“อร่อยมั้ยคะหนูน้อย”
พีเจเอ่ยถามน้องพั้นช์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ตอนนี้เด็กน้อยกำลังทานไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อยเลอะปากเลอะคางเต็มไปหมด ชายหนุ่มหยิบทิชชู่มาคอยเช็ดปากให้ เด็กน้อยยิ้มกว้างยกมือขอบคุณก่อนจะตักทานต่อจนเกือบหมด
“อร่อยมากเลยค่ะ”
“อร่อยต้องกินให้หมดนะคะ อาพีเจออุตส่าห์ใจดีพามากินของอร่อยทั้งที”
“ค่ะพี่แพม”
เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะทานจนหมด ทั้งสามคนใช้เวลาอยู่ในร้านไอศกรีมอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะชำระเงินแล้วออกไปเที่ยวที่อื่นต่อ เขาเลือกที่จะพาน้องพั้นซ์ไปเที่ยวสวนสัตว์ เด็กวันนี้น่าจะชอบให้อาหารสัตว์ดูธรรมชาติ
“ป๋าเจจะไปไหนต่อเหรอคะ”
“ไปสวนสัตว์ครับ ผมจะพาน้องพั้นช์ไปให้อาหารสัตว์”
“เย้ๆ น้องพั้นช์ชอบดูสัตว์ค่ะโดยเฉพาะยีราฟคอยาว มันน่ารักมากเลยค่ะ”
“งั้นเราไปให้อาหารยีราฟกันนะคะ”
เขาอมยิ้มก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเด็กน้อยอย่างเอ็นดู เขาหันไปมองแพมที่มองเขาอยู่เช่นกัน ทั้งสองคนมองสบตากันยิ้มๆ วันนี้ต่างฝ่ายต่างมีความสุขที่ได้ออกมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้
“ขอบคุณนะคะที่วันนี้ตามใจน้องพั้นช์มากขนาดนี้ แถมยังซื้อของให้เยอะแยะอีก”
“อย่าถือเป็นเกรงใจกันเลยนะครับ ผมเต็มใจทำให้ทั้งสองคนมีความสุข”
เขาระบายยิ้มออกมาก่อนจะขับรถเข้าไปจอดยังลานจอด จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเข้าชมพร้อมกับบัตรรถ ทั้งสามคนนั่งอยู่เคียงข้างกันโดยพีเจกับน้องพั้นช์ป้อนอาหารให้สัตว์ ส่วนแพมมีหน้าที่ถือของให้ทั้งสองคน ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเลยว่าน้องพั้นช์กับพีเจสนิทกันไวมากจนน่าตกใจ
“แบ่งตัวอื่นกินบ้างสิเจ้ายีราฟ”
“ไม่เป็นไรค่ะหนูให้กินไปเลย เดี๋ยวเราแวะซื้อเพิ่มก็ได้ค่ะ ตัวมันใหญ่จะตายกินถุงแค่นี้มันจะไปอิ่มอะไรจริงมั้ยคะ”
“จริงค่ะ”
สองคนพูดจาสนับสนุนคำพูดกันเป็นอย่างดีเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จากนั้นแพมก็แวะซื้ออาหารสัตว์ให้สองคนเพิ่มแล้วก็ไม่ลืมที่จะซื้อน้ำเย็นๆติดมือไปด้วย
“อาหารสามถุงค่ะ แล้วก็น้ำเย็นๆดื่มให้ชื่นใจก่อนเถอะค่ะอากาศมันร้อน”
เธอส่งแก้วไปให้ชายหนุ่มแล้วก็ป้อนน้องพั้นช์ที่เอาแต่ป้อนอาหารยีราฟไม่หยุด ท่าทางดูสนุกจนไม่ยอมไปไหน แม้กระทั่งข้าวก็ยังไม่ถามหาทานเลย
“มาดื่มน้ำค่ะน้องพั้นช์ ดูสิเหงื่อออกหมดแล้ว”
“น้องพั้นช์ชอบยีราฟค่ะมันน่ารัก”
“จ้ารู้แล้วๆ แต่มาดื่มน้ำก่อนเถอะจะได้มีแรงเล่นต่อ”
เธออุ้มน้องพั้นช์มานั่งลงบนตัก ป้อนน้ำจนอิ่มก่อนจะปล่อยให้ไปเล่นกับพีเจต่อ ทั้งสองคนป้อนอาหารยีราฟต่อจนหมดก่อนจะมานั่งพักผ่อนที่ศาลา
“เหนื่อยละสิจอมยุ่ง หลับปุ๋ยเลย”
แพมมองน้องพั้นช์ที่อยู่ในอ้อมกอดของพีเจก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ทั้งชีวิตของเด็กคนนี้ก็มีแค่เธอกับแม่สองคน ตอนนี้เธอคือคนเดียวที่ทำงานดูแลครอบครัวส่วนแม่ลาออกมาได้สามปีแล้วตั้งแต่ที่เธอเริ่มเข้าวงการ ท่านส่งเธอเรียนเมืองนอกจนจบคราวนี้ถึงตาเธอทำงานหาเงินเลี้ยงดูท่านบ้างแล้วยังต้องทำงานหนักมากขึ้นเพราะในอนาคตน้องพั้นช์ต้องใช้เงินอีกมาก
“ผมว่าไปที่รถดีกว่า ที่นี่ร้อนมากน้องพั้นช์คงจะไม่ค่อยสบายตัว”
“ก็ดีค่ะ ไปกันเถอะ”
พีเจอุ้มน้องพั้นช์ไปนั่งอยู่ในรถ เปิดแอร์เย็นสบายเพื่อให้เด็กน้อยสดชื่นขึ้น วันนี้เขาว่าจะพาทั้งสองคนกลับบ้านก่อน วันนี้เหนื่อยมากแล้วไว้ว่างก็ค่อยพามาอีก
“งั้นวันนี้ผมพาคุณกับน้องพั้นช์กลับก่อนดีกว่า วันอื่นถ้าว่างเรามาด้วยกันอีกนะครับ”
“ค่ะ แพมยังไงก็ได้”
สองคนยิ้มให้กัน หญิงสาวอุ้มน้องพั้นช์มาไว้บนตักส่วนพีเจก็ขับรถออกไปทันทีแล้วตรงกลับไปที่บ้าน เขาลงจากรถมาพร้อมกับหญิงสาว ว่าจะเข้าไปทักทายคุณแม่ของเธอก่อนส่วนจะอยู่หรือกลับค่อยว่ากันอีกที
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”
“ยินดีครับผมเต็มใจ ถ้ามีปัญหาอะไรหรือต้องการความช่วยเหลือผมอยากให้คุณนึกถึงผมก่อนคนแรก อย่าได้เกรงใจกันมีอะไรให้บอกผมช่วยได้ทุกอย่าง”
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดๆ กลัวแค่ว่าเธอจะเกรงใจเขามากจนไม่ยอมขอความช่วยเหลืออะไร ซึ่งเขาคงจะรู้สึกไม่ดี
“ค่ะ ถ้าแพมมีปัญหาอะไรจะบอกนะคะ”
จากนั้นคุณแม่ก็ชวนเขาทานข้าวด้วยกันก่อนกลับ วันนี้ยอมรับเลยว่าเขามีความสุขมาก นี่แหละคือสิ่งที่เขาตามหามาตลอดมันรู้สึกห่างหายไปตั้งนานแล้ว
“ผมกลับก่อนนะคุณแพม เจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้นะครับ ให้ผมมารับไปด้วยกันมั้ย”
เธอส่ายหน้ายิ้มๆ ถ้าต้องมารับมาส่งเกรงว่าจะเป็นการรบกวนมากจนเกินไป แค่นี้เขาก็ดีกับครอบครัวเธอมากแล้ว
“พี่อั้มจะมารับค่ะ เจอกันที่นั่นเลยดีกว่า”
“ก็ได้ครับ ผมกลับก่อนนะเดี๋ยวคืนนี้จะโทรมาคุยด้วย”
“ค่ะ แพมจะรอนะ”
เธอเดินมาส่งเขาที่รถ ชายหนุ่มขับออกไปส่วนเธอมองตามเขาก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ไม่นานก็เดินกลับเข้าบ้านไปทันที
วันต่อมา…
พีเจอยู่ในห้องทำงานกำลังเซ็นเอกสารระหว่างรอแพมกับผู้จัดการส่วนตัวเดินทางมาที่นี่ วันนี้มีนัดคุยรายละเอียดงานทั้งตัวของโฆษณา ภาพนิ่ง และการเปิดตัวต่างๆอีกลายอย่าง รายละเอียดผู้ช่วยของเขาจะเป็นคนจัดการเอง ส่วนเขาแค่อยากเจอเธอและอยากรู้ว่างานนั่นเป็นไปได้ด้วยดีรึเปล่า ขาดเหลืออะไรเขาจะได้ตัดสินใจได้เลย
“ป๋าเจคะคุณเชอร์มาขอพบค่ะ”
“เชอร์เหรอ.. ไหนบอกไปเที่ยวต่างประเทศนานเป็นเดือนทำไมกลับมาแล้ว ให้เธอเข้ามาสิ”
เลขาของเขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปเชิญคุณเชอร์หรือเพื่อนสมัยเรียนของเขาเข้ามาหา เขาก็ติดต่อกับเพื่อนทุกคนแบบปกติทั้งหญิงและชาย แต่กับเชอร์เธอชอบมาหาปรึกษานั่นนี่ แล้วก็ชวนไปกินข้าวบ้างซึ่งเขาเป็นหนุ่มโสดไม่มีพันธะใดๆก็ไปด้วยได้
“พีเจเชอร์กลับมาแล้ว มีขนมมาฝากด้วย”
หญิงสาวยิ้มกว้างเดินเข้ามาก่อนจะวางถุงขนมลงแล้วเอ่ยทักทายเพื่อนถึงแม่ว่าใจลึกๆเธอไม่ได้อยากเป็นเพื่อนก็เถอะ
“ไงเชอร์ เที่ยวสนุกเลยสิ”
“แน่นอนสิ ว่าแต่ได้พรีเซนเตอร์คนใหม่หรือยัง ว่าจะมาสมัครนะเนี่ยเสนอตัวเองให้เลย คิคิ”
เธอเอ่ยออกมาติดตลก ในอดีตเธอคือดาวคณะเป็นสาวฮอตของรุ่นเลยแหละ แต่เซ็งที่ไม่สามารถมัดใจพีเจได้เนี่ยสิ จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น
“มาช้าไปเราได้แล้ว”
“ใคร… สวยสู้เชอร์ได้ป่ะ”
เขาอมยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าของแพม ในสายตาของเขาเธอสวยที่สุดอยู่แล้วแต่ไม่อยากพูดให้เพื่อนเสียใจเอาเป็นว่ากลางๆไว้ก่อน
“สวยคนละแบบนะสิ แถมเค้าสวยในแบบของตัวเองผมถึงเลือกเธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยตัวเอง”
เขาพูดไปพร้อมกับใบหน้าที่เอิบอิ่มไปด้วยความสุขจนเชอร์รู้สึกถึงท่าทีแปลกไปของชายหนุ่ม ทำไมเขาถึงพูดถึงผู้หญิงคนอื่นด้วยใบหน้าที่ดูชื่นชมมากขนาดนั้น
“เลือกเองเลยเหรอคะ”
“ครับ เธอชื่อแพมเป็นดาราในสังกัดของคุณอั้มไงที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้”