ตอนนี้บอสนายปวดหัวกับเด็กสาวตรงหน้ามาก เธอมีแต่คำถามที่ไร้สาระเต็มไปหมด พี่ถ้าไม่ติดว่าพี่ชายของเธอฝากไว้เพื่อแลกกับการลงทุนก่อสร้างห้างสรรพสินค้าใหม่สองสาขา เขาคงจะพิจารณาการรับเธอมาดูแลใหม่
“ผมให้ได้แค่สองหมื่นห้า”
"ท่านประธานคะเงินเดือนแค่สองหมื่นห้ามันจะพออะไรอ่ะ พีพีต้องเช่าคอนโดต้องกินต้องใช้ ค่าแท็กซี่มาทำงานเช้าเย็นอีกนะ"
หญิงสาวมีคำถามมากมายอยากจะถามและเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเองอยู่ เธอเรียนเก่งภาษาก็ได้แถมยังสวยอีก ทำไมให้เงินเดือนเธอน้อยมากจนน่าตกใจ
"คุณไม่มีประสบการณ์เลยนะพีพี ไม่เคยทำงานเลขาเพิ่งจะเรียนจบ ถ้าเป็นคนอื่นผมให้แค่หมื่นห้าเท่านั้นแหละ นี่ผมใจดีมากแล้วนะ"
"แล้วผู้หญิงที่นั่งข้างนอกได้เงินเท่าไหร่คะ"
พีพีชี้ไปยังนอกประตู ผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าห้องเขาก็คงเป็นเลขาเหมือนกันแหละ เขาคงงานเยอะก็เลยรับหลายคนล่ะมั่ง
"คุณฟ้าเป็นเลขาผมมาห้าปี เงินเดือนสี่หมื่นห้า คุณไม่มีประสบการณ์ซักอย่างขอแสนหนึ่ง คิดว่าจะมีที่ไหนให้บ้างล่ะ"
พีพีทำหน้างอง้ำอย่างเซ็งๆ สองหมื่นห้าเธอกินข้าวไม่ถึงอาทิตย์ก็หมดแล้ว ทำงานงกๆทั้งเดือนได้แค่นี้หรือว่าเธอจะไปสมัครงานที่อื่นดี
"สองหมื่นห้าพีพีกินข้าวไม่ถึงอาทิตย์ก็หมดแล้วอ่ะ ท่านประธานให้เยอะกว่านี้ไม่ได้เหรอคะ"
พีพียังไม่ยอมแพ้ยังตื้อเขาไม่เลิกอีก บอสนายถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะวางเอกสารลงแล้วมองหน้าหญิงสาวอย่างเหนื่อยใจ
"ผมให้ได้เท่านี้แหละ ถ้าจะทำก็ทำทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำล่ะ เลือกเอา"
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที เธอไม่มีทางเลือกมากนักหรอกยังไงก็ต้องทำงานกับเขาที่นี่แหละ เขาจะให้แสนหนึ่งก็ได้ถ้าเทียบกับการศึกษาและความสามารถ แต่พี่ชายเธอบอกว่าน้องสาวใช้เงินเก่งมาก ก็เลยให้แค่นี้แหละยังไงเธอต้องเรียนรู้การใช้เงินบ้าง เดือนหนึ่งสองหมื่นห้าคนปกติมีเก็บด้วยซ้ำไป
"อย่าใจร้ายกับพีพีสิคะท่านประธาน พีพีต้องจ่ายค่าคอนโดอะไรเยอะแยะน้า"
"คุณก็ใช้อย่างประหยัดสิ ค่าเช่าคอนโดเดือนหนึ่งราคาถูกๆก็มี สามสี่พันเยอะแยะไป"
"อี้! ให้พีพีไปนอนห้องเช่ารูหนูเหรอคะ ไม่เอาอ่ะไม่มีความปลอดภัย คนสวยอย่างพีพีต้องอยู่คอนโดหรูๆสิ อย่างต่ำต้องหมื่นห้าโน่นแหละน่าจะพออยู่ไหว"
เธอเอ่ยออกมาตามที่คิด บอสนายเริ่มปวดหัวต้องการยาพาราโดยด่วน เพราะการคุยกับเธอนั้นไม่ได้สาระแถมยังทำให้เขาเครียดมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
