นับตั้งแต่วันนั้นพณิตพิชาก็เริ่มทำตัวห่างเหินจนพชรพงศ์เริ่มที่จะทนไม่ได้ ความเปลี่ยนที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของเขาและแฟนสาวเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่พี่ชายและแฟนสาวไปทานข้าวด้วยกัน เขาได้แต่สงสัย แต่ชายหนุ่มก็ไม่กล้าถาม ช่วงนี้ดูเหมือนพี่ชายจะหงุดหงิดจนใครๆ ก็เข้าหน้าไม่ติด
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่คนรักบอกปัดนัดทานข้าวกับเขา พชรพงศ์ได้แต่กังวลในความสัมพันธ์ของพวกเขา มีอะไรที่เขาหรือแฟนสาวไม่เข้าใจกันหรือ ทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้
“เป็นอะไรไปนะนายเล็ก”
“ก็ลูกแก้วสิครับพี่ใหญ่ บอกเลิกนัดวันนี้ของผมอีกแล้ว ผมทำอะไรผิดหรือครับพี่ใหญ่ ลูกแก้วถึงได้ทำกับผมแบบนี้”
พิชิตพงศ์ได้แต่ขบกรามแน่นจนน่ากลัว ยิ่งเห็นอาการของน้องชายเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งโทษว่าเป็นความผิดของพณิตพิชา หากเธอไม่ทำตัวสำส่อนมั่วไม่เลือกหน้าแบบนั้น เขาก็คงไม่เลือกวิธีที่จะกำจัดเธอออกไปจากชีวิตน้องชายเขาหรอก
“ฉันว่านายคิดมากไปหรือเปล่า พิชาอาจจะติดงานก็ได้นี่นา”
“ถึงจะเยอะแต่เขาก็น่าจะมีเวลาให้ผมบ้างสิครับพี่ใหญ่” เขาหันมามองพี่ชายด้วยความเจ็บปวด นับวันเขาและแฟนสาวจะยิ่งห่างกันไปทุกที “พี่ใหญ่ ลูกแก้วไม่ได้มีคนอื่นใช่ไหมครับ”
พิชิตพงศ์ได้แต่แอบสงสารน้องชาย เขาจะทำยังไงดีเพื่อให้น้องชายรู้ความจริงแล้วตัดใจจากพณิตพิชาได้เสียที เห็นทีเขาคงต้องให้ลูกน้องคอยสืบอีกทางหนึ่งว่าแต่ละวันเธอไปไหนบ้าง
“เอาไว้ฉันจะให้ลูกน้องไปสืบให้นายละกันว่าพิชามีใครหรือเปล่า นายก็อย่าคิดมาก แล้วถ้าพิชามีคนอื่นจริงๆ นายจะทำยังไง”
พชรพงศ์ได้แต่นิ่งไปกับคำถามของพี่ชาย นั่นสิ! หากแฟนสาวมีคนอื่นแล้วเขาจะทำยังไง เขาจะทำใจให้ยอมรับสภาพนั้นได้ไหม แต่หากมันเป็นจริงก็ยังดีกว่าการที่ปล่อยให้เขาเจ็บปวดทรมานอยู่แบบนี้
“ฉันว่านายลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วทานข้าวบ้างก็ดีนะ ดูสิสภาพนายดูไม่ได้เลย อะไรกันผู้หญิงแค่คนเดียวกลับทำให้นายเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“ผมรักลูกแก้วมากนะพี่ใหญ่”
“แล้วพิชารักนาย...อย่างที่นายรักหรือเปล่า”
“เมื่อก่อนผมคิดว่าลูกแก้วรักผม แต่ตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน ผมรู้สึกว่าระหว่างผมกับลูกแก้วนับวันเราสองคนยิ่งห่างกันออกไป”
“ฉันว่านายอย่าคิดมาก เดี๋ยวฉันให้กรรชัยกับนาราไปสืบดูก็แล้วกันว่าตอนนี้พิชากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ นายไม่ต้องเป็นห่วง อีกสองวันฉันจะให้คำตอบนาย แล้วเราจะได้รู้กันเสียทีว่าเพราะอะไรลูกแก้วถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้”
“ขอบคุณครับพี่ใหญ่” พชรพงศ์ได้แต่ขอบคุณในความหวังดีและเป็นห่วงของพี่ชาย โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าปัญหาทั้งหมดมันเป็นเพราะแผนการของพิชิตพงศ์นั่นเอง
///////////
“กลับบ้านถูกแล้วเหรอลูกแก้ว”
พิมพ์นาราเอ่ยถามเมื่อเห็นพี่สาวเดินถือของเข้ามาภายในบ้าน เธออุตส่าห์ดีใจที่พณิตพิชาออกไปจากบ้านได้ แล้วนี่มันอะไร หันหลังยังไม่ถึงครึ่งปีเลยเธอก็เห็นเธอกลับมาบ้านแล้ว
“พี่มาเยี่ยมคุณพ่อ แล้วนี่คุณพ่ออยู่ที่ไหนเหรอน้ำ”
“คุณพ่อนั่งทำงานอยู่ คงไม่ว่างมาคุยกับลูกสาวนอกคอกอย่างเธอหรอกนะลูกแก้ว”
“น้ำ!”
พณิตพิชาหันไปมองน้องสาวด้วยความตกใจ เพียงไม่กี่เดือนน้องสาวเธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรือบิดาเธอไม่ว่าเอาหรือไงที่ลูกสาวสุดที่รักอย่างพิมพ์นาราแต่งตัวโป๊แบบนี้ กางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามตัวบาง หญิงสาวได้แต่คิดอย่างหวาดเสียว หากน้องสาวเธอออกไปจากบ้านด้วยสภาพแบบนี้มีหวังได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน
“ทำไม? น้ำพูดผิดตรงไหน ไม่ได้เรื่องอย่างลูกแก้วจะมาสนใจอะไร น้ำว่าลูกแก้วกลับไปเถอะ คุณพ่อท่านไม่ว่างมาคุยกับลูกแก้วหรอก”
“น้ำทำไมพูดแบบนั้น พี่ก็เป็นลูกคุณพ่อเหมือนกัน การที่พี่มาเยี่ยมคุณพ่อมันผิดตรงไหน”
“ผิดสิลูกแก้ว เพราะคุณพ่อเคยบอกน้ำว่าลูกแก้วไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ แต่เป็นลูกติดท้องของคุณแม่มา”
“น้ำ! ทำไมพูดกับพี่แบบนั้น”
เสียงคุณพิชัยดังมาจากด้านหลัง ท่านยืนฟังการสนทนาของลูกสาวทั้งสองอยู่นานแล้ว รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ท่านเคยทำลงไป ท่านสบตาลูกสาวคนโตแล้วก็ใจหาย
“ก็มันจริงนิคะ คุณพ่อเคยบอกน้ำเองว่าลูกแก้วไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ แต่เป็นลูกของผู้ชายคนอื่น”
พิมพ์นาราหันมาเตือนความทรงจำของบิดา หญิงสาวจำได้ขึ้นใจเลยว่าบิดาเคยพูดให้เธอฟังว่าพณิตพิชาไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของท่าน มีเพียงเธอคนเดียวที่เป็นทายาทของศิริไพบูรณ์โดยชอบธรรม
พณิตพิชามองไปยังบิดาด้วยความเจ็บปวด เพราะเหตุนี้เองหรอกหรือบิดาถึงได้ทำกับเธอแบบนั้น หลายปีที่ผ่านมาท่านคิดว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของท่านนี่เอง มิน่าล่ะ...ทุกครั้งที่เธอเข้าไปหาพูดคุยกับท่าน ก็มักจะตอบเธอว่าท่านไม่ว่าง กำลังทำงานอยู่ มีอะไรก็เอาไว้คุยวันหลัง แต่หากเป็นพิมพ์นารา ท่านก็จะว่างเสมอ
คุณพิชัยได้แต่เจ็บปวดกับสายตาตัดพ้อคู่นั้น ใบหน้าหวานนั้นซีดจนท่านเองก็ตกใจ มันดูไม่มีความสดใสเอาเสียเลย ท่านละสายตาจากลูกสาวคนโตหันไปมองลูกสาวคนเล็กด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน หากท่านไม่พูดเรื่องนี้ให้ลูกสาวคนเล็กฟังก็คงดี ไม่ต้องมานั่งเจ็บปวดกับสิ่งที่ท่านทำผิดพลาดไป
“พอเถอะน้ำ พ่อขอคุยกับลูกแก้วหน่อย” ท่านพูดกับลูกสาวคนเล็กด้วยน้ำเสียงเข้ม “ขึ้นไปคุยกับพ่อบนห้องทำงานดีกว่าลูกแก้ว”
“คุณพ่อ” พิมพ์นาราถึงกับไม่พอใจกับคำพูดของบิดา ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาท่านไม่เคยทำแบบนี้กับเธอต่อหน้าพณิตพิชาเลย แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านถึงทำแบบนี้กับเธอ
“พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกแก้ว อย่าให้พ่อต้องหนักใจไปกว่านี้เลยน้ำ ไปเถอะลูกแก้ว พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกหลายเรื่องเลย”
“ค่ะคุณพ่อ งั้นเดี๋ยวลูกแก้วเอาของไปเก็บก่อนนะคะ” พณิตพิชายกของฝากที่เธอถืออยู่ให้บิดาดู
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพ่อให้หวานมันเอาไปเก็บก็ได้” คุณพิชัยบอกลูกสาวก่อนจะหันไปมองทางด้านหลัง พร้อมกับตะโกนเรียกสาวใช้ “หวาน... มาช่วยเอาของนี่ไปเก็บหน่อย”
“ค่ะคุณท่าน” หวานรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาหยุดตรงหน้านายสาว เธอก็คิดถึงคุณหนูของเธอเหมือนกัน ตั้งแต่หญิงสาวออกไปจากบ้านหลังนี้ อะไรๆ ก็ดูเงียบไปเสียหมด ไม่มีเสียงหัวเราะของนายสาวคนนี้อีก ยิ่งทำให้พวกเธอคิดถึงกันไม่น้อยเลย
“ขอบใจจ้าพี่หวาน” พณิตพิชาส่งของฝากให้สาวใช้ ก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้ “พี่หวานสบายดีหรือคะ แล้วป้ามะลิไปไหนหรือคะ วันนี้ ลูกแก้วยังไม่เห็นป้าแกเลย”
“ป้ามะลิแกทำอาหารอยู่ในครัวนะคะ วันนี้แกลงมือทำกับข้าวเองเลยค่ะ พอรู้ว่าคุณลูกแก้วมา”
“แล้วป้ามะลิรู้ได้ยังไงคะว่าลูกแก้วจะมา”
“พ่อเป็นคนบอกให้ป้ามะลิเองแหละว่าวันนี้ลูกแก้วจะมาทานข้าวกับพ่อ” คุณพิชัยไขข้อข้องใจให้ลูกสาว “ไปเถอะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกแก้วหลายเรื่องเลย”
“ค่ะคุณพ่อ” พณิตพิชาเดินตามบิดาขึ้นไปบนห้องทำงาน หญิงสาวได้แต่สงสัยอยู่ในใจว่าวันนี้บิดาจะคุยเรื่องอะไรกับเธอกัน เพราะเท่าที่ผ่านมาท่านไม่เคยขอคุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่องงาน หรือว่าปรึกษาคุยเรื่องส่วนตัวเลย
ด้านพิมพ์นาราได้แต่มองบิดาและพี่สาวเดินตามกันไปอย่างไม่พอใจ นับวันบิดาก็จะยิ่งทำตัวเหินห่างกับเธอไปทุกวัน ท่านไม่คุยเล่นกับเธอเช่นทุกครั้ง ตอนนี้เวลาเธอเจอหน้าบิดาก็มีแต่เรื่องงานที่บริษัท แล้วก็บ่นเรื่องที่เธอเที่ยว เพียงเท่านั้นที่ท่านพูดกับเธอ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...