bc

เจ้าบ่าวคนนั้น ฉันเคยแอบจอง

book_age18+
2.7K
FOLLOW
13.8K
READ
HE
sweet
bold
city
friends with benefits
assistant
like
intro-logo
Blurb

เฌอลิณณ์ถูกเชิญมางานแต่งงาน ของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง ก่อนหัวใจจะแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อพบว่าเจ้าบ่าวของวันนี้ คือผู้ชายที่เธอแอบหมายปองมาตลอดหนึ่งปีเต็ม ได้แต่แอบดีนักสวรรค์เลยลงทัณฑ์อย่างหนัก เธอคว้าแก้วไวน์ไปนั่งดื่มคนเดียวแบบเงียบ ๆ ทั้งที่เป็นคนคออ่อนดื่มนิดหน่อยก็เมา แต่คืนนี้มันน่าเมาให้หัวราน้ำนัก ซัดไปเสียหลายแก้ว...สุดท้ายภาพตัด ตื่นมาอีกทีพบตัวเองนอนอยู่บนเตียง เจ้าบ่าวนอนอยู่เคียงข้าง สภาพเปลือยล่อนจ้อนทั้งคู่ ฉิบหายไหมล่ะงานนี้...

+++ ตึ๊ง ! ประตูลิฟต์เปิดกว้างออก เฌอลิณณ์มุ่งหน้าไปยังห้องหมายเลขเก้า แต่ไขกุญแจเท่าไรก็ไขไม่ออกสักที สมองเริ่มจับภาพตรงหน้าได้แบบเบลอ ๆ

“มานอารายวะเนี่ย สรุปห้องหนายหว่า อุ๊ !”

‘ยัยภาจองไว้ทั้งชั้นเลยพักห้องไหนก็เหมือนกันแหละลูก’

คุณป้าคนหนึ่งพูดกับเธอแบบนี้ แปลว่าห้องไหนก็ได้สินะ คนเมาหันไปทางห้องที่อยู่ถัดไป ยังไม่ได้ไขกุญแจดูเลย แค่ลองหมุนลูกบิดดูบานประตูก็เปิดออกได้แล้ว

เฌอลิณณ์รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ คุกเข่าจับขอบชักโครก โก่งคออาเจียนแบบเอาเป็นเอาตาย อาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ถึงได้พยุงตัวลุกขึ้นมา บ้วนปากล้างหน้าล้างตาทว่าไม่สดชื่นขึ้นสักนิดเลย สมองหมุนเคว้งไปหมด ดื่มไม่เก่งซ้ำยังคออ่อนอีกต่างหาก ดันซัดไปเสียหลายแก้ว เธอแทบคลานออกมาจากห้องน้ำเพื่อปีนขึ้นเตียงนอน

‘ดอกไม้อารายวะเกะกะชะมัด’ เตะสิ่งพันแข้งพันขาทิ้งลงข้างเตียงไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าบ่าวสุดหล่อเดินโซซัดโซเซมายังห้องหอของตัวเอง มือหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไป อยากนอนหลับพักผ่อนเอาแรงเสียก่อน เหล้าที่กินเข้าไปไม่ช่วยให้เขาหายโกรธได้ ยิ่งไม่บรรเทาความร้อนในอก ที่แทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ นี้ได้

แต่แล้ว...เขาหรี่ตามองแม่สาวขาอ่อน โผล่พ้นกระโปรงเดรสบนเตียงนอนในห้องหอของตนเอง ไม่ใช่เจ้าสาวของเขาสักหน่อย แม่นี่เป็นใคร ความเมาทำให้เขาต้องขยี้ตาแรง ๆ อีกรอบ เขาตาลายจนมองเห็นผู้หญิงบนเตียงนอนหรือยังไงกัน เดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อดูให้ชัดว่าใคร

‘ครายวะหน้าคุ้น ๆ’

“นี่คุณ คุณคร้าบ” เขาแตะแก้มแดง ๆ ของคนบนเตียงเบา ๆ

“อือ อย่ากวนคนจานอน”

