บทที่ 2 ฝากไว้ก่อนเถอะ E.4

1360 คำ
หิรัญญิการ์รับมาดื่มอึกใหญ่ก่อนจะทำตาโต “อืม...อร่อยจริงอย่างที่แต๋นว่า มีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ชอบชื่อจริงๆ ใช้ชื่อว่ามะปี๊ดโซดาในเมนูนะเพราะเห็นชื่อก็บ่งบอกถึงความแซ่บ แล้วถ้าอย่างนี้ทำน้ำมะปี๊ดขึ้นมาอีกอย่างสิแต๋น ต้องอร่อยแน่ๆ” “ค่ะคุณพลู แต๋นกำลังจะบอกอยู่พอดี นิดหน่อยลองทำให้กินแล้วอร่อยอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ” “แล้วเด็กใหม่สองคนนั่นมาทำงานวันนี้หรือเปล่าจ๊ะแต๋น” “ใช่ค่ะ เดี๋ยวถ้าคุณพลูเห็นรับรองว่าต้องหัวเราะก๊ากอย่างแน่นอนค่ะ” เสียงของสมาร์ตโฟนที่ดังขึ้นทำให้การสนทนาที่กำลังออกรสออกชาติต้องหยุดชะงักลง หิรัญญิการ์หยิบจากในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ขึ้นมาดูครั้นเห็นชื่อของคนโทร. มาหญิงสาวก็ยิ้มอย่างดีใจ เพราะเป็นฌอนน้องชายของเธอนั่นเอง กำลังคิดว่าเดี๋ยวจะโทร. ไปเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้เจ้าตัวฟังอยู่พอดี “อ๋อง พี่กำลังจะโทร. ไปหาอยู่พอดี...” ขวัญชีวามองสีหน้าและท่าทางแปลกๆ ของผู้เป็นสามี หลังจากเสร็จสิ้นการคุยโทรศัพท์กับพี่สาวอย่างสงสัยเพราะแทบจะไม่ได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรเลยคล้ายเป็นเพียงผู้ฟังมากกว่า “มีอะไรหรือคะ แล้วคุยอะไรกับพี่พลู หนูฟังแป๊บเดียวก็วางหูแล้ว” “พอดีคุณยายโทร. มาน่ะจ๊ะเลยต้องวางก่อน” “แล้วทำไมพี่อ๋องต้องทำหน้าแปลกๆ ด้วยล่ะคะ” ฌอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยื่นหน้าไปหอมแก้มคนถามฟอดใหญ่ แล้วนั่งนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะวกเข้าเรื่องสำคัญ “พี่อ๋องลืมเล่าเรื่องเมื่อคืนให้หนูวาฟัง” “เรื่องเมื่อคืน? ที่พี่อ๋องไปดื่มเหล้าที่ผับประจำของพี่กรน่ะหรือคะ” “ใช่จ้ะ” “พี่อ๋องพูดยังกับเมื่อคืนมีเรื่องอะไรยังงั้นแหละ” ขวัญชีวาเอ่ยถามออกไปโดยไม่คิดอะไร “เมื่อคืนพี่ชายหนูวาถูกผู้หญิงอ้วกใส่” “อะไรนะคะ!” ขวัญชีวาอุทานเสียงดัง ดวงตาคู่โตเบิกกว้าง “พี่กรน่ะเหรอคะถูกผู้หญิงอ้วกใส่” “ใช่จ้ะ พี่อ๋องจะเอาพี่ชายหนูวามาพูดล้อเล่นได้ไงล่ะ” แม้จะไม่ติดใจอะไรกับเรื่องเก่าก่อนแล้ว แต่บางครั้งฌอนก็อดพูดถึงพี่เขยด้วยน้ำเสียงติดรวนนิดๆ ไม่ได้ “แหม...หนูวาก็แค่สงสัยเท่านั้นเองค่ะ แล้วพี่กรถูกผู้หญิงที่ไหนอ้วกใส่ แล้วไม่โกรธแย่หรือคะ” ขวัญชีวานึกสภาพของพี่ชายคนเล็กผู้หล่อเนี๊ยบตั้งแต่หัวจดเท้าไม่ออกจริงๆ ว่าหลังจากถูกสิ่งที่เรียกว่าอ้วกราดรดใส่ตัวแล้วจะดูไม่จืดเพียงไหน นอกเหนือจากนั้นคือความรู้สึกที่ตามออกมา “โกรธเหรอ” ฌอนทวนคำพูดพลางนึกถึงเรื่องที่พี่สาวโทร.มาเล่าให้ฟังสดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้ว่า เมื่อคืนมึนหัวเพราะดื่มเหล้าเข้าไปเยอะเลยอ้วกใส่ผู้ชายคนหนึ่ง แต่ยังเล่าไม่จบเพราะผู้เป็นยายโทร. เข้ามาเสียก่อน หรือว่า... ทำไมสองเหตุการณ์ถึงมาพ้องกันได้ แล้วฌอนก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนจะมีเหตุการณ์ที่ว่าเกิดขึ้น ทักษกรเห็นพี่สาวเขาแล้วเอ่ยชมว่าผู้หญิงคนนี้ขาสวยดี จะเป็นไปได้ไหม! ว่าผู้ชายที่พี่สาวเขาอ้วกใส่คือทักษกร เพราะตอนที่อีกฝ่ายเล่าให้ฟังว่าถูกผู้หญิงอ้วกใส่นั้นไม่ได้มีท่าทางโกรธอะไรนักหนา แถมยังพูดว่าอ้วกแล้วหนีอีกต่างหาก จำได้ว่าตอนนั้นเขาก็คิดตงิดๆ ถึงพี่สาวขึ้นมา เหตุเกิดที่ผับแห่งเดียวกัน คงไม่มีใครเมาแล้วอ้วกเหมือนกันหรอกน่า แล้วที่เขาคิดว่าน่าจะไม่มีวาสนาต่อกัน ก็ชักจะยังไงๆ ซะแล้ว อาจต้องถอนความคิดซะแล้วกระมัง “ทำไมเงียบไปล่ะพี่อ๋อง ตกลงพี่กรไม่โกรธแย่หรือคะ” ฌอนยิ้มแห้งๆ “ตามที่ดูด้วยตาแล้วไม่น่าจะแย่เท่าไหร่นะจ๊ะ” “เอ้อ...แปลกดีนะคะ แล้วยังไม่ตอบที่หนูถามเมื่อกี้เลยว่าคุยอะไรกับพี่พลู” ฌอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เมื่อคืนพี่อ๋องเจอพี่พลูที่ผับนั่นด้วยนะ...” นอกจากไม่ตอบคำถามฌอนยังพูดเรื่องเมื่อคืนให้ภรรยาฟัง เพราะเขารู้สึกตงิดๆ อย่างไรบอกไม่ถูก “อ้าว...เหรอคะ แล้วพี่พลูเห็นพี่อ๋องหรือเปล่าคะ” ฌอนส่ายหน้าแล้วจึงเล่าต่อ “ไม่เห็นหรอกจ้ะ พี่พลูมากับเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าฉลองอะไรกันแต่ท่าทางเมาเอาเรื่อง แล้วที่พี่พลูโทร. มา เมื่อกี้ก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนอ้วกใส่ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้” “อ้วกใส่ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ เอ...ทำไมถึงมาพ้องกับเรื่องของพี่กรล่ะคะหรือว่าคนที่พี่พลูอ้วกใส่คือพี่กร” “นั่นแหละที่พี่อ๋องกำลังคิดอยู่ถึงได้ทำหน้าแปลกๆ ไงล่ะจ๊ะ คนที่จะให้คำตอบเราได้ก็คือพี่พลู” เสียงของสมาร์ตโฟนที่ดังขึ้นทำให้ทั้งคู่พากันหันไปมองด้วยความหวังแล้วต่างก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นชื่อคนที่โทร. มา