"ผมปวดหัวกับคุณมากพีพี ตอนนี้คุณไม่มีทางเลือกมากนักไม่ใช่เหรอ อะไรทำได้ก็ทำไปก่อนสิ เงินทองมันหายากนะคุณจะใช้แบบที่เคยใช้ไม่ได้หรอก แล้วถ้าคุณมีเงินมากขนาดนั้นจะมาทำงานทำไม"
เขามองเธอก่อนจะเอ่ยถามอย่างต้องการคำตอบ พีพีมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะยิ้มแห้งออกมาเล็กน้อย
"พีพีโดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว ทุกคนใจร้ายที่สุดเลย ก็ได้ค่ะสองหมื่นห้าก็ได้"
"ก็แค่นั้นแหละ จะเริ่มงานวันไหนดีล่ะ"
เขากอดอกมองหญิงสาว พีพีทำหน้าครุ่นคิดซักพักก่อนจะยิ้มออกมา
"อีกซักอาทิตย์ได้มั้ยคะ คือพีพีต้องไปหาที่อยู่ก่อนค่ะวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะไปนอนที่ไหน เฮ้อ! ทำไมชีวิตของพีพีถึงได้ลำบากขนาดนี้กัน"
หญิงสาวทำหน้าสลดลงก่อนจะเดินออกไปหยิบกระเป๋าของตัวเองมากอดไว้แน่น มาร์ชมองหญิงสาวอย่างเอ็นดูคุณหนูที่เคยสุขสบายมาตอนนี้ต้องมาหางานทำดูแลตัวเองคงจะเหนื่อยน่าดู
"ผมมีคอนโดว่างอยู่ไม่ได้ใช้ ปกตินอนที่บ้านให้คุณเช่าไปก่อนเอามั้ยล่ะ"
เขาเสนอที่อยู่ให้เธอ จริงๆเขาก็ไปนอนค้างบ้างแต่ดูท่าทางจะให้เธอไปเช่าที่อื่นอยู่คงไม่ดี ผู้หญิงตัวคนเดียวความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ อีกอย่างคอนโดเขามีทุกอย่างสบายกว่าที่อื่นแน่นอน นึกเสียว่าสงสารเด็กที่ถูกทอดทิ้งแล้วกัน
"จริงเหรอคะ แล้วท่านประธานคิดค่าเช่ายังไงอ่ะ"
พีพีเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น เขามองหญิงสาวก่อนจะเอ่ยออกมา
"ห้าพันแล้วกันรวมค่าน้ำค่าไฟด้วย"
"หูย! แพงอ่ะ ไม่มีสวัสดิการแบบที่พักฟรีงี้เหรอคะพีพีจะได้เหลือเงินใช้ด้วยไง"
เขามองผู้ช่วยก่อนจะถอนหายใจออกมา มาร์ชกลั้นขำก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เด็กมันซื่อคนที่รับมาดูแลคงจะปวดหัวน่าดู
"เฮ้อ! สามพันก็ได้"
"ขอจ่ายแค่ค่าน้ำค่าไฟได้มั้ยคะ"
พีพียิ้มกว้างออกมาจนตาหยี เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปเรียกผู้ช่วยให้เอารถออก
"คุณมาร์ชเอารถออก"
"ท่านประธานจะไปไหนคะ"
"ไปส่งคุณที่คอนโดไง จะไปรึเปล่าหรือว่าจะไปเช่าที่อื่นแทน"
พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที พีพีตาโตอุ้มกระเป๋าก่อนจะวิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว
"รอพีพีด้วยค่ะท่านประธาน ตกลงว่าให้อยู่ฟรีเหรอคะใจดีจังเลย"
"โอเคฟรีก็ฟรี ขึ้นรถสิ"
"เย้ๆ ท่านประธานใจดีจังเลย"
พีพีกระโดดอย่างดีใจก่อนจะขึ้นรถไปนั่งข้างๆเขา จากนั้นมาร์ชก็พาทั้งสองคนไปยังคอนโดของบอสนายไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก เมื่อมาถึงเขาก็พาพีพีเดินขึ้นไปชั้นบนก่อนจะให้เธอแสกนนิ้วเพื่อเข้าใช้ห้องได้
"ต้องแสกนกี่นิ้วคะ"
"สองก็ได้ เอานิ้วมาสิ"
พีพีจิ้มนิ้วลงไปอย่างสนุกก่อนจะลองเปิดประตูเข้าไปแล้วร้องว้าวออกมาอย่างตื่นเต้น คอนโดของเขาหรูมากติดแม่น้ำวิวสวยมาก ตกแต่งแนววินเทจสีเรียบอุปกรณ์ครบครัน สวยกว่าห้องของเธออีก
"ห้องสวยจังเลย กริ๊ดดดด"
พีพีวางกระเป๋าก่อนจะวิ่งไปกระโดดลงบนโซฟาตัวนุ่ม บอสนายส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อดูว่ามีของสดอะไรบ้าง
"ของสดเยอะเลย ทำกินได้นะพีพีประหยัดค่ากับข้าวไปเยอะเลย"
พีพีชะงักไปก่อนจะเดินตรงไปหาเขาในห้องครัว เธอมองเนื้อหมู เนื้อปลา ผักหลายชนิดแล้วก็ไข่ก่อนจะส่ายหน้า
"พีพีทำกับข้าวไม่เป็นหรอกค่ะ อยู่ที่บ้านก็มีแม่บะ.. เอ่อ หมายถึงมีคนทำให้กิน ถ้าอยู่คอนโดก็สั่งออนไลน์ค่ะสะดวกกว่าเยอะเลย"
เขามองเธออย่างเหนื่อยใจ ชีวิตของเธอทำอะไรด้วยตัวเองเป็นบ้างเนี่ย สาบานเลยนะว่าถ้าวันหนึ่งเขามีลูกขึ้นมาจะไม่เลี้ยงให้โตมาเป็นแบบนี้แน่นอน
"หัดทำเองบ้างสิเป็นผู้หญิงเสียเปล่า อย่างน้อยผัดข้าวต้มมาม่าทอดไข่ได้ก็ดีมากแล้ว คลิปในyoutubeเยอะแยะเปิดแล้วลองฝึกทำสิ"
"ก็ได้ค่ะ แล้วพีพีจะทำไปฝากท่านประธานนะคะ"
"ทำกินเองให้รอดก่อนเถอะค่อยเอามาฝากคนอื่น ผมจะกลับแล้วคุณพักผ่อนเถอะ อยากจะเริ่มงานวันไหนก็ไป พรุ่งนี้วันที่หนึ่งพอดีถ้าไม่ไปทำงานก็หักเงินนะตามนั้นแหละ"
เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที พีพีอ้าปากค้างก่อนจะวิ่งตามเขาออกไปจนถึงหน้าห้อง
"หักเงินด้วยเหรอคะ"
"หักสิก็คุณยังไม่ผ่านโปรเลย วันหยุดก็หยุดได้แต่ถ้าไม่ใช่วันหยุดแล้วหยุดก็หักเงินตามนั้นแหละ"
"บริษัทอะไรขี้งกจัง"
พีพีเอ่ยออกมาเหมือนจะบ่นก่อนจะเงยหน้ามองสบตากับบอสนายที่มองเธออยู่เช่นกัน เธอยิ้มแห้งออกมาก่อนจะโบกมือบ๊ายบายท่านประธาน
"เดินทางกลับปลอดภัยนะคะท่านประธาน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ อ่อ แวะมารับพีพีด้วยนะไปที่ทำงานไม่ถูกค่ะ"
"เฮ้อ! ตกลงเธอเป็นพนักงานหรือภาระเนี่ยพีพี"
"ขอบคุณนะคะท่านประธานใจดีที่ซู๊ดเลย"
พีพียิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะปิดประตูแล้วเข้าห้องไปทันที บอสนายถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าผู้ช่วยของเขาที่อมยิ้มอยู่ข้างๆ
"ไม่รู้คิดผิดคิดถูกที่รับเด็กคนนี้มาดูแล เฮ้อ!"
"ผมว่าเธอน่ารักดีนะครับ อีกหน่อยคงดีขึ้นเอง"
"ขอให้ดีขึ้นนะ ถ้าเป็นอย่างวันนี้ผมได้พบจิตแพทย์แน่นอน ไปกันเถอะ"
"ครับ"