“คุณคร้าบนี่มันห้องผมนะ คุณเป็นครายเนี่ย เอิ้ก ! มานอนที่นี่ได้ยังงาย”

แปะ ๆ ตบแก้มไปอีกสองที

“โอ๊ย บอกว่าอย่างาย” คนหลับปัดมือทิ้งอย่างรำคาญ

“ไม่ตื่นผมจาปล้ำแล้วนะ” กลทีป์ถอดสูททิ้งลงข้างเตียง ปีนขึ้นไปคร่อมบนตัวหญิงสาว

เพียงเท่านั้นเจ้าตัวก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมามอง ดวงตากลมโตจ้องเขาตาแป๋ว ก่อนจะคลายรอยยิ้มนิด ๆ ตรงมุมปาก ยกมือขึ้นทาบหน้าเขาทั้งสองข้าง เอียงซ้ายเอียงขวาคล้ายคนโง่งม

“เอ๋ คุณสุดหล่อนี่เอง”

“ใช่คร้าบผมสุดหล่อเอง คุณนี่ตาถึงจริง ๆ ฮะฮะ” คนพูดตาประกายเยิ้ม มองคนด้านล่างแบบปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด

“ฉันฝานอยู่แน่ ๆ คุณสุดหล่ออยู่ตรงนี้ อืม ฝันแบบนี้มันดีจัง” เฌอลิณณ์คล้องท่อนแขนโอบรอบคอของเขาเอาไว้ นัยน์ตาหวานฉ่ำด้วยความรู้สึกดี ความฝันแบบนี้เธอไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม อีกทั้งลมหายใจยังอบอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ อิอิ เหมือนเธอไม่มีผิด

“คุณสุดหล่อคุณก็มาวเหรอคะ” เฌอลิณณ์ย่นจมูกทำเสียงอ้อแอ้ถามเขา

“คร้าบผมมาวมาก มาวจนเห็นคุณคนสวยอยู่บนเตียงด้วย” กลทีป์เองก็ไม่ได้ดีไปกว่าหญิงสาว

“คุณคนสวย บ้าน่า อิอิ ก็สวยจริงแหละค่า” แค่เขาบอกว่าเธอสวย เธอคงนอนตายตาหลับได้แล้วล่ะ ฝันอะไรกันทำเธอแก้มแทบแตกได้ด้วย

“งั้นเรามาทามอารายดี ๆ กันไหมคร้าบ”

“เยี่ยม !” เธอลดมือลงมายกนิ้วโป้งให้เขาทั้งสองข้าง จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังใส่กัน ก่อนที่เฌอลิณณ์จะน้ำตาคลอเบ้าเบะปากใส่เขาอย่างน้อยใจ

“เป็นอารายปายคร้าบคุณคนสวย” เขาป้ายคราบน้ำตาออกให้อย่างแปลกใจ ทั้งที่สติพร่ามัวไปหมด

“ฮะ...ฮรึก คุณสุดหล่อแต่งงานแล้วนี่คะ ฉันอุตส่าห์เฝ้ามองแอบจองคุณไว้ตั้งหนึ่งปี หนึ่งปีเลยนะ ฉันน่าจะบอกว่าฉันรักคุณ น่าจะพูดก่อนที่คุณจาแต่งงาน” นิ้วชี้จิ้มลงบนอกเขาแรง ๆ ส่งเสียงสะอื้นไห้เหมือนคนอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก

“ผมม่ายแต่งแล้ว”

“โกหก”

“จริง”

“ฮะฮึก” เฌอลิณณ์ส่ายหน้าไม่ยอมรับ

“คุณรักผมจริงเหรอคร้าบ”

“จริงสิจะโกหกทำมาย ฉันนะแอบมองคุณสุดหล่อที่ร้านกาแฟใต้ตึกทู้กวันเลย” ร้องไห้ไปก็ปวดหัวไปด้วย ความฝันเธอเหมือนจริงเกินไปไหม แม้แต่ตัวเขาก็ยังอุ่น

“แอบมอง หืม ได้ยินแล้วชื่นใจจัง แต่วันนี้ผมปวดใจมาก คุณคนสวยช่วยปลอบจายผมได้ไหม”

“อื้ม” ตอบแบบไม่ต้องคิด

“จูบได้ไหม”

เฌอลิณณ์พยักหน้าหงึก ๆ ปากของคุณสุดหล่อทาบประกบลงมา ความฝันของเธอเหมือนจริงจนแทบบ้า ลิ้นนุ่ม ๆ ที่กำลังต้อนรัดลิ้นของเธอก็เหมือนจริง เสียงจ๊วบจุ๊บนี่ก็ด้วย ทำไมเหมือนเกิดขึ้นจริง ๆ เลย บ้าไปแล้วเจ้าบ่าวแต่งงานอยู่กับเจ้าสาว จะมาดูดปากเธอตอนนี้ได้ยังไง นี่คือความฝันแน่ ๆ

“จุ๊บ...จุ๊บ อืม ผมไม่ไหวแล้ว”

“คะอารายไม่ไหว” คนถูกมอมเมาด้วยจูบแบบดูดดื่ม สมองมึนเบลอจนรับรู้อะไรไม่ได้อีกต่อไป

“ตรงนี้มันปวดปายหมด” ตรงนี้ที่เขาพูดถึงมันกำลังแข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

เฌอลิณณ์มองตามสายตาของเขาลงไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เผลอวางฝ่ามือทาบลงไปบนนั้นดู

“ว้าว แข็งมากจริง ๆ ด้วย ตรงนี้ของผู้ชายมานแข็งแบบนี้เองเหรอ” เธอทำหน้างงเอียงซ้ายขวาเหมือนคนไม่เคยจับของใครมาก่อน

“อยากเห็นไหม” อีกคนก็หลอกล่อเต็มที่

“อืม”

“เรามาถอดกานดีกว่า”

“อืม ถอดก็ถอด” ทั้งคู่ต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าให้กัน เข้าขั้นทุลักทุเลด้วยกันทั้งสองคน ก่อนจะไม่เหลืออาภรณ์สักชิ้นบนตัว

“หนาว ๆ ฝันอารายหนาวได้ด้วย” เฌอลิณณ์ยกท่อนแขนปิดหน้าอกเอาไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมาเป็นอันต้องตะลึง กับบางอย่างใจกลางตัวของเขา ที่มันกำลังเด้งตัวส่ายไปมา ล่อตาล่อใจของเธอเหลือเกิน

“มันดิ้นได้ด้วย” เฌอลิณณ์เอียงคอมองซ้ายทีขวาที ตามจังหวะการเคลื่อนไหวของสิ่งนั้น

“คุณคนสวยคูณสวยมาก” เขาชมตาปรือเยิ้มไม่ต่างไปจากฝ่ายหญิง ความฝันของเขามันสมจริงมาก จนเขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ผลักตัวหญิงสาวลงไปนอนบนเตียงเบา ๆ

“คุณคนสวยคืนนี้มาเป็นเจ้าสาวผมนะ”

chap-preview
Free preview
วิวาห์พาฝัน 1
1 วิวาห์พาฝัน ‘หมาคาบไปแดกของจริง’ เฌอลิณณ์ล้วงหยิบการ์ดงานแต่งในกระเป๋า ออกมาอ่านดูชื่อเจ้าบ่าวอีกรอบ กลทีป์ เปรมอนันตกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ บริษัทเปรมอนันต์จำกัด(มหาชน) ลูกชายคนโตของ นายอชิระ เปรมอนันตกุล ประธานกรรมการบริษัท กลทีป์เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นเขาทำงานอยู่ในบริษัทลูกที่ต่างประเทศ เขาค่อนข้างเก็บตัวทำงานอยู่บนยี่สิบชั้นห้า ขณะที่ฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เฌอลิณณ์ทำงานอยู่ชั้นสิบสอง โอกาสเจอกันนั้นแทบเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้ แต่ใครจะคิดล่ะว่า เธอกลับได้เจอกับกลทีป์ที่ร้านกาแฟใต้ตึกเป็นประจำ และแอบมองเขาอยู่ทุกวันตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรักด้วยซ้ำ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง “น้องคะขอพี่แก้วหนึ่ง” พนักงานเสิร์ฟหยุดอยู่กับที่ เพื่อให้หญิงสาวได้หยิบแก้วไวน์จากถาดในมือของตนเอง เฌอลิณณ์กระดกทีเดียวหมดแก้ว ก่อนจะคว้ามาอีกแก้วเดินออกจากห้องโถงจัดงานไป ใครมันจะไปทนมองคนที่ตัวเองแอบรักแต่งงานกับผู้หญิงอื่นได้ล่ะ เจ็บนี้ใครมันจะมาเข้าใจหัวอกของเธอ หญิงสาวปลีกตัวออกจากงานมานั่งอยู่ด้านนอก เห็นพนักงานเสิร์ฟเดินผ่านเธอก็กวักมือเรียก แก้วแล้วแก้วเล่าจนเมาได้ที่ สมองสั่งการให้กลับขึ้นไปนอนบนห้องของโรงแรมได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้หลับคาโต๊ะด้านนอกห้องโถงแต่งงานเป็นแน่ อึดใจหนึ่งมีเสียงคนกรูออกมาจากงาน ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย รีบสะบัดศีรษะขับไล่ความมึนเมา แต่ไม่เป็นผลเอาเสียเลย พยุงร่างที่กำลังโซเซได้ที่เดินไปกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นสิบเก้า ภายในลิฟต์เธอพิงศีรษะตรงผนังกระจก มือยึดราวจับเอาไว้แน่น ๆ เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เฌอลิณณ์ได้รับมอบหมาย ให้มางานแต่งของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง งานจัดขึ้นที่โรงแรมห้าดาวสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ คนเป็นพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกสาวต้องขับรถกลับบ้านดึกดื่น จึงฝากให้ญาติหาห้องพักในโรงแรมที่จัดงานแต่ง ให้เลือกโซนเดียวกันกับญาติคนอื่น เพื่อให้เฌอลิณณ์ได้พักค้างคืนที่นั่น “แม่คะลิณณ์ขับรถกลับเองได้ค่ะ ไม่ต้องไปรบกวนคุณอาเขาหรอก เขาต้องเตรียมงานแต่งยุ่ง ๆ กันอยู่” หญิงสาวไม่เห็นด้วยกับการค้างคืนในโรงแรมที่จัดงานแต่ง “ไม่เป็นไรหรอกลิณณ์ คุณอาวรภาเขาบอกว่าแล้ว ว่ายังไงต้องจัดห้องพักให้ญาติที่มาจากต่างจังหวัด เพิ่มมาอีกห้องได้แบบสบาย ๆ” นางปานใจโน้มน้าวลูกสาวคนเดียวให้ค้างกับญาติ ๆ ที่โรงแรม จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเดินทางตอนกลางคืนคนเดียว “ลิณณ์ยี่สิบแปดแล้วนะคะไม่ใช่สิบห้า” หญิงสาวทำหน้างอเง้าใส่ทั้งคู่ โรงแรมก็อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ไม่ได้เปลี่ยวอะไรเลย ทำไมต้องห่วงกันขนาดนี้ด้วย “เอาน่าลิณณ์ พ่อกับแม่เองก็ติดงานศพผู้ใหญ่ที่เคารพเสียด้วย ไม่อย่างนั้นคงได้ไปงานแต่งพร้อมลิณณ์แล้ว พักที่โรงแรมนั่นแหละนะ ไม่ต้องขับรถกลับบ้านมาดึก ๆ ดื่น ๆ หรอก” นายสุเมธให้เหตุผลลูกสาวพร้อมแสดงความเป็นห่วง “ทำเหมือนลิณณ์ไม่เคยกลับบ้านดึกดื่นเลยนะคะ” “ลิณณ์ถ้าลูกดื่มเหล้าไปสักแก้ว ก็น่าเป็นห่วงหมดนั่นแหละ” คนเป็นพ่อยิ้มอ่อนแบบคนเหนื่อยหน่ายใจเช่นนี้ มีหรือเฌอลิณณ์จะกล้าขัด เธอคออ่อนจริงนั่นแหละ “ก็ได้ค่ะค้างก็ค้าง” งานแต่งของนภาวดีซึ่งเป็นลูกสาว ของลูกพี่ลูกน้องของบิดาเธออีกที เป็นญาติที่ไม่ได้สนิทกันมากนัก จึงให้ลูกสาวอย่างเธอไปแทนได้ หญิงสาวเปิดการ์ดงานแต่งขึ้นมาอ่านดู กลทีป์ & นภาวดี เธออ่านแค่ชื่อไม่ได้ดูตรงนามสกุลตัวเล็ก ๆ ที่เขียนติดไว้ด้านล่าง ถ้าเห็นก่อนหน้าคงไม่เซอร์ไพรส์หนักขนาดนี้ คืนวันงานเฌอลิณณ์อยู่ในชุดชีฟองสีชมพูโรสโกลด์ เป็นเดรสแบบเปิดไหล่ใส่แขนพองทั้งสองข้าง ปล่อยผมสีน้ำตาลลอนหยักใหญ่เต็มกลางหลัง เธอเข้าไปทักทายคุณอาวรภากับสามีคุณอาเด่นภูมิ ที่ซุ้มประตูทางเข้า จากนั้นเข้าไปทักทายญาติผู้ใหญ่ทั้งหมด แม้จำได้ไม่ครบทุกคนก็ตามที เธอจำต้องปั้นหน้ายิ้มเข้าไว้ แทบไม่มีคนรู้จักของเธอเลยจริง ๆ จนกระทั่ง “อ้าวคุณลิณณ์มางานนี้ด้วยเหรอครับ” ศิวกรหัวหน้าแผนกฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของเธอ ทำไมเขาถึงมาอยู่ในงานแต่งแห่งนี้ได้ล่ะ “ค่ะหัวหน้า ลิณณ์มางานแต่งญาติค่ะ” “แล้วคุณลิณณ์เป็นญาติฝ่ายไหนเหรอครับ” “ฝ่ายเจ้าสาวค่ะ” เฌอลิณณ์ไม่ได้ถามเขากลับ คิดว่าเขาคงเป็นญาติฝ่ายเจ้าบ่าว “หลังจากวันนี้ไปคุณลิณณ์คงได้เป็นญาติกับผอ.ฝ่ายการตลาดแล้ว ยังไงได้ดิบได้ดีก็อย่าลืมหัวหน้าคนนี้นะครับ” ศิวกรทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย เพราะลูกน้องคนสวยของเขาคนนี้ ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย “พูดอะไรคะหัวหน้าลิณณ์ไม่เห็นจะเข้าใจ ว่าไปแล้วโต๊ะตรงโน้นหน้าคุ้น ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ” เฌอลิณณ์เพิ่งเห็นว่าตรงโต๊ะหน้าเวทีนั้น เหมือนจะเป็นผู้บริหารบริษัทที่เธอทำงานอยู่ทั้งหมด “ก็ผู้หลักผู้ใหญ่ของบริษัทเราทั้งนั้นแหละครับคุณลิณณ์” “จริงเหรอคะเนี่ย” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ เหมือนมีบางเรื่องที่เธอไม่รู้มาก่อน “อะไรกันคุณลิณณ์ อย่าบอกนะครับว่าคุณไม่รู้จริง ๆ เจ้าบ่าวคืนนี้คือผู้บริหารของบริษัทตัวเอง” ศิวกรทำตาโตตามลูกน้องไปด้วย “ก็จริงซิคะ ลิณณ์มางานแทนพ่อกับแม่ค่ะ ไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าบ่าวของงานเป็นใคร” พูดแล้วก็ชะเง้อคอมองดูคนโน้นทีคนนี้ที “คุณไม่ดูนามสกุลของเจ้าบ่าวเลยเหรอคุณลิณณ์” ศิวกรทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “ตัวเล็กแบบนั้นใครจะไปสังเกตเห็นล่ะคะ” ยังไม่ทันที่ศิวกรจะได้พูดต่อ มีบางคนในกลุ่มผู้บริหารยกมือส่งสัญญาณเรียกเขาแล้ว “งั้นผมขอตัวก่อนนะคุณลิณณ์ ต้องไปนั่งกับผู้บริหารคนอื่น ๆ เขา” “ตามสบายเลยค่ะหัวหน้า” เฌอลิณณ์มาไม่ทันตอนคู่บ่าวสาวถ่ายรูป บริเวณหน้าประตูทางเข้างาน เธอมัวแต่ไปทักทายญาติที่อยู่ในห้องโถงรวมก่อน ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ กะพริบ คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันแน่น เพราะเจ้าบ่าวที่เดินจูงมือเจ้าสาวขึ้นเวทีอยู่นั้น ช่างคุ้นตาเธอเหลือเกิน คิ้วเข้มจมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าหล่อเหลาปานดาราแถวหน้านั่น ใช่เขาคนนั้นจริง ๆ คุณสุดหล่อ คนที่เธอเฝ้าแอบมองเขามาตลอดหนึ่งปีเต็ม สถานการณ์ปัจจุบัน ตึ๊ง ! ประตูลิฟต์เปิดกว้างออก เฌอลิณณ์มุ่งหน้าไปยังห้องหมายเลขเก้า แต่ไขกุญแจเท่าไรก็ไขไม่ออกสักที สมองเริ่มจับภาพตรงหน้าได้แบบเบลอ ๆ “มานอารายวะเนี่ย สรุปห้องหนายหว่า อุ๊ !” ‘ยัยภาจองไว้ทั้งชั้นเลยพักห้องไหนก็เหมือนกันแหละลูก’ คุณป้าคนหนึ่งพูดกับเธอแบบนี้ แปลว่าห้องไหนก็ได้สินะ คนเมาหันไปทางห้องที่อยู่ถัดไป ยังไม่ได้ไขกุญแจดูเลย แค่ลองหมุนลูกบิดดูบานประตูก็เปิดออกได้แล้ว เฌอลิณณ์รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ คุกเข่าจับขอบชักโครก โก่งคออาเจียนแบบเอาเป็นเอาตาย อาเจียนจนหมดไส้หมดพุง ถึงได้พยุงตัวลุกขึ้นมา บ้วนปากล้างหน้าล้างตาทว่าไม่สดชื่นขึ้นสักนิดเลย สมองหมุนเคว้งไปหมด ดื่มไม่เก่งซ้ำยังคออ่อนอีกต่างหาก ดันซัดไปเสียหลายแก้ว เธอแทบคลานออกมาจากห้องน้ำเพื่อปีนขึ้นเตียงนอน ‘ดอกไม้อารายวะเกะกะชะมัด’ เตะสิ่งพันแข้งพันขาทิ้งลงข้างเตียงไป หนึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าบ่าวสุดหล่อเดินโซซัดโซเซมายังห้องหอของตัวเอง มือหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไป อยากนอนหลับพักผ่อนเอาแรงเสียก่อน เหล้าที่กินเข้าไปไม่ช่วยให้เขาหายโกรธได้ ยิ่งไม่บรรเทาความร้อนในอก ที่แทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ นี้ได้ แต่แล้ว...