มู่เหรินมองร่างที่ล้มตัวนอนบนตักตัวเองด้วยความสับสน ก่อนจะถอนหายใจอย่างอ่อนใจ เวลานี้คล้อยเข้ายามเซิน(15.00น.-17.00น.)แล้ว เห็นทีคืนนี้คงต้องพักในเมืองนี้ไปก่อน อีกอย่างอาจารย์ไม่ได้เร่งรัดให้กลับไปด้วย ดวงตาเรียวคมหรี่ตามองเงาร่างองครักษ์เงาของเสี้ยวเหวินหวางที่ปรากฏอยู่มุมต่าง ๆ อย่างแปลกใจ สิบสองคน! มีเงาถึงสิบสองคนและยังมีลมปราณอันร้ายกาจนับว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ เห็นทีคนที่หลับสบายอยู่ตอนนี้คงจะเป็นคนสำคัญในแคว้นฉินอย่างที่คาดเดาจริง ๆ เขาก้มมองใบหน้าที่หล่อเหลาและยังเยาว์วัยอีกครั้งก่อนจะพึมพำเสียงแผ่วเบา “เด็กน้อยแท้จริงแล้วในใจเจ้าคิดสิ่งใดกันแน่” โครกกก~~~ เสียงท้องร้องดังขึ้นทำให้มู่เหรินรู้สึกอับอายเล็กน้อย เพราะไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เที่ยงและเขาก็นั่งอยู่ที่นี่มาสองชั่วยามแล้ว ตักที่เป็นที่หลับนอนของเสี้ยวเหวินหวางชาขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอันใด