“คุณนั่นแหละ กินเข้าไปได้ยังไง มันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ เป็นผู้หญิงประสาอะไรเนี่ย ไม่กลัวอ้วนรึไง ถามจริงเหอะกินแล้วเอาไปไว้ไหนหมดเนี่ย” เขามองตัวเล็กๆ ของเธอแล้วก็ทำหน้าเหลือเชื่อ
“ก็พยาธิในท้องฉันเยอะ ถ้าฉันไม่กิน พวกมันก็อดตายน่ะสิ” เธอตอบเล่นๆ ติดตลก แต่เห็นทีคนฟังคงไม่ตลกด้วย
“คุณเป็นพยาธิ! ให้ตายสิ! ทำไมไม่รีบรักษา ปล่อยมันไว้แบบนี้ได้ยังไง สุขอนามัยน่ะรู้จักไหม ไม่ใช่ปล่อยให้มันขยายพันธุ์อยู่แบบนี้ เป็นมานานรึยัง” เขาทำหน้าจริงจังมาก จริงจังจนเธอยังต้องจินตนาการตาม
“เฮ้ๆๆ เดี๋ยวนะ คุณคิดว่าในท้องฉันมีพยาธิอยู่จริงๆ?”
“ก็คุณบอกอย่างนั้น” เขาทำหน้างง
“อี๋...! คุณทำให้ฉันอยากจะอ๊วก” แค่นึกภาพตามเธอก็ทำท่าผะอืดผะอมราวกับอยากจะขย้อนออกมาจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเสียดายของแพงๆ ที่เพิ่งกินเข้าไป
“ก็ถ้าคุณยังไม่รีบรักษา คุณเป็นมากกว่าอ๊วกแน่ ผมรับรอง” เขายังทำหน้าจริงจังเช่นเดิม ในขณะที่เธอรีบโบกไม้โบกมือห้ามไม่ให้เขาพูดอีก ด้วยกลัวว่าตัวเองจะอ๊วกออกมาจริงๆ
“เอาล่ะ ฉันว่าเราพักเรื่องพยาธิกันก่อนนะ คือเอาตรงๆ นะ ไอ้ที่ที่ฉันยืนอยู่เนี่ย มันเรียกว่าคลับเฮาส์แล้วเหรอ ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรนอกจากทานข้าวเสร็จแล้ว ก็นั่งหายใจทิ้งไปเฉยๆ จะคิดค่าเมมเบอร์ให้มันแพงลิบทำไมก็ไม่รู้เนอะ” เมื่อท้องอิ่มแล้ว เธอก็วกกลับเข้าเรื่องเดิม เธอรึอุตส่าห์กระเสือกกระสนเขามาในนี้จนได้ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นมีอะไรอย่างที่คิดเอาไว้สักอย่าง
“แล้วคุณคิดว่ามันจะต้องเป็นยังไงล่ะ” เขาย้อนถามเธอกลับไปก่อนที่จะตอบคำถามเธอ
“ก็คงมีแสงไฟสลัวๆ มีเพลงดังๆ มีบาร์เครื่องดื่ม มีฟลอร์เต้นรำ มีนักร้องสาวๆ สวยๆ หรือมีดีเจเปิดเพลงอะไรทำนองนี้มั้ง” เธอบอกตามที่คิด
“หึๆ ไอ้ที่คุณว่ามาน่ะมันเรียกว่าไนต์คลับ แต่ที่นี่มันคือคลับเฮาส์ มันไม่เหมือนกัน” เธอทำหน้างงหนักขึ้นไปอีก
“เอ้า! ฉันก็นึกว่ามันเป็นผับของคนรวยอะไรประมาณนี้ซะอีก แล้วสรุปมันคืออะไรกันแน่” เขาอดยิ้มอีกไม่ได้ นี่เธอเปิ่น เธออ่อนต่อโลก หรือเธออะไรกันแน่
“มันก็คงเป็นมากกว่าไนต์คลับที่คุณเข้าใจนั่นแหละ อาจจะเป็นที่พักผ่อนของคนมีอันจะกิน เป็นศูนย์รวมความบันเทิง เป็นที่ปลดปล่อย เป็นที่หาความสำราญ เอาเป็นว่าแทนที่จะถามว่ามันคืออะไร ผมพาคุณไปดูเองให้เห็นกับตาเลยดีกว่า” ข้อเสนอของเขาทำชมพูแพรตาโต
“ไปค่ะไป” เธอรับคำด้วยความตื่นเต้น อย่างน้อยเข้ามาวันนี้ก็อย่าให้เสียเที่ยว ได้สำรวจให้ทั่วๆ ก็ยังดี
“เริ่มจากอะไรดีล่ะ คุณมีเป้าหมายอยากทำอะไรก่อนบ้าง” เขาถามความเห็นเธอก่อนอีก
“เอ่อ! แล้วมันมีอะไรบ้างล่ะ” เธอย้อนถามอีก ด้วยไม่รู้จริงๆ ว่าที่นี่มันมีอะไรหรือมันดียังไง
“ก็ดูหนัง ฟังเพลง เต้นรำ บาร์เครื่องดื่มริมสระน้ำ กาสิโน สปาร์ หรือจะเป็นห้องพักผ่อนแบบส่วนตัวที่นี่ก็มี ถ้าคุณต้องการ” สายตาแพรวพราวของเขาเดาได้ไม่ยากว่าห้องที่ว่านั่น มีไว้เพื่ออะไร
“ฉันจะไปทำไมเล่าที่แบบนั้น คุณนี่ก็ถามแปลก” เธอแสร้งว่ากลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง
“ก็ไปจูบกันไง คุณยังไม่ได้จูบผมและผมก็ความจำดี จำได้ขึ้นใจมากๆ ด้วย” จำได้แบบนี้ทุกเรื่องรึเปล่าก็ไม่รู้นะ
“ก็แค่จูบ ไม่เห็นต้องเปิดห้องให้ยุ่งยากนี่ แล้วฉันก็ไม่ได้ลืม เพียงแต่เราเพิ่งทานกันมาอิ่มๆ จูบกันตอนนี้มันคงไม่เหมาะหรอก เกิดฉันอ๊วกตอนจูบกับคุณ มันจะแย่เอานะ เอาเป็นว่ายังไม่ใช่ตอนนี้แล้วกัน เพราะฉันอยากไปสปาร์ มาถึงนี่ทั้งที ขอลองสปาร์คนรวยสักทีเถอะ อยากรู้ว่ามันจะสบายสักแค่ไหน แต่คุณจ่ายนะ” เขายิ้มให้ก่อนจะถาม
“แน่ใจนะว่าอยากไป”
“ก็แน่น่ะสิ ท่าทางฉันเหมือนคนลังเลขี้ลังเลรึไง” ในเมื่อเธอยืนยันขนาดนี้ เขาจึงพาเธอไปอย่างที่เธอต้องการ
“โอ้โฮ! สปาร์คนรวยมันหรูอย่างนี้นี่เองสินะ ถึงว่าทำไมคนถึงได้บอกว่าที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์บนดิน ที่แท้ก็มีที่สบายๆ อย่างนี้ให้ผ่อนคลาย ไหนดูซิมีอะไรให้ทำบ้าง” ว่าแล้วเธอก็อ่านรายละเอียดที่เขาติดไว้ พลันก็ต้องร้องออกมาเสียงหลง
“เฮ้ย! นี่มันสปาร์อะไรของคุณเนี่ย พาฉันมาที่นี่ทำไม” เธอร้องโวยวายเสียงดังทันทีที่รู้ว่ามันไม่ใช่สปาร์ทั่วไปที่ผู้หญิงอย่างเธอจะเข้าได้
“ก็ผมถามคุณแล้วว่าแน่ใจรึเปล่า แล้วคุณก็ตอบว่า...” แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าตัวเองพูดอะไรออกไป โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายย้ำ
“ก็ใครจะไปรู้เล่าว่ามันเป็นสปาร์ปุ๊กปู๋แบบนี้ คุณจงใจแกล้งฉัน” เธอแหวใส่อย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกเขาแกล้งด้วยการพามาสปาร์สำหรับท่านชาย ที่มีเอาไว้นวดและบริการท่านชายน้อย ให้ตายเถอะ! บริการนี้มีไว้เพื่ออะไรเนี่ย เพราะนอกจากจะไม่ผ่อนคลายแล้ว มันอาจจะตึงเครียดหนักกว่าเดิมด้วย แล้วถ้าตึงมากๆ พนักงานสาวสวยๆ พวกนี้จะมีวิธียังไงนะ ‘อ๊าย! แค่คิดก็สยิว เอ๊ย! สยองแล้ว เฮ้ย! แล้วนี่แกจะมโนภาพทำไมเนี่ย’
“สปารปุ๊กปู๋ น่ารักดี เข้าใจเรียกนะ งั้นไปกันเถอะ” เขาว่าแล้วก็ฉวยโอกาสจับมือเธอให้เดินเข้าไปด้านใน
“อ๊าย! ไม่เอา ไม่ไป ปล่อยฉันนะ ฉันไม่มีปุ๊กปู๋จะให้ฉันมานวดอะไรเล่า” เธอพยายามขืนตัวเอาไว้อย่างยิ่งยวด
“ก็มานวดให้ผมไง เอาน่า ไหนๆ ก็มาแล้ว อยาให้เสียเที่ยวเดี๋ยวผมจ่ายให้” เขายังพยายามจะลากเธอเข้าไปให้ได้ ในขณะที่เธอก็ออกแรงต้านเขาไว้สุดแรงเช่นกัน
“อี๋! ไอ้คนลามก ไอ้ผู้ชายบ้ากาม ฉันไม่น่าหลงไว้ใจคุณเลยจริงๆ อยากจะไปนวดหรือไปนาบที่ไหนก็เชิญ ฉันไม่ยุ่งกับคุณแล้ว” เธอดิ้นหลุดออกมาในที่สุด จากนั้นก็รีบเดินเร็วๆ ออกมา ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็ต้องรีบจ้ำตามมา ไม่อย่างนั้นคงถูกพนักงานสาวที่ทำราวกับกำลังหิวโหยนักหนาลากเข้าไปปู้ยี่ปู้ยำข้างในแน่ ก็แต่ละคนมองมาราวกับจะกลืนกินเขาให้ได้อย่างนั้นแหละ
“จะไปไหน” เขาเดินเข้ามาคว้าต้นแขนเธอเอาไว้
“ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีคนลามกอย่างคุณอยู่ด้วย” ‘คิดๆ แล้วหน้าก็ยังร้อนๆ อยู่เลยนะเนี่ย หรือจะเป็นเพราะเราจินตนาการตามมากไปหน่อย’
“เห็นทีจะยาก ถ้าคุณยังไม่ยอมจูบผมตามที่ตกลงกันไว้ ผมก็จะตามคุณอยู่นี่แหละ เอาน่า อย่าซีเรียสสิ ผมแค่ล้อเล่นขำๆ เอาเป็นว่าผมจะพาไปดูที่อื่นเป็นการไถ่โทษแล้วกัน” เขายื่นข้อเสนอพร้อมกับรั้งแขนเธอให้เดินตาม
“นี่! ไม่ต้องมาจับ ฉันเดินเองได้” เธอพยายามขืนตัวออกจากการเกาะกุมของเขา
“โอเค! ถึงละ เป็นไงชอบไหม ฟังเพลงเพราะๆ เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง” เขาพาเธอมานั่งฟังเพลงสบายๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตอนนี้กำลังรู้สึกง่วง ด้วยปกติเธอเป็นคนไม่ชอบนอนดึกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันคงเลยคำว่าดึกไปมากแล้ว ยิ่งมีดนตรีเพราะๆ คลอเบาๆ แบบนี้อีก แทบอยากจะหลับซะเดี๋ยวนั้น นั่นสินะเธอควรกลับไปหลับไปนอนได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เธอตื่นมาทำงานไม่ทันแน่ เพราะฉะนั้นรีบปลีกตัวออกมาก่อนจะดีกว่า ก่อนที่จะโดนทวงจูบอีกรอบ