เกมรัก ลิขิตสวาท EP.01
ณ...ผับแถวรัชดาฯ...
“น้ำ ฉันว่าเรากลับบ้านกันได้แล้วนะ นี่ก็ดึกแล้ว คุณลุงจะเป็นห่วง” ชายหนุ่มบอกอย่างเป็นห่วง นึกกังวลสารพัด นี่ถ้าคุณลุงพิชัยรู้ว่าลูกสาวคนเล็กทำตัวแบบนี้ ท่านยังจะรักอยู่อีกไหม
“จะรีบกลับไปทำไม วันนี้คุณพ่อไม่อยู่บ้าน”
“แล้วท่านไปไหน ปกติท่านไม่ออกไปสังสรรค์ที่ไหน ไม่ใช่เหรอ?”
“พ่อฉันไปดูงานที่ต่างจังหวัดเมื่อช่วงเย็น ที่บ้านก็เหลือแต่ลูกแก้ว”
พิมพ์นารากล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย จะว่าไปแล้วเธอกับพณิตพิชาเป็นพี่น้องคลานตามกันมาได้อย่างไร พี่สาวเธอมันโง่ ซื่อบื้อ ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไม่เหมือนเธอที่เรียนก็เก่งกว่า สวยกว่า ทำอะไรก็ดูจะเก่งไปเสียหมด เพราะแบบนี้ไงบิดาถึงรักเธอมากกว่าพี่สาวซื่อบื้อ อ่อนแอ แค่คิดก็เบื่อไม่อยากกลับบ้าน
“แต่นี่มันดึกแล้วนะน้ำ ถึงคุณพ่อจะไม่อยู่ แต่ลูกแก้วคงจะเป็นห่วงน้ำ ฉันว่าเรากลับกันเถอะ”
“อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน ถ้าคุณไม่ไปกับฉัน ก็กลับบ้านไปเลย ไป๊!”
พิมพ์นาราหันมาแหวเพื่อนสนิทด้วยความไม่พอใจ เธอล่ะเบื่อ ทำไมทุกคน ถึงได้งี่เง่ากันไปหมด เธอเบื่อจะแย่อยู่แล้วที่ต้องทำตัวเป็นคุณหนูจอมเรียบร้อย น่ารัก ทำตามกฎระเบียบของบ้านที่บิดาตั้งเอาไว้ พี่สาวเธอทำได้ แต่เธอทำไม่ได้ เธอควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ชีวิตที่เธอเลือกเองได้ ไม่ใช่ให้ใครมาคอยบงการ
“แล้วนั่นน้ำจะไปไหน น้ำ!” ภัทรพลตกใจรีบตะโกนเรียกเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง ยิ่งการแต่งตัวที่มันล่อแหลมด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นห่วง
“เรื่องของฉัน”
“จะไปไหนน้ำ!” ชายหนุ่มยกมือขึ้นไปจับแขนบางด้วยความเป็นห่วง ‘ดูสิ...เมาแบบนี้แล้ว แต่ยังบ้าไม่ยอมหยุด นี่ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งจะตีให้ตายเลย โชคดีแค่ไหนที่ผู้หญิงที่เขารักไม่มีนิสัยแย่ๆ แบบนี้’
ภัทรพลแอบคิดในใจอย่างดูถูก พิมพ์นารามีทุกอย่าง หญิงสาวได้ทั้งเงินทอง ความรัก ความห่วงใย การดูแลเอาใจใส่อย่างกับไข่ในหิน แต่ทำไมทำตัวได้น่าเกลียดแบบนี้ ไม่รักนวลสงวนตัวอย่างที่ลูกผู้หญิงคนทุกคนควรจะเป็น เที่ยวระเริงไปกับแสงสีในกรุงเทพฯ ซึ่งต่างจากพณิตพิชาผู้เป็นพี่สาว รายนั้นไม่เคยได้รับความรัก การดูแลเอาใจใส่จากผู้เป็นบิดาเลยด้วยซ้ำ เงินทองก็ไม่ได้ใช้เหมือนน้องสาว
พิมพ์นาราบอกว่าบิดาให้เงินเธอกับพี่สาวไม่เท่ากัน เดือนหนึ่งเธอจะได้เงินประมาณสองถึงสามแสนบาท แต่พี่สาวเธอได้แค่เดือนละหนึ่งแสนบาท แถมเธอยังให้เหตุผลกับเขาอีกว่าเธอจะออกงานสังคมบ่อยๆ ไปทำรายงาน เดินเที่ยว ชอปปิ้งเดือนละสองถึงสามแสนบาทยังถือว่าน้อยเลย แต่สำหรับพณิตพิชาเดือนละแสนก็ถือว่าเยอะแล้ว เพราะรายงานที่ทำคงไม่เท่าไร เนื่องจากเรียนคนละคณะกับเธอ เที่ยวก็ไม่เที่ยว งานสังคมก็ไม่ค่อยจะออก จนคนทั่วไปคิดว่าบิดาเธอมีลูกสาวคนเดียวเสียอีก
พอฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็ได้แต่สงสารพี่สาวของพิมพ์นารา ไม่เข้าใจว่าหญิงสาวทนให้น้องสาวจอมหยิ่งยโสอย่างพิมพ์นารากดขี่มาได้ยังไง ในเมื่อพวกเธอทั้งสองคนก็เป็นพี่น้องกัน แต่จากที่เขารู้ ถ้าคุณพิชัยไม่ให้ท้ายลูกสาวคนเล็กเหตุการณ์แบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้น
“ฉันถามว่า...จะไปไหนน้ำ นี่มันดึกมากแล้วนะ” ถามย้ำอย่างไม่พอใจ อยู่ๆ ร่างบางที่กำลังเดินก็หยุดชะงัก สะบัดมือให้หลุด หันมาแหวด้วยความโกรธ
“มันเรื่องของฉัน ถ้าไม่ไปก็อย่ามาห้าม นานๆ ทีได้ปลดปล่อยแบบนี้ เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องรีบกลับเข้าบ้าน”
“แต่ฉันเป็นห่วงแกนะ แกเป็นผู้หญิงมันอันตราย” ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเซ็งๆ
“อีกอย่าง...ดูสิแกแต่งตัวแบบนี้มันอันตรายมากเลยรู้ไหม ที่เตือนเพราะเป็นห่วง”
“ทำไม!? ฉันจะแต่งแบบนี้แหละ”
“ทำไม? นายหึงฉันเหรอ”
“จะบ้าเหรอน้ำ เราเป็นเพื่อนกันนะ”
ภัทรพลตะคอกใส่พิมพ์นาราด้วยความโกรธและดูถูก เขาคบกับพิมพ์นารามาเกือบสี่ปี เรียนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ผู้หญิงอย่างพิมพ์นาราไม่มีทางที่เขาจะรักได้หรอก คนที่เขารักคือพณิตพิชาต่างหาก ผู้หญิงที่น่ารัก เรียบร้อย แสนดี ผู้เป็นพี่สาวของพิมพ์นาราต่างหากที่เขารัก
“ฉันแค่ล้อเล่น นายมาตะคอกทำไม บ้าหรือเปล่า ฉันไม่มีทางรักนายหรอก คนที่ฉันรักจะต้องรวย หล่อ จบจากนอกย่ะ...” หญิงสาวพูดใส่หน้าเพื่อนสนิทอย่างไม่พอใจที่โดนชายหนุ่มตะคอกใส่ คนอย่างเธอนะเหรอที่จะรักภัทรพล เธอยอมรับว่าภัทรพล หล่อ รวย เพียงแต่เรียนจบเมืองไทย แถมยังเรียนจบที่เดียวกับเธออีก
“ก็ดีแล้วที่น้ำไม่รักฉัน เพราะฉันมีคนที่รักอยู่แล้ว” เขาพูดออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าพิมพ์นาราไม่ได้คิดอะไรกับเขามากกว่าความเป็นเพื่อน
“คิดอะไรไม่เข้าท่า”
พิมพ์นาราพูดขึ้น ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า โดยไม่สนใจเพื่อนสนิทที่ยืนมองเธออย่างไม่สบอารมณ์
ไม่รู้เขาทนคบกับพิมพ์นารามาได้ยังไงตั้งสี่ปีกว่า ผู้หญิงแบบพิมพ์นารานี่แหละที่เขาน่าจะอยู่ให้ห่างๆ แต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะคนที่เขารักเป็นพี่สาวของเธอ ‘ถ้าฉันไม่รักลูกแก้ว ฉันไม่มีทางคบผู้หญิงอย่างเธอเป็นเพื่อนหรอกน้ำ ผู้หญิงนิสัยแย่ๆ คอยแต่จะทำร้ายพี่สาวตัวเอง คอยที่จะเหยียบย่ำ ดูถูก ทำให้พี่สาวร้องไห้ ผู้หญิงแบบเธอน่ะไม่สมควรที่จะเป็นภรรยาใครหรอก เป็นได้อย่างมากก็แค่คู่นอนชั่วคราวเท่านั้น’ นี่ถ้าบ้านศิริไพบูรณ์ไม่มีกฎระเบียบมากมายเขาคงเข้าถึงตัวพณิตพิชาได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ห่างเหินกันแบบนี้ ภัทรพลหวังว่าจะได้เจอคนที่เขาแอบหลงรักออกมาเดินเล่นบ้างในวันหยุดพักผ่อน แต่เปล่าเลย เขาไม่เคยได้เจอหญิงสาวเลย ตั้งแต่คบกับพิมพ์นาราเขาได้เจอพณิตพิชาแค่ไม่กี่ครั้งเองในระยะสี่ปี พอถามพิมพ์นาราเขาก็ได้คำตอบที่ฟังแล้วก็อดภูมิใจในผู้หญิงที่เขารักไม่ได้
“ลูกแก้วกำลังช่วยป้ามะลิทำอาหารอยู่ในครัว หมายถึงป้ามะลิสอนลูกแก้วทำอาหารนะ ลูกแก้วเขาทำอาหารไม่เป็น คุณพ่อเลยสั่งให้ป้ามะลิสอนลูกแก้วทำอาหาร แต่น้ำไม่ทำหรอกนะ เพราะกลิ่นมันเหม็น ยี้! สกปรก กลิ่นติดตัว น้ำมีหน้าที่ทานอย่างเดียวดีกว่า ปล่อยให้ลูกแก้วหัดทำไปเถอะ”
ภัทรพลคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนแล้วก็อดยิ้มกับความน่ารักของพณิตพิชาไม่ได้ หญิงสาวหัดทำอาหารเหรอ เขาว่าไม่ใช่หรอก เธอเข้าไปช่วยป้ามะลิทำอาหารเสียมากกว่า ชายหนุ่มยืนมองพิมพ์นาราขึ้นรถก่อนที่หญิงสาวจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เขาได้แต่ส่ายหน้าด้วยความไม่พอใจ
“ฉันคงไม่ตามเธอไปหรอกนะน้ำ แกเลือกเส้นทางนี้เอง ฉันก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แกโชคดีได้เกิดมาในครอบครัวที่ดี อบอุ่น ร่ำรวย แต่กลับทำตัวเองให้ตกต่ำ พี่แกสิกลับไม่เคยได้เคยมีในสิ่งที่แกมี อย่าว่าเลยแค่รถพี่สาวแกยังไม่มี แถมที่น่าสงสารที่สุดพี่สาวแกไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย แต่พี่สาวแกก็ยังเรียบร้อย สุภาพ รักษากฎของบ้านอย่างเคร่งครัด มีแต่แกนี่แหละที่ทำตัวแย่ๆ คุณลุงพิชัยตาบอด รักลูกนิสัยไม่ได้เรื่องอย่างแกได้ยังไงกัน”
แล้วชายหนุ่มก็บ่นพึมพำออกมาเสียยืดยาว ก่อนหันหลังกลับเดินตรงไปยังรถเก๋งคันงาม สตาร์ทรถขับตรงไปยังถนนใหญ่ ตบไฟเลี้ยวเข้าเลนซ้ายขับตรงมุ่งสู่บ้านแถวสุขุมวิท
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...