ฌอนหยิบมาแล้วกดรับทันทีหลังจากคุยอยู่พักใหญ่ก็วางหูก่อนจะฝืนยิ้มให้ภรรยา “เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ” “หมายความว่าผู้หญิงที่อ้วกใส่พี่กรคือพี่พลู แต่พี่พลูรู้จักพี่กรด้วยหรือคะ หนูจำได้ว่าทั้งคู่ยังไม่เคยเจอกันเลย” ขวัญชีวาพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งสงสัย เพราะตอนงานทำบุญที่โรงงานทักษกรไม่อยู่ไปต่างประเทศ ส่วนตอนงานแต่งงานของเธอกับฌอนนั้นหิรัญญิการ์ก็ป่วยเป็นอีสุกอีใส “คืออย่างนี้...” ฌอนเล่าเรื่องที่เคยได้ยินผู้เป็นพี่สาวพูถึงพี่ชายของภรรยาให้ฟัง “อ๋อ แสดงว่าพี่พลูรู้จักพี่กรจากเพื่อนนี่เอง” ขวัญชีวาพูดแล้วดวงหน้าสะสวยก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมา ซึ่งคนเป็นสามีมองแล้วเสียวสันหลังวาบ “ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงจ๊ะหนูวา” “พี่อ๋องคิดว่าเหตุการณ์ของพี่กรกับพี่พลูเป็นเรื่องแปลกไหมล่ะคะ คนสองคนที่สมควรจะเจอกันนานแล้วแต่ไม่เจอกัน กลับมาเจอกันในเหตุการณ์ชวนอิหลักอิเหลื่อ คล้ายๆ กับตอนที่หนูเจอพี่อ๋องครั้งแรกเลยนะคะ แต่ของพี่พลูหนักกว่าตรงฝากรักพี่กรด้วยอ้วกนี่แหละค่ะ” ฌอนยิ้มกว้าง ยกนิ้วจิ้มหน้าผากมนของคนพูดอย่างเอ็นดู “อย่าบอกนะหนูวาจะจับคู่พี่ชายตัวเองกับพี่สาวพี่อ๋อง” “แน่นอนค่ะ น่าจับคู่จะตาย แล้วพี่อ๋องก็บอกว่าพี่กรไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรที่ถูกอ้วกใส่ทั้งที่เป็นเรื่องน่าโกรธจะตาย” ฌอนเล่าเรื่องที่ทักษกรชมขาหิรัญญิการ์ว่าสวยให้ฟังอีกเรื่อง ซึ่งขวัญชีวาฟังแล้วถึงกับยิ้มกว้างอย่างถูกอกถูกใจ “พี่กรชอบผู้หญิงขาสวย ทุกคนในบ้านรู้เรื่องนี้ดี แต่ว่า...” ขวัญชีวาหน้าม่อยลงทันทีเมื่อนึกถึงเรื่อง บางอย่างขึ้นมา “พี่กรไม่ชอบผู้หญิงอายุมากกว่านี่สิคะที่เป็นปัญหา” “พี่พลูก็ดูไม่ชอบหน้าพี่ชายหนูวาทั้งที่ยังไม่เคยรู้จักเหมือนกันจ้ะ” “โชคดีนะที่พี่อ๋องไม่แนะนำพี่พลูให้พี่กรรู้จัก ไม่งั้นลุ้นไม่ขึ้นแน่นอน” “พูดยังกับตอนนี้ลุ้นขึ้นอย่างนั้นแหละ แล้วพี่อ๋องมองว่าวงจรชีวิตของทั้งคู่ไม่น่ามาเจอกันได้หรอก” ฌอนพูดตามความคิดตัวเอง ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับภรรยานักเพราะฟังจากคำพูดก็รู้ว่าพี่สาวไม่ปลื้มทักษกร แล้วตัวทักษกรเองก็ไม่ชอบผู้หญิงอายุมากกว่าอีกต่างหาก “เรื่องนี้ปล่อยให้หนูจัดการเอง พี่อ๋องเป็นผู้ชมห่างๆ ก็พอค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม