บทนำ
“บริษัทเอ็มไพรส์.เอ็มกรุ๊ปของเราก่อตั้งมาตั้งแต่ปี2530 นับว่าเป็นบริษัทที่เปิดมายาวนานกว่า34ปี กิจการในเครือของเอ็มไพรส์.เอ็มกรุ๊ปมีหลากหลาย เช่นสินค้าไอที บ้านโครงการ และยังมีโรงแรมหลายสาขา ร้านอาหารที่มีสาขากว่า100สาขา โดยมีคุณธานี กฤษณธารากุลเป็นหุ้นส่วนใหญ่ และบริษัทของเรา…”
มาวินนั่งเท้าคางมองหน้าจอโปรเจคเตอร์อย่างเบื่อหน่ายที่ต้องมาอบรมก่อนเข้าทำงานที่บริษัทของตัวเอง ฟังจนเบื่อแล้วอ่ะทำไมก่อนทำงานต้องมาฟังอะไรไร้สาระแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ เขาใช้เวลาอยู่ในห้องอบรมนานเกือบสองชั่วโมงก่อนจะเดินออกมาข้างนอกได้หายใจหายคอบ้าง
“ผมขออนุญาตไปห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณไปเจอผมที่แผนกเลยนะครับ”
“ได้ครับ”
เขาตอบรับก่อนจะเดินหนีออกมาทันที เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะมองตัวเองใบกระจกแล้วเค้นหัวเราะออกมาทันที
“เสื้อเชิ้ตบ้านๆผูกไทสีดำอย่างกับนักศึกษา ชุดอะไรของแม่วะเนี่ยเอามาให้ใส่ได้ยังไง”
เขามองตัวเองในกระจกอย่างรับไม่ได้ นี่ต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกกี่วันกี่เดือนถึงจะได้ไปนั่งอยู่ในห้องประธานบริษัท ไม่ต้องมาเป็นพนักงานขายแบบนี้
เขาล้างไม่ล้างมือเสร็จเดินออกไปจากห้องน้ำก่อนจะชะงักไปเมื่อเจอผู้หญิงคนใบหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอก่อนมาทำงาน
“อ่าว… ยัยสิบแปดมงกุฎนี่เอง”
เขายิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยทักพะพายที่เดินถือแก้วกาแฟในชุดพนักงานของบริษัท
“คุณนี่เองมีอะไร”
พะพายมองเขาอย่างเสียอารมณ์เพราะเขาคนเดียวที่ทำให้เธอต้องกลับไปเปลี่ยนชุดทำงานใหม่ที่คอนโด ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้นิสัยแย่ชะมัดเลย ขับรถเร็วจนเกือบจะชนเธอจนล้มไปโดนน้ำข้างถนน ขอโทษซักคำก็ไม่มีแถมยังมาว่าเธออีก
“ทำงานที่นี่เหรอ ว้าว! นึกว่าเป็นสิบแปดมงกุฏต๊อกต๋อยที่แท้สิบแปดมงกุฎมีเกรด”
“นี่คุณ! เฮ้อ! เอาเป็นว่าฉันอโหสิกรรมนะอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย”
พะพายถอนหายใจออกมาไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก แค่ทำงานเธอก็เหนื่อยแล้วไม่อยากจะมาเถียงกับคนบ้าอีก เธอเดินไปอีกทางแต่ก็ถูกเขาเดินมาขวางเสียก่อน
“อโหสิกรรมอะไรผมสิต้องพูดคำนี้ คุณมาเดินตัดหน้าผมเองนะผมเบรกทันก็บุญแค่ไหนแล้ว ขอโทษซักคำก็ไม่มีแถมยังมาเรียกค่าเสียหายอีก”
“นี่คุณ… ฉันเดินข้ามถนนเพราะมันเป็นไฟเขียว ส่วนรถคุณต้องจอดสัญญาณไฟก็มี สงสัยไม่มีใบขับขี่สินะถึงได้ขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือ เหอะ!”
หญิงสาวกอดอกมองเขาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างปลงๆ คนแบบนี้อธิบายหรือพูดอะไรไปก็ไม่เข้าใจ คนมันเห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่ยอมรับผิดหรอก
“ไม่รู้แหละคุณข้ามถนนไม่ดูเอง ว่าแต่เป็นเซลของที่นี่เหรอถามอะไรหน่อยดิ”
เขามองป้ายพนักงานของเธอที่ห้องคออยู่ก็รีบถามทันที เขาอยากเจอเซลดีเด่นของที่นี่มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยหน่อย ถ้าเธอคนนี้ทำงานที่นี่แสดงว่าต้องรู้จักกันแหละ
“ถามอะไร..”
“รู้จักเซลดีเด่นของที่นี่ป่ะ คนไหนอ่ะ”
“มีอะไรกับเธอเหรอ”
พะพายมองเขาอย่างสงสัย เซลดีเด่นก็คือเธอคนนี้ไงจะใครอีก ว่าแต่หมอนี่เป็นใครมีธุระอะไรกับเธอถึงได้มาถามหาแบบนี้
“เธอเหรอ… แสดงว่าเป็นผู้หญิงใช่ป่ะ ดีหน่อยจะได้คุยง่ายๆคนหล่อแบบผมผู้หญิงที่ไหนเห็นก็ต้องหลงอ่ะ ใช้เสน่ห์นิดหน่อยน่าจะไม่ยาก”
“เดี๋ยวๆ ฉันถามว่าคุณมีอะไรกับเธอ”
“คุณไม่ต้องรู้หรอกยัยสิบแปดมงกุฎ ตอบมาแค่ว่าคนไหนก็แค่นั้น”
“หาเอาเองแล้วกัน”
หญิงสาวเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินหนีออกไปทันที เขาอ้าปากค้างมองเธออย่างเซ็งๆก่อนจะเดินไปยังแผนก
“ไปถามผู้จัดการเอาก็ได้วะไม่ง้อหรอก”
เขาขึ้นลิฟต์มาพร้อมกับพะพายเหลือบสายตามองก่อนจะพูดจาหาเรื่องหญิงสาว
“มองทำไมไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอไง”
“คุณนี่กัดคนอื่นได้ทุกที่เลยนะ”
“อ่าวๆผมไม่ใช่หมานะคุณพูดแบบนี้เดี๋ยวสวยเลย”
เขามองเธออย่างไม่พอใจ พะพายเบะปากใส่ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปเมื่อประตูเปิดออก มาวินเดินตามเธอไปอย่างเซ็งๆก่อนจะเดินเข้าไปแผนกพร้อมกับเธอ
“อ่าวมาพอดีเลยคุณมาวินเชิญทางนี้”
“สวัสดีครับผมมาวิน เป็นพนักงานใหม่ของแผนกนี้ยินดีที่ได้รู้จักครับ
มาวินเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มก่อนจะเอ่ยทักทายทุกคน พะพายไม่สนใจก้มหน้าลงมองหน้าจอทำงานของตัวเองต่อ ไม่มีประโยชน์จะไปทำความรู้จักกับคนประเภทนี้
“อร๊าย! หล่ออ่ะ ชื่อมาวินเหรอคะ”
“มีแฟนหรือยังคะคุณมาวิน แอรินยังว่างนะคะ”
“อะแฮ่มๆพวกสาวๆเกรงใจผมหน่อย แนะนำตัวเองให้พนักงานใหม่รู้จักหน่อยสิ”
ผู้จัดการบอกให้พนักงานคนอื่นให้แนะนำตัวเอง เริ่มจากแอริน เอไทม์ กั้ง ชมพู ฟ้าใสไล่ไปตามโต๊ะ พะพายที่นั่งทำงานไม่ได้สนใจจะแนะนำตัวลุกขึ้นถือแฟ้มเอกสารก่อนจะหันไปหาผู้จัดการ
“พายนัดลูกค้าไว้ไปก่อนนะคะผู้จัดการ”
“จ้ะตามสบายเลย สู้ๆนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
พะพายเหลือบสายตามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินออกไปทันทีไม่มีแนะนำตัวเองด้วยผู้จัดการก็เลยแนะนำให้แทน
“ส่วนคนที่เดินออกไปเมื่อกี้ชื่อพะพายนะ เป็นเซลดีเด่นสองปีซ้อนของแผนกเรา ขายงานเก่งมากถ้าเราอยากได้ประสบการณ์ก็ปรึกษาคนนั้นได้เลย”
“ห๊ะ! เซลดีเด่นเหรอ”
เขาอ้าปากค้างอย่างตกใจที่ได้ยินว่ายัยสิบแปดมงกุฎเป็นพนักงานดีเด่น เก่งขนาดนั้นเลยเหรอแล้วแบบนี้แผนของเขาจะสำเร็จมั้ยเพราะดูท่าทางความหล่อของเขาจะทำอะไรหล่อนไม่ได้ เจอกันก็แทบจะตีกันอยู่แล้วแบบนี้เขาจะได้ตำแหน่งท่านประธานตอนไหนเนี่ย…โอ๊ย!
“ใช่ เก่งนะปรึกษาได้เลย”
“อ่อ ครับ”
“นั่นโต๊ะทำงานของคุณนะตามสบายเลย”
เขายิ้มแห้งก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนจะกุมขมับตัวเองอย่างเครียดจัด เขากำลังจะมาเจรจาให้เซลดีเด่นเอาลูกค้ามาให้เขาเยอะๆเพื่อที่เขาจะมียอดขายมากกว่าและจะได้ตำแหน่งไวๆไม่ต้องมาลำบากแบบนี้โดยแลกกับเงินจำนวนหนึ่งจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้เขาจ่ายไม่อั้น
‘แล้วถ้าเป็นยัยสิบแปดมงกุฎเธอจะยอมตกลงนับข้อเสนอรึเปล่า โอ๊ย! เครียดโว๊ย’
“สุดหล่อชื่อมาวินเหรอคะ เราชื่อแอรินนะเป็นเซลที่มียอดขายรองจากยัยพะพาย”
พอพูดถึงพะพายแอรินก็เบะปากใส่ทันที เธอไม่ชอบยัยนั่นเพราะทำตัวหยิ่งเหมือนตัวเองเก่ง ถึงจะเก่งจริงก็เถอะ
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
เขายิ้มแห้งก่อนจะกุมขมับอย่างเครียดจัด ข้อแรกเลยคือเขาจะไปขอร้องอ้อนวอนยัยนั่นไม่มีทางแน่นอน ต้องใช้แผนอื่นซะแล้วหรือว่าเอาเงินเยอะๆล่อ ใช่สิท่าทางยัยสิบแปดมงกุฎน่าจะชอบเงิน ลองเสนอดีกว่าน่าสนใจแหะ