เขาหรี่ตามองแม่สาวขาอ่อน โผล่พ้นกระโปรงเดรสบนเตียงนอนในห้องหอของตนเอง ไม่ใช่เจ้าสาวของเขาสักหน่อย แม่นี่เป็นใคร ความเมาทำให้เขาต้องขยี้ตาแรง ๆ อีกรอบ เขาตาลายจนมองเห็นผู้หญิงบนเตียงนอนหรือยังไงกัน เดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อดูให้ชัดว่าใคร ‘ครายวะหน้าคุ้น ๆ’ “นี่คุณ คุณคร้าบ” เขาแตะแก้มแดง ๆ ของคนบนเตียงเบา ๆ “อือ อย่ากวนคนจานอน” “คุณคร้าบนี่มันห้องผมนะ คุณเป็นครายเนี่ย เอิ้ก ! มานอนที่นี่ได้ยังงาย” แปะ ๆ ตบแก้มไปอีกสองที “โอ๊ย บอกว่าอย่างาย” คนหลับปัดมือทิ้งอย่างรำคาญ “ไม่ตื่นผมจาปล้ำแล้วนะ” กลทีป์ถอดสูททิ้งลงข้างเตียง ปีนขึ้นไปคร่อมบนตัวหญิงสาว เพียงเท่านั้นเจ้าตัวก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมามอง ดวงตากลมโตจ้องเขาตาแป๋ว ก่อนจะคลายรอยยิ้มนิด ๆ ตรงมุมปาก ยกมือขึ้นทาบหน้าเขาทั้งสองข้าง เอียงซ้ายเอียงขวาคล้ายคนโง่งม “เอ๋ คุณสุดหล่อนี่เอง” “ใช่คร้าบผมสุดหล่อเอง คุณนี่ตาถึงจริง ๆ ฮะฮะ” คนพูดตาประกายเยิ้ม มองคนด้านล่างแบบปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด “ฉันฝานอยู่แน่ ๆ คุณสุดหล่ออยู่ตรงนี้ อืม ฝันแบบนี้มันดีจัง” เฌอลิณณ์คล้องท่อนแขนโอบรอบคอของเขาเอาไว้ นัยน์ตาหวานฉ่ำด้วยความรู้สึกดี ความฝันแบบนี้เธอไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม อีกทั้งลมหายใจยังอบอวลไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ อิอิ เหมือนเธอไม่มีผิด “คุณสุดหล่อคุณก็มาวเหรอคะ” เฌอลิณณ์ย่นจมูกทำเสียงอ้อแอ้ถามเขา “คร้าบผมมาวมาก มาวจนเห็นคุณคนสวยอยู่บนเตียงด้วย” กลทีป์เองก็ไม่ได้ดีไปกว่าหญิงสาว “คุณคนสวย บ้าน่า อิอิ ก็สวยจริงแหละค่า” แค่เขาบอกว่าเธอสวย เธอคงนอนตายตาหลับได้แล้วล่ะ ฝันอะไรกันทำเธอแก้มแทบแตกได้ด้วย “งั้นเรามาทามอารายดี ๆ กันไหมคร้าบ” “เยี่ยม !” เธอลดมือลงมายกนิ้วโป้งให้เขาทั้งสองข้าง จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังใส่กัน ก่อนที่เฌอลิณณ์จะน้ำตาคลอเบ้าเบะปากใส่เขาอย่างน้อยใจ “เป็นอารายปายคร้าบคุณคนสวย” เขาป้ายคราบน้ำตาออกให้อย่างแปลกใจ ทั้งที่สติพร่ามัวไปหมด “ฮะ...ฮรึก คุณสุดหล่อแต่งงานแล้วนี่คะ ฉันอุตส่าห์เฝ้ามองแอบจองคุณไว้ตั้งหนึ่งปี หนึ่งปีเลยนะ ฉันน่าจะบอกว่าฉันรักคุณ น่าจะพูดก่อนที่คุณจาแต่งงาน” นิ้วชี้จิ้มลงบนอกเขาแรง ๆ ส่งเสียงสะอื้นไห้เหมือนคนอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก “ผมม่ายแต่งแล้ว” “โกหก” “จริง” “ฮะฮึก” เฌอลิณณ์ส่ายหน้าไม่ยอมรับ “คุณรักผมจริงเหรอคร้าบ” “จริงสิจะโกหกทำมาย ฉันนะแอบมองคุณสุดหล่อที่ร้านกาแฟใต้ตึกทู้กวันเลย” ร้องไห้ไปก็ปวดหัวไปด้วย ความฝันเธอเหมือนจริงเกินไปไหม แม้แต่ตัวเขาก็ยังอุ่น “แอบมอง หืม ได้ยินแล้วชื่นใจจัง แต่วันนี้ผมปวดใจมาก คุณคนสวยช่วยปลอบจายผมได้ไหม” “อื้ม” ตอบแบบไม่ต้องคิด “จูบได้ไหม”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
26.0K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook