22

1498 คำ
“ฉันไปห้องน้ำเดี๋ยวนะ ง่วงๆ ยังไงก็ไม่รู้ ขอไปล้างหน้าล้างตาสักนิด” เธอขยี้ตาเบาๆ ในขณะที่เขาเพียงพยักหน้าให้ ก่อนจะหันมาสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองและไม่ลืมที่จะสั่งเผื่อเธอด้วย “เฮ้ย! ทำไมไปนานจัง หรือว่าหลับคาห้องน้ำซะแล้ว” เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เมื่อคนที่บอกว่าจะไปห้องน้ำ นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่กลับมา ตู๊ด....ตู๊ด.....ตู๊ด..... เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ทำให้เขาต้องละจากความคิดเรื่องนั้น และหันมารับโทรศัพท์แทน “ว่าไง ถ้าไม่สำคัญแกคงรู้นะว่าจะโดนอะไร” ทันทีที่เห็นว่าเป็นเคนคนของตัวเองโทรมา เขาก็ขู่เสียงเขียวกลับไป “ใจร้าย เค้าแค่จะบอกว่าเขาเจอลูกโป่ง” พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้านายใจร้ายก็ตะโกนเสียงดังแทรกขึ้นมา “ไอ้เคน” “เฮ้ๆๆ ไม่ใช่ลูกโป่งสำหรับเด็กอย่างที่นายคิดนะครับ มันเป็นลูกโป่งสำหรับผู้ใหญ่ ที่สำคัญลูกโป่งลูกนี้ก็เคยจับก้นนายมาแล้วด้วย” เคนรีบอธิบาย ด้วยกลัวว่าระเบิดจะลงที่ตัวเองอีก “กูรู้แล้ว” “เอ้า! แล้วจะโวยวายทำไมล่ะครับ ทำคนเขาตกใจรู้ไหมเนี่ย ยิ่งขวัญอ่อนอยู่ด้วย” เคนแสร้งทำจริต ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงโดนสักป๊าบสองป๊าบ “ไอ้เคน อย่ามัวพล่าม บอกมาว่าแกเจอเขาที่ไหน” ริคาโด้ทำเสียงร้อนใจ “ก็เจอที่หน้าตึก ตรงหน้าผมนี่แหละครับ” ทันทีที่คนสนิทบอกมาแบบนั้น ริคาโด้ถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจที่ไม่ทันระวังเสียรู้เธอจนได้ “เคน แกทำยังไงก็ได้ รั้งเขาไว้ เดี๋ยวฉันรีบไป” เขาสั่งพลางรีบสาวเท้าออกไป พลันก็ต้องชะงักอีก “เอ่อ...น่าจะไม่ทันแล้วมั้งครับ เธอเพิ่งขึ้นแท๊กซี่ไปเมื่อกี้นี้เอง” เคนบอกเสียงอ่อย “ไอ้เคน แกปล่อยเขาไปได้ยังไง ไอ้ ไอ้ ไอ้ไม่ได้เรื่อง ฮึ่ย!” ริคาโด้ฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียด้วยความหงุดหงิด นึกเจ็บใจจนอยากฟาดหน้าตัวเองแรงๆ ที่พลาดท่าหลงกลเธอ “ก็นายไม่บอกตั้งแต่แรกนี่ครับว่าให้จับตัวเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกผมจับมัดมือมัดเท้าเอาไว้ในรถแล้ว” เอิ่ม! นี่ก็เกินไป “แต่ความจริง ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลย ยังไงซะเราก็รู้อยู่แล้วว่าเธออยู่ใต้อาณัติของนาย ไว้ค่อยตามหาก็ยังไม่สายนี่ครับ” เคนเตือน “ฝากไว้ก่อนยัยตัวแสบ เจอกันคราวหน้าเธอตายแน่ ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู” ในขณะที่เขากำลังคาดโทษเธอเอาไว้ในใจ เธอเองก็กำลังยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะที่หลบเขาออกมาได้เช่นกัน “ลาลั้ลลาลั้ล......