หลายชั่วโมงต่อมา ----
" ป้าอิ่มขึ้นไปตามยัยหวานให้หน่อยไม่มาสักที " ชิตสั่งป้าอิ่มทันทีอย่างหงุดหงิดเมื่อลูกสาวตัวดีไม่ยอมลงมาสักที
" ค่ะคุณท่าน "
" จะรีบไปไหนคุณ ลูกอาจจะแต่งตัวไม่เสร็จ ! "
" คุณพิมพ์มันใกล้ถึงเวลานัดแล้วนะยัยตัวดีของคุณยังไม่ลงมาอีก ! "
" เฮ้ออ ! พิมพ์ไม่อยากเถียงกับคุณแล้ว ! " พิมพ์เอ่ยเสียงดุใส่สามีอย่างกระเง้ากระงอดก่อนจะสะบัดหน้าหนีทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" คุณหวานคะ คุณท่านให้มาตามค่ะ " ป้าอิ่มเคาะประตูห้องหวานก่อนจะตะโกนบอกกับคุณหนูของบ้าน
" เดี๋ยวหวานจะลงไปแล้วค่ะ " หวานตะโกนบอกป้าอิ่มเสียงเรียบ ที่จริงเธอแต่งตัวเสร็จนานแล้วแต่เธอไม่อยากไปเลยขอนั่งบนเตียงใหญ่ทำใจก่อน
" ค่ะ "
" ฉันต้องไปจริง ๆ เหรอเนี่ยทำไมชีวิตฉันถึงไม่มีทางเลือกอย่างนี้นะ เฮ้อออ ! " หวานตัดพ้ออย่างนึกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง
" กว่าจะลงมานะยัยหวาน ! "
" ก็หวานแต่งตัวยังไม่เสร็จหนิคะคุณพ่อ ! "
" แกนี่มันจริง ๆ เลย "
" พอแล้วสองพ่อลูกขึ้นรถกันได้แล้วค่ะ ! " พิมพ์ปรามสามีและลูกสาวเสียงด้วยน้ำเสียงดุ จากนั้นสองพ่อลูกก็พากันเดินขึ้นรถยนต์หรูไปด้วยใบหน้าบึ้งตึกกันทั้งสองพิมพ์ได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับการต่อล้อต่อเถียงของสามีและลูกสาว
บ้าน นฤเบศร์
" แกอย่าทำให้ฉันขายหน้าล่ะตาธัน " อาจบอกกับลูกชายด้วยน้ำเสียงแข็งในขณะที่กำลังนั่งรอแขกที่จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยธันไม่ได้ตอบผู้เป็นพ่อเพียงแต่เหลือบสายตาหงุดหงิดมองแค่นั้น
" ป้าเพ็ญคะ เดี๋ยวคุณชิตกับคุณพิมพ์มาป้าก็ยกอาหารมาเลยนะคะ "
" ค่ะคุณ นาดา "
" หมอธันโอเคไหมลูก ? "
" มันไม่เป็นอะไรหรอกคุณนา "
" นาไม่ได้ถามคุณนะคะ " นาดาเอ่ยเสียงเรียบใส่สามีพร้อมกับตวัดสายตาดุมองทำให้อาจเงียบลงทันที
" ว่าไงลูกโอเคหรือเปล่า ? "
" ผมไม่เป็นไรครับแม่ " ธันตอบผู้เป็นแม่เสียงเรียบโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาที่จริงเขาไม่อยากจะมาด้วยซ้ำแต่ทำไงได้ขัดใจพ่อตัวเองได้ซะที่ไหน
" เสียงรถมาแล้ว คุณนาไปกับผม " ขณะเดียวกันเสียงรถยนต์หรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้าน
" ค่ะ "
อาจกับนาดาจึงลุกขึ้นเดินไปต้อนรับแขกที่มาใหม่
" รอนานไหมวะไอ้อาจ ? " ทันทีที่ลงจากรถยนต์หรูมาชิตจึงเอ่ยทักทายเพื่อนรักอย่างเป็นกันเองทันที
" นี่หนูหวานใช่ไหมพิมพ์สวยมากเลยนะ ? "
" ใช่จ้ะ หวานสวัสดีคุณน้านาดาสิลูก "
" สวัสดีค่ะคุณน้านาดา "
" จ้ะ "
" เข้าไปทานข้าวกันเถอะ หนูหวาน คุณพิมพ์ " อาจเอ่ยชวน ทั้งสองจึงพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้านทันที
" ลูกชายมึงอยู่ข้างในใช่ไหมไอ้อาจ ? "
" เออ สิวะ " ขณะที่เดินเข้ามาเพื่อนรักทั้งสองก็คุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน
" นั่นไงไอ้ลูกชาย ตาธัน " อาจแนะนำให้เพื่อนรักรู้จักก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อลูกชายที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร หวานที่ได้ยินชื่อเธอถึงกับขมวดคิ้วยุ่งอย่างคุ้นกับชื่อที่ได้ยินเมื่อสักครู่และมันทำให้เธอหยุดชะงักไปในทันทีเมื่อธันลุกขึ้นพร้อมกับหันหน้ามาตามเสียงเรียกของผู้เป็นพ่อ ไม่ใช่แค่หวานที่ชะงักไปธันเองก็ไม่ต่างกันทั้งคู่สบตากันอย่างไม่อยากเชื่อว่าโลกจะกลมถึงขนาดนี้จริง ๆ
" หมอธันสวัสดีคุณอาทั้งสองสิลูก " นาดาเรียกสติลูกชายตัวเองกลับมาเมื่อธันเอาแต่จ้องหวานราวกับสติเขานั้นหลุดล่องลอยไปไหนสักที่หวานเธอเองก็ไม่ต่างกัน
" สวัสดีครับ " เมื่อเขาได้ยินเสียงผู้เป็นแม่จึงละสายตาจากหวานก่อนจะเอ่ยสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสองคน ก่อนจะเหลือบสายตาดุมองหวานอีกครั้งแต่เธอกับหลบสายตา
" หมอธันหล่อมากเลยนะเนี่ย "
" เหมือนพ่อมันไงวะไอ้ชิต "
" ไอ้สัส หลงตัวเอง "
" เออ ๆ ไปทานข้าวกันเถอะ "
" หนูหวานนั่งข้างหมอธันเลยลูก " นาดาบอกกับหวาน เธอลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่อยากเสียมารยาทต่อหน้าผู้ใหญ่
" ค่ะ "
" หมอธันขยับเก้าอี้ให้น้องด้วยสิ "
" ครับ " ธันตอบรับผู้เป็นแม่อย่างว่าง่ายก่อนจะลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้เธออย่างไม่เต็มใจนัก หวานจึงนั่งลงตามมารยาท
" หวานขอบคุณพี่ด้วยสิ "
" ขอบคุณ ! " หวานเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงแข็งอย่างไม่เต็มใจ ชิตที่ได้ยินอย่างนั้นจึงตวัดสายตาไม่พอใจมองลูกสาวทันที หวานจึงทำเป็นไม่สนใจ
จากนั้นทุกคนก็พูดคุยตามประสาคนรู้จักจะมีแต่ธันกับหวานเนี่ยแหละที่เอาแต่นั่งเงียบโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
" หนูหวานทำงานอะไรลูก ? " นาดาเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้
" หนูเป็นนักเขียนนิยายค่ะ "
" อ๋อ จ้ะ "
" ได้ข่าวว่าหนูเป็นเพื่อนของเมียตาเทวินเหรอลูก ? " อาจเอ่ยถามย้ำกับว่าที่ลูกสะใภ้เพื่ออยากให้ตัวเองมั่นใจว่าหวานกับลูกชายของเขานั้นรู้จักกันมาก่อน
" ค่ะคุณอา "
" จริงเหรอเนี่ย งั้นหมอธันก็รู้จักยัยหวานมาก่อนแล้วสิ ? " ชิตถาม
" ครับ "
" นาดีใจนะคะที่ลูกทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนแล้ว "
" นั่นสิคะคุณนา ยัยหวานกับหมอธันจะได้เข้ากันได้ง่ายขึ้นเมื่อหมั้นกันไปแล้ว "
" ไม่มีทาง ! " หวานพึมพำเบา ๆ อย่างไม่เห็นด้วย ธันที่ได้ยินถึงกับตวัดสายตาดุมองเธอที่นั่งหน้ามุ้ยอยู่ ข้าง ๆ ทันทีก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบกับเธอพอให้ได้ยินกันสองคนด้วยคำพูดร้ายกาจ
" หมั้นกับฉันแล้วเตรียมตัวเป็นนางบำเรอฉันได้เลย "
" ไอ้หน้านิ่ง ! " เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอจึงโวยวายขึ้นเสียงดังทันทีอย่างนึกโมโหพร้อมกับตวัดสายตาไม่พอใจมองธันอย่างเอาเรื่อง เธอไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะ ธันที่เห็นอย่างนั้นจึงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ
" ไปว่าให้พี่เขาอย่างนั้นทำไมลูก ? " พิมพ์เอ่ยถามลูกสาวเสียงดุทันทีเมื่อเธอกำลังเสียมารยาท หวานที่ได้ยินอย่างนั้นจึงหันมายิ้มแห้งให้ผู้ใหญ่ที่มองมา
" ขอโทษค่ะที่เสียมารยาทหวานไม่ได้ตั้งใจ "
" ไม่เป็นไรจ้ะ หนูหวานน้าเข้าใจ "
" ขอบคุณค่ะ " หวานเอ่ยขอบคุณพร้อมกับนั่งเงียบทันทีแต่ภายในใจเธออยากจะกระชากไอ้ปากหมามาตบซะให้สาแก่ใจ
" ขอโทษแทนลูกสาวด้วย "
" ไม่เป็นไรเลยไอ้ชิต คนกันเองจะไปคิดมากทำไมวะ "
" เออ ขอบใจ "
" แล้วหมอธันล่ะงานที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้าง ? " ชิตเอ่ยถามว่าที่ลูกเขยในประโยคต่อมา
" ก็ดีครับคุณอา " ธันเงยหน้าตอบผู้ใหญ่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบแค่นั้น ชิตจึงพยักหน้าตอบรับเข้าใจ
" เรื่องแต่งงาน กูว่าให้เด็กทั้งสองหมั้นกันก่อนไหมไอ้อาจ ? " จากนั้นซิตจึงเข้าประเด็นเรื่องแต่งงานแต่เขาอยากให้ลูกสาวเขานั้นหมั้นกันไว้ก่อนเพื่อศึกษาดูใจกัน ที่จริงเขาเองก็เห็นใจลูกสาวแต่ต้องทำตามสัญญาที่ให้กับอาจเพื่อนรักไว้
" อือ ก็ดีให้ทั้งคู่หมั้นกันไปก่อนแล้วกันจะได้คู่ศึกษาดูใจให้คุ้ยเคยจริง ๆ ค่อยแต่งงาน ว่าไงตาธัน ? " อาจเห็นด้วยกับเพื่อนรักก่อนจะหันมาเอ่ยถามลูกชาย ธันเงยหน้าตอบตกลงอย่างขอไปที
" ครับ "
" แกล่ะยัยหวาน ? "
" หวานเลือกอะไรได้ไหมล่ะคะ !! " คำตอบของเธอทำให้ชิตถึงกับอารมณ์เสียทันทีกับคำตอบไร้มารยาทของลูกสาวจึงหันหน้าไปยิ้มแห้งให้อาจพร้อมกับแก้ต่างให้ลูกสาวตัวดี
" ยัยหวานหมายถึงตกลงนั้นแหละ " อาจพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ชิตจึงถลึงตาใส่ลูกสาวเป็นเชิงดุ
" นาเตรียมฤกษ์หมั้นกับฤกษ์แต่งงานไว้พร้อมแล้วนะคะ แต่ถ้าเลื่อนงานแต่งงานไปก่อนคงต้องปีหน้าแล้วค่ะ ส่วนงานหมั้นก็เหมือนเดิม"
" ตามนั้นค่ะแล้วเมื่อไหร่คะคุณนา ? " พิมพ์ถาม
" อีสองอาทิตย์ค่ะ "
" อะไรนะคะอีกสองอาทิตย์ !!! " หวานโพล่งขึ้นอย่างตกใจก่อนจะปล่อยช้อนที่กำลังจะตักอาหารเข้าปากเป็นต้องร่วงลงทันที ต่างจากธันที่เอาแต่นั่งเงียบโดยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาแต่เขากลับตักอาหารเข้าปากอย่างสบายใจ
เพล้งงง !
" ยัยหวานอย่าเสียมารยาท !! " ชิตปรามลูกสาวเสียงดุอีกครั้ง หวานจึงก้มหน้าลงอย่างรู้สึกเสียใจที่ทำตามความต้องการของตัวเองไม่ได้แถมยังได้หมั้นกับไอ้หน้านิ่งเร็วขึ้นอีก เธอจึงตวัดสายตาโมโหมองธันที่ทานข้าวได้หน้าตาเฉยราวกับไม่สะทกสะท้านอะไรกับการคุมถุงชนครั้งนี้เธอนั้นอยากจะตบกระบาลเขาสักทีสองทีหมั่นไส้ เมื่ออีกคนรู้สึกว่าถูกมองจึงตวัดสายตาดุดันมองเธออย่างไม่สบอารมณ์ทำให้หวานเบี่ยงหน้าหนีทันที
" ถ้าไม่เป็นสองอาทิตย์ข้างหน้าก็ปีหน้าเลยนะคะนาว่ามันนานไปกับการหมั้น "
" เอาตามที่คุณนาบอกเลยครับ "
" ค่ะ "
หลายชั่วโมงต่อมา
" แกนี่มันจริง ๆ เลยนะยัยหวานทำให้พ่อแม่อับอายแค่ให้หมั้นกันไว้ก่อนก็ดีแค่ไหนแล้วยังไม่ให้แต่งงานยังจะเรื่องมากอีก ! "ระหว่างรถยนต์หรูขับเคลื่อนออกมาจากคฤหาสน์ นฤเบศร์ ชิตจึงต่อว่าให้ลูกสาวยกใหญ่
" แต่งงานกับหมั้นมันต่างกันตรงไหนยังไงหวานก็ได้ไปอยู่บ้านเขาอยู่ดี ! "
" ยังจะมาเถียงอีก ! "
" ก็มันจริงหนิคะ ทำไมคุณพ่อต้องบังคับหวาน ? ! " หวานเชิดหน้าเถียงผู้เป็นพ่ออย่างไม่ยอมแพ้
" ฉันหาคนที่เหมาะสมและคนที่สามารถปกป้องแกได้เพราะฉันหวังดีกับแกยังจะเรื่องมากอีก ! "
" ใจเย็น ๆ กันก่อนคุณ ยัยหวาน " พิมพ์ปรามสามี และ ลูกสาวเมื่อทั้งสองคนต่างอารมณ์ร้อนเหมือนกัน
" ดูลูกคุณสิเถียงคำไม่ตกฟาก ! "
" คุณพ่อนั่นแหละไม่ยอมฟังหวาน หวานไม่ชอบไอ้หน้านิ่งนั่น ! "
" ว่าให้พี่เขาอย่างนั้นทำไมลูก เขาอายุเยอะกว่าหนูนะ "
" เป็นยังไงล่ะพิมพ์ลูกสาวคุณ ปากร้ายแค่ไหน "
" คุณเองก็พอได้แล้วค่ะ ไม่อายลุงอ่ำกันหรือไง ! " พิมพ์ปรามสามีอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดุก่อนจะเบี่ยงหน้าไปทางลุงขับรถ ลุงอ่ำเพียงแค่ยิ้มอย่างเกรงใจเท่านั้น จากนั้นทั้งสามีและลูกสาวของเธอก็เงียบไปจนมาถึงบ้านหวานเปิดประตูรถแล้วเดินขึ้นห้องไปทันทีอย่างน้อยใจและโกรธผู้เป็นพ่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ขณะที่หวานเธอกำลังร้องไห้เสียใจอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยถามอยู่หน้าประตู
" แม่เข้าไปได้ไหมลูก ? "
หวานรีบปาดน้ำตาออกจากพวกแก้มก่อนจะตอบรับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงพยายามปกติ
" ค่ะแม่ หวานไม่ได้ล็อคประตู "
แกร๊ก ---
เมื่อพิมพ์เปิดประตูเข้ามาหวานก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่ทันทีอย่างรู้สึกเหนื่อยใจกับเรื่องเกิดขึ้น
" ไม่เป็นไรนะลูก " พิมพ์กอดตอบลูกสาวก่อนจะใช้มือลูบหลังเบา ๆ พร้อมกับพูดปลอบโยนให้เธอรู้สึกดีขึ้น
" หวานไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งงาน อึกกก "
" ไม่ร้องนะคนสวยของแม่มานี่มา " พิมพ์ผละกอดออกจากลูกสาวก่อนจะปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลอย่างอ่อนโยน แล้วจึงพาเธอมานั่งที่เตียงพร้อมกับกุมมือลูกสาวไว้หลวม ๆ เพื่อให้กำลังใจ
" แม่เชื่อว่าที่พ่อเขาบังคับลูก พ่อเขาเองก็คงหวังดีกับลูกไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวของเขาลำบาก "
" แต่หวานไม่ได้รักไอ้หน้านิ่งนั่น "
" อย่าเรียกพี่เขาอย่างนั้นเดี๋ยวคุณอาจกับคุณนาได้ยินเข้าจะมองลูกไม่ดี แม่เชื่อว่าสักวันหมอธันจะทำให้ลูกสาวแม่มีความสุข อีกอย่างลูกก็เป็นคนสัญญากับพ่อเขาเองว่าขอเวลาทำตามความฝันหนึ่งปีแล้วจะแต่งงาน แล้ววันนี้ลูกสาวคนสวยของแม่ก็ได้เป็นนักเขียนอย่างที่ตัวเองฝันไว้ ลูกจะผิดคำพูดของตัวเองเหรอ ? หืม " พิมพ์อธิบายพร้อมกับลูบผมเธอเบา ๆ อย่าง ปลอบประโลม
" ค่ะ หนูจะทำตามความต้องการของพ่อเขาทุกอย่าง " หวานยอมตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะกอดผู้เป็นแม่อีกครั้ง
หลายวันต่อมา ---
คฤหาสน์เทวิน
" สวัสดีค่ะคุณหวาน คุณแทนป้าช่วยถือค่ะ " ป้าพรเอ่ยสวัสดีหวานและแทนทันทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาถึงในบ้านพร้อมกับถือเหล่าของเล่นและตุ๊กตามากมายเต็มมือ
" ขอบคุณค่ะ มิลินล่ะคะ ? "
" อยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ เดี๋ยวป้าพาไปนะคะ "
" ค่ะ " หวานตอบรับแค่นั้นก่อนจะเดินตามหลังป้าพรเข้าไปพร้อมกับแทน
" ลิน "
" หวาน แทน " มิลินลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาวพร้อมกับตอบรับเพื่อนรักทั้งสองด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเทวินกำลังเล่นกับเนนิลเธอจึงยกมือไหว้ตามมารยารแค่เทวินเท่านั้น ส่วนธันเธอก็ทำเป็นไม่เห็นเขาและมีแวบนึ่งที่ทั้งคู่สบตากันก่อนจะเบี่ยงสายตาหนีจากกัน มาเฟียหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าตอบรับแค่นั้น
(หวาน แตน --- )
" สวัสดีค่ะคนสวย " / " สวัสดีครับ "
เนนิลเงยหน้าเอ่ยเรียกหวานแทนด้วยรอยยิ้มอันสดใสก่อนจะกวักมือเป็นเชิงชวนให้ไปเล่นกับเธอด้วย ทั้งสองจึงตอบรับหลานสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะพากันมานั่งข้าง ๆ มิลิน
" ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย "
" ของเล่นต่าง ๆ ซื้อมาให้หลาน " แทนตอบ
" ขอบใจสองคนมากนะ "
(เจ่น ๆ ๆ “ ของเล่น “)
เนนิลเดินเต๊อะแตะเข้ามาหาของเล่นที่หวานและแทนซื้อมาพร้อมกับหยิบขึ้นมาเชยชมอย่างชอบใจ
" เนนิลอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ไหมครับ ? " แทนอุ้มตุ๊กตาหมีขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยถามหลานสาว
(ยากด้ายค่ะ “ อยากได้ค่ะ “) เนนิลตอบรับพร้อมกับมองแทนตาแป๋วก่อนจะเอื้อมมือขอตุ๊กตาจากแทน
" อีแทนมึงจะแกล้งอะไรเนนิล ? "
" ก็จะให้เนนิลไงอีหวานถามมาก ! "
" ตอบดี ๆ ไม่ได้หรือไง ! "
(ตุกตาหมีนิลจ๋อด้ายม๋ายคะ ?) “ ตุ๊กตาหมีเนนิลขอได้ไหมคะ ? “)
" ได้ครับแต่เนนิลต้องจุบแทนตรงนี้ก่อน " แทนกล่าวกับหลานสาวก่อนจะจิ้มแก้มตัวเองเพื่อเป็นข้อแรกเปลี่ยน เนนิลเอียงคอมองแทนตาแป๋วราวกับกำลังไตร่ตรองคำพูดของแทนว่าจะยอมทำตามหรือเปล่า
" เนนิลไม่ต้องเอาลูก " ขณะเดียวกันเทวินบอกลูกสาวเสียงอ่อนพร้อมกับรีบอุ้มเนนิลขึ้นมานั่งบนตักทันทีก่อนจะจ้องมองแทนสายตาเขม็งอย่างหวงลูกสาว
" อะไรเฮีย ? "
" อย่ามาลามปรามลูกสาวกูถ้าไม่อยากกินลูกปืน !! "
" โถ่หวงลูกสาวไปได้เฮีย " แทนแกล้งกล่าวกับเทวินด้วยท่าทางน้อยใจ มิลินที่นั่งมองได้แต่อมยิ้มให้กับความหวงลูกสาวของสามี
" มึงอยากได้ก็ไปทำเอาเอง ! "
(ปะป๋านิลยากด้ายตุกตาอ่ะ “ ปะป้านิลอยากได้ตุ๊กตาอ่ะ “)
เนนิลกล่าวกับผู้เป็นพ่อก่อนจะเบ้ปากคว่ำราวกับกำลังจะร้องไห้พร้อมกับจ้องมองตุ๊กตาหมีตัวโตที่อยู่ในมือแทนอย่างไม่วางตาทำให้เทวินถึงกับหนักใจเลยทีเดียว
" อีแทนเอาให้เนนิลไป เห็นไหมหลานจะร้องไห้แล้ว ! " หวานสั่งเพื่อนรักเสียงแข็ง
" ถ้าน้ำตาเนนิลร่วงแม้แต่หยดเดียวกูจะสั่งปิดผับมึงไอ้แทน !!! "
" โหดว่ะ กะจะให้หลานนั่นแหละแกล้งนิดหน่อยเอง " แทนกล่าวพลางยื่นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ให้หลานสาวที่กำลังจะร้องไห้ เมื่อได้ตุ๊กตาเนนิลเธอถึงกับยิ้มแป้นทันทีต่างจากเมื่อสักครู่ที่ทำทีจะร้องไห้งอแง
" หวานได้เจอเจ้าบ่าวหรือยังลินอยากรู้ ? "
" ไม่ค่อยเสือกเลยเนอะอีลิน "
" ก็ลินอยากรู้หนิ "
เมื่อได้ยินคำถามจากเพื่อนรักหวานถึงกับยิ้มแห้งทันทีเมื่อเจ้าบ่าวคนนั้นก็คือธันที่กำลังนั่งคุยกับเทวินอยู่ข้าง ๆ ธันที่ได้ยินเขาทำทีเป็นไม่สนใจแต่ที่จริงเขาเองก็อยากรู้ว่าหวานเธอจะตอบยังไง
" ว่าไงหวานเจอยัง ? " มิลินถามย้ำอีกครั้งเมื่อเพื่อนรักยังไม่ตอบ
" อือ เจอแล้ว "
" หล่อไหม? "
" ลิน ! " น้ำเสียงของเทวินทุ่มต่ำเจือแววตักเตือนอย่างไม่สู้พอใจนักกับคำถามของภรรยา
" อะไรคะพี่วิน ? "
" อยากรู้ทำไมว่าหล่อไหม ? "
" ไม่เกี่ยวกับพี่วินค่ะ ! " มิลินแหวใส่สามีพร้อมกับมองค้อนเมื่อเทวินกำลังขัดใจเธอทำให้เทวินก้มหน้าหลบสายตาภรรยาที่มองมาก่อนจะเล่นกับลูกสาวต่อทันที
" หล่อตายแหละ ! "
น้ำเสียงกระด้างของหวานที่กำลังต่อว่าทำให้ธันตวัดสายตาไม่พอใจมองทันที
" แสดงว่าไม่หล่อใช่มะ ? "
" ฉันไม่อยากพูดถึงไอ้บ้านั่นแล้วลินเสนียดปากฉันซะเปล่า ๆ ! "
เพล้ง !
ขณะเดียวกันธันที่ยกแก้วน้ำเปล่าดื่มรวดเดียวหมดแก้วอย่างโมโหกับคำพูดของคู่หมั้นเขาวางแก้วกระทบกับโต๊ะอย่างแรงก่อนจะตวัดสายตาดุจ้องหวานตาเขม็ง ทำให้ทุกคนสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจทันทีพร้อมกับหันมองธันอย่างแปลกใจคงมีแต่เทวินเท่านั้นที่นั่งเงียบ ๆ โดยไม่ตกใจอะไร
" ปากดีไปเถอะ ! กูกลับล่ะ " น้ำเสียงเย็นชาเจือแววข่มขู่อย่างชัดเจนของธันทำให้หวานถึงกับจ้องหน้าธันอย่างไม่พอใจทันที และในประโยคสุดท้ายธันก็หันมากล่าวลากับเทวินก่อนจะลุกเดินออกไปทันทีด้วยท่าทางโมโห
" หมอธันเป็นอะไรหรือเปล่าพี่วิน ? "
" เพื่อนลินว่าให้มันขนาดนั้นเป็นพี่ก็โมโห "
" หมายความว่าไงหวาน ? " มิลินหันมาถามเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ
" อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนั่นคู่หมั้นมึงอีหวาน ? " คำพูดของแทนทำให้หวานนิ่งไปเลยทีเดียวก่อนจะตอบอย่างยอมรับ
" อือ "
" ตายแล้ว หวานไม่น่าพูดแบบนั้นเลย "
" ก็เสนียดปากจริง ๆ อ่ะลินหวานไม่ได้อยากแต่งงานด้วยซะหน่อย "
" เฮ้ออออเพื่อนลิน " มิลินถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเหนื่อยหน่ายกับความปากร้ายของเพื่อนรัก
" พี่วินรู้แล้วทำไมไม่บอกลินคะ ? !!! "
" ก็ลินไม่ได้ถามพี่ "
" พี่วิน !!!! " มิลินแหวใส่สามีทันทีอย่างไม่พอใจ
" พี่พาเนนิลไปนอนดีกว่าสงสัยง่วงแล้ว " เทวินตัดบทภรรยาแค่นั้นก่อนจะอุ้มลูกสาวขึ้นแนบอกจากนั้นก็เดินออกไปจากห้องรับแขกทันทีเมื่อเนนิลเอาแต่หาววอด ๆ อย่างง่วงนอน
" เขาว่าเกียจอะไรจะได้อย่างนั้นนะหวาน "
" สำหรับฉันไม่ใช่แน่ "
" กูจะรอดูอย่าไปรักมันก่อนซะล่ะ "
" ไม่มีทางอีแทน !! "
" เออ ๆ หุบปากไปได้แล้วจะให้กูไปส่งซื้อของไม่ใช่บ่ายสามแล้วเนี่ย " แทนตอบรับเพื่อนรักอย่างขอไปทีก่อนจะบอกเพื่อนรักในประโยคต่อมา
" อือ ไปก่อนนะลินว่าง ๆ จะมาหาใหม่ "
" จ้ะ สู้ ๆ นะ "
" อือ " หวานตอบแค่นั้นด้วยรอยยิ้ม