วันงานมาถึงอย่างรวดเร็ว วันนี้เบลมาช่วยเธอแต่งตัว นางคือเพื่อนคนเดียวของเวโรนิก้า เป็นเด็กเสิร์ฟที่บาร์ เราทั้งสองพบเจอกันตอนที่เวโรนิก้าไปจัดสวนดอกไม้ ก็เลยทำความรู้จักและพูดคุยกันมาเรื่อยๆ
"เจ้างดงามมากนะเวโรนิก้า ยังจะชุดพวกนี้ ให้ตายเถอะมันเหมาะกับเจ้ามากๆเลย"
เบลรวบผมเธอขึ้นไปพร้อมกับแต่งด้วยดอกไม้ด้านหลัง ชุดที่เธอสวมคือชุดสีเหลืองอ่อนที่หรูหราน้อยที่สุดในบรรดาชุดที่ท่านหญิงส่งมาให้
"เจ้าก็กล่าวเกินไป!!"
"วันนี้เจ้าต้องเต้นรำให้ได้นะเวโรนิก้า ต้องทำให้บุรุษพวกนั้นหันมองมาที่เจ้าคนเดียว"
ในกระจกเงาสะท้อนตัวเธอในแบบที่เธอไม่คุ้นตาเลย มันอ่อนหวานจนเธอยังต้องตกใจ ฝีมือของเบลนั้นดีมากจริงๆ
"ขอบคุณมากนะเบล แต่ที่ข้าไปมิได้ไปเพราะว่าอยากหาสามี แต่เพราะว่าคนที่จัดงานคือผู้มีพระคุณของข้า"
"โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆเวโรนิก้า เมื่อพบเจ้าคนที่ทำให้หัวใจของเจ้าเต้นแรงก็แค่ไขว่คว้าเขาเอาไว้ ชีวิตก็เป็นเช่นนี้มีทั้งสมหวังในความรักและผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา มีหัวเราะมีร้องไห้ นี่สิรสชาติชีวิต!"
เธอส่งยิ้มให้เบลผ่านทางกระจกเงา
"ขอข้าจัดการปัญหาในชีวิตตอนนี้ก่อนเถิด บุรุษในงานต่างก็หวังพบเจอสตรีที่ดีพร้อม เจ้าดูสภาพข้าสิ มีอันใดให้น่าเข้าหากัน"
เบลส่ายหน้าเบาๆให้กับสหาย ทั้งๆที่นางนั่งอยู่ด้านหน้ากระจกเงาแท้ๆแต่กลับมองไม่เห็นถึงความสวยงามของตัวเอง เธอเชื่อเหลือเกินว่าในค่ำคืนนี้บุรุษเก้าในสิบคนจะต้องมองมาที่เวโรนิก้า ใบหน้าที่แสนจะงดงามอ่อนหวานนี้จะดึงดูดบุรุษเข้ามาหานางเอง
"ขอให้มีค่ำคืนที่งดงามนะเวโรนิก้า..."
เบลได้แต่อวยพร ขอให้สหายที่ไร้เดียงสาของเธอพบเจอแต่คนดีๆด้วยเถิด
เวโรนิก้าเดินออกมาจากร้านดอกไม้เธอก็พบกับพ่อบ้านตระกูลเบอริฮานยืนรออยู่
"ท่านแกรนด์ดยุคให้ข้ามารับมิสจาเมลไปส่งที่งานครับ"
เธอเดินขึ้นรถม้าไปด้วยความดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องเสียเงินไปจ้างรถม้า!! พอมาถึงงานเวโรนิก้าก็ต้องตกใจกับความงดงามของสวนด้านนอกและฟอล์อเต้นรำ ดอกกุหลาบที่งดงามเย้ายวนและดอกเดซีที่ดูไร้เดียงสานั่นเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ บุรุษและสตรีมากมายต่างจับกลุ่มพูดคุยทำความรู้จักกัน เธอเดินมาจนถึงหน้าฟอล์อเต้นรำ
ท่านหญิงดาฟเน่กำลังเต้นรำอยู่บนนั้น วันนี้ท่านหญิงงดงามมากทีเดียวดูสวยกว่าทุกวันที่พบเจอ อีกทั้งใบหน้านั้นกำลังประดับไปด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเย้ายวน
หลังจากเพลงแรกจบ ท่านหญิงก็เดินมาหาเธออย่างรวดเร็ว
"ข้าไม่เห็นบัตรเต้นรำบนข้อมือเจ้าเลย?"
"ท่านหญิงคะ ข้าเต้นรำไม่เก่ง"
ดาฟเน่จูงมือเวโรนิก้าไปยังโต๊ะบัตรเต้นรำ เธอหยิบกระดาษสี่เหลี่ยมใบเล็กมาผูกที่ข้อมือของเวโรนิก้า
"ข้าบอกแล้วว่าขอให้เจ้าเพลิดเพลินกับมัน วันนี้เจ้างดงามมากนะเวโรนิก้า มั่นใจในตัวเองหน่อย ว่าแต่กาเลนไปไหน?"
"...มิทราบค่ะ ข้ามิได้มากับท่านแกรนด์ดยุค"
ท่านหญิงถอนหายใจก่อนจะพาเธอเดินไปยังโต๊ะเครื่องดื่ม
"ท่านหญิงเมอลิน ท่านจัดงานได้หรูหรามากครับ หากว่าไม่เป็นการรบกวนช่วยแนะนำสตรีที่ยืนอยู่กับท่านให้ข้าได้รู้จักบ้างได้ไหม?"
ดาฟเน่รีบดันตัวเวโรนิก้าให้ไปยืนใกล้บุรุษผู้นั้น
"นี่คือเวโรนิก้า จาเมลค่ะ นางคือน้องสาวบุญธรรมของข้าเองค่ะ ลอร์ดวินเทอร์ราส"
เขายื่นมือส่งมาให้เธอ พร้อมกับส่งยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนมาให้
"หากบัตรเต้นรำของเลดี้ยังว่าง ให้เกียรติเต้นรำกับข้าสักเพลงได้ไหมครับ"
ใบหน้าของเวโรนิก้าขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ เธอมองไปที่ดาฟเน่ก่อนจะวางมือลงบนฝ่ามือของลอร์ดวินเทอร์ราส
มารยาทพื้นฐานของชนชั้นสูงคือการเรียนเต้นรำ เขายกมือขึ้นมาโอบเอวของเธอเอาไว้
"ข้าชื่อกัสปาครับ มิสจาเมลดูโดดเด่นมาเมื่ออยู่ท่ามกลางคนมากมาย ถึงแม้ว่ามิสจาเมลจะยืนเคียงข้างสตรีที่งดงามที่สุดในจักรวรรดิอย่างท่านหญิงดาฟเน่ แต่ความงดงามของมิสจาเมลก็นังคงโด่ดเด่นออกมา"
เวโรนิกาส่งยิ้มให้กับลอร์ดวินเทอร์ราสตามมารยาท
"ชมเกินไปแล้วค่ะ ที่จริงข้ามิใช่เลดี้ในตระกูลสูงส่งอะไร ข้าเป็นเพียงเจ้าของร้านดอกไม้เท่านั้นเอง"
สีหน้าของกัสปานั้นมิได้เปลี่ยนไปเมื่อเธอบอกกล่าวกับเขาว่าเป็นเพียงสามัญชน
"ข้าชอบนะครับ สตรีที่หาเลี้ยงตัวเอง นั่นเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าสตรีผู้นั้นเข้มแข็งแค่ไหน..."
สายตาของเขายังคงมองมาที่เธออย่างอ่อนโยนเช่นเคยและไม่มีแววตาที่ดูถูกหรือดูแคลน
"เช่นนั้นท่านลอร์ด เรียกข้าว่าเวโรนิก้าก็ได้ค่ะ เวโรนิก้า เพนนี"
"อ่า ร้านเพนนี ข้าเคยได้ยินนะครับ เพราะสหายของข้าเคยไปสั่งดอกไม่ที่นั่นให้ภรรยาของเขา"
เธอส่งยิ้มให้เขา พร้อมกับความรู้สึกดีใจ ที่มีคนรู้จักร้านของเธอด้วย
"หากว่าท่านลอร์ดมีสตรีที่พึงใจ สามารถมาสั่งดเกไม้จากร้านข้าได้นะคะ ข้าจะจัดให้งดงามสุดฝีมือเลย..."
เขามองหน้าเธอ พร้อมกับหัวเราะเบาๆ
"แล้วหากว่าข้า สั่งดอกไม้ให้เจ้าของร้านล่ะครับ จะต้องทำเช่นไรบ้าง..."
เวโรนิก้ารู้สึกว่าใบหน้าของเธอกำลังเห่อร้อนไปกับคำพูดของเขา เธอรับหันมองทางอื่นอย่างรวดเร็วเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายนี้
"เรารู้จักกันแล้วนะครับ หวังว่ามิสเพนนีคงจะไม่รังเกียจ หากข้าส่งบัตรเชิญร่วมดื่มน้ำชาไปให้"
"ด้วยความยินดีค่ะ ลอร์ดวินเทอร์ราส"
เธอและเขาต่างก็ก้มหน้าทำความเคารพกัน เมื่อจบเพลง
หัวใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาเลย!! ภูมิคุ้มกันความรักของเธอมันไม่มีเลยจริงๆ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะมีความรักเพราะวันๆมุ่งมั่นหาแต่เงินมาส่งให้ท่านพ่อ
พอลองมาใช้ชีวิตเองเต็มตัวเช่นนี้ก็ไม่เลวเท่าไหร่ อิสระที่เธอใฝ่ฝัน รสชาติชีวิตที่มีความสุขและความเศร้าคละเคล้ากันไป
สิ่งที่เธอยังไม่มีเลย นั่นคือรสชาติของความรัก...บางทีเธออาจจะต้องเปิดใจตามคำแนะนำของเบลบ้าง
เวโรนิก้ากำลังจะลงจากเวทีก็ต้องชะงัก เพราะท่านหญิงดาฟเน่จับมือของบุรุษผู้หนึ่งเดินตรงมาที่เธอ
"นี่เวโรนิก้า จาเมล เป็นน้องสาวข้าเอง เวโรนิก้า นี่คือลาม่อน มาเดลีน เขาพึ่งได้เลื่อนยศเป็นผู้คุมหอคอยเวทมนตร์ ไปเต้นรำเพื่อทำความรู้จักกันสักเพลงสิ!"
เวโรนิก้าและลาม่อนต่างก็ส่งยิ้มแห้งๆ ให้ดาฟเน่ ก่อนที่พวกเขาจะจูงมือเธอไปที่ฟอล์อ ทว่าสายตาของบุรุษตรงหน้ากลับมิได้มองที่เธอเลย เขามองไปยังทางที่ท่านหญิงเดินจากไป
"งดงามใช่ไหมคะ ในคราแรกข้าเองก็อาการเช่นเดียวกับท่านนักเวทเลย"
ลาม่อนหัวเราะเบาๆ
"เป็นความงดงามที่ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อนเลย ข้าไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมท่านพี่ทั้งสองถึงได้ยอมทะเลาะกันเพื่อแย่งชิงความรักจากนาง..."
"แล้วท่านนักเวทไม่คิดสู้งั้นหรือคะ สายตาที่ท่านมองไปยังท่านหญิง นั่นคือความรักแรกพบชัดๆ"
"รู้สึกราวกับว่าข้าพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งเลย เพราะหากนางสนใจข้าสักนิด คงจะไม่พาข้ามาแนะนำให้เจ้ารู้จัก..ช่างเถอะ ว่าแต่เจ้าชื่อเวโรนิก้าใช่ไหม?"
เธอส่งยิ้มจางๆให้ลาม่อน เรามิได้พูดคุยกันอีกเลยจนจบเพลง ท่านนักเวทเดินลงจากเวทีพร้อมกับเดินหายลับไปจากสายตาของเธอราวกับว่าเขาหายตัวยังไงอย่างนั้น เธอเดินไปหยิบน้ำเลม่อนขึ้นมาดื่ม งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานแต่เวโรนิก้ารู้สึกว่าขาทั้งสองข้าของเธอมันเมื่อยมาก อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้เธอใส่รองเท้าส้นสูงมา
เธอเดินเข้าไปด้านในเพื่อไปนั่งพักในห้องรับรองมากมายที่ถูกเตรียมเอาไว้ เวโรนิก้าถอดรองเท้าออกมา เพื่อพักเท้าของเธอสักหน่อย เธอคิดว่าจะนั่งรอในนี้อีกสักพัก แล้วค่อยออกไปกล่าวอำลากับท่านหญิงดาฟเน่ว่าเธอขอตัวกลับก่อน เพื่อให้เป็นการไม่น่าเกลียดจนเกินไป
ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับบุรุษและสตรีผู้หนึ่งที่เดินเข้ามา พวกเขาทั้งสองโอบกอดกันโดยไม่สนใจว่าเธอกำลังนั่งอยู่ในห้อง และมันเลวร้ายตรงที่พวกเขาเริ่มจะถอดเสื้อผ้าออก
เวโรนิก้าหยิบรองเท้าขึ้นมา เธอมิทันได้สวมมันเพราะเธอไม่อยากจะอยู่ดูบุรุษและสตรีทั้งสองคนทำเรื่องที่น่าละอาย
"อุตส่าห์ดีใจ เพราะคิดว่าเลดี้ผู้งดงามจะมาร่วมวงด้วย..."
เธอขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองบุรุษหน้าไม่อายผู้นั้น
"ข้าไม่เข้าไปร่วมด้วยแน่นอน!!"
เธอกล่าวเสียงดังก่อนจะรีบเดินออกไปด้วยเท้าเปล่า เวโรนิก้าถอนหายใจ เพราะตอนนี้ห้องรับรองทุกห้องต่างก็เต็มหมด ประตูทุกบานถูกปิดสนิทนั้นบ่งบอกว่ามีคนอยู่ในห้องและพวกเขากำลังต้องการเวลาส่วนตัว
เธอเดินมาจนสุดทางเดิน มีสวนที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลายสายพันธุ์ และมีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ เธอทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับก้มลงใส่รองเท้า
บางทีเธออาจจะต้องหนีกลับก่อน.. ใช่แบบนั้นแหละดีที่สุด การมาตามหารักแท้ในงานเลี้ยงเช่นนี้ช่างเป็นการกระทำที่เพ้อฝันจริงๆ