วันต่อมา ---
สำนักพิมพ์ you and me
" หวานมาเช้าจัง " เมื่อหวานได้ยินเสียงทักทายจากมิ้มเธอจึงหันมาตอบรับด้วยรอยยิ้มทันที
" อือ ต้องรีบเคลียร์งานตอนบ่ายต้องไปเก็บข้อมูลที่โรงพยาบาลกับพี่แพรว "
" อ๋อ สู้ ๆ นะหวานตอนเที่ยงไปกินข้าวที่ร้านประจำเนอะ ? "
" จ้า แล้วมิ้มกินข้าวมายังวันนี้ ? "
" กินมาแล้ว "
" หวัดดีจ้ะ สองสาว " ระหว่างนั้นแพรวก็เอ่ยทักทายทั้งสองอย่างอารมณ์ดีเมื่อเข้ามาถึงในห้องทำงาน
" หวัดดีค่ะพี่แพรว " หวานและมิ้มตอบรับพร้อมกันด้วยรอยยิ้ม
" วันนี้กราฟลานะพาแม่ไปโรงพยาบาล " แพรวแจ้งข่าวให้กับเธอทั้งสองทราบมิ้มและหวานพยักหน้าเป็นเข้าใจ
" หวานมิ้มชมพูมาหรือยัง ? "
" ยังไม่เจอนะคะพี่แพรว " มิ้มตอบ
" ช่วงนี้ชมพูมาสายนะ "
" สวัสดีค่ะพี่แพรว " ระหว่างที่แพรวหัวหน้างานถามหาชมพูเธอก็เดินเข้ามาพอดีก่อนจะเอ่ยสวัสดีแพรว เธอเหลือบมองหวานด้วยสายตาเกียจชังแวบนึ่งแล้วจึงเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง
" ชมพูช่วงนี้มาสายนะ "
" ชมพูเคลียร์นิยายที่ค้างดึกไปหน่อยค่ะ "
" จ้ะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ชมพูมาเช้าหน่อยนะเอามาทำที่ทำงานก็ได้ "
" ค่ะ !! " ชมพูตอบรับอย่างไม่พอใจนักก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ทันทีด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะไม่พอใจที่โดนตักเตือนต่อหน้าคนอื่น
" หวานบ่ายนี้เราพร้อมนะ ? "
" พร้อมค่ะพี่แพรว "
" เรื่องประกวดนิยาย พี่จะเอาเรื่องของหวานเข้าประกวดนะ " เมื่อชมพูได้ยินที่แพรวบอกเธอถึงกลับหันมองหน้าหวานอย่างไม่พอใจทันทีพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยความอิจฉา
" ค่ะ "
" แล้วเรื่องของชมพูล่ะคะพี่แพรว ? " ชมพูลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างอารมณ์เสียก่อนจะแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็ง
" ชมพูที่พี่เลือกของหวานเพราะยอดซื้อของหวานมากกว่าทุกคนและเป็นที่นิยมในหมู่วัยทำงาน ไม่ใช่ว่าของทุกคนไม่ดีนะแต่พี่ต้องเลือกเรื่องที่อ่านแล้วคิดว่าน่าจะเข้าไปประกวดในรอบนี้ได้ "
" อย่างนี้ผลงานของคนอื่นก็ไม่ได้เข้าประกวดสักทีสิคะ? ! "
" พอแล้วชมพูพี่แพรวทำถูกแล้วเราต้องยอมรับในการตัดสินใจของพี่แพรวสิ " มิ้มปรามเพื่อนร่วมงานด้วยความหวังดี เมื่อเธอเริ่มขึ้นเสียง
" เธอก็พูดได้หนิมิ้มผลงานเธอได้เข้าประกวดแล้วหนิ ! "
" พี่แพรวเอาเรื่องของชมพูก็ได้นะคะ เปลี่ยนกัน " หวานกล่าวขึ้นอย่างเต็มใจที่เธอยอมเพราะไม่อยากมีปัญหาให้ผิดใจกันมันจะทำงานไม่สนุกทุกวันนี้ชมพูก็เกียจขี้หน้าเธอจะแย่อยู่แล้ว
" ไม่จ้ะ หวานพี่เลือกแล้ว " แพรวยังยืนยันคำเดิม
" แต่หวานว่า....."
" แกไม่ต้องมาทำเป็นเสียสระให้ฉันยัยหวาน !! " ไม่ทันที่หวานจะได้พูดจบชมพูแย้งขึ้นมาซะก่อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
" ชมพูฉันหวังดี "
" ฉันไม่ต้องการความหวังดีจากเธอ !!!!"
" แล้วแต่ละกัน เธอก็ไม่ต้องโวยวายนะ !!!! " หวานปรามชมพูอย่างเหลืออดในเมื่อตัวเธอเองหวังดีกับชมพู เธอไม่รับเองก็ไม่จำเป็นต้องต่อล้อต่อเถียงให้เสียเวลา
" อีหวาน !! "
" หยุดนะชมพู !! " แพรวสั่งเสียงแข็งเธออดไม่ได้กับพฤติกรรมของชมพูแล้วเหมือนกัน เมื่อชมพูได้ยินอย่างนั้นเธอจึงตวัดสายตาเกียจชังมาที่หวานทันทีอย่างไม่ชอบใจก่อนจะนั่งลงด้วยความคับแค้นใจหวานเองก็ทำได้แค่ส่ายหัวไปมาอย่างเบื่อหน่าย จากนั้นสถานการณ์ก็สงบลง
หลายชั่วโมงต่อมา ---
" ปะหวานไปกันเถอะพี่นัดเพื่อนที่เป็นหมอไว้แล้ว "
" ค่ะพี่แพรว "
" ไปรถพี่นะ ? "
" ค่ะ " หวานตอบตกลงแค่นั้นเธอก็เตรียมของต่าง ๆ แล้วลงมาขึ้นรถไปที่โรงพยาบาลกับแพรวหัวหน้างานทันที เธอได้แต่อธิษฐานว่าขออย่าได้เจอกับธันเลย
" เป็นอะไรหรือเปล่าหวานหน้าเครียดเชียว ? " ขณะที่แพรวขับรถเธอสังเกตเห็นสีหน้าหวานดูกังวลจึงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
" เปล่าค่ะ พี่แพรว " เธอแกล้งตอบปัด ๆ ไปแต่ภายในใจก็เอาแต่กังวลกลัวว่าจะเจอกับคนที่เธอไม่อยากเจอ
" โอเค จ้ะ "
โรงพยาบาล เค
ไม่นานรถยนต์หรูของแพรวก็ขับเคลื่อนเข้ามาจอดในโรงจอดรถของโรงพยาบาลก่อนจะพากันเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปทันที
" มาตรวจอะไรคะ ? " พยาบาลสาวหน้าเคาน์เตอร์เอ่ยถามอย่างเป็นมิตร
" ที่นัดมาเก็บข้อมูลจากสำนักพิมพ์ you and me จ้ะ " แพรวเป็นคนตอบ
" เชิญที่ห้องคุณหมอธันเลยค่ะ ชั้น xxxx อยู่ซ้ายมือนะคะ " เมื่อพยาบาลสาวบอกชื่อหมอที่จะเป็นคนให้ข้อมูลมันทำให้เธอชะงักไปทันทีแต่ก็ยังไม่ยอมรับว่าใช่คนเดียวกันอาจจะเป็นคนชื่อคล้ายกันก็ได้
" ขอบคุณค่ะ ปะหวาน "
" ค่ะ " หวานตอบแค่นั้นเธอก็เดินตามแพรวไปทันที แต่ก็รู้สึกประหม่าไม่น้อยถ้าคนที่คิดคือธันจริง ๆ จากนั้นทั้งสองก็เดินมาหยุดที่หน้าห้อง หมอธันนฤต
" มาพบหมอธันใช่ไหมคะ ? " พยาบาลสาวหน้าห้องธันเอ่ยถาม
" ใช่ค่ะ "
" หมอธันบอกให้นั่งรอข้างในได้เลยค่ะ หมอผ่าตัดใกล้เสร็จแล้วค่ะ "
" ค่ะขอบคุณค่ะ " แพรวตอบแค่นั้นทั้งสองก็เปิดประตูเข้าไปนั่งรอที่ห้องของธัน ไม่นานนักหมอหนุ่มก็เปิดประตูเข้า
แกร๊ก ----
หวานและแพรวลุกขึ้นเอ่ยทักทาย " หวัดดีธัน " แต่เมื่อได้พบกันอีกครั้งดังพรมลิขิตทำให้เธอและเขาชะงักไปทันทีเมื่อได้พบหน้ากัน ธันมองหวานนิ่ง ๆ ก่อนจะเบี่ยงหน้ามาหาเพื่อนสนิท
" อือ "
" นี่หวานน้องที่จะมาเก็บข้อมูล หวานนี่หมอธัน " แพรวแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกันโดยไม่รู้เลยว่าสองคนเป็นคู่หมั้นกันหวานเพียงพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเบ้ปากใส่ธันอย่างไม่ชอบเกลียดขี้หน้า
" นั่งก่อน " ธันบอกทั้งสองด้วยน้ำเสียงเรียบก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
" หวานจะมาอยู่กับนายสองเดือนเพื่อเก็บข้อมูลฝากด้วยละกัน "
" อือ ไม่รับรองนะว่าจะดูแลดีหรือเปล่า " ธันบอกเสียงเรียบก่อนจะตวัดสายตาเย็นชามองหวานพร้อมกับแสยะยิ้มร้ายออกมาทำให้เธอชักสีหน้าใส่ทันทีอย่างไม่ชอบใจ
" งั้นก็เริ่มวันนี้วันแรกเลยละกัน หวานอยู่นี่กับหมอธันก่อนนะพี่ขอตัวไปทำธุระแป๊บหนึ่ง "
" จะกลับกี่โมงเหรอคะพี่แพรว ? "
" คงเย็นจ้ะ ถามข้อมูลจากหมอธันได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ " เมื่อแพรวบอกอย่างนั้นเธอจึงเหลือบสายตามองธันแวบนึ่งอยากไม่สบอารมณ์
" ค่ะ "
" ฝากด้วยนะหมอไปล่ะ " แพรวกล่าวลากับเพื่อนสนิท เขาเพียงแค่พยักหน้าเข้าใจเท่านั้น จากนั้นแพรวก็เดินออกไปทิ้งให้หวานอยู่กับธันสองคนและทั้งสองก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาทำให้บรรยากาศในห้องมันเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่หวานจะเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อน
" เข้าเรื่องเลยละกัน เริ่มจากอุปกรณ์การแพทมีอะไรบ้างคะ ? "
" คุณหมอค่ะอุปกรณ์การแพทมีอะไรบ้างคะ ? " หวานขมวดคิ้วถามย้ำอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้าเอาแต่เล่นโทรศัพท์เขาทำราวกับไม่ได้ยินคำถามของเธอ ธันเลยเงยหน้าขึ้นก่อนจะเลิกคิ้วถามแทนคำพูด
" ฉันถามว่า อุป-กรณ์-การ-แพท-มีอะไรบ้างคะ ? " หวานทวนคำถามอีกครั้งอย่างทีละคำตอนนี้เธอพยายามเก็บอารมณ์โมโหไว้ในใจไม่ให้มันระเบิดออกมา
" อุปกรณ์อันแรกคือบนเตียงลองไปนอนดูไหม ? " ธันเลิกคิ้วถามเสียงสบายอารมณ์ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากเพียงนิดอย่างสะใจเมื่อได้เห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนตรงหน้า
" น่าเกียจ ฉันอุส่าห์ถามดีแล้วนะ ! "
" แล้วไง ? "
" นี่ เริ่มโมโหแล้วนะลีลาอยู่ได้ แล้วก็เลิกทำซะทีได้ไหมหน้านิ่งเนี่ยไอ้หมอหน้านิ่ง!!!! !! " หวานแหวใส่คนตรงหน้าอย่างโมโหเมื่อเขาเอาแต่กวนประสาทเธอไม่ยอมให้ข้อมูลสักทีแถมยังมาทำหน้านิ่งกวนอารมณ์ให้โมโหอีก
" ถ้าไม่พอใจก็ออกไป ! " คำสั่งของธันแข็งขึ้นอย่างมีโทษะพร้อมกับจ้องหวานตาเขม็งบ่งบอกว่าเขานั้นไม่พอใจกับประโยคของเธอ
พรึบบ !!
หวานลุกขึ้นทันทีอย่างไม่พอใจแววตาเธอเริ่มแดงก่ำราวกับจะร้องไห้ออกมาก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปตามที่เขาสั่ง ธันได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ อย่างหงุดหงิด " เฮ้อออ ! "
ปึกกก !
" โอ้ยย ! " ระหว่างที่หวานเปิดประตูออกมาจากห้องธันโดยที่ไม่ทันระวัง จึงชนเข้ากับรถเข็นของพยาบาลสาวที่กำลังเข็นอุปกรณ์การแพทผ่านมาพอดี จนตัวเธอล้มลงกับพื้นทำให้ความเจ็บแทรกเข้ามาตรงข้อเท้าอย่างหนัก
" เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณ ? "
" เจ็บตรงข้อเท้าค่ะ "
" น่าจะเท้าแพง ฉันช่วยค่ะ " พยาบาลสาวสองคนช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้น
แกร๊ก ---
" เกิดอะไรขึ้น ? " ธันเปิดประตูออกมาเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อได้ยินเสียงดังจากด้านนอกเขามองไปที่หวานก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง
" คือ คุณคนนี้ชนกับรถเข็นอุปกรณ์แพทของมีนค่ะเธอน่าจะข้อเท้าแพง " ระหว่างที่พยาบาลสาวบอกกับธัน หวานก็ได้แต่ก้มหน้างุดอย่างเจ็บใจตัวเองที่อุตส่าห์หนีออกมาแล้วยังไม่วายที่จะเกิดเรื่องขึ้นอีก
" คุณไปทำงานต่อเถอะครับเดี๋ยวผมจัดการเอง "
" ค่ะ "
" ว้ายยย !! " ทันใดนั้นธันก็เดินเข้ามาอุ้มหวานจากพยาบาลสาวสองคนที่คอยประคองเธออยู่ในท่าเจ้าสาวทำให้เธอร้องขึ้นอย่างตกใจกับการกระทำของชายหนุ่ม และ มันสร้างความประหลาดใจให้พยาบาลสาวสองคนไม่น้อย เธอมองหน้ากันเลิกลักอย่างทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียวไม่เคยเห็นหมอหนุ่มจอมหน้านิ่งอุ้มผู้หญิงคนไหนเลยสักครั้งนี่คงเป็นครั้งแรก
" ปล่อยนะ ไอ้บ้า !!! " หวานโวยวายยกใหญ่พร้อมกับทุบตีเข้าที่ไหล่ของชายหนุ่ม การกระทำของเธอไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้เขาเลยสักนิด
