“พีเจกำลังหมายถึงนางเอกทีชื่อแพมใช่มั้ยคะ”
เธอถามกลับเพื่อความมั่นใจ ถ้าจำไม่ผิดแพมนางเอกพรีเรียดที่กำลังโด่งดังในตอนนี้ เธอยังคุยกับเพื่อนอยู่เลยว่าแม่คนนี้หน้าคุ้นมาก เหมือนเคยเจอกันมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน
“ใช่คนนั้นแหละ เราเลือกมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสายการบิน”
“คุณคงไม่ได้คิดอะไรกับเธอใช่มั้ย”
เธอถามอย่างจับผิด เพราะสีหน้าที่เขาแสดงออกมันเกินงามจนเธอแปลกใจ เขาอมยิ้มก่อนจะหันมาถามเธอ
“ผมกำลังจีบเธออยู่”
“อะ…อะไรนะ”
เชอร์ร้องออกมาอย่างตกใจ เขาครองตัวเป็นโสดมานานไม่คิดว่าอยู่ๆจะมาจีบแมดาราคนนี้ ไม่ได้การแล้วเธอเฝ้าของเธอมาตั้งนานชะนีนางไหนจะมาแย่งไปจากเธอไม่ได้ ไม่ยอมเด็ดขาด
“เชอร์ฟังไม่ผิดหรอก เรากำลังจีบเธออยู่ แพมเขาน่ารักมากเลยนะถ้าเชอร์ได้รู้จักจะต้องชอบเธอแน่นอน เดี๋ยววันนี้เธอจะมาคุยงานที่นี่ยังไงถ้าเชอร์ไม่รีบกลับได้เจอกันแน่นอน”
“ไมรีบกลับหรอกค่ะ เชอร์อยากเจอเธอก่อน”
เชอร์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างมีแผนร้ายในใจ สงสัยต้องสั่งสอนให้รู้ซะแล้วว่าใครมาก่อนใครมาหลัง ถ้าอยากทำงานอย่างสงบสุขก็ควรจะถอยออกไปให้ห่างจากพีเจ ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับเธอหรอกเพราะถ้าไม่ฟังรับรองว่าโดนขุดถึงรากเหง้าแน่นอน
“คุณอั้มกับคุณแพมมาแล้วค่ะป๋า”
“นั่นไงมาพอดี ให้เข้ามาเลยครับ”
เขายิ้มออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปต้อนรับทั้งสองคน แพมเดินเข้ามายกมือไหว้ชายหนุ่มพร้อมกับผู้จัดการ เธอหันไปมองคนอื่นในห้องก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
“สวัสดีค่ะป๋าเจ”
“สวัสดีครับคุณอั้ม มาตรงเวลาจังเลย อ่อ คนนี้เชอร์เพื่อนผมเองครับ เชอร์… นี่คุณอั้มผู้จัดการส่วนตัวของคุณแพม แล้วนี่คุณแพม”
“สวัสดีค่ะ”
เธอเอ่ยออกมาก่อนจะมองหล่อนอย่างไม่ละสายตา ก้มมองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ปิดบัง แพมเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรก็รู้เลยว่าเธอหวงก้างแน่นอน
“สวัสดีค่ะคุณเชอร์/สวัสดีค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวเราคุยรายละเอียดกันที่ห้องประชุมนะครับ เชิญทางนี้เลยผมพาไป”
เขาผายมือเชิญทั้งสองคนให้เดินออกไป แพมหยุดชะงักก่อนจะเอ่ยขัดชายหนุ่มซะก่อน
“ป๋าเจคะแพมขอไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะคะ”
“ได้สิครับ ออกประตูอยู่ขวามือนะ ผมจะไปรอที่ห้องประชุม”
“ได้ค่ะ”
เธอยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำทันที ส่วนคนอื่นแยกตัวไปรอที่ห้องประชุม เธอจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเปิดประตูออกมาล้างมือหน้ากระจก เชอร์ยืนกอดอกรออยูตรงประตูอยู่แล้ว
“ได้ข่าวว่าได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของสายการบินใช่มั้ยคะ”
“ค่ะ ตามนั้น”
แพมเอ่ยออกมาเสียวเรียบก่อนจะหยิบลิปสติกมาเติมปากหน้ากระจกโดยไม่สนใจคนที่อยู่ในห้องน้ำด้วย เชอร์กำมือแน่นหมั่นไส้ในความมั่นหน้าของหล่อน เธอขยับเข้ามาใหล้ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ
“ก็ขอให้ทำงานอย่างตั้งใจให้มันออกมาดีที่สุดนะ ส่วนเรื่องอื่นหยุดคิดซะ เพราะมันจะไม่มีทางเป็นไปได้”
แพมเก็บลิปสติกก่อนจะหันไปมองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เรื่องอื่นคือเรื่องอะไรเหรอคะ”
“อย่ามาทำเป็นใสซื่อ อย่ามายุ่งกับพีเจเด็ดขาดเธอตั้งใจทำงานก็พออย่าคิดจะยุ่งกับเขา”
“ถึงจะไม่ยุ่งแต่ว่าเขามายุ่งด้วยเองนี่คะ จะให้แพมทำยังไงดีล่ะ… ป๋าเจทั้งหล่อ ทั้งรวย และที่สำคัญที่สุดเขาบอกว่าชอบแพมมากแล้วตอนนี้ก็พยายามจะจีบอยู่”
แพมมองเธออย่างท้าทาย คิดว่าคนอย่างเธอจะกลัวไม่กล้าที่จะต่อกรกับเธออย่างนั้นเหรอ ทำไมจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครและมีนิสัยสันดานเป็นยังไง เพราะรู้ไงถึงได้เปิดหน้าท้ารบกับหล่อนแบบนี้
“มันจะมั่นหน้ามากเกินไปแล้วนะ เพราะแกมันใช้มารยาสารพัดไงเขาถึงได้หน้ามืดหลงไปกับเล่ห์เหลี่ยมของแก อีกหน่อยถ้าพีเจเห็นท่าแท้ของแกเขาก็ถอยห่างแล้ว จำไว้!”
แพมหลุดขำออกมาเธอถือกระเป๋าขึ้นมาไว้ในมือก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงสดใส
“แบบนี้นี่เอง”
“แบบนี้อะไรของแก”
เชอร์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ แพมขยับเข้ามาใกล้เธอก่อนจะเอ่ยออกมานั่นทำให้หล่อนถึงกับหน้าตึงด้วยความโกรธ
“ป๋าเจคงรู้จักท่าแท้ของคุณแล้วสินะคะ ผ่านมากี่ปีก็ยังคงสถานะความเป็นเพื่อน โธ่ๆ น่าเห็นใจนะคะ”
“อีแพม! นี่แก”
“ให้แพมสอนมารยาหญิงให้มั้ยคะ แบบที่ใช้อ่อยป๋าเจจนหลงแพมถึงขั้นตามเฝ้าไม่ห่างแบบนี้ เดี๋ยวจะทำให้ดูนะคะ”
“แกคิดจะทำอะไร”
เธอเดินออกมายังประตู พีเจที่ลืมโทรศัพท์กำลังเดินกลับมาเอาที่ห้องทำงาน แพมเห็นแบบนั้นก็เดินกลับมาหยิบน้ำไปราดลงบนพื้นไม่มากนัก เธอหันไปมองเชอร์ก่อนจะยิ้มออกมา
“ดูแล้วจำไปใช้นะคะ”
เธอเดินออกไปก่อนจะแกล้งล้มลงที่พื้น พีเจที่เห็นแพมลื่นล้มก็เบิกตากว้างอย่างตกใจรีบวิ่งเข้ามาดูหญิงสาวทันที
“โอ๊ย!”
“คุณแพม!”
เขาถึงตัวเธอก่อนจะรีบมองสำรวจหญิงสาวทั่วตัว แพมจับข้อเท้าตัวเองไว้ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเงยหน้ามองชายหนุ่มแววตาเศร้า
“น้ำมาจากไหนก็ไม่รู้ค่ะ แพมไม่ทันได้มองก็เลยลื่นล้มไป เจ็บจังเลยค่ะ”
เธอเอ่ยออกมาเสียงอ้อน ชายหนุ่มรีบอุ้มหญิงสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“แม่บ้านไม่ได้เรื่องเลยทำไมถึงมีน้ำเลอะแบบนี้ ถ้าคุณเจ็บตัวจะทำยังไงมันน่าไล่ออก”
แพมยื่นมือทั้งสองข้างโอบรอบคอชายหนุ่มไว้ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน
“อย่าไปโทษแม่บ้านเลยค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุอีกอย่างแพมไม่ได้เจ็บตัวเยอะเลย เดี๋ยวก็หาย อย่าไปไล่ใครออกเลยนะคะแพมไม่อยากรู้สึกผิด ไม่อยากเป็นสาเหตุให้ใครเดือดร้อน”
เขาก้มมองหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ทั้งสวยทั้งฉลาดแถมยังใจดีมีเมตตาอีก ผู้หญิงแบบนี้แหละแม่ของลูกชัดๆ
“โธ่ ทำไมคุณแพมถึงดีขนาดนี้ ผมมองคนไม่ผิดจริงๆ แม่ของลูกผมต้องเป็นคุณเท่านั้นรู้มั้ย”
“พูดอะไรคะแพมเขินแย่”
เธอก้มหน้างุดๆด้วยความเขินอายก่อนจะอุ้มพาเธอไปยังห้องทำงานเพื่อดูข้อเท้าก่อน แพมกอดคอเขาไว้แน่นชายตาหันไปมองเชอร์ที่ยืนอยู่หน้าประตูกำมือแน่นอย่างโกรธแค้นก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
‘มีปัญญาก็มาแย่งคืนไปสิ…’