สำนักพิมพ์ you and me
แทนขับรถยนต์หรูสีขาวเข้ามาจอดหน้าสำนักพิมพ์ you and me หลังจากขับรถออกมาจากงานแต่งมิลินใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็มาถึงซึ่งเวลาในขณะนี้สองทุ่มครึ่ง
" ขอบใจอีแทนที่มาส่ง" หวานกล่าวขอบคุณเพื่อนรักด้วยสีหน้าวิตก ทีแรกเธอกะจะขับรถกลับมาก่อนแต่แทนขออาสาขับมาส่งเพราะทั้งคู่ตอนไปก็ไปด้วยกันอีกอย่างแทนเองก็เป็นห่วงเธอที่ขับรถกลับดึก ๆ มันอันตราย
" เออ เลิกทำหน้างั้นได้แล้วเดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหรอก "
" อีแทนมึงนี่ปากหมา ฉันเครียดอยู่นะ!! "
" เออ ๆ ๆ ขอโทษไปได้แล้วกูรอที่รถ "
" ขึ้นไปด้วยกันไหม ? "
" อยากให้ขึ้น ? "แทนเลิกคิ้้วถามอย่างกวนประสาทเพื่อนสาว
" อือ ฉันกลัวร้องไห้แล้วไม่มีใครปลอบ " หวานก้มหน้าตอบอย่างเศร้าใจและเธอยังกังวลกับเรื่องงานอีก
" อือก็ไป ไม่อยากเห็นคนแถวนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง เออแล้วก็เลิกได้แล้วนะไอ้ขี้แงเวลาแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เนี่ยหัดลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วลองคิดหาวิธีแก้ปัญหาอื่นแทนการมานั่งร้องไห้ ปกติมึงก็ดูเข้มแข็งนะ "
" แกไม่ได้ด่าฉันใช่ไหม ? "
" กูแนะนำมึงไม่ใช่ด่า อย่าทำตัวโง่ ! "
"อีแทน !! "หวานแหวใส่เพื่อนรักทันทีอย่างไม่สบอารมณ์กับคำด่าของเพื่อนรัก
" รีบไม่ใช่เหรอ ยังจะมามองกูอีกจะไปไหมเนี่ย ! "
"อือลง" หวานตอบแทนด้วยน้ำเสียงอ่อนก่อนจะเปิดประตูรถก้าวขาเรียวเล็กลงแล้วเดินเข้าไปในสำนักพิมพ์พร้อมกับแทนเพื่อนของเธอ
"หวาน ทันทีที่ทั้งสองมาถึงแพรวเธอเป็น บก. ของสำนักพิมพ์จึงเอ่ยเรียกพร้อมกับเหลือบสายตามองชายหนุ่มที่เดินมาพร้อมกับเธออย่างสงสัยว่าเป็นใคร
" ได้เรื่องว่ายังไงบ้างคะ ?"
"มิ้มได้ข้อมูลบางส่วนมาแล้วว่าคอมหวานถูกแฮก "
" แล้วรู้ไหมว่าเป็นใคร? "
" เท่าที่พี่ดูจากแหล่งที่มา มันแฮกจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ร้านกาแฟ XXX แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครต้องลองเจาะข้อมูลดูอีกที กราฟพูดขึ้นพร้อมกับหมุนโน๊ตบุ๊คมาให้ทุกคนดูภาพเส้นทางของแฮกเกอร์ "
" ค่ะ พี่กราฟ "
"หวานมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า "แพรวเอ่ยถาม
"หวานก็ไม่รู้เหมือนกันพี่แพรว "
"พี่ว่าคนที่จ้างแฮกเกอร์เอาข้อมูลนี่ต้องเป็นคนที่ต้องการผลงานของหวานมากแน่ ๆ "
"แล้วเราพอมีวิธีไหนที่จะแจ้งความเอาผิดกับสำนักพิมพ์ฝั่งนู้นได้ไหมคะ"
" ได้จ้ะ ต้องรวบรวมข้อมูลงานเขียนของเราไว้ให้มากที่สุด "
" ก่อนอื่นมึงหาคนทำก่อนไหมอีหวาน" แทนโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ก็ยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ ทำให้ทุกคนหันไปมองตามเสียงพูดของแทน
"เดี๋ยวพี่จะเป็นคนหาข้อมูลของแฮกเกอร์และคนทำเองครับ "
" บอกให้เฮียกูจัดการดีกว่าเร็วกว่าเยอะ " คราวนี้แทนเงยหน้าขึ้นพูดอีกครั้งพร้อมกับจ้องมองไปที่กราฟด้วยสายตาดุดันก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก เขาพอจะมองออกว่ารุ่นพี่ของหวาน นั้นคิดเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน
" ไม่อยากรบกวน "
" นั่นสิหวานเดี๋ยวพี่ช่วยหาเองอีกอย่างงานของเราคู่แข่งเยอะ "
"มึงอยากรู้ภายในหนึ่งวัน หรือมึงจะรอ ไม่รู้ว่าจะได้วันไหนไอ้คนทำมันคงทิ้งข้อมูลให้ค้นหาได้ง่าย ๆ หรอกนะ "
" ว่าไงหวาน ? " มิ้มเพื่อนของเธอถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าลังเลของเธอ อือ งั้นเดี๋ยวให้คุณเทวินช่วยก็ได้ค่ะพี่กราฟ หวานกล่าวกับรุ่นพี่ด้วยสีหน้าเกรงใจเมื่อต้องปฏิเสธความช่วยเหลือ
" งั้นพี่กราฟก็ช่วยมิ้มรวบรวมข้อมูลเอาผิดพวกนั้น "
กราฟพยักหน้าตอบรับแค่นั้น ก่อนจะตวัดสายตาไม่พอใจที่ถูกขัดมองไปที่แทน แต่แทนเองก็ได้แต่แสยะยิ้มร้ายมุมปากอย่างสะใจ
" หวานรู้จักคุณเทวินด้วยเหรอ ? " แพรวเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเธอไม่คิดว่าหวานจะรู้จักกับนักธุระกิจใหญ่และมีอำนาจอย่างเทวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงธุระกิจ
" ค่ะ คุณเทวินเป็นสามีของเพื่อนหวานเองที่แต่งงานวันนี้ "
" ว้าว ไม่คิดเลยว่าที่หวานไปงานแต่งวันนี้จะเป็นงานแต่งของคุณเทวิน " มิ้มโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หวานเธอก็ได้แต่ยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อนเธอเท่านั้นก่อนจะเอ่ยขอบคุณทุกคน
" ขอบคุณทุกคนมากนะคะ "
" ไม่เป็นไรหวานยังไงเราก็ทำงานที่เดียวกัน " แพรวตอบรับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับตบไหล่หวานเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ
" แล้วนั่นใครหวาน ? " เมื่อจบการสนทนาเรื่องงาน มิ้มเธอจึงเอี่ยวหน้ากระซิบถามหวานพร้อมกับเบี่ยงสายตาไปทางแทนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงเก้าอี้ข้าง ๆ หวานแวบหนึ่ง
" อ๋อเพื่อน ลืมแนะนำเลยค่ะนี่แทนเพื่อนหวานเอง "
เธอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับแทนพร้อมกับสะกิดแขนแทนให้สนใจเธอและคนอื่น ๆ ที่นั่งประชุมกันอยู่กลางห้องทำงาน เขาจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ทุกคนอย่างขอไปทีก่อนจะกับมาเล่นโทรศัพท์ต่อทำให้หวานถึงกับยิ้มแห้งให้ทุกคนทันทีที่เพื่อนเธอทำเป็นไม่สนใจ และ ทุกคนก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ---
ครืนนน ครืนนนน
ระหว่างที่เธอกำลังจะกลับบ้านหลังคุยงานเสร็จโดยมีแทนขับรถมาส่งเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หวานจึงหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายข้างของเธอขึ้นมาเมื่อเห็นเป็นเบอร์ของผู้เป็นพ่อเธอจึงช่างใจอยู่นานแต่ก็ยังไม่กดรับสาย
" ใครโทรมาทำไมไม่รับ ? "
" พ่อ "
" ก็รับสิมึงจะมัวแต่จ้องโทรศัพท์ทำไม ? "