อารมณ์ดีเพราะมีความสุข ถึงจะง่วงไปนิด แต่ชีวิตดี๊ดี มีความสุขจริงจิ๊ง สวยแล้วยังฉลาดอีกนะเราเนี่ย” ชมพูแพรเดินฮำเพลงเข้ามาในบริษัทอย่างอารมณ์ดี สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ดีๆ เมื่อคืนนี้ “ฮ่าๆ ๆ ป่านนี้นายโรคจิตนั่นคงกระอักเลือดตายไปแล้วมั้งที่ถูกผู้หญิงสวยๆ อย่างเราตลบหลังเข้าให้ เฮอะ! เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับคนอย่างชมพูแพรก็ต้องเจอแบบนี้แหละ สมน้ำหน้า อยากชีกอดีนัก คิดจะแอ้มคนอย่างเรา ไม่มีทางซะล่ะ ฮ่าๆๆ คนแพ้ย่อมเป็นเหยื่อของคนชนะฉันใด นายโรคจิตก็ไม่มีวันชนะฉันได้ฉันนั้น” เอ่อ...นี่มันปรัชญาอะไร “เป็นบ้าอะไรของเธอยะ พูดคนเดียวอยู่ได้ เพี้ยนไปแล้วรึไง” เมเบลเลขาหน้านิ่วว่าให้ เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่บ่นงึมงำอยู่คนเดียว “ที่บ่นเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอก ฉันก็แค่กำลังอิจฉาพี่น่ะค่ะ เห็นพี่สวยฉันก็อยากจะสวยเหมือนพี่บ้าง อยากรู้ว่าพี่ทำยังไง ฉันจะได้ไม่เอา เอ๊ย! เอาเป็นเยี่ยงอย่างบ้าง” เมเบลอมยิ้มถูกใจ แต่พอได้ยินว่าเธออยากจะทำบ้าง ก็เกิดอาการอยากจะสกัดดาวรุ่งขึ้นมา “หนังหน้าอย่างเธอทำอะไรก็คงไม่ดีไปกว่านี้แล้วล่ะย่ะ ไปเกิดใหม่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะดีขึ้นรึเปล่า ฉันว่าเธออยู่เฉยๆ แล้วก็เจียมตัวเอาไว้เยอะๆ แบบนี้น่ะดีแล้ว” เมเบลแสร้งพูดเพื่อให้ชมพูแพรหมดความมั่นใจ จะได้ไม่แข่งกันทำสวยกับตน เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอก็แพ้ไม่เหลือคราบอยู่แล้ว แต่เรื่องอะไรจะบอกให้รู้ล่ะ ‘ชิ! อย่ามาพูดให้ฉันเสียเซลฟ์ซะให้ยาก ฉันรู้หรอกว่าฉันสวย แล้วก็สวยกว่าเธอเยอะด้วย’ นี่ก็มั่นใจเกิ๊น ในขณะที่สองเลขาสาวกำลังเสียดสีกันทางความคิดอยู่ด้านนอก ท่านประธานซึ่งอยู่ในห้องก็กำลังหัวหมุนกับการค้นหาประวัติของพนักงานทั้งหมดในบริษัท “นี่เป็นข้อเสียของการมีพนักงานเยอะเกินไป ผมนั่งหามาชั่วโมงนึงแล้วนะครับ ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบ ผมว่านายลดพนักงานลงบ้างก็ได้นะครับ” เคนที่ทำหน้าที่เปิดแฟ้มหาประวัติพนักงานจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ถึงกับบ่นอุบ “อืม! ความคิดแกก็ไม่เลวนะ เริ่มจากลดจำนวนบอดีการ์ดให้เหลือแค่คนเดียวก่อนเลยแล้วกัน” ริคาโด้พยักหน้าเห็นด้วย ทำเอาเคนและโคดี้ถึงกับสะดุ้ง “เสียใจด้วยนะโคดี้ แกคือผู้ถูกเลือก คุณไม่ใช่เดอะเฟซ เชิญครับ” เคนบอกพร้อมกับผายมือไปที่ประตูห้อง “จริงเหรอครับนาย นายจะไล่ผมออกจริงๆ เหรอครับ” โคดี้ลนลานถามด้วยความตกใจ แต่หน้าคนลนลานก็ยังนิ่งเหมือนเดิม จนเคนอยากจะถามกลับไปเหลือเกินว่า ‘นี่มึงตกใจแล้วเหรอ’ “จริง” ทันทีที่เจ้านายย้ำชัด โคดี้ถึงกับคอตก ในขณะที่เคนยังคงยิ้มหน้าบาน แล้วก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันกับประโยคต่อมา “จริงที่ฉันเลือกให้แกอยู่ต่อ เพราะฉะนั้นจัดการทำหน้าที่ของแกด้วยการเขี่ยไอ้คนกะล่อนนั่นออกไปซะ” ถึงหน้าจะนิ่ง แต่โคดี้ก็บ้าจี้ทำตามคำสั่งเจ้านายด้วยการเดินตรงเข้ามาหาเพื่อนรักอย่างหมายมาด “นายจะตัดใจทิ้งผมได้ลงคอเชียวเหรอครับ คิดดูนะถ้าผมไม่อยู่สักคน ใครจะรับใช้นาย ใครจะคอยเป็นหูเป็นตาให้นาย ใครจะเป็นที่ระบายอารมณ์ให้ แล้วจะมีใครรู้ใจนายเท่าผมอีก ยอมรับเถอะครับว่าเราสองคนขาดกันและกันไม่ได้ ปุ๊กปู๋คู่กับกางเกงในฉันใด ผมกับนายก็คู่กันฉันนั้นล่ะครับ” เคนพยายามดราม่าทำหน้าเศร้า “ไอ้เคนแกหาว่าฉันเป็นกางเกงใน?” ริคาโด้ขึ้นเสียงอย่างเอาเรื่อง ทำเอาอีกฝ่ายรีบปฏิเสธทันควัน “เปล่าครับเปล่า” “งั้นมึงก็ว่ากูเป็น.......ไอ้เวรเคนอย่าอยู่เลยมึง” “เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆ ผมเปล่าว่านาย ผมแค่เปรียบเทียบเฉยๆ มันเป็นปรัชญานะครับนาย” เคนพยายามแก้ตัว แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา “ปรัชญาบ้าอะไรของมุง กูไม่เคยได้ยิน มานี่เลยมาให้กูเตะซะดีๆ” ริคาโด้สาวเท้าเข้าไปอย่างหมายมาด แล้วแบบนี้จะอยู่ต่อทำไมอีกล่ะครับ เผ่นเลยสิครับ ยังไม่ทันที่เจ้านายจะได้เข้าถึงตัว เคนก็รีบวิ่งออกมาจากห้อง “ไอ้เคน! ไอเวรแกไม่อยู่แล้วใครจะช่วยฉันหาข้อมูลต่อล่ะทีนี้” เนื่องจากว่าอีกฝ่ายเคยเห็นหน้าชมพูแพรชัดๆ มาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะให้รายนั้นเปิดหาข้อมูลพนักงานที่นี่ทีละคน แทนที่จะเป็นเขาที่ต้องมานั่งหาเอง แต่เห็นทีตอนนี้คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ เพราะคงหวังพึ่งบอดี้การ์ดหน้านิ่งอย่างโคดี้ไม่ได้ “ไหนมันบอกว่าจะยอมเป็นที่ระบายอารมณ์ให้ แล้วนี่อะไรแค่ฉันจะเตะมันนิดๆ หน่อยๆ ก็เผ่นหางจุกตูดไปซะแล้ว แบบนี้มันไม่รักกันจริงนี่หว่าใช่ไหมวะโคดี้” คนเป็นเจ้านายหันมาหาโคดี้ที่ยังยืนสงบนิ่งอยู่ที่เดิม “ครับ” โคดี้ตอบสั้นๆ หน้านิ่งๆ จนคนเป็นเจ้านายถึงกับต้องกลอกตาไปมา ลูกน้องกูแต่ละคนไม่มีใครปกติสักคน ไม่ขาดก็เกิน ถ้าจับสองคนนี้มารวมกันแล้วหารสองได้ก็คงดีหรอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม