หลังจากเตรียมตัวสำหรับเข้าป่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลี่หลินก็ได้มาเรียกอ้ายฉิงที่ห้องนอน วันนี้ตอนกินข้าวนางกับอ้ายฉิงตกลงกันว่าจะขอขึ้นเขาตามหยางหนิงเฉิงและหยางอี้เฉินไปสำรวจผืนป่า รวมทั้งดอกไม้บริเวณรอบๆ เพื่อนำมาทำชาเพิ่มเติม ระหว่างที่ หยางหนิงเฉิงและหยางอี้เฉินวางกับดักล่าสัตว์
“อ้ายฉิงเอาห่อข้าวในครัวไปด้วย ข้าอยากสำรวจพื้นที่บนภูเขาให้ได้มากๆ เผื่อเจอของกินบ้าง พวกเราคงไม่ได้ลงมากินข้าวกลางวันที่บ้าน” ลี่หลินตะโกนบอกอ้ายฉิง นางเตรียมห่อข้าวไว้ทั้งหมดสี่ห่อ หากหยางหนิงเฉิงวางกับดักสัตว์เสร็จแล้วลี่หลินจะขอให้เขาพาเข้าไปสำรวจป่าชั้นในเพิ่มเติม
“เจ้าค่ะพี่สะใภ้ ข้าเอาข้าวห่อกับน้ำที่ท่านเตรียมไว้ใส่ในตะกร้าหมดแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
“อืมไปกัน พี่ชายสองคนของเจ้ารอพวกเราอยู่หน้าบ้านนานแล้ว” ลี่หลินเร่งให้อ้ายฉิงรีบออกมาพร้อมกับออกเดินตามเส้นทางที่หยางหนิงเฉิงและหยางอี้เฉินนำไป
วันนี้หยางหนิงเฉิงเลือกเดินขึ้นเขาด้วยเส้นทางที่ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เขาเป็นห่วงกลัวว่าลี่หลินจะเดินขึ้นเขาลำบากจึงเลือกใช้เส้นทางนี้
ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเรียงรายเขียวชอุ่มให้ความรู้สึกสดชื่นสบายตายิ่งนัก ทางเดินขึ้นเขาลาดชันสลับขึ้นลงไปมาอย่างน่าหวาดเสียว สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้ลี่หลินพอสมควร ตอนอยู่ในเมืองนางไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือใช้แรงทำงานเท่าไหร่ ร่างกายของนางในตอนนี้จึงเหนื่อยง่ายไปหน่อย ลี่หลินคิดว่าหากนางขยันออกกำลังกายอีกนิดหนึ่ง ต่อไปคงสามารถเดินขึ้นเขาอย่างคนอื่นได้สบาย
เมื่อหยางหนิงเฉิงเห็นลี่หลินเริ่มหอบหายใจเขาก็สั่งให้ทุกคนหยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ทันที ลี่หลินคว้าน้ำมาดื่มเพื่อดับกระหายอย่างรวดเร็ว นางมองไปรอบๆ ต้นไม้ใหญ่ที่นั่งพักอยู่อย่างสงสัย หากจำไม่ผิดต้นไม้ใหญ่ชนิดนี้คือต้นโอ๊คอย่างแน่นอน ลี่หลินเคยเห็นพวกมันจากโลกอีกใบ ผู้คนนิยมนำไม้โอ๊คไปทำถังหมักไวน์ เปลือกของมันสามารถนำไปสกัดเป็นยาหรือครีมได้ นอกจากนี้ซากของไม้โอ๊คผุพังยังเป็นแหล่งอาหารที่เห็ดหอมชื่นชอบอีกด้วย
ไม่รอช้าลี่หลินรีบเพ่งสายตามองรอบต้นไม้ใหญ่เพื่อสำรวจทันที นางพยายามเพ่งมองตรงซากไม้ผุพังเป็นพิเศษ
ลี่หลินอยากได้เห็ดหอมมากเนื่องจากนางชอบกินแกงจืดเห็ดหอมเป็นที่สุด นอกจากนี้เห็ดหอมยังสามารถนำมาตากแห้งเก็บไว้กินได้นาน ไม่รู้ว่านางจะโชคดีเจอหรือไม่ ลี่หลินสอดส่ายสายตาเสาะหาไม่หยุด เพียงไม่นานนางก็เหลือบไปเห็นเห็ดหอมดอกใหญ่เข้าพอดี ลี่หลินรีบวิ่งตรงเข้าไปเก็บทันที นางดีใจมากวันนี้จะได้กินอาหารอร่อยถูกปากอีกเมนูแล้ว หยางอ้ายฉิงที่เห็นลี่หลินวิ่งออกมาก็รีบวิ่งตามทันที
“พี่สะใภ้เจ้าคะ ท่านรีบเกินไปหากไม่ระวังจะหกล้มเอาได้” อ้ายฉิงวิ่งมานั่งลงข้างๆ พลางเอ่ยเตือน
“ข้ารู้แล้วต่อไปจะระวังมากแค่ดีใจไปหน่อยเท่านั้น อ้ายฉิงเจ้าดูนี่ เห็ดหอมดอกอวบใหญ่ทั้งนั้นเลย คืนนี้ข้าจะแกงจืดเห็ดหอมให้เจ้ากินรับรองว่าฟินสุดๆ เลยหล่ะ” ลี่หลินพูดกับอ้ายฉิงด้วยสายตาเปล่งประกาย นางมองเห็ดหอมที่ขึ้นเรียงบนขอนไม้ผุพังอย่างอารมณ์ดี หากได้ซดน้ำแกงร้อนๆ ตอนอากาศหนาวยามค่ำคืนคงดีเบา
“ฟะ ฟิน อะไรกันเจ้าคะพี่สะใภ้ อีกอย่างเห็ดนี้กินได้จริงหรือสีของมันเข้มจนเกือบดำเลยนะเจ้าคะ” อ้ายฉิงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่กินเห็ดที่มีสีแดงหรือสีดำเนื่องจากเชื่อว่าพวกมันมีพิษ อ้ายฉิงเคยเห็นเห็ดชนิดนี้อยู่หลายครั้งแต่ไม่กล้าเก็บไปกิน
“กินได้สิอร่อยมาก เจ้าเชื่อข้ารับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน” ลี่หลินบอกอ้ายฉิงด้วยความมั่นใจ
“ข้าเชื่อท่านอยู่แล้วเจ้าคะ หากพี่สะใภ้บอกว่ากินได้ย่อมกินได้ พวกมันอร่อยมากด้วยใช่หรือไม่” อ้ายฉิงถามออกมาอย่างจริงใจ นางเชื่อว่าพี่สะใภ้ไม่โกหก เห็นได้จากหน่อไม้ที่พวกนางนำมาทำอาหารกินแทบทุกวันแต่ร่างกายไม่ได้เจ็บป่วยอะไร
“ดีมาก อย่างนั้นพวกเราช่วยกันเก็บเถอะ เจ้าดูสิมีเยอะมาก” ลี่หลินชี้มือไปตามขอนไม้ผุพังรอบๆ ตัว บริเวณนี้มีเห็ดหอมขึ้นเยอะมากเรียกว่าดงเห็ดหอมเลยก็ได้
“พวกเจ้าเก็บเห็ดทำไม มันกินได้หรือ” หยางหนิงเฉิงเดินเข้ามาสอบถามลี่หลิน เมื่อเขาเห็นว่านางกับอ้ายฉิงช่วยกันเก็บเห็ดอย่างขะมักเขม้น
“กินได้ อร่อยมากมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย ข้าจะทำให้พวกเจ้าลองกิน” ลี่หลินเอ่ยตอบออกมาแต่ไม่ยอมเงยหน้ามอง
หยางหนิงเฉิงสักนิด ตอนนี้นางกำลังสาละวนก้มหน้าก้มตาเก็บเห็ดอย่างตั้งใจ
“พี่สะใภ้ ท่านให้พวกข้าช่วยเก็บหรือไม่” หยางอี้เฉินเอ่ยถามออกมาบ้างเมื่อเห็นท่าทีตั้งใจเก็บเห็ดของลี่หลินจนไม่สนใจสิ่งใด
“ไม่ต้องๆ พวกเจ้าไปวางกับดักต่อเถอะ ข้ากับอ้ายฉิงเก็บเห็ดรออยู่ที่นี่ได้ หยางหนิงเฉิงหากท่านวางกับดักเสร็จเร็วท่านช่วยพาข้าไปสำรวจป่าลึกกว่านี้ได้หรือไม่” ประโยคแรกลี่หลินหันไปตอบหยางอี้เฉิน ส่วนประโยคต่อมานางเบือนหน้าถามหยางหนิงเฉิง
“ได้ แต่ข้าคงพาเจ้าไปสำรวจไม่ลึกมากนะ” หยางหนิงเฉิงพูดดักคอลี่หลินเอาไว้ เขาไม่อยากให้นางเข้าป่าลึกเกินไป ในป่ามีอันตรายมากมาย นางเป็นผู้หญิงบอบบางไม่ควรเข้าไปในที่อันตรายรอบด้านเช่นนั้น
“ก็ได้ ท่านรีบไปทำให้เสร็จเถอะ” ลี่หลินรับคำพร้อมกับไล่หยางหนิงเฉิงออกไป แม้วันนี้นางไม่สามารถเข้าป่าลึกได้ก็ไม่เป็นไรวันอื่นๆ ยังมี นางจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ลี่หลินคิดในใจอย่างหมายมาด
หลังจากหยางหนิงเฉิงกับหยางอี้เฉินออกไป ลี่หลินกับอ้ายฉิงก็ช่วยกันเก็บเห็ดหอมต่อจนหมด ได้เห็ดหอมมาประมาณครึ่งตะกร้าใหญ่ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ลี่หลินวางแผนเอาไว้ว่าจะนำไปตากแห้งเพื่อเก็บไว้กินภายในครอบครัว
“พี่สะใภ้ ดื่มน้ำก่อนเจ้าค่ะ” อ้ายฉิงถือกระบอกน้ำไม้ไผ่มายื่นให้ลี่หลิน
“อืม ดื่มน้ำสักหน่อยคงหายเหนื่อย” ลี่หลินยกน้ำขึ้นจิบแก้กระหาย ก่อนเอ่ยชวนอ้ายฉิงให้รีบเดินไปข้างหน้าอีกหน่อย
“อ้ายฉิง พวกเราเดินต่ออีกหน่อยเถอะ พี่ชายของเจ้าคงวางกับดักใกล้เสร็จเต็มที พวกเขาจะได้ไม่ต้องเดินลงเขามาหาพวกเรา” ลี่หลินบอกอ้ายฉิงก่อนจะรีบเดินนำไป
นางจำได้ว่าหยางหนิงเฉิงทำสัญลักษณ์ไว้บนต้นไม้ ลี่หลินจึงเดินตามเส้นทางไปอย่างคล่องแคล่วโดยมีอ้ายฉิงตามหลัง ทั้งสองคนเดินเท้าเพียงไม่นานก็เจอเข้ากับหยางหนิงเฉิงและหยางอี้เฉินที่พึ่งวางกับดักเสร็จพอดี
“พวกเราสำรวจภูเขาเพิ่มอีกหน่อยได้หรือไม่ เสร็จแล้วค่อยพักกินข้าวกัน” เมื่อเจอหน้าหยางหนิงเฉิงลี่หลินก็เร่งเร้าเขาทันที เข้าป่ามาเพียงไม่นานนางก็ได้เห็ดหอมเยอะขนาดนี้ ถ้าเดินต่ออีกหน่อยไม่แน่ว่าอาจเจอของดีเข้าก็ได้
“ได้สิ พวกเราเดินขึ้นเขาต่ออีกสักพักแล้วกัน” หยางหนิงเฉิงตกลงกับลี่หลิน เขาหันหน้าไปถามความคิดเห็นของน้องสาวกับน้องชาย ทั้งสองคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ พวกทั้งสี่คนจึงเร่งออกเดินทางต่อทันที
เมื่อเดินทางมาได้สักพักแล้วแต่ลี่หลินยังไม่พบอะไรที่สามารถนำมากินหรือแปรรูปเป็นของใช้อื่นๆ ได้ นางจึงตัดสินใจให้ทุกคนหยุดพักกินข้าวเติมพลังก่อน
ลี่หลินอยากสำรวจพื้นที่บนภูเขาให้ได้มากๆ หากนางต้องการให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวดีขึ้นนางต้องใช้เงินในการสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา ลี่หลินได้แต่หวังว่านางจะเจอสมุนไพรหรือสัตว์ป่าหายากที่มีราคาเช่นคนอื่นบ้าง