? : Six

2038 Words
ร่างของฉันเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานของตนก่อนที่ตัวของฉันจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้รองประธานด้วยสภาพเหนื่อยล้า การประชุมกินเวลาไปนานกว่าสองชั่วโมงเต็มแต่มันช่างแสนคุ้มค่าเหลือทนเพราะฉันสามารถจับคนผิดได้และได้ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วไม่มีการยอมความใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กว่าที่ใครอีกคนจะเปิดปากยอมรับความผิดก็เล่นทำเอาฉันเหนื่อยอยู่ไม่ใช่น้อย เค้นกันอยู่นานสองนานพร้อมกับหลักฐานที่เป็นสลิปของการโอนเงิน เขาคนนั้นจึงยอมจำนนและสารภาพออกมาเสียหมดเปลือกและมันน่าตกใจที่เขาทำมานานหลายปีแล้ว ถ้าในวันนี้ฉันไม่ลงไปเพื่อที่ต้องการจะไปพบกับคุณปลาย...มันจะเป็นอย่างไรกันนะ? คำถามนี้ผุดซ้ำขึ้นมาในสมองเป็นรอบที่สี่ตั้งแต่ที่รู้เรื่องราวทั้งหมด จะบอกว่าเป็นเพราะเธอที่ทำให้ฉันได้รับรู้การคอรัปชันนี้มันก็คงจะไม่ผิดมากนักเพราะถ้าไม่มีเธอมาอยู่ที่บริษัทของฉัน...ฉันเองก็คงไม่มีวันที่จะลงไปทานข้าวที่โรงอาหารเฉกเช่นเดียวกัน ว่าไปแล้วก็แอบเสียดายอยู่หน่อย ๆ เหมือนกันนะ อุตส่าห์มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับคุณเขาเป็นครั้งแรกแล้วแท้ ๆ เลย อย่างนี้ฉันจะหาโอกาสดี ๆ จากทึ่ไหนไปทานข้าวกับเธอได้อีกกันนะ...ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่แรกเลย “เห้อ...” ก๊อก ก๊อก! “เชิญค่ะ” ฉันเอ่ยตอบรับทั้ง ๆ ที่มือก็ยังกุมขมับอยู่ด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนที่เสียงส้นสูงหนัก ๆ จะเดินเข้ามาชิดใกล้ให้ฉันเงยหน้าขึ้นสบมองซึ่งฉันก็เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเป็นเลขาสาวของฉันเองที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงอาหารในมือของตน “ว่าแต่เธอทานข้าวหรือยัง...เมื่อช่วงเที่ยงยุ่ง ๆ ถ้ายังไม่ได้ทานฉันอนุญาตให้ลงไปหาอะไรทานก่อนได้นะ” ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเลขาสาวก็น่าจะยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกันกับฉัน เพราะผ่านช่วงพักมาแค่เพียงสิบนาทีเท่านั้นเธอก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาฉันแล้วเพราะมีพนักงานไปตามเธอมา...ต้นเหตุก็คือไม่มีพนักงานคนไหนนอกจากเลขาที่จะกล้าคุยกับฉันแบบตัวเป็น ๆ “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวดิฉันขออนุญาตไปหาอะไรทานก่อนนะคะ เดี๋ยวประมาณสิบนาทีดิฉันจะกลับมาประจำที่ บอสมีอะไรวางทิ้งไว้ในห้องก่อนนะคะเดี๋ยวดิฉันมารับงาน” “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เธอไปพักชั่วโมงเต็ม ๆ เถอะ หลังจากนี้คงไม่มีอะไรด่วนแล้ว ขอบใจมากนะ” ฉันเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มออกมาเล็กน้อย ซึ่งเธอก็พยักหน้าตอบรับพร้อมทั้งวางกล่องข้าวลงที่โต๊ะทำงานของฉันให้ฉันมองตามพลางคิดในใจว่าเธอไปทันเตรียมให้ฉันตอนไหน “อ้อ! คุณปลายฝากเอาไว้ให้บอสตอนที่ดิฉันออกมาเข้าห้องน้ำพอดีน่ะค่ะ ดิฉันคิดว่าอาหารคงเย็นแล้ว...ให้ดิฉันอุ่นให้ก่อนไปไหมคะ?” ตึกตัก ตึกตัก ปากกาในมือที่กำลังจะเซ็นเอกสารตกลงที่โต๊ะในทันใดเพราะความมือไม้อ่อนของฉันเองหาใช่สาเหตุอื่น ฉันรีบเงยหน้ามองกล่องอาหารที่อยู่บนโต๊ะในทันที...และในเวลาต่อมาฉันก็เงยหน้าสบมองเลขาสาวอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูถึงชื่อของคนที่ฝากมาและอยากจะได้ยินมันชัด ๆ อีกสักครั้งหนึ่ง “คะ ใครฝากมานะคะ?” “คุณปลาย...โปรดิวเซอร์คนใหม่ที่เข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรกค่ะ” ตึกตัก ตึกตัก หัวใจของฉันเต้นแรงอีกครั้งเมื่อครั้งนี้ฉันได้ยินมันชัดเจนแจ่มแจ้งทั้งสองรูหูแบบที่ตัวเองไม่ได้หูฝาดไปเองแน่ ๆ ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาจนฉันสัมผัสได้ถึงมันทั้งยังมีความสุขแปลก ๆ จนฉันอยากจะอู้งานและไปพบเธอเสียตั้งแต่ตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปข้างหนึ่ง “จะให้ดิฉันเอาไปอุ่น...” “ไม่เป็นไรค่ะ เธอไปทานข้าวเถอะ” ฉันเอ่ยออกมาอย่างรีบร้อนทั้งยังลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงให้เลขาสาวหน้าเหวอกับการกระทำที่แสนร้อนรนของฉัน “แล้วบอสจะไป...” “เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ ทานอาหารให้อร่อยนะคะ” พร้อมกับที่ร่างของฉันเดินออกมาจากห้องในทันทีและเดินตรงไปทางห้องพักของพนักงานหรือจะเรียกว่าห้องชงกาแฟก็คงจะไม่ผิดนัก ฉันเดินมาจนถึงห้องพักท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงานที่สบมองมาอย่างที่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะมองฉันทำไมกันนักกันหนา และวางกล่องอาหารของเธอลงบนเคาน์เตอร์พร้อมกับจัดการเทใส่จานและนำไปอุ่นให้เรียบร้อยด้วยความสุขจนล้นอก มันคือสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าครีมซอสซึ่งเป็นของโปรดของคุณปลายที่เธอมักจะชอบทานอยู่บ่อย ๆ และอัปโหลดลงโซเชียลทุกครั้งเมื่อได้ทานมัน และมันทำให้ฉันดีใจมาก ๆ ที่เธอเลือกจะซื้อของโปรดของตัวเองมาให้กับฉัน...แต่มันก็ดีใจยิ่งกว่าที่เธอคิดใส่ใจและเลือกที่จะซื้อมาฝากเลขาของฉันเอาไว้เพราะเธอรู้ว่าฉันยังไม่ได้แตะต้องอาหารเลยแม้เพียงแต่คำเดียว “มีโน้ตด้วย!” ดวงตาของฉันเป็นประกายเมื่อมองเห็นว่าด้านล่างที่ถูกกล่องทับไว้ในถุงพลาสติกนั้นมันมีโน้ตที่เป็นลายมือของคุณเขาซึ่งฉันจำมันได้ดี และฉันก็ไม่รอช้าเอื้อมมือไปหยิบมันด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ทั้งยังหัวใจเต้นแรงสนั่นหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและฉันคิดว่าตัวเองคงต้องนอนหลับฝันดีไปอีกหลายคืนแน่ ๆ เลย ‘ปลายเห็นว่าคุณยังไม่ได้ทานอาหารเลย แล้วปลายเองก็ไม่แน่ใจด้วยว่าคุณชอบทานอะไร ปลายเลยส่งน้องครีมซอสของโปรดของปลายไปให้แทนก่อนนะคะ กว่าคุณจะได้ทานมันก็คงจะเย็นหมดแล้ว...อย่าลืมอุ่นก่อนทานแล้วก็ทานให้อร่อยด้วยนะคะ :) ’ ปล.หวังว่ามื้อหน้าเราจะได้ทานอาหารกันดี ๆ สักครั้งนะ ปลาย :) ติ๊ง! พอดีกับที่สปาเก็ตตี้ได้ที่พอดีและนั่นคือเสียงของไมโครเวฟที่บ่งบอกว่าอาหารพร้อมทานแล้ว ฉันเอื้อมมือไปหยิบมันอย่างระแวดระวังและรีบเดินจ้ำอ้าวอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปที่ห้องด้วยอาการกลั้นอารมณ์ของตัวเองที่กำลังจะระเบิดออกมาแบบสุดชีวิต และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ท่าทางของฉันทำให้พนักงานที่กำลังจะเดินเข้ามาถามงานถึงกับล่าถอยกลับไป ซึ่งถือว่าฉันโชคดีอีกครั้งแล้วเพราะฉันกำลังที่จะ... “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!” ฉันกรี๊ดออกมาสุดเสียง กรี๊ดออกมาดังยิ่งกว่าครั้งนั้นที่ฉันกรี๊ดเสียอีกเมื่อกลับมายังห้องทำงานของตนและปิดประตูลงเรียบร้อยแล้ว อาหารหน้าตาน่ารับประทานในมือกับกลิ่นหอม ๆ ของมันทำให้ใบหน้าของคนที่ซื้อมันมาให้กับฉันนั้นลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ และมันตลบอบอวลไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่ยากเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดที่สวยหรูได้ รวมไปถึงหัวใจของฉันดวงนี้ด้วย...ที่กำลังเต้นแรงมาก ๆ แรงสนั่นหวั่นไหวยิ่งกว่าตอนที่ฉันมีแฟนหนุ่มคนแรกเสียด้วยซ้ำไป ฉันเดินไปวางจานอาหารลงที่โต๊ะด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พร้อมกับหยิบเครื่องมือสื่อสารยี่ห้อหรูของตัวเองขึ้นมาและเปลี่ยนไปเป็นแอคเคาท์ของแฟนคลับด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่ข้างมุมปากทั้งหัวใจที่อบอวลไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ตั้งท่าวางจานให้สวยงามให้เหมาะสมกับเป็นของโปรดของคุณปลายผู้เป็นศิลปินคนโปรด ก่อนจะกดชัตเตอร์เก็บภาพเอาไว้และโพสลงโซเชียลด้วยแคปชั่นที่ว่า... ‘ของโปรดของใครกันนะ...ใช่คุณปลายศิลปินคนโปรดของเราหรือเปล่า?’ ไม่นานก็มีเมนชั่นมากมายหลากหลายรวมไปถึงยอดกดหัวใจและกดรีจวิตที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อนจากบรรดาแฟนคลับที่ติดตามแอคเคาท์ของฉัน บ้างก็ว่าคิดถึงคุณเขาเนื่องจากหายจากโซเชียลไปนานแล้ว บ้างก็บอกว่าอยากทานและเย็นนี้หลังเลิกงานจะไปหาทานบ้างเพราะว่าคิดถึงศิลปินคนโปรดอย่างคุณปลาย มันทำให้ฉันสุขใจทุกครั้งเมื่อได้สบมองความรักที่เหล่าแฟนคลับมีให้ต่อเธอ เธอเป็นคนน่ารักและเทคแคร์คนอื่นอยู่เสมอ ดังนั้นความรักของพวกเราชาวแฟนคลับน่ะ...เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะให้มันกับผู้หญิงที่ชื่อว่าปลาย ติ๊ง! แต่อยู่ ๆ ก็มีแจ้งเตือนจากอิมสตาแกรมถึงการลงสตอรี่ใหม่ล่าสุดของคุณปลายที่ห่างหายไปนานเป็นเดือนไร้การเคลื่อนไหว มันทำให้หัวใจของฉันสั่นไหวและตื่นเต้นมาก ๆ และฉันไม่รอช้าเลยที่จะกดเข้าไปดูว่าเธอนั้นลงเกี่ยวกับอะไรหลังจากที่ห่างหายไปนานเป็นเดือนเช่นนี้ ‘คาโบนาร่าครีมซอสข้าง ๆ บริษัทก็อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย สงสัยต้องปักหมุดเป็นร้านประจำเข้าไปอีกที่เสียแล้ว :P’ มันเป็นรูปชูสองนิ้วของคุณเขาคู่กับสปาเก็ตตี้ครีมซอสที่เหมือนกันกับฉัน และแคปชั่นที่แสนน่ารักนั้นก็ทำให้ฉันเผยยิ้มออกมาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้สึกตัวว่ายิ้มมานานกี่นาทีแล้วกันแน่ ก๊อก ก๊อก! “ดิฉันกลับมาแล้วนะคะบอส มีอะไรเรียกใช้ได้เลยนะคะ” “ค่ะ ขอบคุณมากนะ” ฉันตอบกลับอย่างได้สติเมื่อเลขาสาวเป็นคนมาเอ่ยเรียกกัน พร้อมกับที่ฉันวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างกายของตนและหันกลับไปสบมองที่อาหารตรงหน้าด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุขอีกครั้ง มื้ออาหารนี้คงเป็นมื้ออาหารที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน...แต่มันก็คงจะดีกว่านี้ถ้าเกิดว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเป็นคุณปลายศิลปินคนโปรดของฉันอีกครั้งหนึ่ง ฉันลงมือทานอาหารในทันทีและพบว่ามันอร่อยจริง ๆ อย่างที่เธอได้เอ่ยบอกในโลกโซเชียล ก่อนจะทานมันอย่างเอร็ดอร่อยด้วยหัวใจที่พองโตพลางคิดหาทางที่จะตอบแทนคุณเขาอยู่ภายในใจและมันทำให้ฉันจมลงไปอยู่ในห้วงความคิดของตนเองโดยไม่ได้สนใจในสิ่งรอบข้างแม้ว่ามันจะมีเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของฉัน มันคือเมนชั่นใหม่ล่าสุดและมียอดกดหัวใจมากที่สุดแม้พึ่งจะมาคอมเมนต์ได้เพียงแค่ไม่กี่วินาที โดยที่เมนชั่นนั้นตอบกลับแอคเคาท์แฟนคลับของฉันว่า... ‘บังเอิญจังเลยนะคะที่คุณแอดมินจวิตนี้ก็ทานครีมซอสเหมือนกันกับปลายด้วย แต่ปลายว่าคงอร่อยสู้กับร้านข้าง ๆ บริษัทของปลายไม่ได้หรอกค่ะ...ถ้าไม่เชื่ออย่างนั้นปลายจะให้คุณคนที่ปลายซื้อไปฝากวันนี้ด้วยมาช่วยยืนยัน ทานให้อร่อยและมาเป็นสาวกครีมซอสเหมือนกันกับปลายนะคะ คุณแอดมิน :) ’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD