บทที่ 3 ขาดสติ? 2

1246 คำ
ภัควรินทร์รู้ตัวดีว่ากำลังเมา แต่เธอตัดสินใจแน่วแน่ตั้งแต่ตอนที่ยังมีสติเต็มร้อย ว่าเขาคือคนที่ใช่…อย่างน้อยก็ในคืนที่เธอกำลังเหงา แค่ชั่วพริบตาแรกที่ได้สบตากับชายหนุ่มที่ชื่อว่าธีรักษ์ ท้องไส้ของภัควรินทร์ก็พลันปั่นป่วน รู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ออก แต่เธอกลับชอบความรู้สึกที่ว่านั้นจนอยากนั่งอยู่กับเขาตลอดคืน อยากให้เขาพูดหวานหว่านเสน่ห์กับเธอ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษสักครั้ง นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำในสิ่งที่ทำให้เธอประทับใจเสียยิ่งกว่า เขาไม่ได้พูดคำหวานหลอกล่อ แต่ถึงอย่างนั้นเสียงทุ้มต่ำของเขาก็ทำให้คนฟังเคลิบเคลิ้มหลงใหล ส่วนเรื่องที่ทำให้เธอหวั่นไหวจนคิดทำเรื่องบ้า ๆ นั่นเป็นเพราะว่าธีรักษ์คือคนแรกที่รับฟังเธออย่างใส่ใจ ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับตลอดอายุสิบเก้าปีที่ผ่านมา เขามองเห็นตัวตนที่แสนจะเปราะบางของเธอ “รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไร” “หนูอยากให้คุณจูบหนูเป็นคนแรกค่ะ” “เรื่องนี้พูดเล่นไม่ได้นะน้ำหวาน ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ผม หนูคงโดนจับปล้ำจนร้องไห้น้ำตาแตกไปนานแล้ว” ได้ยินเขาพูดแบบนั้นภัควรินทร์ก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิด เธออยากมีความทรงจำดี ๆ กับผู้ชายสักคน เพราะชาตินี้คงถูกจำกัดอิสรภาพจนหาแฟนไม่ได้ แค่ขอนอนค้างกับเพื่อนยังต้องอ้างเหตุผลมากมาย เรื่องจะให้มีเพศตรงข้ามในชีวิตคงไม่ต้องหวัง “หนูไม่ได้ต้องการให้คุณมารับผิดชอบ ไม่ได้อยากให้คุณมาเป็นแฟน หนูแค่อยากมีประสบการณ์เหมือนเพื่อน ๆ อยากรู้ว่าจูบแล้วจะรู้สึกยังไง…” เพื่อนของภัควรินทร์ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องพวกนั้นก็จริง แต่อย่างน้อยทุกคนก็เคยจูบแล้วทั้งนั้น ในขณะที่เธอยังไม่เคยแม้แต่จะหอมแก้มใคร “หนูอยู่กับคุณแล้วรู้สึกดี ถ้าได้จูบกับคุณคนแรกจะต้องเป็นความทรงจำที่ดีแน่ ๆ แต่ถ้าหนูไปลองกับคนอื่น หนูกลัวว่าเขาจะทำให้หนูรู้สึกแย่ อุ้ย!” ภัควรินทร์อุทานเบา ๆ เมื่อเขาเอนตัวเธอลงนอนและทาบทับร่างสูงใหญ่ตามลงมาอย่างใจเย็น “แค่จูบเดียวนะ” เขากระซิบเสียงทุ้มน่าฟัง “ค่ะ…อื๊อออออ” ภัควรินทร์หัวใจเต้นรัวเพราะจูบของเขา มันดุเดือดกว่าที่เธอเคยเห็นในภาพยนตร์ ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการใช้ปากแตะปากเบา ๆ แต่เป็นการสอดลิ้นหยอกเย้า สลับกับรุกเร้าร้ายกาจ บางจังหวะก็ขบเบา ๆ ทำให้สติที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิดแตกกระเจิง ควบคุมร่างกายตัวเองแทบไม่ได้ กระทั่งวงแขนเล็กกอดตอบเขาแน่นก็ยังไม่รู้ตัว “คุณธาร?” เธอท้วงเสียงสั่นเมื่อมือใหญ่เลื่อนเดรสตัวสวยจนหลุดออกจากไหล่ ขยับอีกแค่นิดเดียวความอวบอิ่มก็จะถูกเชยชมด้วยสองตาของเขา และเป็นไปได้ว่าอาจจะเลยเถิดไปไกลมากกว่านั้น “อยากให้ผมหยุดไหม?” เขาถามเสียงสั่นพร่า “หนูไม่ได้อยากเสียตัว” ใจหนึ่งเธออยากรู้อยากเห็น แต่ลึก ๆ ก็แอบกลัว “แต่หนูไม่อยากให้คุณหยุด…” “งั้นผมจะทำให้หนูมีความสุขแบบไม่ต้องเสียตัว แต่หนูต้องสัญญากับผมก่อน” “สัญญาอะไรคะ?” ภัควรินทร์ทั้งเมาและงง ไม่เข้าใจว่าต้องสัญญาเรื่องอะไร แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะมีความสุขได้แบบไม่ต้องเสียตัว “หลังจากคืนนี้ไปหนูมีผมได้แค่คนเดียว อยากได้อะไรก็บอกผม แล้วหลังเรียนจบ…” “คุณพูดเหมือนจะให้หนูเป็นเด็กในสังกัด เหมือนพวกเด็กเสี่ย…อื๊อออ” ภัควรินทร์ประท้วงเสียงอู้อี้เมื่อเขาปิดปาก ลงโทษเธอด้วยวิธีการอันแสนหวาน และพอได้รับอิสระก็รีบโอดครวญออดอ้อน ราวกับเมื่อครู่ไม่ได้จูบตอบเขาอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน “คุณจูบหนูจนปากบวมหมดแล้ว” “จะได้เข็ด ไม่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก” ธีรักษ์ดุเธอเบา ๆ ก่อนมอบจูบหวามอารมณ์เพื่อปลอบประโลม ขณะรูดซิปด้านข้างของเดรสตัวสวย ไม่นานเรือนร่างบอบบางก็เหลือเพียงแพนตี้สีหวาน ส่วนบราที่สวมอยู่นั้นหายไปนานแล้ว “คุณมือไวจัง…” ภัควรินทร์เขินจนต้องหลับตา ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นกลับไม่ใช่เรื่องที่เขากำลังจะทำ สายตาคู่นั้นต่างหากที่ทำให้เธอรู้สึกราวกับร่างกายตนเองเปลือยเปล่า ร้อนวูบวาบเหมือนเป็นไข้ ริมฝีปากแห้งผาก สติที่มีอยู่น้อยนิดพร่าเลือน รู้สึกทั้งอับอายและตื่นเต้น และยังจำได้ชัดเจนว่าไม่ได้เอ่ยขัดในตอนที่เขา…เริ่มสัมผัสเธอ ภัควรินทร์ไม่ได้ห้ามยามเขาฟัดอกอวบของเธอจนชอกช้ำ มีเพียงเสียงครางหงุงหงิงที่ผลักดันให้ทุกอย่างเลยเถิด มือหนาบีบบั้นท้ายของเธอ สลับกับลูบไล้ต้นขาด้านในจนหน้าท้องแบนราบหดเกร็ง ตอบสนองความวาบหวามที่พุ่งโจมตีไม่หยุดหย่อน ยามเขาทาบริมฝีปากลงบนหน้าท้อง ลากลิ้นเปียกชื้นหยอกเย้าทุกจุดอ่อนไหว เธอก็เริ่มหอบหายใจถี่กระชั้น หลับตาพริ้มอย่างพ่ายแพ้ เว้าวอนให้เขายุติความทรมานนี้เสียที เธอมั่นใจแล้วว่าเขาเป็นคนใจดี เพราะทันทีที่คำร้องขอหลุดออกจากปาก ธีรักษ์ก็รีบเปลี่ยนเป้าหมาย ขยับขึ้นมาจูบเธอแรง ๆ อีกครั้ง ก่อนเกี่ยวเอาปราการชิ้นสุดท้ายลงและ…บดนิ้วลงมา “ผมใจเย็นไม่ได้แล้ว ช้ากว่านี้ผมคงทำหนูเจ็บแน่ ๆ” “อ๊ะ! หนูเจ็บนะคะ…” ความมึนเมาและความง่วงทำให้ภัควรินทร์ควบคุมเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ จำไม่ได้ว่าเขาทำอะไรไปบ้าง รู้เพียงว่าได้ยินเสียงเขาพึมพำเรียกเธอว่าน้ำหวาน หวานสมชื่อ บางจังหวะก็รู้สึกเจ็บตึงเพราะความคับแน่นถูกรุกล้ำ เธอไม่ได้รู้สึกแย่กับมัน แต่พรึงเพริดไปกับทุกสัมผัสซาบซ่านที่เล่นงานเธอจนต้องครางเสียงหวาน ปลายเท้าเหยียดเกร็ง หัวใจเต้นโครมคราม สุดท้ายก็กระตุกเบา ๆ หมดแรงและแทบจะหลับไป “หลังจากนี้หนูจูบใครไม่ได้แล้วนะ น้ำหวาน” “ค่ะ จูบใครไม่ได้แล้ว…” “หนูเป็นของผมแล้วนะ” เขาจูบแก้มเธอและกระชับอ้อมกอดให้แน่นเสียยิ่งกว่าเดิม “ค่ะ หนูเป็นของคุณธาร…” ภัควรินทร์จำได้ราง ๆ ว่าตอบเขาไปแบบนั้น คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาคงติดใจจนไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ และถ้าเขาอยากสานสัมพันธ์ เธอก็ยินดีที่จะตอบรับ แต่ตอนนี้เธอเมาจนจำอะไรไม่ได้ พูดออกมาแทบไม่เป็นคำ ซ้ำความอ่อนนุ่มยังเจ็บแสบจนน่ารำคาญ เธอจึงตัดสินใจว่าวันพรุ่งนี้ค่อยคุยกันให้เข้าใจอีกที น่าเสียดายที่ยามตื่นขึ้นมาในช่วงสาย ภัควรินทร์กลับพบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงตามลำพัง…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม