? : Two

1939 Words
รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นคันเก่าอยู่บนท้องถนนในเวลาเย็นย่ำที่ผู้คนกำลังเลิกงานและแน่นอนว่าถนนบนเมืองหลวงนั้นใช้เวลาไม่น้อยเลยกับช่วงเวลานี้ในการเดินทางเพราะต่างคนก็ต่างต้องการที่จะกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ณ ที่พักของตน และรวมไปถึงตัวของฉันด้วยเช่นกันที่ติดแหง็กอยู่บนถนนเส้นนี้มาร่วมชั่วโมงแล้ว และดูเหมือนไม่มีทีท่ารถจะขยับไปไหนได้เลยและมันกำลังทำให้ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกบดบังด้วยแว่นสายตานั้นกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับการจราจรบนท้องถนนในเมืองหลวงและคิดว่าอยู่ไปเช่นนี้มันช่างเสียเวลาเปล่า พลันสายตาของฉันนั้นก็สบมองไปรอบ ๆ ข้างและก็ได้พบเห็นห้างแห่งหนึ่งและฉันคิดได้ในตอนนั้นเลยว่าข้าวของในคอนโดก็ควรค่าแล้วแก่การซื้อไปกักตุน ฉันจึงไม่รอช้าและติดแหง็กอยู่อีกต่อไปจึงเบี่ยงรถเข้าเลนซ้ายและมุ่งหน้าตรงไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นในทันทีทันใดอย่างไม่มีรีรอ ฉันเป็นเพียงพนักงานสาวทำงานออฟฟิศคนหนึ่งที่บิดาตั้งใจจะให้เข้าไปเรียนรู้งานก่อนที่จะต้องขึ้นมาเป็นผู้บริหารในภายภาคหน้า ดีกรีของฉันจบปริญญาโทด้วยเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศและกำลังเดินทางกลับมาอยู่ที่เมืองไทยได้เพียงไม่นานนัก พวกท่านตั้งใจที่จะให้ฉันได้เรียนรู้งานในทุก ๆ ส่วนจึงไม่ได้เผยตัวว่าฉันเป็นใครอย่างกับละครน้ำเน่าหลังข่าวที่ฉันดูครั้งสุดท้ายเมื่อตอนที่ตัวเองอายุแตะเลขสองหลักได้ใหม่ ๆ รวมไปถึงการที่ให้ฉันใช้รถคันเก่าเพื่อปกปิดตัวเองไปก่อนและมันช่างน่าตลกสิ้นดีที่คุณพ่อของฉันนั้นชื่นชอบละครหลังข่าวเสียยิ่งกว่าอะไรและฉันก็ขัดท่านไม่ได้เพราะได้รับความเห็นชอบจากผู้เป็นมารดาที่เข้าข้างกันดีเสียยิ่งกว่าอะไร ร่างบอบบางสะบัดหัวไล่ความคิดที่ฟุ้งซ่านก่อนจะตั้งใจเข็นรถเข็นไปตามทางเดินอย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนใด ๆ เพราะตั้งแต่กลับมาฉันก็ย้ายออกมาอยู่คอนโดแต่เพียงลำพังเพราะความเคยชินจากการที่ไปอยู่ต่างประเทศมานานหลายปี ชีวิตที่แสนน่าเบื่อของฉันมันจะมีอะไรดีไปกว่าการกลับไปถึงห้องและนอนแช่น้ำอุ่น ๆ ก่อนที่จะต้องลุกขึ้นมาหลังขดหลังแข็งอ่านเอกสารงานต่าง ๆ ต่อ ไม่ได้น่าเบื่อแต่ก็ไม่ได้มีสีสัน...นี่แหละนิยามชีวิตของฉันผู้มีนามว่าเหมือนฝันที่ชื่อของฉันไม่ได้ข้องเกี่ยวกับชีวิตของฉันที่เป็นอยู่เลยแม้เพียงแต่น้อย “????” เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าและน้ำเสียงที่แสนไพเราะนั้นทำให้การเลือกผักของฉันนั้นหยุดชะงักไปในทันใดราวกับถูกไฟช็อต มันเป็นน้ำเสียงที่แหบพร่าแต่แฝงเต็มไปด้วยเสน่ห์ กีต้าร์ไฟฟ้าที่บังคับเล่นไปกับทำนองเพลงของเธอนั้นช่างนุ่มนวลไม่หนักไม่เบาจนเกินไปและมันทำให้ฉันรู้สึกสนใจขึ้นมาว่ามันเป็นเสียงจากผู้ใดและตรงมาจากทิศทางใดกันแน่ รถเข็นของฉันเลี้ยวไปตามสายทั้งเสียงของเธอก็ยังคลออยู่เบา ๆ ก่อนมันจะเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนฉันรับรู้ได้แล้วว่ามันดังมาจากเวทีที่อยู่ทางด้านหน้าก่อนที่จะเข้ามายังซุปเปอร์ ฉันทิ้งรถเข็นไว้ทางด้านหลังก่อนจะพาร่างของตัวเองออกไปและก็ได้พบเห็นใบหน้าของนักร้องที่ทำให้ฉันได้สบมองเพียงครั้งแรกก็ราวกับโลกนั้นหยุดหมุนไปและไม่มีสิ่งใดอยู่รอบกายอีกต่อไปแล้ว ผมสั้นประบ่ากับใบหน้าสวยเท่ของผู้หญิงที่ยืนอยู่บนเวทีพร้อมกับการบรรเลงดนตรีนั้นมันช่างดึงดูดสายตาของฉันจนไม่อยากจะก้าวไปที่ใดอีกต่อไป น้ำเสียงไพเราะเสนาะหูกับดนตรีที่ฟังแล้วเข้ากันกับสไตล์ของเธอนั้นทำให้ฉันราวกับหลุดไปอยู่ในห้วงภวังค์และหาทางออกไม่เจอ...หรือว่าเป็นเพราะฉันนั่นเองที่ไม่อยากจะออกมาจากวังวนนั้น “ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณผู้จัดด้วยที่ให้โอกาสปลายได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีที่ทรงเกียรติเช่นนี้ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่นั่งฟังไม่ลุกหนีไปไหนด้วยนะคะ ไว้โอกาสหน้าฟ้าใหม่เราคงจะได้พบกันอีกครั้ง สำหรับวันนี้...สวัสดีค่ะ” ก่อนที่เธอจะฉายยิ้มขึ้นมาให้หัวใจของฉันสั่นไหวจนต้องยกมือขึ้นมาเกาะกุมที่หน้าอกของตัวเองเอาไว้เพราะตอนนี้มันกำลังเต้นสั่นระรัวอย่างหนักหน่วงกับรอยยิ้มของเธอที่ช่างแสนมีเสน่ห์จนไม่อยากจะละสายตาจากไปที่ไหน ฉันยังคงยืนเฝ้ามองทุกอิริยาบถของเธอไม่ได้ขยับหนีไปไหน ทั้งท่าลุกยืนรวมไปถึงภาพที่เธอกำลังก้มเก็บกีต้าร์สีแดงขาวที่ช่างเข้ากันกับสไตล์ของเธอ ก่อนในที่สุดเธอจะลงจากเวทีและค่อย ๆ เดินจากไป...ไปไกลจนกระทั่งลับสายตาของฉัน ตอนนั้นฉันคิดเพียงอย่างเดียวว่าอยากที่จะได้ฟังน้ำเสียงของเธอและได้มองเห็นรอยยิ้มของเธออีกสักครั้งหนึ่ง ฉันจึงรีบเข็นรถเข็นที่จอดทิ้งไว้และกำลังจะถูกลากออกไปโดยพนักงานเพื่อไปจ่ายเงินในทันทีอย่างไม่มีรีรอ ฉันขนข้าวของทั้งหมดกลับมาที่รถและพบว่าระยะเวลาเพียงแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่อยู่ในห้างนั้นรถเริ่มบางตาลงแล้วเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ถูกเคลียร์ทางไปจนรถสามารถสัญจรได้ตามปกติ ร่างบอบบางของฉันกลับมาถึงคอนโดและเดินอย่างเร่งรีบขึ้นไปบนห้องก่อนที่ฉันจะทิ้งข้าวของลงอย่างไม่ใส่ใจแม้ว่ามันจะเป็นอาหารสด ก่อนจะเดินไปทางคอมพิวเตอร์เพื่อจะสืบเสาะหาประวัติของใครคนนั้นที่ฉันได้พบเจอในทันทีแต่มันก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ฉันคาดคิด ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย และการจะหาคอนแทคของใครสักคนที่เป็นเพียงบุคคลธรรมดา ๆ ไม่ใช่ศิลปินนั้นมันก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญจนฉันเริ่มที่จะหมดหวังหลังใช้เวลาไปร่วมชั่วโมงในการค้นหา ฉันพิงตัวลงกับพนักของเก้าอี้และถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างนึกยอมแพ้แล้วว่าฉันไม่มีทางหาเธอได้พบแน่เพราะแม้แต่ชื่อของเธอฉันก็ยังไม่รู้จัก ก่อนที่ความสิ้นหวังของฉันจะถูกดับมอดกลับมีสิ่งหนึ่งแว็บเข้ามาในหัวสมองและฉันไม่รอช้ารีบเด้งตัวกลับมาตั้งหน้าตั้งตาที่หน้าจอในทันใดอย่างมีความหวัง ‘นักร้องหญิงชื่อเล่นว่าปลาย...ร้องเพลงที่ห้างใหญ่ใจกลางกรุงกับกีต้าร์ไฟฟ้าสีแดง’ “เยส!” ฉันชูกำปั้นขึ้นเมื่อพบเห็นเว็บไซต์หนึ่งที่ผู้คนมักจะชอบมาตั้งกระทู้และพูดคุยกันตั้งหัวข้อเกี่ยวกับคนที่ฉันกำลังตามหา และฉันไม่รอช้ารีบกดเข้าไปในทันทีด้วยความหวังทั้งหมดของฉันที่หลงเหลืออยู่ ก่อนที่รอยยิ้มของฉันจะประดับขึ้นมาข้างมุมปากโดยไม่ทันได้รู้สึกตัวเพราะในหัวข้อนั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นการชื่นชมผู้หญิงคนนี้ทั้งสิ้น ทั้งเจ้าของกระทู้ก็ยังลงท้ายว่าหากใครรู้จักให้แปะช่องทางติดต่อพร้อมกับผลงานของเธอซึ่งฉันก็ไม่รอช้ารีบเลื่อนลงไปอ่านคอมเมนต์ในทันทีอย่างมีความหวัง พบเป็นข้อความมากมายที่มีผู้คนมาตอบกลับ บ้างก็บอกว่าอยากเห็นหน้าบ้างจากการอวยของผู้ตั้งกระทู้ บ้างก็บอกว่าเคยได้ฟังเพลงของเธอและมายืนยันด้วยว่าเสียงของเธอกับใบหน้าของเธอนั้นน่ารักจริง ๆ สมกับการที่เจ้าของกระทู้อวยไปเสียยกใหญ่ ก่อนจะเลื่อนไปจนเกือบล่างสุดและเห็นคนใจดีคนหนึ่งแปะช่องทางการติดต่อของเธอทั้งทางจูยูปและอิมสตาแกรม ซึ่งฉันก็ไม่รอช้ารีบกดเข้าไปในทันใดเพราะอยากที่จะพบเห็นเธออีกสักครั้งหนึ่ง และมันคือเธอจริง ๆ เธอคนที่ฉันพบเห็นเพียงแค่ไม่กี่นาทีแต่ช่างตราตรึงใจของฉันมาก ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้ติดตามในอิมสตาแกรมของเธอมีจำนวนเพียงแค่ห้าร้อยกว่าคนเท่านั้น ส่วนใหญ่เธอก็จะมาลงภาพที่ไปร้องเพลงตามร้านอาหารต่าง ๆ หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นรูปเจ้าแมวตัวอ้วนของเธอที่ช่างแสนน่ารักน่าชัง จะมีรูปงานอดิเรกที่เธอไปออกกำลังกายและไปสังสรรค์บ้างตามประสาวัยรุ่นคนหนึ่งและมันทำให้ฉันเพลิดเพลินอยู่กับเธอไปหลายชั่วโมงกว่าจะหลุดออกมาจากโลกของผู้หญิงที่ช่างแสนมีเสน่ห์คนนี้ได้ เพลงของเธอในจูยูปก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงของเธอที่แต่งเองทั้งนั้น มันมีจำนวนยอดเข้าชมเพียงแค่หลักพันทั้ง ๆ ที่น้ำเสียงและเพลงของเธอมันมีความหมายดีมาก ๆ จนฉันเกิดคิดว่าอยากจะผลักดันเธอให้เป็นที่รู้จักมากกว่าที่เป็นอยู่ ประจวบเหมาะกับที่บริษัทของฉันนั้นก็ต้องการศิลปินหน้าใหม่ ๆ เพื่อมาลองเพลงอยู่พอดีฉันจึงไม่รอช้าเสนอชื่อของเธอเข้าไปและให้เหล่าแมวมองต่าง ๆ นั้นไปตามดักรอเธออยู่ที่ห้างและมันก็ใช้เวลากว่าหลายวันกว่าที่เธอจะกลับมาร้องเพลงที่ห้างแห่งนั้นอีกครั้งเหมือนเธอรับจ็อบเป็นวัน ๆ ไป เธอเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาจากการผลักดันของบริษัทฉัน และหลังจากนั้นไม่นานค่ายยักษ์ใหญ่ในประเทศก็เห็นถึงแววจึงดึงตัวเธอไปร่วมเซ็นสัญญาจนกลายมาเป็นมีแฟนคลับมากมายที่รักเธอเหมือนกันกับฉันที่ยินดีในทุกความสำเร็จของเธออยู่เสมอ และตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าของฉันแล้ว...แถมยังมาสมัครตำแหน่งสำคัญอย่างโปรดิวเซอร์ และแน่นอนว่าผลงานของเธอรวมไปถึงความสำเร็จต่าง ๆ ของเธอนั้นฉันเห็นมันมาตั้งแต่ก้าวแรกของเธอที่เดินก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงจนมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเช่นทุกวันนี้ แถมเธอยังเป็นศิลปินคนโปรดของฉันเพียงแค่หนึ่งเดียวเสมอมา...แน่นอนอยู่แล้วว่าฉันพร้อมที่จะซัพพอร์ตเธอเสมอและฉันดีใจเป็นอย่างยิ่งที่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ลาวงการไปถาวร แค่เพียงเปลี่ยนจากงานเบื้องหน้ามาเป็นงานเบื้องหลัง...แถมยังอยู่ใกล้กับฉันมากขนาดนี้อีกต่างหาก “ปลายมีผลงานตามเรซู...” “ยินดีด้วยนะคะคุณปลาย...” “คะ?” “ดิฉันรับคุณเข้าทำงานแล้วค่ะ พบกันพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงตรงนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD