ฉันยังไม่ได้เสียตัวใช่ไหม ยังใช่ไหม ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง ฉันใส่เสื้อเชิ้ตเขา นอนห้องเขา นอนบนเตียงเขา...
“ฮือ ๆ ฮือ ๆ” ฉันวิ่งปาดน้ำตาลงบันไดบ้านหลังใหญ่ อยากจะไปให้พ้น ๆ จากบ้านหลังนี้ ฉันเกลียดคนฉวยโอกาส เกลียด ๆ
“หนูซินน์...” ฉันถึงกลับหยุดชะงัก และหันไปมองตามเสียง
ครอบครัวเขานั่งกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา! ฉันมองทุกคนอึ้ง ๆ ทุกคนก็มองฉันอึ้ง ๆ
ฉันจึงรีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะยืนร้องไห้ เอามือปิดหน้าอกตัวเอง จนป้าหวานลุกขึ้น เดินมาหาฉัน
“ซินน์เป็นอะไรลูก...” ป้าหวานจับแขนฉัน แล้วถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา
“ซินน์ เธอฟังก่อนดิ เมื่อคืน...” เขายืนนิ่งทันทีเมื่อหันไปเห็นทุกคนที่โต๊ะอาหารมอง
ฉันจึงรีบเดินไปหลบหลังป้าหวาน ฉันไม่อยากมองหน้าเขา ไม่อยากเห็นเขา ฉันไม่อยากคิดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นเมื่อคืนอีก...
“นาวิน จริงเหรอ” ไม่ใช่ป้าหวานถาม แต่เป็นลุงนายถามขึ้นมา
“ครับ ป่าวครับพ่อ คือแบบนี้นะ...”
“ลูกผู้ชายพ่อสอนว่าไง...” เขายืนนิ่งทันที ก่อนจะเอามือกุมขมับ และพยายามอธิบายฉัน
“ซินน์ ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ เสื้อเธอเปียก ฉันเลย...”
“ฉวยโอกาส! นายเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอ?” ฉันกำคอเสื้อตัวเองแน่น เขาถอดเสื้อผ้าฉัน เขาเห็นของฉัน เป็นไปได้ไงที่เขาจะไม่ทำอะไร!
“ใช่ เปลี่ยน… ก็เธอ โอ้ย อธิบายยังไงดีวะ” เขาหัวเสียพยายามเดินเข้ามาหาฉัน แต่ฉันกอดป้าหวานแน่น
“ฮือ ๆ ป้าหวานคะ ซินน์อยากกลับบ้าน” ป้าหวานหันมาบีบไหล่ฉันเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองนาวิน
“อย่าไปไหนจนกว่าแม่จะกลับ” เขาพยายามเดินเข้าหาฉัน แต่ฉันพยายามหลบหลังป้าหวาน
“อ่ะนี่จ้ะ ผ้าคลุม ปิดก่อนนะ” มีคุณน้าผู้หญิงคนนึง เอาผ้าคลุมมาคลุมไหล่ฉัน ฉันจึงรีบยกมือไหว้ขอบคุณทันที ใจดีจัง… น่ารักกันทั้งบ้าน ยกเว้นคนฉวยโอกาสคนนั้น!
“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” ป้าหวานเดินไปหยิบกุญแจ ก่อนจะเดินโอบฉันไปขึ้นรถ
“ซินน์ ป้าต้องบอกเรื่องนี้กับแม่หนูนะลูก” ฉันรีบจับแขนป้าหวานทันที บอกคุณแม่... ฉันก็ตายหน่ะสิ!
“อย่าเลยค่ะ ให้มันจบเท่านี้ได้ไหมคะ นะคะ” ป้าหวานส่ายหน้าปฏิเสธฉัน
“ไม่ได้ลูก ลูกชายป้าล่วงเกินหนู เขาต้องรับผิดชอบ” ฉันนั่งคอตกทันที จนป้าหวานขับรถมาถึงตึก ZER คือบ้านฉันเอง บ้านที่มีห้างใหญ่ข้างล่าง ชั้นบนเป็นโรงแรม บนสุดดาดฟ้าเป็นเพนท์เฮ้าส์บ้านฉันทั้งหมด
ตอนนี้ป้าหวานกำลังขับรถเข้าลิฟต์แยก เพื่อจะขึ้นไปบ้านฉัน เมื่อรถมาถึงลานจอดปีกซ้าย ป้าหวานก็เดินนำฉันไปกดกริ่งประตู... นี่บ้านฉันเอง ทำไมใจฉันสั่นแบบนี้ ฉันกลัว…
‘กริ้ง กริ้ง’
ใจฉันสั่นไม่เป็นจังหวะ ฉันกลัวคุณพ่อ กลัวคุณแม่ กลัวโดนตัดออกจากกองมรดก และเฉดหัวออกไปปรับทัศนคติที่เมืองนอก
ป้าแดงแม่บ้านเดินมาเปิดประตูให้ แล้วเชิญป้าหวานเข้าไป ตามด้วยฉันที่เดินตามต้อย ๆ ก่อนจะรีบวิ่งด้วยความเร็วสูงเข้าห้องตัวเองไปใส่เสื้อผ้า ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะออกมาเห็น!
รอด! แล้ว เฮ้อ...
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“ซินน์ ออกมา...” คุณพ่อ! ฉันตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เดินวนรอบ ๆ ห้อง ทำไงดี ทำไงดี ฉันตายแน่ ๆ ตายแน่นอน
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“ซินน์ รู้ไหม ถ้าพ่อเรียกเกินสามครั้ง... จะเป็นยังไง” คุณพ่อ! ฮือ ๆ รู้สิ รู้! ให้ลูกทำใจก่อนไม่ได้รึไง เครียด ๆ
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ กรี๊ด… รอบที่สาม! ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ก่อนที่ชีวิตจะฉิบหายวายวอด
คุณพ่อกำลังยืนกอดอกถอนหายใจใส่ฉัน ก่อนจะเดินนำไปนั่งที่โซฟาในห้องโถง ที่มีป้าหวาน และคุณแม่นั่งอยู่
ฉันเดินคอตกไปนั่งข้าง ๆ ป้าหวาน ไม่กล้านั่งข้างคุณพ่อคุณแม่ ฉันกลัว...
“ซินน์ ป้าหวานเล่าให้แม่ฟังหมดแล้ว” คุณแม่พูดขึ้นมาเสียงเรียบ ๆ เรียบแบบที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน
“คะ ค่ะ” ฉันก้มมองนิ้วตัวเอง ไม่กล้ามองหน้าใครสักคน
“ซินน์!”
“คะ! ขา คุณพ่อ” คุณพ่อพูดขึ้นเสียงดัง จนฉันรีบกอดแขนป้าหวานแน่น ฮือ ๆ ช่วยหนูด้วย
“ใจเย็น ๆ เอาน่าเดี๋ยวจะมาสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราว ถ้าแกร้อนใจฉันจะหาฤกษ์ให้เร็วกว่านี้” ป้าหวานช่วยฉันจริงเหรอเนี่ย ให้ฉันแต่งงานเนี่ยนะ ไม่เอา...
“ป้าหวาน ฮือ ๆ ซินน์ไม่แต่งนะคะ ไม่เอา”
“ซินน์ รอให้ป่องขายขี้หน้าชาวบ้านก่อนไหม!” คุณแม่ลุกขึ้นตวาดฉัน จนฉันตกใจหลับตาปี๋
“ใจเย็น ๆ แกก็... ดุลูกทำไม เออ อย่ายิงลูกฉันนะย้ะ” คุณแม่ถอนหายใจฟึดฟัด โมโหมาก ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงโซฟาอีกครั้ง
“ดีนะที่เป็นนาวิน ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงทำใจไม่ได้หวาน” คุณแม่มองฉันสลับกับป้าหวาน
“ซินน์ ปล่อยตัวเองเมาแบบนั้น ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น จะทำยังไงหะ?” คุณพ่อดุฉันเสียงดัง จนฉันซุกหน้าลงแขนป้าหวาน ฮือ โดนอย่างหนักหน่วง!
“ฮือ ๆ ป้าหวาน ช่วยหนูด้วย” ป้าหวานลูบหัวฉันเบา ๆ
“ซินน์ป้องกันไหม... กินยาคุมรึยัง” อยู่ ๆ คุณแม่ก็ถามขึ้นมา ฉันจะรู้ได้ไง ฉันจำไม่ได้เลย
ฉันนิ่งไปสักพัก กำลังพยายามนึก... จนป้าหวานบีบมือเร่ง
“มะ... ไม่รู้ค่ะ ซินน์จำไม่ได้”
“โอ้ยตาย! แกเตรียมมีหลานเลยหวาน” ป้าหวานยิ้มออกมาทันที
“มีก็ดีดิ ฉันพร้อมเลี้ยง”
“แต่ฉันไม่พร้อม! แกดูแม่ก่อน แม่งานการก็ไม่ทำ ยังไม่อยู่กับร่องกับรอยเลย ไหนจะตื่นสาย เอาแต่ใจอีก แบบนี้เหรอพร้อมจะเป็นแม่คน... ไงล่ะว่าที่ลูกสะใภ้แก”
ฉันรับฟังทั้งน้ำตา เอาเลยค่ะคุณแม่ ด่ามา บ่นมา มันจริงทุกอย่าง น้อมรับ ถึงจะปรับปรุงไม่ได้ก็เถอะ...
“โอ้ย มีไปสัญชาตญาณความเป็นแม่ก็มาเองล่ะ ดูแกกับฉันสมัยก่อนดิ” คุณแม่ถอนหายใจเซ็ง ๆ
“ก็ฉันไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนฉันนี่หว่า ที่จ้ำจี้จ้ำชัยเนี่ย ไม่อยากให้ลูกพลาด ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย ตอนเด็ก ๆ ฉันไม่น่าเถียงพ่อฉันเลย เวรกรรมตามสนอง ลูกเถียงฉอด ๆ” อึก... ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ คุณแม่ด่าแรงจัง
“หนูไม่ได้เถียงค่ะคุณแม่ หนูแค่อธิบาย”
“เห็นไหมล่ะ แกเอาไปเถอะ ยกให้วันนี้เลย กับซินน์ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันไม่เอาสินสอดสักบาท”
ฉันหน้ามุ่ย รู้สึกน้อยใจคุณแม่ จนป้าหวานโอบไหล่ฉันเบา ๆ
“ให้ก็เอา ฮ่า ๆ สินสอดฉันให้อยู่แล้ว กี่ล้านก็ว่ามา ฉันพร้อม... เออ แถมลูกชายแกให้น้ำปั่นด้วยสิ”
คุณแม่ถึงกับเบิกตากว้าง
“แกให้ลูกฉันดองกับบ้านอื่นบ้างเถอะ” ป้าหวานหัวเราะลั่น ฉันจึงหันไปมองคุณพ่อที่เงียบ นั่งมองฉันด้วยสายตาเย็นชา ไร้ความหมาย
“ไม่ต้องมองพ่อ... ซินน์ต้องแต่งงาน” นั่นไง
“เอ่อ... ไม่แต่งได้ไหมคะ”
“เรื่องมีอะไรกับนาวิน พ่อยังพอรับได้... แต่สิ่งที่รับไม่ได้คือปล่อยตัวเองเมาแอ๋ไม่มีสติ! ถ้าพลาดขึ้นมาจะทำยังไงซินน์ ฉะนั้น ครอบครัวนาวินเขาจะรับผิดชอบ ก็อย่าปฏิเสธ!” คุณพ่อลุกขึ้น กระชับสูท แล้วหันไปมองคุณแม่
“เธอจัดการด้วย ฉันมีประชุมบอร์ดบริหาร” ทิ้งไว้เท่านั้น แล้วคุณพ่อก็เดินออกไป ไม่ล่ำลาใครสักคำ โอ้ย คุณพ่อก็ยังเป็นคุณพ่อ... ฮือ ๆ
คุณแม่พยักหน้า แล้วหันมามองฉันแว๊บนึง ก่อนจะถอนหายใจใส่อีกรอบ
“นี่ถือว่าเป็นการสู่ขอแล้วกัน ไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก แกก็หาฤกษ์ให้เร็วที่สุดเลย แต่งซะก่อนที่ยัยซินน์จะป่องซะก่อน”
แต่งซะ แต่งซะ แต่งซะ!
คำพูดคุณแม่ก้องอยู่ในหัวฉันไม่หยุด มันดังซ้ำ ๆ เหมือนเสียงแอคโค่ยังไงอย่างงั้น
“ไม่แต่งได้ไหมคะ...” ฉันนั่งมองนิ้วตัวเอง จนน้ำตาหยดเพาะลงตัก
“ซินน์...” คุณแม่ก้มหน้าเงียบไปสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา หันไปหาป้าหวาน
“หวาน แกจัดการเถอะ ฉันเชื่อมือแก ฉันเหนื่อยว่ะ ฉันผิดเองที่เลี้ยงลูกตามใจ ไม่เคยฟังอะไรฉันเลย ฮือ ๆ”
น้ำตาคุณแม่ไหลลงมาอาบแก้ม ก่อนที่ท่านจะรีบปาดมันออก แล้วหันหน้าไปทางอื่น
น้ำใส ๆ ทำใจฉันหล่นวูบลงไปกองที่พื้น... คุณแม่ร้องไห้เหรอเนี่ย... ฉันดื้อ ฉันดื้อจริง ๆ ฉันผิดเอง ฉันยอมรับ ฉันทำคุณแม่ร้องไห้ ฉันเป็นลูกประสาอะไร?
ฉันตัดสินใจเดินอ้อมไปกอดคุณแม่ และรีบเช็ดน้ำตาให้ท่านทั้งสองข้าง
“ฮือ ๆ คุณแม่ไม่ร้องสิ ซินน์ขอโทษนะคะ ซินน์แต่งก็ได้ ซินน์จะแต่งให้คุณแม่สบายใจ คุณแม่อย่าร้องนะคะ ฮือ ๆ”
“เวลาแม่พูดอะไร ฟังซะบ้าง... แม่เหนื่อยนะซินน์ ทั้งปัญหาลูก ทั้งงาน...” คุณแม่หันมากอดฉันแน่น ก่อนจะลูบหัวฉันเบา ๆ จนป้าหวานมองเราและน้ำตาคลอไปด้วย
สุดท้ายฉันก็ต้องยอม... ฉันทนไม่ได้ที่เห็นคุณแม่ร้องไห้ คุณแม่คงจะเครียดจริง ๆ เฮ้อ ฉันจะทำยังไงดี ต่อจากนี้... ฉันต้องกิน ต้องอยู่ ต้องนอนกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก แถมตอนนี้ยังรู้สึกเกลียดเขาอีก
แค่คิดก็เครียดแล้ว...