ประตูห้องทำงานของท่านรองประธานถูกเปิดออกด้วยเลขาหน้าห้อง พร้อมกับสาวเท้าเข้ามาพร้อมกับแขกคนสำคัญของน้องชายเจ้าของบริษัท
“สวัสดีค่ะคุณใหญ่” พณิตพิชาหันมายกมือไหว้พิชิตพงศ์อย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปทางแฟนหนุ่ม “ขอโทษที่มาช้านะคุณเล็ก พอดีลูกแก้วติดธุระนิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกลูกแก้ว นี่ก็ยังไม่เที่ยงเลยนี่นา”
“ไม่เจอกันนานเลยนะพิชา” พิชิตพงศ์ก้มลงมาสำรวจพณิตพิชาเหมือนกับเขาไม่อยากเชื่อตัวเอง และในสิ่งที่เขาได้เห็นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่เขาเห็นในผับกับวันนี้มันต่างกันจบแทบจำไม่ได้ ผู้หญิงที่เขาเห็นวันนี้แต่งตัวมิดชิด แถมยังสวมเสื้อแขนยาวทับอีกตัวหนึ่งอีก เขาได้แต่สับสนกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่น้อยทีเดียว
“ค่ะคุณใหญ่สบายดีหรือคะ อ้อ...ลูกแก้วมีของมาฝากคุณใหญ่ด้วย” พณิตพิชายื่นถุงของฝากให้
“เห็นคุณเล็กบอกว่าคุณใหญ่ชอบสะสมเนกไท ลูกแก้วก็เลยซื้อเนกไทมาฝาก”
พิชิตพงศ์ยื่นมือออกไปรับของฝากอย่างแปลกใจ เขาไม่เคยรู้เลยว่าหญิงสาวก็รู้ด้วยว่าเขาเป็นคนชอบสะสมของพวกนี้ ใจจริงก็ไม่อยากรับของจากเธอเลย แต่พอเห็นใบหน้าสวยส่งยิ้มมาให้ก็เลยไม่กล้าปฏิเสธ
“ขอบคุณสำหรับของฝาก จริงๆ พิชาไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินซื้อมาให้ฉันเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณใหญ่ก็เหมือนพี่ชายลูกแก้วเหมือนกัน”
“แล้วไม่มีของฝากผมเหรอลูกแก้ว อะไรกัน ซื้อมาให้พี่ใหญ่แต่ไม่เห็นซื้ออะไรมาให้ผมเลย แบบนี้มันน้อยใจนะ”
“มีสิคะ ของคุณเล็ก ลูกแก้วจะลืมได้ยังไง นี่ค่ะผ้าพันคอ ลูกแก้วซื้อสีที่คุณเล็กชอบด้วยนะ” เธอบอกแล้วส่งรอยยิ้มสวยไปให้แฟนหนุ่มอย่างเอาใจ
“อ้อ ผมเกือบลืมไป” เขาหันไปทางพี่ชายก่อนจะถามขึ้นว่า “ทำไมพี่ใหญ่ถึงเรียกแฟนผมว่าพิชาล่ะ มันดูห่างเหินจังเลยพี่ใหญ่ เรียกลูกแก้วเหมือนผมไม่ได้เหรอ”
“ฉันไม่ชอบชื่อลูกแก้ว ฉันเรียกพิชาก็ไม่เห็นแปลก ใช่ไหมพิชา” คราวนี้พิชิตพงศ์หันไปทางพณิตพิชา ใบหน้าคมสันจ้องมองใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างประเมินท่าที
“เอ่อ...ค่ะ” หญิงสาวได้แต่ยิ้มแหยๆ มาให้พิชิตพงศ์ เพราะเธอรู้ดีว่าจริงๆ แล้วพี่ชายของแฟนหนุ่มก็ไม่ได้ชอบเธอสักเท่าไรเลย เพียงแต่ขัดน้องชายไม่ได้เท่านั้น
“ผมว่าเราไปทานข้าวกันดีกว่า ลูกแก้วคงหิวแล้ว ไปกันเถอะครับพี่ใหญ่”
พชรพงศ์ดึงมือพี่ชายและแฟนสาวให้เดินตามเขาออกไป วันนี้คงเป็นอีกวัน ที่จะเป็นความทรงจำที่ดี การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้ระหว่างพี่ชายกับคนรักแบบนี้ จะทำให้พี่ชายยอมรับในตัวตนของคนรักของเขามากขึ้น
///////////
ตลอดการทานอาหารพิชิตพงศ์นั่งสังเกตพฤติกรรมของพณิตพิชาอยู่ตลอดเวลา แทบไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นเมื่อคืนนั้น กิริยาท่าทางไม่ได้บ่งบอกว่าเธอเป็นนักเที่ยวแต่อย่างใดเลย หรือว่าเธอเป็นพวกประเภทสองบุคลิก กลางวันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง กลางคืนจะเป็นอีกแบบหนึ่ง เห็นทีเขาต้องเฝ้าจับสังเกตผู้หญิงคนนี้อย่าให้คลาดสายตาทีเดียว ที่สำคัญจะให้พชรพงศ์รู้ไม่ได้ว่าเขาเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของพณิตพิชา
“ผมขอตัวไปห้องน้ำแป๊บนะลูกแก้ว ฝากลูกแก้วด้วยนะพี่ใหญ่เดี๋ยวผมมา”
“ได้...นายไปเถอะ”
เขาตอบน้องชายออกไป เขาจะได้ถามเรื่องที่เขาสงสัยในวันนี้เลย เก็บไว้แบบนี้เขาก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน สายตาคมมองจนน้องชายเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วถึงจะหันมาจ้องคนรักของน้องชายอย่างเอาเรื่อง
“เธอนี่มันสุดยอดเลยนะ บอกฉันหน่อยสิว่าเธอทำได้ยังไง กลางคืนก็เป็นอีกแบบหนึ่ง กลางวันก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ฉันขอนับถือเธอจริงๆ”
“มะ...หมายความว่าไงคะ ลูกแก้วไม่เข้าใจ” พณิตพิชาเงยหน้าขึ้นมามองพิชิตพงศ์อย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตะลึงกับสิ่งที่ชายหนุ่มถามเธอมา
“เธอนี่มันเล่นละครเก่งชะมัดเลยนะ ผู้หญิงส่ำส่อนแบบเธอนี่ให้ฟรี ฉันยังไม่เอาเลย”
“คุณใหญ่!” เธอยิ่งตกใจหนักขึ้นไปอีกกับคำกล่าวหาของพิชิตพงศ์ ที่ชายหนุ่มพูดมาเธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะอะไรถึงได้มาต่อว่าเธอแบบเสียๆ หายๆ แบบนี้
“ตกใจหรือไงที่ฉันจับได้นะ แต่ละคืนได้ผู้ชายไปกี่คนล่ะ ผู้หญิงอย่างเธอมันมั่วไม่เลิก นายเล็กมันติดใจเธอตรงไหนถึงได้ยอมเธอขนาดนี้”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณใหญ่ นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรกัน แล้วทำไมคุณถึงได้มาว่าลูกแก้วแบบนี้”
“ฉันว่าเธอเลิกเล่นละครเถอะ เพราะฉันนะรู้เรื่องความส่ำส่อนของเธอหมดแล้ว ที่สำคัญเพื่อนฉันมันยังบอกอีกนะว่าเธอนะเด็ดมาก” น้ำเสียงเข้มยังคงพูดใส่อีกฝ่ายอย่างเหยียดหยาม เธอดูน่ารัก สวย อย่างที่เพื่อนเขาบอกจริงๆ ทั้งการศึกษา ฐานะ และรูปร่างหน้าตานับได้ว่าสวยมากทีเดียว
แต่ทำไมทำตัวเหลวแหลกแบบนี้ คิดแล้วก็อดเสียใจแทนบิดาเธอไม่ได้
“ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน...ว่าผู้ชายการศึกษาสูง ฐานะทางสังคมดีๆ แบบคุณจะกล่าวหาคนอื่นด้วยถ้อยคำที่น่าเกลียดแบบนี้”
พณิตพิชาสวนกลับ ขณะกำมือแน่นจนเจ็บ สิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวมาเธอไม่เคยทำมันเลย แล้วทำไมถึงได้มาใส่ร้ายเธอแบบนี้ เมื่อก่อนเคยคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดี น่านับถือ เป็นพี่ชายที่น่ารัก เธอยังเคยคิดเลยว่าอยากมีพี่ชายแบบนี้กับเขาซักคน แต่สงสัยเธอจะคิดผิดเสียแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะที่จะเป็นพี่ชายของใครเลยด้วยซ้ำ
“ฉันว่าเธอต่างหากที่น่ารังเกียจ ผู้หญิงเหลวแหลกอย่างเธอไม่เหมาะสมกับผู้ชายดีๆ อย่างนายเล็กหรอก เลิกกับน้องชายฉันซะ ถ้าเธอยังไม่เลิกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ฉันสามารถทำทุกอย่างเพื่อให้เธอหลุดพ้นไปจากน้องชายของฉัน”
“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะทำตัวได้น่าสมเพชขนาดนี้ อิจฉาแม้แต่น้องชายตัวเอง ฉันว่าคุณน่าจะเข้าวัดเข้าวาบ้างนะคุณพิชิตพงศ์ บางทีธรรมะมันอาจจะช่วยขัดเกลานิสัยและความคิดคุณได้บ้าง ไม่ใช่คิดแต่จะใส่ร้ายคนอื่นอยู่แบบนี้”
แล้วลุกเดินจากไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเลย ลืมไปเสียสนิทเลยว่าเธอยังมีแฟนหนุ่มอีกคน พอนึกถึงคำกล่าวหาของพิชิตพงศ์เธอก็ยิ่งเจ็บปวด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชายหนุ่มไปได้ข่าวบ้าๆ นั่นมาจากไหน เธอนะเหรอที่จะทำตัวเหลวแหลกแบบนั้น ขนาดนอนบ้านเพื่อนเธอยังไม่เคยนอนเลย แม้แต่เที่ยวกลางคืนเธอก็ยังไม่ทำสักครั้ง
“ลูกแก้วเดินไปไหนครับพี่ใหญ่” พชรพงศ์เดินออกมาจากห้องน้ำเห็นแฟนสาวเดินออกไปจากร้านอาหารแล้ว จะตามก็ตามไม่ทัน “ว่าไงครับพี่ใหญ่”
“เห็นว่ามีงานด่วนนะ นี่ก็บ่ายโมงแล้วฉันว่าเราสองคนน่าจะกลับได้แล้ว” พิชิตพงศ์ลุกขึ้นจากโต๊ะเดินออกไปจากร้าน เขากำลังคิดแผนที่กำจัดพณิตพิชาให้พ้นทางของน้องชาย เห็นทีการพูดคุยในวันนี้จะไม่สำเร็จ
‘ฮึ! ไม่เป็นไรหรอกพิชา ฉันยังมีแผนอีกเยอะที่จะทำให้เธอเลิกยุ่งกับนายเล็ก’
พชรพงศ์ได้แต่มองตามพี่ชายด้วยความแปลกใจ มันเกิดอะไรขึ้นช่วงที่เขาเดินไปห้องน้ำ เพราะวันนี้ทั้งวันพณิตพิชาว่างนี่นา แล้วเกิดอะไรขึ้นถึงได้มามีงานด่วนแบบนี้
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...