บังอาจจำผมไม่ได้! แถมตอนนี้ยังล้มพับลงบนตักผมอีก ให้ตาย ยัยนี่เป็นได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
“เมาเหมือนหมาเลยว่ะ”
“อย่าไปโกรธซินน์มันเลย มันจำไม่ได้หรอก...” ไออุ่นพยายามยกมือปรามผม พอก้มมองซินน์ที่นอนหลับบนตักแล้วรู้สึกเซ็งชะมัด จนไอ้ไทม์เริ่มชงเหล้าให้
“กูไม่กิน ขับรถ มึงกินเถอะ” ไออุ่นกับปลายฟ้าอมยิ้ม สองคนนั้นจำผมได้อยู่แล้ว ไม่มีใครสมองตื้อเท่าซินน์แล้วล่ะในโลกนี้
ภาพตอนเด็ก ๆ มันยังติดตาผมอยู่เลย... วันนั้นยัยนี่ร้องไห้หนักมาก เธอกอดผมไม่ปล่อย... เฮ้อ
ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้..ยิ่งนิสัยที่เอาแต่ใจโคตร ๆ เนี่ย เอามาจากไหนวะ
“มึงนอยน์ซินน์ว่างั้นเถอะ” ไอ้ไทม์เริ่มแซวผม... ก่อนที่เสียงเพลงในผับจะดังขึ้น จนร่างเล็กที่หนุนตักผมอยู่ขยับเล็กน้อย
“กูกลับดีกว่า...” ไอ้ไทม์มองผมตกใจ ก่อนจะถอนหายใจใส่แก้วเหล้าที่มันถือ
“กูเพิ่งมาแท้ ๆ ไป ๆ กลับก็กลับ”
“มึงอยู่นี่ล่ะ... จะกลับทำไมวะ” ผมค่อย ๆ ประคองซินน์ลุกจากตัก
“มึงรับกูมา มึงจะเทกูเหรอวะ” ผมไม่ตอบ ลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนจะช้อนตัวซินน์ อุ้มขึ้นมาแนบอก
“ไปส่งซินน์เหรอนาวิน” ไออุ่นรีบลุกขึ้นตามทันที และหยิบกระเป๋าถือเธอขึ้นมาให้
“ใช่ เออไทม์... มึงกลับเองแล้วกัน รถกูนั่งได้สองคน โทษทีเพื่อน”
“โอ้โห ไอ้หมอแม่ง” ไอ้ไทม์บ่นตามหลังผม ที่รีบอุ้มซินน์เดินออกมา จนไออุ่นวิ่งตามมาถึงรถ แล้วช่วยเปิดประตูให้
“ฝากซินน์ด้วยนะ... อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ เดี๋ยวมันก็จำได้เองล่ะ ตอนที่นายไปเรียนที่อังกฤษ เกิดเรื่องกับมันนิดหน่อย...” ไออุ่นรีบปิดปากตัวเองทันที
เกิดเรื่องเหรอวะ?
ผมไม่ทันได้ถามต่อ ไออุ่นก็วิ่งเข้าผับไปแล้ว
ผมรีบขับรถออกมาจากผับ ในหัวก็คิดเรื่องที่ไออุ่นพูดไปด้วย เกิดเรื่องอะไรกับซินน์? ใครทำอะไรเธอ? เธอเป็นอะไร เรื่องใหญ่ไหมวะ ทำไมไม่มีใครเล่าอะไรให้ผมฟังเลย
แล้วผมควรพาเธอไปไหนดี บ้านเธอ? โรงแรม ม่านรูด อืม... อันหลัง พ่อยัยนี่คงเอาปืนมายิงหัวผม
“เธอ!...ตื่น” ผมเอื้อมมือไปเขย่า ๆ แขนซินน์ แต่เธอกับสะบัดออกอย่างรำคาญ
“อย่ายุ่ง! รำคาญ” เออนิสัยแบบนี้ ดีจริง ๆ ไปสภาพนี้พ่อเธอคงเอาปืนไล่ยิงแน่
“ตื่นก่อนดิเฮ้ย ไม่อยากซวย” ไม่ตื่น! แถมสะบัดแขนออกจากมือผมอีก
“บอกว่า อย่ามายุ่ง...” ผมรีบจอดรถ หันไปมองยัยเด็กเอาแต่ใจคนนี้อย่างรำคาญ
“ดูสภาพตัวเองดิ เมาหมดสภาพ จะขึ้นบ้านยังไง ตื่นสิซินน์ ตื่น!”
“หุบปาก!” หุบปากเหรอวะ? เธอเป็นได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ! เดี๋ยวได้จับตีปากกันแน่ เดี๋ยวก่อนยัยซินน์
ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว พ่อเธอผมก็กลัว ผมจึงรีบออกรถอีกครั้ง ขับพาเธอกลับบ้านตัวเองซะเลย จบ ๆ
มาถึงบ้าน... ผมก็รีบอุ้มซินน์ลงจากรถ พอก้าวขาเข้ามาในบ้าน ได้ก้าวเดียว
“ว้ายย ป้าคะ พี่นาวินพาผู้หญิงเข้าบ้าน” ครับ! โคตรซวย ยัยกาแฟลูกพี่ลูกน้องผม เธอรีบดีดตัวลุกจากโซฟา วิ่งโวยวายไปฟ้องแม่ผมทันที กาแฟเป็นลูกสาวอาผม มีแฝดชื่อน้ำแข็ง ตอนนี้ไม่รู้ไปไหน คงนอนแล้วมั้ง
ผมไม่สนใจกาแฟรีบอุ้มซินน์ขึ้นบันได แต่กาแฟกลับวิ่งไปดึงมือแม่ผมออกมาแล้ว
“ป้าคะ พี่นาวินอุ้มผู้หญิงเข้าบ้าน” ขี้ฟ้องจริง ๆ
“อะไรนาวิน ลูกพาใครมา ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” แม่ยกมือทาบอก แล้วค่อย ๆ เดินมาหาผม ผมไม่ตอบ กระชับอุ้มซินน์ไว้แน่นกว่าเดิม
แม่ง ผมเริ่มหนักแล้ว!
“อ้าว! หนูซินน์... ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลูก ตายแล้วพาขึ้นไปนอนก่อนไป แล้วลงมาคุยกับแม่ด้วย” ผมพยักหน้า ก่อนจะรีบขึ้นบันไดมาห้องตัวเอง แล้ววางเธอลงบนเตียง ดึงผ้าห่ม ห่มให้
ก่อนอื่นผมต้องจัดการรูปถ่ายตอนเด็ก ๆ ที่ตั้งโชว์เต็มโต๊ะทำงานผมก่อน รูปผมกับซินน์เต็มไปหมด ถ้าเธอตื่นมาเห็นมีหวังจบเห่แน่...
เออนะ นอนหลับดูไม่มีพิษมีภัย... น่ารักดี
จัดการทุกอย่างเสร็จผมก็เดินลงบันไดไปหาแม่ ตอนนี้แม่ผมนั่งกอดอกรอที่โซฟา อยู่กับยัยกาแฟ
พอผมหย่นก้นลงโซฟาเท่านั้นล่ะ
“ผัดไทยประตูผีหนูอ่ะ อย่าบอกนะว่าลืม” กาแฟรีบทวงผัดไทยผม ใครจะมีเวลาจอดซื้อวะ
“เออลืม” ยัยนั่นนั่งหน้าบึ้งทันที สงสัยที่นั่งรอดึก ๆ ดื่น ๆ คือรอผัดไทย!
“โอ้ยค่อยก่อนลูก เรื่องผัดไทย นาวิน... ลูกพาซินน์มานอนบ้านแบบนี้ พ่อแม่เขารู้ยัง” ผมส่ายหน้าเบา ๆ
“ไม่ครับ ใครจะกล้าบอก ไปส่งยังไม่กล้า เมาหมดสภาพ” แม่ผมลุกขึ้นถอนหายใจ จนกาแฟลุกขึ้นวิ่งไปบนบ้านดึงมืออาผมลงมา
“แม่พาหนูไปซื้อผัดไทยหน่อยค่ะ หิว”
“โอ้ย! บอกพ่อสิ พ่อกำลังออกเวร” อาน้ำตาลเอามือกุมขมับ จนสุดท้ายยอมแพ้กันไปตามระเบียบ เพราะกาแฟลากอาน้ำตาลไปขึ้นรถได้แล้ว ถ้ามีความวุ่นวายอะไรในบ้าน ก็มีแต่กาแฟนี่ล่ะ ที่เป็นต้นเหตุ
ตอนนี้แม่ผมยืนนิ่ง... เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง... จนผมตัดสินใจถามเรื่องที่ผมสงสัยจากไออุ่น
“แม่ครับ... ตอนผมไปเรียน เกิดอะไรขึ้นกับซินน์...” แม่ผมหันขวับกลับมาทันที
“ลูกรู้เหรอ?” ผมมองแม่นิ่ง ๆ ให้แม่พูดต่อ จนแม่ผมเดินกลับมานั่งข้าง ๆ แล้วจับมือผมไว้
“อืม... มี แต่ลูกอย่าเครียดนะ แม่ขอร้อง” มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ
“ทำไม? พูดมาเถอะ ผมอยากรู้” แม่ผมสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตัดสินใจบอกผม
“ตอนลูกไปเรียนอังกฤษ ซินน์กำลังนั่งรถไปโรงเรียนกับลุงนพ ลูกจำได้ไหม ลุงนพคนขับรถลุงเซ็น” ลุงนพ... คุ้น ๆ ผมนึกไม่ออก แต่ก็พยักหน้าตอบไปส่ง ๆ เพราะอยากฟังต่อ
“ครับ”
“ลุงนพหลับใน... ขับรถชนเสาไฟฟ้า”
เฮ้ย! ผมตกใจหันไปมองแม่ ที่เริ่มบีบมือผมแน่นกว่าเดิม
“ซินน์โคม่า... หลับไปเป็นเดือน ลุงนพเสียชีวิตคาที่” แม่ง ทำไมไม่มีใครบอกผมวะ!
“ทำไมไม่บอกผม!” แม่ตกใจที่ผมเสียงดัง รีบบีบไหล่ผมทันที ให้ตาย... ทุกคนปิดเงียบทำไมวะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้
“ลูกเรียนหนักมาก แม่ก็ไม่อยากให้ลูกเครียดไปกว่านี้ อีกอย่างซินน์ก็ปลอดภัยแล้ว มีแค่ความจำ... ที่หายไปบางช่วง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิต” ผมหูอื้อไปหมด ไม่น่าซินน์ถึงจำอะไรผมไม่ได้เลย แบบนี้เองเหรอวะ
ผมนั่งนิ่ง มองมือตัวเองอยู่พักใหญ่ จนแม่ขยับเข้ามากอดผมแน่น
“แม่ว่า... ถ้าซินน์จำได้ ซินน์คงไม่ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับลูกหรอก แล้วลูกล่ะ อยากแต่งงานกับซินน์ไหม หรือจะให้นาวาแต่งแทน”
ผมหันไปมองแม่ทันที แม่ผมคิดได้ไงจะให้ไอ้นาวามาแต่งงานแทนผม!
“เรื่องอะไร...”
“ก็แม่เห็นท่าทางเหมือนไม่อยากแต่ง แม่ก็ว่าไปงั้น ๆ ล่ะ”
“ผมแค่แกล้งซินน์ อยากรู้ว่าซินน์จะว่าไง เห็นเฉยเมยกับผม สรุปก็จำไม่ได้นั่นล่ะ เฮ้อ”
“ลูกอย่าพูดเรื่องนี้อีกนะ แม่เล่าให้ฟังก็จบแค่ตรงนี้ ตอนนั้น... พ่อแม่หนูซินน์เครียดมาก เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้กันอีก”
เออ แล้วผมก็เครียดแทนตอนนี้ ปิดกันเก่งจริง!
“แต่งงานปุ๊บ แม่จะเปิดคลีนิคให้นะ คุณหมอฟันของแม่” เอาของมาล่อผมเหมือนเคย ไม่เปิดคลีนิคให้ผมก็แต่งอยู่แล้ว
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมคิดถึงยัยนี่แทบบ้า!