับญาติ ๆ อีก อ้าย ! งานงอก ๆ ยัยลิณณ์” แค่คิดก็สยองจนต้องยกมือตบหน้าตัวเองแปะ ๆ
‘ยัยลินเหรอ’ กลทีป์รู้ชื่อคนที่ตัวเองนอนด้วยแล้ว พอนึกตามคำพูดของหญิงสาว เขารู้สึกว่าเจ้าตัวน่าจะตกข่าวอะไรไป
“แสดงว่าเมื่อคืนนี้คุณไม่ได้อยู่ในงานสินะ” กลทีป์มองคนที่กำลังพยุงตัวเองพร้อมผ้าห่ม ขึ้นจากพื้นห้องอย่างทุลักทุเล มองเห็นรอยช้ำจ้ำแดงเต็มตัวไปหมด นี่เขาฟัดหญิงสาวจนช้ำไปทั้งตัวขนาดนี้เลยเหรอ แค่คิดหน้าก็ร้อนฉ่าขึ้นมา
“ฉันเมานิดหน่อยค่ะ เลยกะว่าจะมานอนในห้องพัก แต่ไหงมาอยู่ในห้องนี้ได้ก็ไม่รู้” พูดไปก็ควานหาชั้นในตัวน้อยของตัวเอง มาสวมใส่ใต้ผ้าห่ม ตามด้วยชุดเดรสแสนสวย โชคดีแค่ไหนที่มันยังสวมใส่ได้อยู่
“ผมว่าคงไม่ได้เมานิดหน่อยแล้วมั้ง แต่ช่างเถอะคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก” เขามองคนที่ค่อย ๆ สวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ
“ตายแล้วคุณ นี่ ๆ ปิดไว้ ๆ” เฌอลิณณ์ดึงผ้าห่มลงไปหมด เขาเลยนั่งเปลือยอยู่บนเตียง หญิงสาวรีบนำผ้าห่มกลับไปคลุมให้เขา ปิดส่วนที่ทำเธอหัวใจเต้นโครม ๆ เอาไว้ก่อน เลยถูกเขามองกลับด้วยสายตาเย็นชา
“เอ่อ ขอโทษอีกทีค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ” โค้งเร็ว ๆ ให้เขาแล้วรีบเปิดประตูเผ่นแน่บจากไปในทันที
“นี่คุณ ! จะทิ้งกันงี้เลยเหรอ” กลทีป์ตะโกนตามหลังไปดัง ๆ ไม่คิดว่าหญิงสาวจะชิ่งหนีกันไปดื้อ ๆ แบบนี้
ปัง ! เสียงประตูถูกกระแทบปิด ตอบคำถามเขาแล้ว
“ฮะ..ฮะ ฮ่า ๆ ๆ” กลทีป์หัวเราะคล้ายคนบ้า นี่มันห่าเหวอะไรกันวะ คงเป็นญาติฝ่ายเจ้าสาวแน่นอน เพราะเขาไม่รู้จักมาก่อน ตามหาตัวไม่ยากหรอก
“หืม” เขานิ่วหน้าเมื่อมองเห็นจุดสีน้ำตาลวงกว้างบนผ้าปูเตียง มองยังไงมันก็คือรอยเลือดจาง ๆ นั่นเอง นี่เขาเปิดซิงแม่สาว คนที่เพิ่งวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างนั้นเหรอ
“นี่มันบ้าไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ” มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเจ้าบ่าวดวงซวยแบบเขาด้วยเหรอ
ส่วนคนที่วิ่งหนีออกจากห้องมานั้น หัวใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไปตลอดทาง สมองพลันคิดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ
‘ซวยแน่ ๆ ยัยลิณณ์ ถูกทุกคนฆ่าแน่ ๆ’ เธอคิดไปตลอดทางที่กดลิฟต์ลงไปด้านล่าง
ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวหลังเห็นสภาพของตัวเองในกระจกลิฟต์ กระเซอะกระเซิงพร้อมรอยจูบเต็มตัวแบบนี้ คนรู้หมดว่าไปฟัดกับใครมาทั้งคืน รีบกดลิฟต์ขึ้นมาที่เดิมอีกครั้ง หากุญแจในกระเป๋าแล้วเข้าให้ถูกห้อง ดีที่เธอพกชุดทำงานมาเตรียมเปลี่ยนไว้ จัดการอาบน้ำเสียใหม่ ผมเผ้าจัดให้เข้าที่เรียบร้อย
แต่บรรยากาศในห้องโถงด้านล่างของโรงแรมนั้น ดูตึงเครียดเป็นอย่างมาก ญาติของเธอกับญาติฝ่ายเจ้าบ่าว ยังนั่งคุยกันอยู่ตรงนั้น แถมยังแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ไม่ยอมนั่งด้วยกันอีกด้วย ไม่พร้อมที่จะเจอหน้าใครเลยจริง ๆ หญิงสาวเดินหลบสายตาผู้คนไปที่ลานจอดรถ รีบขับกลับไปบริษัทอย่างรวดเร็ว พนักงานดีเด่นต้องเข้าแล้วไหมล่ะ เมาจนเสียตัวให้เจ้าบ่าว แต่หน้าด้านไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงร้องไห้ในใจดังกระซิก ๆ ไม่ยอมหยุด