Chapter 10

1422 Words
“ดีนะไม่เป็นอะไรมาก ผมกลัวคุณจะข้อเท้าแพลงเสียงานคุณหมด” “ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง” แพมยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเขาไว้ ชายหนุ่มนวดข้อเท้าให้เธออย่างเบามือเมื่อเห็นมือเล็กจับมือเขาไว้ก็เงยหน้ามองอย่างแปลกใจ “อะไรเหรอครับ” “ไม่ต้องแล้วค่ะแพมเกรงใจ” “อย่าไปถือสาเลยครับ แค่นวดเท้าเองผมทำให้คุณได้สบายมาก ทำมากกว่านี้ก็ทำได้ขอแต่คุณบอกผมเท่านั้น” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก แพมยิ้มออกมาอย่างซาบซึ้งในก่อนจะหันไปมองเชอร์ที่ยืนกอดอกมองอย่างไม่ค่อยชอบใจนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อนต้องแอ๊บเป็นคนดีน่ารัก “ทำแบบนี้ไม่ต่างจากเป็นแฟนกันเลยนะคะ” “ก็ตอบตกลงรับรักผมซักทีสิครับ ผมจะได้ดูแลคุณได้อย่างเต็มที่ ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลคุณได้มั้ย” ครั้งนี้เขาเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง เขาจะถามจนกว่าเธอจะยอมรับรักในซักวัน แพมหันไปมองหน้าเชอร์อีกครั้งอย่างท้าทายก่อนจะมองสบตาชายหนุ่มแล้วเอ่ยออกมาเสียงหวาน “แพมจะเป็นแฟนกับคุณค่ะป๋าเจ” พีเจตาโตอย่างตกใจ ไม่คิดว่าครั้งนี้เธอจะยอมตกลงง่ายๆ ถึงจะแปลกใจแต่ว่าก็ดีใจในที่สุดเธอก็ยอมให้เขาได้ดูแล ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แค่นี้ก็ดีมากแล้ว “พูดจริงเหรอครับ” “ค่ะ พูดจริง” เชอร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็กำมือแน่นอย่างเคียดแค้น นังนี่มันร้ายกว่าคนอื่นที่เธอเคยเจอ สงสัยอยากเปิดสงครามกับเธอแบบนี้สงสัยต้องสั่งสอนให้หลาบจำ ว่าจะท้าทายใครก็ได้แต่อย่ามาท้าทายคนอย่างเชอร์ “ผมดีใจนะดีใจมากเลยด้วย” “ต่อไปนี้เราสองคนคบกันแล้ว งั้นป๋าเจเรียกแพมว่าแพมเฉยๆได้มั้ยคะ เรียกคุณมันดูห่างเหินจัง” “ได้สิคะ” “พูดค่ะด้วยน่ารักจังแพมชอบนะ” หญิงสาวยิ้มออกมาทันที ทั้งสองคนดูแลกันเหมือนตอนนี้อยู่กันแค่สองคน เชอที่เหมือนเป็นส่วนเกินกำหมัดแน่นอย่างโมโห ถ้ามันจะเปิดศึกแย่งพีเจกับเธอก็เอา บอกเลยนะว่าเธอจะเหยียบมันจมดินแน่นอน “พีเจคะ คุณไม่ไปคุยงานแล้วเหรอ” เสียงเรียกของเชอร์ทำให้เขาได้สติ จริงด้วยทุกคนกำลังรออยู่ที่ห้องประชุมนี่นา เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็ขนับตัวลุกขึ้นก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าหญิงสาว “ไปค่ะผมพาไป” “แพมเดินไหวค่ะป๋าเจไปก่อนเลย ไม่อยากถูกมองว่าสนิทสนมกับท่านประธานมากไปเดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี” เธอมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างน้อยให้มันผ่านพ้นการเปิดตัวไปก่อน ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะมองว่าเธอใช้เต้าไต่ถึงได้งานนี้ “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” “ป๋าเจไปก่อนเลยค่ะ แพมตามไปทีหลัง” เขานิ่งไปซักพักก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ เขาตามใจเธอไว้ก่อนดีกว่าเอาที่เธอสบายใจ ถ้าเขาเรียกร้องอะไรมากไปจะเป็นเรื่องอีก “ก็ได้ครับ งั้นตามมานะ” “ค่ะ” “เชอร์กลับก่อนก็ได้นะ ไว้ค่อยเจอกันใหม่คุยงานเสร็จผมคงจะพาแพมไปกินข้าวต่อ ยังไงโชคดีนะขอบคุณสำหรับของฝาก” เขาเอ่ยยิ้มๆก่อนจะเดินถือโทรศัพท์ออกไปอย่างอารมณ์ดี ในที่สุดหญิงสาวก็รับรักเขาแล้ว ตอนนี้เขาสามารถดูแลเทคแคร์เธอได้ในสิ่งที่คนเป็นแฟนสามารถทำได้ เท่าที่ทราบครอบครัวของเธอมีกันแค่สามคนมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นเพราะฉะนั้นเขาจะเป็นคนดูแลสามคนนั้นเองต่อจากนี้ไป แพมเหลือบสายตามองเชอร์เล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น เชอร์ขยับเข้ามาผลักไหล่ของแพมก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดุดัน “แกคิดผิดแล้วที่จะเล่นกับคนอย่างฉัน อยู่ดีๆไม่ชอบอยากออกจากวงการหมดอนาคตสินะ หึ!” เธอไม่ได้ขู่แต่ว่าจะทำจริงๆ คนอย่างเธอเกลียดที่สุดคือการมาท้าทายไม่รู้สถานะของตัวเอง คนแบบนี้แหละมันน่ากำจัดมากที่สุด “ถ้าฉันออกจากวงการก็ไม่เดือดร้อนนะคะ พอดีว่าสามีในอนาคตรวยมาก คุณก็เห็นใช่มั้ยว่าเค้ารวยมากขนาดไหน เพราะฉะนั้นไม่แคร์ค่ะ” เธอเอ่ยออกมาอย่างยั่วยวนสุดๆ คนอย่างเธอเมื่อก้าวขาลงมาเป็นหมากในเกมนี้แล้ว ไม่มีทางที่จะถอยหลังหรือยอมแพ้กลับไป เธอจะต้องได้รับชัยชนะกลับไปเท่านั้น “ฉันจะทำให้พีเจเกลียดแก ผิดหวังในตัวแก ดูสิว่าถึงเวลานั้นใครจะปกป้องอีก จะรอดูนะ” เชอร์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ถามว่าแพมกลัวมั้ยก็มีความรู้สึกเสียวสันหลังนิดหน่อย เพราะยัยนี่จิตใจมันไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป แต่เธอจะไม่แสดงอาการหวาดกลัวเพราะมันจะทำให้ศัตรูได้ใจ “จะรอวันนั้นนะ พนันได้เลยว่าถึงคุณจะเหยียบฉันจนจมดินพีเจไม่มีทางทอดทิ้งฉันไปไหนเด็ดขาด ถ้าจะลองก็เอาสิ จะรอดูเหมือนกัน” แพมยิ้มยั่วก่อนจะเดินออกไปทันที เชอร์กำหมัดแน่นอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังลั่นห้อง แต่ก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง “ฉันไม่เอาแกไว้แน่อีแพม เตรียมรับมือได้เลย” ทางด้านของพีเจเขานั่งเท้าคางมองหญิงคนรักอย่างหลงไหล ไม่รู้ทำไมเขาถึงทั้งรักและหลงเธอมากขนาดนี้ ยิ่งน้องพั้นช์อีกคนเขาหลงมากเธอเป็นเด็กน่ารักน่าชังมาก เขาอยากจะได้ทั้งสองคนมาเป็นครอบครัวในไม่ช้านี้ต้องสมหวังแน่นอน “เราจะถ่ายภาพนิ่งเซ็ตแรกก่อน จะมีชุดแอร์โฮสเตสเป็นหลักถ่ายในเครื่องบิน แล้วก็ภาคพื้นดิน ในห้องรับรองอีกหลายที่ คงต้องรบกวนคุณอั้มหาเวลาว่างให้ซักวันหนึ่ง แล้วก็การถ่ายโฆษณาคงต้องรบกวนซักอาทิตย์หนึ่ง ยังไงฝากด้วยนะครับ ขอคอนเฟิร์มเวลาที่แน่ชัดแล้วผมจะได้คุยกับทีมงานอีกที” “พรุ่งนี้บ่ายๆจะให้คำตอบค่ะ คิวน้องแน่นมากแต่ถ้าเป็นต้นเดือนหน้ามีวันว่างอยู่ค่ะ” “งั้นดีเลยครับ ป๋าเจมีอะไรเพิ่มเติมมั้ยครับ” เปียหันไปขอความเห็นจากผู้เป็นเจ้านาย เขานั่งมองหญิงสาวอย่างคนไร้สติ แพมมองเขายิ้มๆไม่พูดอะไรนั่นทำใหัทั้งเปียและอั้มหันไปมองหน้ากันทันที “เหมือนเราคุยกันสองคนอ่ะค่ะ” “นั้นสิครับ ผมว่าคราวหลังเรานัดคุยกันสองคนก็พอ ส่วนสองคนให้นั่งมองกันก็พอ” สองคนซุบซิบกันเสียงเบา เปียหันไปสะกิดเจ้านายอีกครั้งนั่นทำให้เขาได้สติ “ป๋าครับ” “หะ..ว่าไง” “ผมถามว่ามีอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย” เขาร้องอ่อออกมาก่อนจะหันไปหาหญิงสาวทันที “แพมอยากเพิ่มเติมอะไรมั้ยคะ” “ไม่ค่ะ แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ” “งั้นตกลงตามนี้เลย คุณเปียจัดการเลยนะ ไปครับเราไปหาของอร่อยกินกันดีกว่า คุณอั้มไปด้วยกันมั้ยครับ” เขาหันไปชวนผู้จัดการส่วนตัวของหญิงสาวตามมารยาท เธอรีบส่ายหน้าทันที ขืนไปมีหวังไปนั่งคุยคนเดียวเป็นก้างขวางคอเขาสองคนมากกว่า ขอบายเถอะครั้งนี้ “ตามสบายเถอะค่ะป๋าเจ อั้มไม่อยากเป็นกขค แค่ยืนอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกเป็นส่วนเกินแล้วค่ะ” “คุณอั้มก็พูดเกินไป…” เขายิ้มเขินก่อนจะหันไปมองหญิงสาว แพมยิ้มกว้างไม่พูดอะไร เธอยังทำให้เขาหลงได้มากกว่านี้อีกเยอะ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าผู้หญิงคนนั้นคิดว่าจะเอาชนะเธอได้ก็มาเลย เธอพร้อมเสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD