“ เสี่ยวมู่ไม่กินปากเป็ด” “ข้าจะจำไว้” เสี้ยวเหวินหวางตอบรับแผ่วเบา มองคนที่เอ่ยปากพูดแล้วทอดถอนหายใจ ดวงตาคู่คมที่หลุบลงต่ำมองเฉพาะชามข้าวของตนเองเหลือบมามองเล็กน้อย ทว่าสัญชาตญาณของเขากลับร้องเตือนว่าคนผู้นี้อันตราย อย่าได้ริไปเป็นศัตรูโดยเด็ดขาด แต่หากได้เป็นมิตรย่อมดีไม่น้อย ทว่าคนที่เป็นศัตรูหัวใจจะมาผูกมิตรได้อย่างไร เมื่อมองคนต้นเรื่องก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย... หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วมู่เหรินก็ได้เขียนจดหมายส่งนกพิราบไปหาพี่สามเพื่อให้มารักษาอาการป่วยของเหวินหวางเรื่องยาพิษ มู่ซูหยวนซึ่งเป็นศิษย์เอกของเจ้าสำนักหลิวซูซูย่อมมีหนทางรักษาอยู่แล้ว อีกทั้งเขาไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการแพทย์ การยกหน้าที่นี้ให้พี่สามคิดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด มู่เหรินเดินออกจากห้องพักมาหยุดตรงศาลากลางสระบัวซึ่งเขาได้เห็นหลิงหวางก