" ไม่อยากรับคงโทรมาเรื่องแต่งงาน ฉันเบื่อ " หวานพูดขึ้นด้วยสีหน้าเครียดอีกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องแต่งงานก่อนจะทำการปิดเครื่องโทรศัพท์โดยไม่รับสายจากนั้นจึงเก็บเข้ากระเป๋าสะพายข้างของเธอ เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย
" เฮ้อออ ! "
" ทำใจซะยังไงมึงก็ต้องได้แต่งอยู่ดี "
" มึงหาคำพูดดีกว่านี้ได้ไหมอีแทน ! " หวานแหวใส่เพื่อนรักอย่างหงุดเหงิดอีกครั้ง
" ก็มันจริง " แทนตอบแค่นั้นจากนั้นทั้งคู่ก็เงียบจนมาถึงบ้านหวาน
" ขอบใจที่มาส่ง "
" อือ เข้าบ้านได้แล้วอย่าคิดมากแล้วแอบร้องไห้อีกล่ะ "
" ร้องแน่ " เธอทิ้งท้ายคำพูดแค่นั้นใส่เพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนักด้วยใบหน้าอมยิ้มก่อนจะเปิดประตูก้าวขาลงจากรถและเดินเข้าบ้านแต่ก็ไม่วายที่จะเอี่ยวหลังมาโบกมือบ้ายบ่ายให้เพื่อนรักที่กำลังจะขับรถออกไป
หลายวันต่อมา ---
ครืนนน ครืนนน
ระหว่างที่หวานเดินลงบันไดมาเธอกำลังจะลงมาทานข้าวเช้าเพื่อจะไปทำงานแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน เธอจึงหยุดเดินและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายข้าง เธอถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ " เฮ้ออ !! " อย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะกดรับสายผู้เป็นพ่อในขณะเดียวกันก็เดินลงมาที่โต๊ะรับประทานอาหาร
" ค่ะ "
( กว่าจะรับสายฉันนะยัยหวาน ) ทันทีที่ลูกสาวรับสายชิตจึงเอ่ยถามเสียงแข็งอย่างหงุดหงิด
" แล้วพ่อมีอะไรล่ะคะ ถ้าจะคุยเรื่องแต่งงานหวานยังไม่พร้อม ) หวานคุยกับผู้เป็นพ่อพร้อมกับหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้โต๊ะอาหารจากนั้นแม่บ้านก็ยกข้าวต้มปลามาเสิร์ฟให้เธอ
( ยังบอกว่าไม่พร้อมอีกแกขอเวลาฉันหนึ่งปีแล้วนี่แกก็ได้เป็นนักเขียนอะไรของแกแล้วก็ควรทำตามสัญญาที่ตัวเองเอ่ยไว้ซะ !! )
" แต่..... "
( ไม่มีแต่พรุ่งนี้ฉันกับแม่แกจะกลับบ้านแล้วจะคุยเรื่องแต่งงานของแกต่อแค่นี้ ) ผู้เป็นพ่อพูดทิ้งท้ายประโยคแค่นั้นก่อนจะกดวางสายทันที ทำให้หวานที่ได้ยินอย่างนั้นเธอถึงกับขมวดคิ้วยุ่งด้วยความหนักใจ
" อย่าคิดมากเลยนะคะ คุณหวานของป้า "
" ไม่ให้คิดไม่ได้หรอกค่ะ ป้าอิ่มหวานไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก "
" ป้ารู้ค่ะ แต่คุณหวานสัญญากับคุณท่านเองนะคะว่าครบหนึ่งปีแล้วจะแต่งงาน "
" นั่นสิค่ะ "
" อาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้นะคะ "
" คงเป็นโชคซะตาที่เลวร้ายสำหรับหวานแล้วล่ะค่ะ " หวานกล่าวอย่างติดตลกแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกเศร้า แต่เธอก็คลี่ยิ้มให้ป้าอิ่มบาง ๆ ก่อนจะทานอาหารเช้าต่อ
สำนักพิมพ์ you and me
รถยนต์หรูสีครีมของหวานขับเคลื่อนเข้ามาจอดภายในโรงจอดรถของสำนักพิมพ์ เธอเปิดประตูก้าวขาลงจากรถแล้วเดินเข้ามาบริษัททันทีก่อนจะเอ่ยทักทายเหล่าพนักงานอย่างอ่อนน้อม
" สวัสดีค่ะพี่ ๆ " แต่ละคนก็เอ่ยตอบรับอย่างเป็นมิตร " สวัสดีจ๊ะน้องหวาน "
" หวาน ๆ ๆ " ระหว่างที่เธอกำลังจะก้าวขาเข้าลิฟต์ เสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นสุดรั้งเธอให้หันหลังกับไปมอง
" หวัดดีมิ้ม "
" หวัดดี ทานข้าวเช้ามายัง ? " เธอเอ่ยถามเพื่อนสาวก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไปพร้อมกับหวานแล้วจึงยื่นแก้วกาแฟร้อนที่ถือมาอีกแก้วให้
" ขอบคุณนะสำหรับกาแฟ หวานทานมาแล้วล่ะ มิ้มล่ะ ? " หวานยื่นมือรับพร้อมกับเอ่ยขอบคุณก่อนจะเอ่ยถามเธอในประโยคต่อมา
" ยังเลยไม่ทัน ตื่นสายวันนี้ "
" อือ หิวไหม ? "
" ไม่นะ กาแฟแก้วเดียวอยู่ถึงเที่ยง "
" อือ "
" แล้วเรื่องไอ้คิงล่ะหวานจะเอาเรื่องไหม ? "
" คงไม่อ่ะ นายนั่นคืนต้นฉบับให้เราแล้ว แล้วก็ยกเลิกทุกอย่างที่เกี่ยวกับนิยายของเรา " หวานบอกกับเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมกับเดินออกมาจากลิฟต์และเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองก่อนจะจัดของต่าง ๆ ที่ไม่เป็นระเบียบรอบพื้นโต๊ะ
" แน่ใจนะว่าไม่เอาเรื่อง ? " มิ้มถามย้ำอีกครั้งอย่างเป็นห่วงเพื่อให้เธอได้ไตร่ตรองให้แน่ใจ
" อือ เราไม่ยากให้เรื่องมันใหญ่โตถ้าเขายอมจบแค่นี้เราก็โอเค "
" จ้ะ เพื่อนสาวใจดี " มิ้มลากเสียงยาวอย่างนึกหมั่นใส่กับคำพูดของเพื่อนสาวอย่างหยอกล้อ หวานได้แต่คลี่ยิ้มบาง ๆ พร้อมกับส่ายหัวไปมาให้เพื่อนสาวอย่างนึกขำกับสีหน้าทะเล้นของเธอ
" สวัสดีครับสาว ๆ "
" สวัสดีค่ะพี่กราฟ "
" มาเช้านะเนี่ยเราสองคน "
" แน่นอนค่ะ " มิ้มตอบรับอย่างภูมิใจหวานเธอเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ให้รุ่นพี่แค่นั้น
" ทานข้าวเช้ามาหรือยังครับหวาน ? "
" ทานแล้วค่ะพี่กราฟ ล่ะคะ ? "
" ทานแล้วเหมือนกันครับ "
" พี่กราฟไม่เห็นถามมิ้มเลย ? " มิ้มแกล้งเอ่ยถามรุ่นพี่อย่างน้อยใจพร้อมกับใบหน้ามุ้ย
" แล้ว น้องมิ้มล่ะครับทานหรือยัง ? "
" ไม่ค่ะ ถามประชดหรือเปล่าเนี่ย ? "
" ไปใหญ่แล้วยัยบ้อง "
" มิ้มไม่ใช่ยัยบ้องซะหน่อย " มิ้มตอบกลับรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงเง้างอน หวานได้แต่ยิ้มบาง ๆ ให้กับการหยอกล้อของทั้งสอง
" สวัสดีจ้ะ ทุกคน "
" สวัสดีค่ะพี่แพรว / ครับ "
" หวานมาหาพี่หน่อย "
" ค่ะ " หวานตอบรับแค่นั้นเธอก็เดินเข้าไปหาหัวหน้าเธอทันที
" มีอะไรหรือเปล่าคะพี่แพรว ? "
" พี่มีงานใหม่ให้เรา "
" ค่ะ "
" พี่อยากได้นิยายเกี่ยวกับความรักของหมอ พี่จะให้หวานเข้าไปหาข้อมูลในโรงพยาบาลเพื่อเอาข้อมูลจริงมาแต่งเนื้อเรื่องจะได้ดูสมจริง "
" ค่ะ โรงพยาบาลอะไรคะ ? "
" โรงพยาบาลเค จ้ะ "
" โรงพยาบาลเค เหรอคะ ? !!" หวานโพล่งขึ้นอย่างตกใจเมื่อชื่อโรงพยาบาลที่เธอจะเข้าไปหาข้อมูลนั้นเป็นโรงพยาบาลของธันคนที่เธอเกียจขี้หน้า
" มีอะไรหรือเปล่าหวานตกใจอะไรขนาดนั้น ? "