" หยุด !!!!!! " ธันตะคอกสั่งอย่างโมโหพร้อมกับจ้องสายตาเขม็งจนเธอต้องหยุดการกระทำแล้วก้มหน้าลงทันทีอย่างเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ และตอนนี้สายตาเขาก็ชั่งน่ากลัวเหลือเกิน
" ช่วยเปิดประตูให้ผมด้วยครับ "
" ค่ะคุณหมอ " พยาบาลสาวชื่อมีนเปิดประตูให้ธันจากนั้นเขาก็อุ้มหวานเข้าไปในห้องตรวจก่อนจะค่อย ๆ วางร่างเล็กไว้บนเตียงผู้ป่วยอย่างเบามือ เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งไม่พูดอะไรจึงจับที่เท้าของเธอพร้อมกับถอดรองเท้าผ้าใบสีขาวออก
" จะถอดถุงเท้าทำไม ไม่ต้อง ! "
" อย่าเรื่องมาก !!! ไม่ถอดแล้วจะตรวจดูยังไง " ธันบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแข็งกระด้าง โดยตวัดสายตาดุมองเธอเพียงนิดก่อนจะพลิกตรงข้อเท้าเธอไปมาเพื่อดูอาการ
" โอ๊ยย !!!! จะ...เจ็บเบาหน่อยสิ !!! "
" เส้นเอ็นพลิก " ธันบอกแค่นั้นก่อนจะบิดข้อเท้าเธออย่างแรง " โอ้ยยย !!!! ไอ้บ้าไอ้หน้านิ่งเจ็บบบบบ !! " จนหวานร้องออกมาดังลั่นเขาไม่ส่งสัญญาณอะไรให้เธอเลยสักนิด จากนั้นธันก็หันหลังหยิบยานวดโดยไม่สนใจเสียงร้องของเธอเลยสักนิด
" อึกกก !! เจ็บอ่ะ " ระหว่างนั้นน้ำตาของเธอก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอาบแก้มนวลทั้งสองข้างด้วยความเจ็บที่พึ่งได้รับเมื่อสักครู่ ธันที่ได้ยินจึงหันมองคนตรงหน้าที่มีหยดน้ำตาไหลออกมาทำให้เขาขมวดคิ้วยุ่งอีกครั้งอย่างหนักใจและไม่เข้าใจว่าเธอจะร้องไห้ทำไม
" ร้องไห้ทำไม ? ไม่มีใครตายสักหน่อย !!! "
" ก็มันทั้งเจ็บและตกใจ ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะทำแรงขนาดนี้จะได้เตรียมใจมันเจ็บมากเลย อึกก ฮือออ ๆๆ " เธอดุเขาด้วยน้ำเสียงดุดันน้ำตาคลอหน่วยพร้อมกับจ้องคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง น้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่ยอมหยุดไหลสักที
พรึบบบ !!!
ธันดึงหวานเข้ามากอดทันทีอย่างปลอบโยน เขามักจะใจอ่อนเมื่อเห็นน้ำตาผู้หญิงการกระทำของธันทำให้หวานชะงักและอึ้งไปอย่างตกใจพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นระรัวราวกับมันจะหลุดออกมาข้างนอกอ้อมกอดของเขาช่างอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
" หยุดร้องได้ยังรำคาญ ? "
" ใครบอกให้กอดล่ะ " หวานพูดขึ้นพร้อมกับผลักธันออกเพราะกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่มันเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะเช็ดน้ำตาออกจากพวกแก้มจนหมดเมื่ออาการปวดเริ่มหาย
" แค่นี้ก็ร้องไห้ อ่อนแอจนน่ารำคาญ " ธันบ่นเสียงเรียบพลางทายาให้เธอพร้อมกับพันข้อเท้าไว้ให้
" เพราะนายนั้นแหละ !! "
" พรุ่งนี้ต้องมาถึงก่อนแปดโมง "
" มันเช้าไป ทำไมต้องเช้าขนาดนั้น ? "
" ทำไม ? " เมื่อเขาไม่ยอมตอบเอาแต่เก็บอุปกรณ์แพทย์เธอจึงถามอีกครั้ง
" ถ้าไม่มาก็ไม่ต้องมาอีกเลย ฉันจะได้ไม่ต้องลำบาก ! " น้ำเสียงของธันเย็นชาพอที่จะทำให้คนฟังแข็งไปทั้งตัว จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองทันทีก่อนจะกดรับสายเมื่อมีคนโทรมา เขาเหลือบมองหวานราวกับเป็นเรื่องเกี่ยวกับเธอ หวานที่เห็นจึงเลิกคิ้วถาม
" มองทำไม ? " เมื่อธันวางสายเธอจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย
" วันนี้เธอกลับกับฉัน "
" ทำไม ? "
" พ่อแพรวเข้าโรงพยาบาลไปส่งเธอไม่ได้ "
" ทำไมพี่แพรวไม่โทรมาบอกฉัน ? "
" ถามมากถ้าโทรมาแล้วมันติดมันจะโทรมาหาฉันหรือไง !!!!! " ธันแหวใส่เธออย่างไม่สบอารมณ์นักพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่ง
" ฉันกลับแท็กซี่เองก็ได้ "
" อวดดี !!! "
" ไอ้หน้านิ่ง !!!! "
" ขืนเธอเรียกฉันแบบนั้นอีกทีอย่าหาว่าฉันไม่เตือน !!! "
" ทำไม ไอ้หน้านิ่ง ๆๆๆๆๆ " หวานล้อเลียนธันพร้อมกับเล่นหน้าเล่นตาอย่างไม่เกรงกลัวกับสายตาอำมหิตที่เขามองมา
" อ๊ะ !!!! อืออออ อ่อยๆๆๆ ( ปล่อย ๆๆๆ ) "
ขณะเดียวกันธันที่เก็บอารมณ์โกรธไม่ไหวเขาพุ่งเข้ามาผลักหวานให้นอนราบไปกับเตียงพร้อมกับประกบจูบทันที หวานพยายามทุบตีคนข้างบนแต่เขาไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น เขาทั้งบดขยี้และขบเม้มตามริมฝีปากล่างบนของเธออย่างแรง จนเธอรู้สึกเจ็บเป็นต้องเผลอปากให้เขาได้สอดเรียวลิ้นสากเข้ามาตวัดหาน้ำหวานรสจูบของธันทำให้หวานนิ่งไปปล่อยให้เขาได้ทำตามใจที่ต้องการเธอหลับตาลงยอมให้เขาจูบ ธันตวัดเรียวลิ้นไปมาในโพรงปากเธออย่างรุนแรงพร้อมกับดูดดุนเรียวลิ้นเล็กของเธออย่างหื่นกระหาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ธันได้สติกลับมาเขาจึงคืนอิสระให้เธอเมื่อได้รับอิสระเธอจึงรีบลุกขึ้นจัดระเบียบตัวเองพร้อมกับใช้หลังมือเช็ดบริเวณริมฝีปากที่มีคราบน้ำลายของเธอและเขาติดอยู่ก่อนจะรีบปาดน้ำตาออกลวก ๆ อย่างเจ็บใจ ธันหันมองหวานสายตาดุแวบนึ่งอย่างโมโหที่เธอทำให้เขาขาดสติแบบนี้
แกร๊ก ---
" ธัน " เมื่อธันเห็นว่าเป็นหมอมายเขาจึงรีบเดินเข้าไปหาเธอทันที
" เออ เธอคือนักเขียนที่มาเก็บข้อมูลในโรงพยาบาลแล้วเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยผมเลยพาเข้ามาดูอาการ " ธันรีบอธิบายให้มายฟังเมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ยืนนิ่ง ๆ มองหวานอย่างสงสัยโดยไม่ได้พูดอะไรก่อนจะตอบรับในนาทีต่อมา
" อ๋อค่ะ "
" คุณคะเดี๋ยวหมอช่วยค่ะ " มายเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหวานเธอกำลังพยายามลงจากเตียงอย่างยากลำบากในขณะที่ข้อเท้าเธอยังเจ็บอยู่ไม่น้อย พร้อมกับรีบเข้าไปประคองเธอทันทีแต่ธันก็ได้แต่มองด้วยสายตานิ่ง ๆ มีแวบหนึ่งที่สายตาเขาวูบไหวไปกับเธออย่างสงสาร
" ขอบคุณค่ะหมอ " หวานขอบคุณหมอสาวด้วยรอยยิ้ม เธอจึงพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
" หวานจะกลับแล้วค่ะ " ขณะที่มายกำลังจะพาเธอนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของธันแต่เธอก็แย้งขึ้นมาซะก่อน ทำให้ธันที่ได้ยินขมวดคิ้วยุ่งอย่างเบื่อหน่ายกับท่าทางจองหองของเธอ
" แต่เธอต้องกลับกับฉัน ! "
" ฉันมีปัญญากลับเองได้ !!! "
" อย่ามาอวดดีกับฉัน !!! มายพาเธอไปนั่งที่โซฟาก็ได้ " ธันตะคอกใส่หวานอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะบอกกับมายในประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงอ่อน หวานจึงจ้องหน้าธันตาเขม็งอย่างไม่พอใจ มายได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจเท่านั้นแล้วจึงพาหวานเดินไปนั่งที่โซฟา ถึงจะสงสัยไม่น้อยว่าทำไมธันต้องไปส่งเธอ
" ถ้าเธอคิดจะเดินออกไปอย่าหาว่าฉันไม่เตือน !!!! " ธันโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดเมื่อหวานเองทำท่าจะลุกขึ้นเธอได้ยินอย่างนั้นจึงจำใจต้องนั่งลงอย่างเจ็บใจที่ขัดเขาไม่ได้
" ธันพูดกับคุณเขาดี ๆ ก็ได้ "
" คนอย่างเธอพูดดีด้วยไม่ฟังหรอกมาย " หวานได้ยินที่ธันพูดเธอจึงตวัดสายตาดุดันมองเขาทันทีพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
" แล้วมายมีอะไรหรือเปล่า ? "
" มายจะชวนธันไปทานข้าวเย็นด้วยกัน "
" อือ ไปสิ "
" คุณหวานไปด้วยกันไหมคะ ? ยังไงธันก็ต้องได้ไปส่งคุณอยู่แล้วเดี๋ยวจะหิวเอาค่ะ "
" ไม่ดีกว่าค่ะหวานไม่หิวขอบคุณนะคะ " หวานปฏิเสธไปแค่นั้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาเพื่อเล่นค่าเวลาแต่แบตโทรศัพท์ดันหมด เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายในขณะที่ธันและมายกำลังนั่งคุยกันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เธอพึ่งเคยเห็นยิ้มธรรมชาติของธันก็วันนี้ปกติที่เธอเจอเขา เขาก็เอาแต่ทำหน้านิ่งใส่เธอ เธอละสายตาจากทั้งสองคนแค่นั้นก่อนจะพยายามลุกขึ้นไปหาที่ชาร์จแบตโทรศัพท์
" ทำอะไร ? ! "
" เรื่องของฉัน !! " หวานกระแทกเสียงตอบแค่นั้น ธันใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขากำลังพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ระเบิดใส่เธอ
" จะชาร์จแบตโทรศัพท์ใช่ไหมคะ ? เดี๋ยวมายทำให้ค่ะ "
" ไม่เป็นไรค่ะ หวานพอเดินได้ "
" มายไม่ต้องไปสนใจหรอกเด็กดื้อก็อย่างเนี่ยแหละ "
" ดื้อแล้วทำไมไอ้หน้านิ่ง !!! " หวานเชิดหน้าเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ และตอนนี้ทั้งคู่ก็จ้องกันตาเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใครมายที่อยู่ในเหตุการณ์เธอจึงรีบปรามทั้งสองทันที
" เออ มายว่าคุณหวานนั่งก่อนดีกว่าค่ะอย่าพึ่งเดินบ่อยข้อเท้าจะอักเสบเอาค่ะ "
หวานนั่งลงที่เดิมทันทีหลังจบประโยคของมายด้วยใบหน้ามุ้ย
" มายไปก่อนนะธัน "
" ครับ " ธันตอบแค่นั้นมายก็เดินออกไปทันทีและตอนนี้ก็เหลือสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังทั้งห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบธันเองก็นั่งทำงาน หวานที่นั่งอยู่อย่างเซ็ง ๆ เธอเหลือบมองธันแวบนึ่งเมื่อเห็นเขานั่งทำงานอยู่จึงหยิบรีโมททีวีขึ้นมาเปิดอย่างถือวิสาสะ
" เปิดทำไม รบกวน ! ? " ธันขมวดคิ้วถามหวานด้วยน้ำเสียงเรียบโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
" ก็ฉันเบื่อ ! ขอดูไม่ได้หรือไง ? "
" เธอมันน่ารำคาญจริง ๆ !! "
" ฉันก็รำคาญนายเหมือนกันไอ้หน้านิ่ง ! "
" อย่ามาลามปาม ฉันอายุเยอะกว่าเธอนะ !!! " ธันวางปากกาลงอย่างหงุดหงิดก่อนจะตำหนิเธออย่างเหลืออด
" แล้วไง ก็นายมันไม่น่านับถือหนิไอ้หน้านิ่ง ! " หวานยักไหล่ตอบอย่างไม่เกรงกลัวกับสายตาอำมหิตของธันเลยสักนิด ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับบทเรียนจากการท้าทายอำนาจมืดจากเขามาแล้วก็ตาม
" อยากโดนเหมือนเมื่อกี้หรือไง ? จะว่าไปปากเธอก็หวานดีนะลองอีกรอบไหม ? " ธันกล่าวบอกเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นก่อนจะแสยะยิ้มร้ายอีกครั้งพร้อมกับทำท่าลุกขึ้นก่อนจะจ้องไปที่ริมฝีปากบางของเธอด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย
" ยะ...อย่าเข้ามานะไม่งั้นฉันจะร้องไห้คนช่วย "
" งั้นก็เงียบปาก !! "
" เงียบก็ได้แต่ฉันจะดูทีวี " หวานตอบแค่นั้นเธอก็ดูรายการทีวีต่ออย่างไม่สนใจคำห้ามของธัน ธันเองได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะแล้วเขาจึงนั่งลงทำงานต่อ
ผ่านไปเกือบสามชั่วโมงแล้วที่หวานนั่งดูรายการบันเทิง และในข่าวมันทำให้เธอถึงกับชะงักไปทันที พร้อมกับรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลายเมื่อรู้ว่านักร้องเกาหลีที่ตัวเองคลั่งไคล้กำลังเปิดตัวคบกับแฟนสาวในวงการ เธอจ้องหน้าทีวีอย่างไม่วางตา พร้อมกับนึกถึงความหลังบางอย่างของเธอและเขา
( เด็กดื้อ ไม่ร้องสิเดี๋ยวไม่สวยหรอก )
( พี่มาร์คอย่าคบกับใครได้ไหมหวานกลัวทำใจไม่ได้ ) เธออ้อนวอนเขาอย่างมีความหวังพร้อมกับหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมาเป็นสาย
( พี่จะไปคบกับใครได้ล่ะ เราลงทุนมาหาพี่ถึงเกาหลีเลยนะคะ )
( ค่ะหวานเชื่อพี่แต่พี่ต้องสัญญาก่อนแล้วก็อย่าลืมวันเกิดหวานด้วย )
( ครับพี่สัญญาแต่ตอนนี้พี่ไปถ่ายรายการก่อนนะครับ ) หวานพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นมาร์คจึงเช็ดน้ำตาออกให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินกลับไปถ่ายรายการต่อ
แกร๊ก ----
ระหว่างนั้นมายก็เปิดประตูเข้ามา ด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปยิ้มให้หวานแต่เมื่อหวานเอาแต่นิ่งไม่ตอบรับอะไรมายเธอจึงเดินเข้าไปหาธันที่กำลังนั่งทำงานอยู่
" วางปากกาก่อนก็ได้ธันไปทานข้าวกัน "
" ครับ " ธันตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะวางปากกาลง เขาเหลือบมองหวานที่นั่งดูทีวีอยู่เพียงนิดมายที่เห็นว่าธันกำลังมองหวานเธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" น้องเขาดูนิ่งไปนะ ธันไปแกล้งน้องเขาหรือเปล่า ? "
" เปล่า ชั่งเธอเราไปทานข้าวเถอะ " ธันตอบเสียงเรียบเขาทำอย่างกับไม่สนใจเธอแต่ก็ยังจ้องเธออยู่อย่างสงสัยว่าทำไมเธอถึงนิ่งไปราวกับสติไม่ได้อยู่กับตัว
" คนนิสัยไม่ดี " หวานโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนทำให้ธันและมายแปลกใจกับคำพูดเธอ
" อะไรอีก ? " ธันเอ่ยถามเสียงแข็งอย่างไม่เข้าใจ จากนั้นทั้งสองก็เดินมาหยุดตรงหน้าหวาน
" คุณหวานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ? เหมือนจะร้องไห้เลย "
" ไม่ค่ะ หวานไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะสบายดีมีความสุขด้วยค่ะ " หวานหันมาปฏิเสธน้ำเสียงสูงด้วยรอยยิ้มที่ฝืน ทั้ง ๆ ที่แววตาเธอตอนนี้แดงก่ำพร้อมที่จะร้องไห้ออกมาแล้ว จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงทันทีเธอบอกว่าไม่เป็นอะไรแต่ภายในใจเธอแทบทนไม่ไหวกับเรื่องที่ได้รู้ในวันนี้
" ค่ะ งั้นหมอกับธันขอตัวก่อนนะคะฝากซื้ออะไรหรือเปล่าคะ ? "
" ไม่ค่ะ "
หวานก้มหน้าตอบแค่นั้น จากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกไป เมื่อบานประตูปิดลงน้ำตาเธอก็หลั่งไหลออกมาทันทีทั้งที่พยายามกลั้นมันไว้แล้วพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย มาร์คคือคนรักของเธอทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่อยู่มัธยมต้น และสนิทกันมาก เขา และ เธอต่างมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันมาตลอดแต่ก็ไม่มีใครยอมบอกกันเพราะต่างฝ่ายต่างก็คิดว่าเป็นคนแอบรักอยู่ฝ่ายเดียว จนมหาลัยปีหนึ่งมาร์คนั้นได้ไปอดิชั่นที่ค่ายดังในเกาหลี และ มาร์คก็ได้เป็นนักร้องเกาหลีอย่างเต็มตัว จึงทำให้ทั้งคู่ห่างกันแต่ก็มีติดต่อกันบ้าง พอเธอเข้ามหาลัยตอนปิดเทอมปีสามหวานเธอก็บินไปหามาร์คที่เกาหลี
" คนโกหกไหนบอกจะไม่คบกับใคร อึกกก ฮืออ หวานจะทิ้งให้หมดเลย " หวานตัดพ้อออกมาอย่างเสียใจก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายตัวเองเดินออกไปจากห้องของธันทั้งที่ตัวเองยังเจ็บข้อเท้าอยู่แต่ก็พยายามเดินขา กระเพกไปอย่างนั้น
" ธันเป็นอะไรหรือเปล่า ? " มายเอ่ยถามธัน เมื่อสังเหตุเห็นสีหน้าเขาดูกังวลเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
" อ๋อเปล่า มายเดี๋ยวผมมา " ธันปฏิเสธก่อนจะกล่าวกับเธอแค่นั้นในประโยคสุดท้ายเขาก็ลุกไปทันทีด้วยท่าทางรีบร้อน
" ธัน ไปไหน ธัน ? " มายตะโกนถามตามหลัง แต่เขาก็ไม่แม้จะหันกลับมามันทำให้หัวใจเธอกระตุกวูบไปทันที เมื่อธันไม่เคยทิ้งเธอไว้อย่างนี้ไม่ว่าจะรีบ หรือ ไม่รีบเธอเลยวางช้อนลงอย่างหงุดหงิด ธันเดินกลับมาที่ห้องตรวจของตัวเองจากนั้นจึงเปิดประตูเข้าไปแต่ก็พบกับความว่างเปล่าไร้วี่แววของคนที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้
" ไปไหน ? " ธันขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะเหลือบตาไปเห็นโทรศัพท์หวานที่ชาร์ทแบตทิ้งไว้เขาเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาก่อนจะทำการเปิดเครื่องพอเปิดเครื่องเสียงข้อความก็แจ้งเตือนเข้ามาถี่ ๆ
- แทน
( หวานมึงอยู่ไหนว่ะ ? ถ้าเห็นข่าวแล้วไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนมึงห้ามไปไหนรอกู ตอบกูด้วย ) เมื่อเห็นข้อความยิ่งทำให้ธันขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งอย่างไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไร
- มิลิน
( หวานถ้ารู้สึกไม่ดีมานอนกับลินได้นะ ลินรู้ว่าหวานรู้สึกยังไงลินเป็นห่วง ตอบลินหน่อย หวาน )
" เรื่องอะไรกัน ? " ธันบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะรีบเปิดประตูเดินออกไปตามหาเธอด้วยความรีบร้อน
" คุณหมอไปไหนคะ ? "
" คุณเห็นหวานหรือเปล่า ? "
" ใครคะ ? "
" ก็ผู้หญิงที่เป็นนักเขียน! " ธันกล่าวเสียงดุอย่างไม่สบอารมณ์ใส่พยาบาลสาวทำให้เธอหน้าเจื่อนไปทันที
" เธอเดินออกไปแล้วค่ะ ร้องไห้ด้วยนะคะมีนถามก็ไม่ตอบข้อเท้าของเธอดูยังเจ็บอยู่เลยค่ะ "
" น่ารำคาญชะหมัดยัยเด็กดื้อ !!! " ธันบ่นพึมพำเบา ๆ อย่างเบื่อหน่าย
" ขอบคุณครับ " ธันกล่าวขอบคุณก่อนจะรีบกลับไปที่รถสปอร์ตหรูของตัวเองทันที
" อยู่ไหน ? " ธันขับรถออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อตามหาเธอทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ออกเวร เขาขับรถไปก็มองหาตามข้างทางไปเรื่อย ๆ
" หรือจะขึ้นแท็กซี่กลับไปแล้ว " ธันครุ่นคิดอยู่สักพักเขาก็เจอกับเธอที่นั่งเหม่อลอยอยู่ป้ายรถเมล์ทั้ง ๆ ที่รถเมล์หรือแท็กซี่ผ่านไปหลายคันแล้วแต่เธอก็ไม่มีท่าทีจะโบกขึ้นสักคัน
" อยู่นี่เอง " ธันบ่นแค่นั้นเขาก็ขับรถเลยป้ายรถเมล์ไปนิดหน่อย ก่อนจะเดินลงมาหาเธอ หวานเหลือบมองธันเพียงนิดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเอาแต่นั่งเงียบ
" ฉันไปส่ง "
" เมื่อเช้ายังปากเก่งอยู่เลย ตอนนี้มาทำเป็นเงียบ " ธันพูดเสียงเรียบอีกครั้งเมื่อเธอยังไม่ตอบ
" ยัยดื้อผู้ใหญ่ถามต้องตอบไม่ใช่เงียบ !!! "
" ถามไม่ตอบฉันจะอุ้มเธอไปขึ้นรถแล้วนะ !!!! "
ธันข่มขู่ด้วยน้ำเสียงดุเขาเริ่มโมโหเมื่อเธอเอาแต่นิ่ง เมื่อได้ยินหวานจึงตวัดสายตาไม่พอใจมองก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่รถธันโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น ตอนนี้เธอแค่ไม่อยากจะพูดหรืออะไรกับใคร ธันจึงเดินตามมาเปิดประตูให้ คิ้วทั้งสองข้างของเขาขมวดเข้าหากันอย่างนึกหงุดหงิดกับท่าทางเย็นชาของคนอวดดี
ตลอดระยะเวลาที่ธันขับรถออกมาหวานก็เอานั่งแต่เงียบ และ มองออกไปนอกหน้าต่างรถราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ธันเหลือบมองหวานอีกครั้งเขารู้สึกแปลกไม่น้อยเมื่อเห็นเธอเงียบผิดปกติ จนรถสปอร์ตหรูจอดติดไฟแดง หวานที่เห็นป้ายโฆษณาของมาร์คเธอก็ยิ่งเศร้าใจและยอมรับไม่ได้ที่เขาผิดสัญญากับเธอ