มาวินมาถึงที่ทำงานในตอนเช้า เมื่อคืนเขาดื่มไปเยอะมากแต่ก็พอมีสติขับรถกลับมาที่บ้านได้ เขาเข้ามานั่งลงที่นั่งของตัวเองก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นบัตรประชาชนกับบัตรเครดิตของตัวเองวางอยู่บนโต๊ะทำงาน
“ทำไมมาอยู่ที่นี่นึกว่าหายแล้วละเนี่ย”
เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยถามชมพูที่เพิ่งเดินถือแก้วกาแฟเข้ามา
“ชมพูครับคุณได้เอาบัตรประชาชนกับบัตรเครดิตผมมาวางตรงนี้รึเปล่า”
ชมพูที่ได้ยินก็ตอบคำถามทันทีเพราะเธอรู้ว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ให้เขาที่โต๊ะ
“อ่อ พะพายน่ะค่ะ พอดีว่าชมพูเจอที่โซฟาคอนโดของพะพายแต่ว่าเธอบอกว่าเก็บได้เมื่อวานก็เลยจะเอามาคืนวันนี้”
“งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากนะ”
เขายิ้มออกมาก่อนจะมองบัตรในมือแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย สงสัยคืนนั้นเขาคงทำหล่นไว้ที่โซฟาห้องนอนของเธอ แต่ก็เก่งนะเอาตัวรอดจากความสงสัยของเพื่อนไปได้ เขาหันไปมองโต๊ะทำงานของเธอวันนี้เขายังไม่เห็นพะพายมาทำงานเลยแสดงว่าคงไปคุยกับลูกค้าแหละ เขากดเข้าไปในไลน์ของตัวเองกดเข้าหน้าแชทของหญิงสาวพิมพ์อะไรไปเยอะแยะแต่สุดท้ายก็ต้องกดลบ
“เฮ้อ! เอาไงดีวะเนี่ย”
เขาถอนหายใจออกมาลังเลอยู่นานก่อนจะตัดใจลบข้อความพวกนั้นออกแล้วหันไปทำงานของตัวเองต่อ ตอนนี้คงต้องทำงานอย่างจริงจังแล้วให้เพื่อนช่วยซื้อยังไงก็ไม่สามารถขึ้นนำเซลดีเด่นอย่างพะพายได้ เพราะฉะนั้นเดือนนี้ชิวๆไปก่อนค่อยสู้ใหม่เดือนหน้า
หลังจากคุยงานเสร็จพะพายก็กลับมาทำงานต่อที่บริษัท เมื่อมาถึงที่ห้องทำงานเธอเดินเข้ามาพร้อมกับมองไปยังโต๊ะทำงานของมาวินก่อนจะรีบเบือนหน้าหนึเพราะเขามองเธออยู่เช่นกัน
มาวินที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาก็ยิ้มแก้มปริก่อนจะลากเก้าอี้ขยับเข้าไปใกล้แล้วค่อยๆพูดหวานกับเธอ
“ตัวเองหายงอนเค้ายัง”
เขาจิ้มแขนหญิงสาวเล่นอย่างแกล้องหยอก พะพายหันไปมองคนอื่นๆดีที่มีแต่ชมพูอยู่ในนี้ส่วนคนอื่นคงจะออกไปพบลูกค้า เธอดันมือของเขาออกก่อนจะกระซิบเสียงเบา
“นี่คุณมาวินอย่างมาเรียกแบบนี้นะถ้าคนอื่นมาได้ยินจะเข้าใจกันผิด”
“ผิดอะไรอ่ะ เรียกเมียตัวเองว่าตัวเองผิดตรงไหน”
เธอถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปคุยกับเขาตามตรง เธออึดอัดที่เขาแสดงท่าทีแบบนี้กับเธอ คู่รักกันก็ไม่ใช่เขาจะทำแบบนี้คนอื่นอาจจะเข้าใจผิดได้
“ฉันไม่ใช่เมียคุณ เราคุยกันแล้วไงคะคุณมาวินว่ามันจะจบแค่คืนนั้น อย่าทำให้ฉันลำบากใจเลยค่ะขอร้องนะ”
เขามองเธออย่างอ้อนวอนสุดๆ เธอแค่อยากทำงานของตัวเองให้ดีและไม่อยากมีพันธะใดๆกับใครทั้งนั้น มาวินถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังที่สุด
“ตกลงว่าคุณอยากให้มันจบแค่คืนนั้นถูกมั้ย”
“ค่ะ ให้มันจบคืนนั้นและตอนนี้เราสองคนเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นค่ะ”
“โอเคผมยอมแพ้ล่ะ ต่อจากนี้ไปเราสองคนจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น แล้วเรื่องเมื่อวานผมขอโทษนะ ผมไม่รู้ว่ามันส่งผลกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น”
พะพายมองหน้าเขาก่อนจะพยักหน้าตกลง ให้มันจบแบบนี้ดีแล้วคนอย่างเธอไม่เหมาะสมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับใคร ทุกวันนี้เธออยู่คนเดียวเหมาะสมที่สุด คนที่ไม่ได้ร่ำรวยและครอบครัวไม่อบอุ่นคงไม่สามารถทำให้ใครมีความสุขได้หรอก
“ฉันไม่ได้โกรธคุณแล้ว แค่คุณเข้าใจก็ดีแล้วค่ะ”
“โอเค ผมตามใจคุณแล้วกัน”
เขาลากเกาอี้กลับไปที่เดิมก่อนจะหันมามองหน้าเธออย่างเหนื่อยใจ คนอะไรเสียตัวครั้งแรกแท้ๆแถมไม่ได้มีอะไรกันครั้งเดียวด้วย เธอยังไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากเขาเลยซักนิด ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้เหลือเชื่อจริงๆ
หนึ่งเดือนต่อมา…
สถานะความสัมพันธ์ของพะพายและมาวินไม่ได้คืบหน้าไปไหน สองคนเป็นแค่เพื่อนร่วมงานและแข่งขันกันทำยอดขายเท่านั้น มาวินเริ่มทำงานขายได้ดีขึ้นแต่ก็ยังตามหญิงสาวอยู่ดีไม่มีวี่แววจะชนะเลย
“ป่ะทุกคนไปกินข้าวเที่ยงกัน มาวินไปด้วยกันเร็ว”
เอไทม์เอ่ยชวนมาวินไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน ทุกคนไปด้วยกันหมดยกเว้นพะพายเพราะเธอมีงานต้องส่งก่อนบ่ายนี้จึงไม่สามารถไปได้
“พะพายไปกินข้าวกัน”
“ไปเถอะเรามีงานต้องเร่งทำอ่ะ ต้องใช้บ่ายนี้ด้วย”
“ตามใจแล้วกันจะฝากซื้ออะไรบอกนะ งั้นเราไปกินข้าวกับเพื่อนคนอื่นก่อน”
“อื้ม”
พะพายตอบรับก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ มาวินมองหญิงสาวอย่างเป็นห่วง รู้สึกเธอจะทำงานเยอะมากทุ่มเทกับงานอย่างสุดตัวโดยไม่ห่วงตัวเองเลย
“ทำไมไม่ชวนพะพายมาให้ได้อ่ะ”
เขาเอ่ยถามเอไทม์อย่างสงสัย กั้งที่เดินตามมาก่อนจะตบบ่ามาวินแล้วตอบคำถามแทนเพื่อนอีกคน
“ไม่ต้องห่วงรายนั้นหรอกน่า ไม่ออกมาก็มีของกินป่ะ”
“หมายความว่ายังไง”
มาวินมองกั้งอย่างสงสัย ฟ้าใส แอริน ชมพูที่เดินตามาก็ช่วยตอบคำถามให้ชายหนุ่มหายข้องใจ
“เดี๋ยวก็มีหนุ่มๆหิ้วอาหาร ขนม กาแฟไปส่งให้ถึงโต๊ะทำงานไงล่ะ”
“นี่จะบอกให้ ในแผนกเนี่ยพะพายฮอตสุดแล้ว ตั้งแต่ผู้จัดการแผนกไปจนถึงพนักงานมีตั้งหลายคนที่พยายามจีบเธออยู่”
“แต่จีบไม่ติดหรอกนะเพราะว่าพะพายไม่เล่นด้วยซักคน ฮ่าๆ สงสัยอยากจะครองตัวเป็นโสดล่ะมั่ง”
ทุกคนช่วยกันอธิบายให้มาวินเข้าใจ เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับพะพายไม่คืบหน้าไปไหนแต่เขาก็ยังมีความรู้สึกหวงของอยู่ โดยเฉพาะที่ได้ยินว่ามีคนมาจีบหญิงสาวมากมายก็อดคิดมากไม่ได้
ทั้งหกคนนั่งทานข้าวด้วยกันโดยที่มาวินสั่งใส่กล่องกลับไปด้วย เขาจะเอาไปฝากพะพายถ้าเธอไปกินของคนอื่นเขาก็รู้สึกไม่โอเคเท่าไหร่ เมื่อมาถึงห้องทำงานเขาก็เอาข้าวกล่องไปวางไว้ให้เธอบนโต๊ะก่อนจะทำหน้าเสียอารมณ์เมื่อบนโต๊ะของเธอมีทั้งถุงขนมและของอย่างอื่นเต็มไปหมด
“กินของผมนี่ไม่ต้องไปกินของคนอื่น”
พะพายมองถุงข้าวของเขาก่อนจะชี้นิ้วไปยังของที่อยู่บนโต๊ะอย่างอื่น
“เต็มโต๊ะนี่ยังไม่ได้กินเลยค่ะ”
“จะไปกินมั่วๆได้ยังไง ถ้าพวกนั่นใส่ของอะไรเข้าไปจะทำยังไงทำไมไม่หัดระวังตัวเอง”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ใส่อะไรลงไป ของๆคุณจะปลอดภัย”
เธอมองเขาอย่างต้องการคำตอบ ทำมาว่าคนอื่นจะคิดร้ายแล้วตัวเองหวังดีแค่คนเดียวอย่างนั้นแหละ ชายหนุ่มเปิดถุงเอากล่องข้าววางตรงหน้าเธอก่อนจะเปิดออก
“กินเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นผมจะจูบคุณจนกว่าเพื่อนคนอื่นจะเข้ามา”
“นี่คุณ!”
“จะกินหรือจะให้ผมจูบ”
เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ทันที หญิงสาวสะดุ้งอย่างตกใจกลัวก่อนจะรีบเปิดกล่องข้าวของเขาแล้วใช้ช้อนตักกินอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาคิดจะทำอะไรบ้าๆ
“ก็แค่นี้แหละกินสิ”
เธอค่อยๆเคี้ยวช้าๆก่อนจะรู้สึกว่ามันเหม็นกลิ่นคาวในอาหาร ความรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนอย่างแปลกประหลาดทำให้เธอไม่สามารถกลืนกับข้าวลงท้องไปได้
“อุ๊บ! อุ๊บ!”
“พะพายคุณเป็นอะไร”
เขามองหญิงสาวอย่างเป็นห่วง พะพายเอามือปิดปากตัวเองไว้ก่อนจะรีบวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำออกจนหมด มาวินตกใจรีบวิ่งตามเธอไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมันเป็นห้องน้ำของผู้หญิง
“พะพายคุณโอเคมั้ย”
“อุ๊บบบ! แหวะ! แฮ่กๆ แหวะ!”
เขายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างระบายอารมณ์ เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเธอได้เกรงว่าเข้าไปแล้วมีผู้หญิงคนอื่นอยู่มันจะดูไม่ดี
“พะพายคุณไหวมั้ย ผมเข้าไปได้มั้ย”
“อุ๊บ แหวะ!”
เสียงอาเจียนยังดังต่อเนื่องไม่หยุด ไม่รู้ว่าอ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุงหรือยังทำไมถึงเป็นขนาดนี้ เขาเดินไปมาหน้าห้องน้ำอย่างกังวลก่อนจะตะโกนเรียกชมพูที่เดินผ่านมาให้ไปช่วยดูเธอหน่อย
“ชมพูช่วยไปดูพะพายหน่อย เธออาเจียนไม่หยุดเลย”
“เกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวชมพูไปดูเอง”
ชมพูรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำโดยมีมาวินยืนรออยู่ข้างนอก ท่าทางจะเป็นหนักไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หรือว่าทำงานเยอะจนไม่ได้พักผ่อน เอ๊ะหรือว่าเป็นโรคกระเพาะเพราะไม่ชอบกินข้าวกลางวัน
‘โอ๊ย! เกิดอะไรขึ้นกับพะพายวะเนี่ย’