" อ๋อ ๆ เปล่าค่ะ "
" เริ่มเข้าไปหาข้อมูลอาทิตย์หน้าเลยนะพี่ให้เวลาสองเดือนในการศึกษาข้อมูลไม่ต้องกังวลนะคนที่จะคอยให้ข้อมูล ต่าง ๆ เขาเป็นเพื่อนพี่เอง"
" คงไม่ใช่ไอ้หน้านิ่งหรอกนะ " หวานพึมพำเบา ๆ อย่างไม่อยากให้เป็นคนที่เธอไม่อยากเจอ
" ว่าอะไรนะหวาน ? "
" อ๋อเปล่าค่ะ "
" โอเคใช่ไหมเรื่องงาน "
" ค่ะ "
" จ้ะ กลับไปทำงานเถอะ "
" ค่ะ " หวานตอบแค่นั้นเธอก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานทันทีพร้อมกับครุ่นคิดเรื่องเข้าไปศึกษาข้อมูลในโรงพยาบาลของชายหนุ่มคนที่ไม่ว่าจะเจอกันที่ไหนมักจะเข้าหน้ากันไม่ติด
โรงพยาบาล เค
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ระหว่างที่ธันกำลังนั่งทำงานอยู่เสียงเคาะประตูห้องตรวจของเขาก็ดังขึ้น ประตูถูกผลักเข้ามาพร้อมกับร่างบางของหมอมายเพื่อนหมอรุ่นเดียวกันที่ธันแอบปลื้มอยู่ เธอเอ่ยชวนชายหนุ่มเสียงหวาน
" ธันไปทานข้าวกัน เที่ยงแล้ว "
" ครับ " ธันตอบรับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ คงมีเพียงเธอที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขาส่วนมากธันมักจะไม่ค่อยยิ้มให้ใครง่าย ๆ เรียกว่าไม่ยิ้มเลยดีกว่าถ้าไม่จำเป็น
" มายอยากให้ธันยิ้มบ่อย ๆ จัง "
" ทำไม ? "
" เวลาธันยิ้มนะดูมีเสน่ห์มาก ๆ เลย " มายเอ่ยชมชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มหวานระหว่างที่เดินออกมาจากห้องตรวจพร้อมกัน
" อือ อยากไปทานที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า ? " ธันตอบรับแค่นั้น ก่อนจะเอ่ยถามในประโยคต่อมาเสียงเรียบใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชาเหมือนเดิม
" ไม่หรอกที่โรงอาหารเหมือนเดิมดีกว่า "
" อือ " ธันตอบรับแค่นั้นเขาและเธอก็พากันเดินตรงไปที่โรงอาหารทันที
ครืนนน ครืนนน
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังทานอาหารกันอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของธันก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อกาวของตัวเองขึ้นมาดูเบอร์ที่โชว์บนหน้าเจอเป็นของอาจพ่อของเขาเอง เขาช่างใจอยู่นานไม่ยอมกดรับสายสักที
" ไม่รับเหรอธัน ? "
" กำลังจะรับ " มายพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจธันก็กดรับสายผู้เป็นพ่อทันที ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
" ครับ "
( พรุ่งนี้หยุดงานแล้วมาหาฉันที่บ้านหน่อย )
" พ่อมีธุระอะไร ? "
( ฉันจำเป็นต้องมีธุระหรือไงแกถึงจะมาหาฉันกับแม่แกที่บ้านได้ !! )
( ถ้าแกไม่มาตามที่ฉันบอกแกเจอดีแน่ !! ) อาจข่มขู่ลูกชายด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
" ครับ " ธันตอบรับแค่นั้นก็กดวางสายผู้เป็นพ่อทันที เขาพอจะรู้ว่าทำไมถึงให้เขาไปที่บ้านคงไม่พ้นเรื่องแต่งงาน
" มีเรื่องอะไรหรือเปล่าธันสีหน้าดูกังวล ? "
" เปล่าทานข้าวเถอะ "
" อือ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกมายได้นะมายยินดีรับฟัง "
" อือ ขอบใจ "
ธันตอบรับแค่นั้นด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตักอาหารเข้าปากทันที เขาเองก็กังวลไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานเพราะตัวเขาเองนั้นมีคนที่ชอบอยู่แล้วแต่ก็ขัดใจผู้เป็นพ่อไม่ได้เขาจะไม่ยอมเสียทุกอย่างที่สร้างมากับมือ ถึงโรงพยาบาลเขาจะไม่ได้เป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่อีกอาชีพของเขาคือมาเฟียเขาจะไม่ยอมเสียมันไปเงินทองมากมายส่วนหนึ่งเขาก็เป็นคนหามาเองทั้งนั้น ถึงจะมาจากธุระกิจสีเทาก็ตามแต่อย่างน้อยก็ได้หามันมาด้วยตัวเอง
ผับ Nice
" ไอ้วินไม่มา ? " ธันเดินเข้ามาในห้อง วีไอพีของผับเทวินเมื่อไม่เห็นเจ้าของผับจึงถามหาพร้อมกับหย่อนสะโพกนั่งข้างกรตรงข้ามกับแพททริคทั้งสองคนมีสาวนมโตคอยให้บริการอย่างเอาอกเอาใจ
" เลี้ยงลูกอยู่บ้าน มันไม่มาหรอกติดเมียกับลูกจะตาย " แพททริคกล่าว
" ถ้ามึงจะถามหาไอ้พรีน รายนั้นเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องผลิตยาตัวใหม่ของมันทั้งวัน "
" อือ "
" มึงนัดพวกกูมามีเรื่องอะไร ? ปกติเห็นคลุกอยู่แต่โรงพยาบาล " กรถามพร้อมกับกระดกแก้วน้ำสีอำพันเข้าปากอึกใหญ่ เมื่อแม่สาวนมโตของเขายื่นให้
" ก็เรื่องเดิม "
" หึ คงหนีไม่พ้นเรื่องแต่งงาน " แพททริคตอบอย่างรู้ทัน ก่อนจะเคล้นหัวเราะในลำคอเบา ๆ
" แล้วมึงเห็นหน้าเจ้าสาวมึงยัง สวยไหมวะ ? " กรถาม
" ยัง " ธันตอบแค่นั้นเขาก็กระดกน้ำสีอำพันเข้าปากอึกใหญ่รวดเดียวจนหมดแก้ว ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความเครียดและหนักใจ
" เอาสาวไหมวะ ? จะได้ผ่อนคลาย "
" เอามาดิ "
" สงสัยเครียดจริงว่ะ ปกติไม่เห็นสนใจ " แพททริคเอ่ยแซว ก่อนจะยกโทรศัพท์ต่อสายหาผู้จัดการร้านให้เอาสาวมาเพิ่มให้อีกหนึ่งคน ไม่นานเธอคนนั้นก็เดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งตักธันพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างคล้องคอชายหนุ่มก่อนจะแนบใบหน้าสวยลงบนอกแกร่งอย่างรู้งานธันเองก็โอบกอดเธอเช่นกันเขายอมให้เธอทำตามใจโดยไม่ได้ผลักใส
" นาน ๆ ทีจะได้เห็นไอ้หน้านิ่งของเราให้สาวนั่งตักว่ะ "
" หึ " ธันส่งเสียงผ่านลำคอแค่นั้นก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยเหมือนเดิม
" ไอ้หน้านิ่งนี่คำนี้คุ้น ๆ ว่ะ "
" ก็น้องหวานเพื่อนน้องมิลินไง คู่กัดไอ้ธันมันไงไอ้กร "
" เออว่ะ "
" พวกมึงไม่ต้องพูดถึงยัยอ่อนแอนั้นกูรำคาญ !!!! " ธันแหวใส่เพื่อนรักทั้งสองอย่างรำคาญเมื่อพูดถึงหวานสาวเจ้าจอมปากร้าย
" ทำเป็นรำคาญไอ้สัส ! ถ้าโลกกลมขึ้นมาให้น้องหวานมาเป็นเมียมึงกูจะเตรียมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ให้มึงเลย !!! " แพททริคกล่าวอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับกระดกน้ำสีอำพันเอาปากอึกใหญ่อีกครั้ง
" ต่อให้เป็นงั้นกูก็ไม่เอายัยนั่นมาทำเมียกูหรอก !! "
" กูจะคอยดู ไอ้วินก็พูดเหมือนมึงตอนแรกดูตอนนี้สิเป็นทาสเมียซะแล้ว "
" นั่นไอ้วิน นี่กู ! "
" อย่ากลืนน้ำลายตัวเองเหมือนไอ้วินนะโว้ยยไอ้ธันคนเย็นชา " กรเอ่ยแซวเพื่อนรักแต่แฝงไปด้วยถ้อยคำกระแนะกระแหน
" อย่าโมโหเลยค่ะ อ้าปากสิคะคุณธันเดี๋ยวเชอรี่ป้อนค่ะ ? " แม่สาวนมโต หยิบขนมในจานจ่อปากชายหนุ่มพร้อมกับบอกคนตรงหน้าเสียงหวาน ธันก็อ้าปากรับอย่างไม่เรื่องมาก
" สาวมึงบริการดีว่ะ " แพททริคเอ่ยแซวอีกครั้ง
" แล้วส้มไม่บริการดีเหรอ ? " สาวนมโตข้างกายของแพททริคเอ่ยถามด้วยน้ำเสียง เง้างอน
" บริการดีสิจ๊ะ " แพททริคพูดพลางก้มหอมแก้มสาวนมโตข้างกาย ฟอดใหญ่
" ไอ้ธันถ้ามึงแต่งงาน สาวคนที่มึงแอบปลื้มล่ะ ? " กรถามอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักนั้นแอบชอบสาวที่เรียนหมอรุ่นเดียวกันมานาน ธันคิดอยู่นานก่อนจะตอบคำถามเพื่อนรัก
" กูไม่รู้ "
" ทำไมไม่ขอเป็นแฟนไปเลยว่ะไหน ๆ ก็ชอบมานานแล้วไม่ใช่ ? แล้วบอกพ่อมึงว่ามึงมีคนรักอยู่แล้ว "
" กูเคยขอแล้วเธอปฏิเสธ "
" เล่นตัวหรือเปล่าวะ ? " แพททริคโพล่งขึ้นอย่างคาดเดา
" มายไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้น "
" ปกป้องด้วยว่ะ เออที่กูพูดเรื่องน้องหวานเมื่อกี้กูว่ามันคงไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอกมันมีคนที่ชอบแล้วนี่หว่า "
" ไม่แน่นะโว้ย " กรพูดขัดขึ้นอย่างมีประสบการณ์จากเรื่องของเทวิน
" หยุดพูดเรื่องยัยนั่นได้แล้ว !!! "
" ก็ได้ แล้วทำไมเธอถึงปฏิเสธมึงกูพอจะดูออกนะว่ายัยนั่นก็ชอบมึง " แพททริคกล่าว
" มายบอกยังไม่พร้อมที่จะมีแฟน "
" สาวมึงนี่ ดูเรียบร้อยนะแต่กูว่าร้ายในว่ะ "
" มึงก็พูดไปไอ้แพทเคยเจอครั้งเดียวทำเป็นรู้ดี "
" กูมีตาทิพย์โว้ยย ! " แพททริคโพล่งขึ้นอย่างติดตลก
" ไอ้สัส !!!! "
วันต่อมา ----
แสงแดดยามเช้าสอดส่องเข้าผ้าม่านสีครีมเข้ามาตกกระทบกับใบหน้าเกลี้ยงเกลาของหญิงสาวให้ตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ หวานค่อย ๆ ปรือตาดวงกลมโตขึ้นมาอย่างยากลำบากก่อนจะใช้มือขยี้ตาเบา ๆ เพื่อให้การมองเห็นของม่านตาชัดขึ้นเธอดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับเตียงขนาดใหญ่พร้อมกับปิดปากหาวอย่างงัวเงีย เธอเหลือบมองนาฬิกาแขวนโดยเข็มสั้นชี้เลขเก้าเข็มยาวชี้เลขแปดบ่งบอกว่าเวลานี้เก้าโมงจะสิบโมงแล้ว เธอจึงก้าวขาลงจากเตียงแล้วไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเมื่อทำอะไรเสร็จแล้วเธอก็เดินลงบันไดมาข้างล่าง
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณหวานรับอาหารเช้าเลยหรือเปล่าคะ ? "
" ค่ะ ป้าอิ่ม " เธอตอบรับแค่นั้นด้วยรอยยิ้มจากนั้นจึงเดินมานั่งรออาหารเช้าที่โต๊ะอาหารพร้อมกับหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านข่าวสาร
" ขอบคุณค่ะป้า " เธอกล่าวขอบคุณทันทีเมื่อป้าอิ่มนำอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เธอ
" ค่ะ "
" ใครมาไม่รู้เดี๋ยวป้าไปดูก่อนนะคะ "
" ค่ะป้า " หวานตอบรับแค่นั้นป้าอิ่มก็เดินออกไปดูคนที่พึ่งมาใหม่ทันที
" สวัสดีค่ะคุณท่าน "
" หวานล่ะป้า " ทั้งสองพยักหน้าตอบรับ จากนั้นพิมพ์จึงเอ่ยถามหาลูกสาวคนสวยของเธอ
" ทานข้าวอยู่ค่ะ "
" ค่ะ "
" คุณท่านทั้งสองทานอะไรมาหรือยังคะ ? ให้ป้าเตรียมเลยไหม? "
" ยังไม่ต้องเตรียมก็ได้จ้ะป้าขอน้ำเย็น ๆ ก็พอ "
" ค่ะ " ป้าอิ่มตอบแค่นั้นพิมพ์และชิตก็เดินเข้าไปหาลูกสาวที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
" อร่อยไหมลูก ? " พิมพ์เอ่ยถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เมื่อหวานได้ยินเสียงผู้เป็นแม่เธอจึงหันขวับทันทีก่อนจะเอ่ยเรียกพร้อมกับวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง
" คุณแม่คิดถึงจังเลยค่ะ "
" แม่ก็คิดถึงลูกค่ะ "
" คิดถึงแต่แม่แกหรือไง ? " ระหว่างนั้นเสียงของชิตผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงแข็งเป็นเชิงว่าเขากำลังน้อยใจลูกสาว หวานผละกอดออกจากผู้เป็นแม่ก่อนจะกล่าวสวัสดีผู้เป็นพ่อด้วยรอยยิ้ม
" สวัสดีค่ะพ่อ "
" ทานข้าวต่อเถอะลูก "
" หวานอิ่มแล้วค่ะ ไหนว่าคุณพ่อ คุณแม่จะมาตอนเย็นคะ ? "
" ไปนั่งก่อนไหมจะยืนคุยกันทำไม ! "
" พูดดี ๆ ก็ได้คุณทำไมต้องทำเสียงแข็งใส่ลูก " พิมพ์แหวใส่สามีอย่างไม่ชอบใจ ชิตได้แต่เหลือบตามองภรรยาอย่างไม่พอใจก่อนจะเบี่ยงสายตาไม่ทางอื่นเมื่อโต้เถียงอะไรไม่ได้
" ปะลูกเราไปนั่งคุยกันในห้องรับแขกดีกว่า "
" ค่ะ " หวานตอบแค่นั้นเขาสามคนก็พากันไปนั่งที่ห้องรับแขกทันทีพร้อมกับพูดคุยกันตามประสา
" ที่ฉันกับแม่แกมาเช้าก็เพราะว่าตอนเย็นฉันจะพาแกไปทานข้าวกับคู่หมั้นแกที่บ้านเพื่อนฉัน "
" หวานไม่อยากไป "
" แต่แกต้องไปนี่คือคำสั่ง ! "
" ค่ะ " หวานกระแทกเสียงตอบผู้เป็นพ่ออย่างนึกโมโหกับคำสั่งเผด็จการ
" หวานลูกงานที่ทำเหนื่อยไหม ? " เมื่อพิมพ์เห็นสีหน้าลูกสาวเศร้าเธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" ไม่ค่ะ หวานสนุกมากเลยนะคะ "
" ชอบไปได้ไงงานเขียนไร้สาระพวกนั้น แกเลิกทำแล้วมาทำงานที่บริษัทซะ ! "
" ก็หวานชอบอีกอย่างงานเขียนของหวานไม่ได้ไร้สาระซะหน่อย ถ้าคุณพ่อจะให้หวานไปทำงานที่บริษัทหวานก็จะไม่แต่งงาน ! " เธอยืนกรานเถียงผู้เป็นพ่อเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้
" ยัยหวาน !!!! "
" พอแล้วค่ะคุณแค่นี้ก็บังคับลูกมากแล้ว อย่าให้พิมพ์หมดความอดทนกับคุณนะ !! " พิมพ์ปรามและขู่สามีในประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้ชิตถึงกับเงียบไปทันทีก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่นอย่างหงุดหงิด
" หวานขอตัวขึ้นไปทำงานก่อนนะคะ คุณแม่ "
" จ้ะ ลูก " พิมพ์ตอบลูกสาวแค่นั้นหวานเธอจึงเดินขึ้นไปทำงานบนห้องทำงานของเธอทันที อย่างนึกโกรธผู้เป็นพ่อที่เอาแต่บังคับเธอ