“ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลยสักที” เธอรีบปฏิเสธทันทีอย่างต้องการเอาใจ
“คุณพูดเองนะว่าไม่คิดจะแยกจากผม เพราะฉะนั้นผมจะถือว่านี่เป็นคำสัญญาจากคุณ แล้วถ้าคุณผิดสัญญา คุณจะต้องโดนลงโทษ” เขาฉวยโอกาสนี้ เอาคำพูดของเธอมาผูกมัดเธอไว้ในคราวเดียวกัน แต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อเธอกับเขาจะเจอกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ‘ชิ! ต่อให้คุณอยากลงโทษฉันแค่ไหน ก็ทำไม่ได้หรอกย่ะ เพราะเราจะไม่เจอกันอีก หึๆๆ แล้วคุณจะคิดถึงฉันอีกนานเชียวล่ะ’
“ได้เลย เอาไงก็เอากันอยู่แล้ว ว่าแต่ไหนล่ะสวรรค์บนดินที่เขาว่าหรูนักหนาน่ะ” เธออดถามไม่ได้ เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว กลับรู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมือนกับภาพที่เธอจินตนาการไว้
“ก็นี่ไง ที่นี่แหละที่ที่คุณอยากเข้ามานักหนาล่ะ ไหนบอกว่าเคยมาแล้วไง” เขาแสร้งจับผิด แต่ทำเอาเธอถึงกับสะอึก
“ก็ได้! ฉันยังไม่เคยเข้ามา พอใจรึยังล่ะ ความจริงคุณรู้ตั้งแต่ตอนที่คุณแสกนลายนิ้วมือแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ก็ยังทำแกล้งไม่รู้ ชิ! สะใจล่ะสิที่ล้อฉันได้แบบนี้” เธอเบ้หน้าให้ แค่คิดว่าตัวเองเป็นตัวตลกในสายตาเขาก็ยิ่งเจ็บใจ
“เปล่าเลย เรื่องแสกนนิ้วมือกับเมมเบอร์การ์ดน่ะ จริงๆ มันก็มีทั้งสองอย่างนั่นแหละ แต่สำหรับลูกค้าวีไอพีอย่างผมที่ไม่ชอบพกบัตรให้หนักกระเป๋า เขาเลยให้ใช้การแสกนนิ้วแทน ส่วนแขกทั่วไปก็ใช้เมมเบอร์การ์ดอย่างที่คุณว่ามาตั้งแต่แรกนั่นแหละ” เธอถึงกับอ้าปากหวอกลอกตาไปมา ‘นี่เขารู้เพราะเราเหรอเนี่ย โอ๊ย! แกพลาดอีกแล้วชมพู่’
“นี่ตกลงคุณแกล้งพูดให้ฉันสารภาพออกมาเองใช่ไหมเนี่ย” พูดแล้วเธอก็อดเจ็บใจไม่ได้อีก เจ็บใจทั้งเขา เจ็บใจทั้งตัวเองที่แพ้ตลอด ‘ฮึ่ย! คอยดูก็แล้วกัน ฉันจะชนะคุณตอนที่คุณไม่มีวันได้จูบจากฉันนี่แหละ’
“ก็เปล่าอีกนั่นแหละ เพราะความจริงผมรู้ตั้งแต่ที่เห็นคุณยืนอยู่หน้าลิฟท์แล้วล่ะ” หรือถ้าความจริงยิ่งกว่านั้น ก็คือ เขารู้ตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอเป็นพนักงานของบริษัทแล้วนั่นแหละ
“งั้นคุณก็หาว่าหน้าอย่างฉันต้องจน ต้องไม่มีเงิน ไม่มีปัญญาเข้ามาในนี้น่ะสิ” เอากับแม่คุณสิ เรื่องเยอะจริงๆ ให้ตายสิ เอะอะๆ ก็จะดราม่าตลอด
“เอาล่ะ! ผมว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ ยังไงตอนนี้คุณก็ได้เข้ามาแล้ว ว่าแต่คุณอยากทำอะไรบ้างล่ะ” เธอทำหน้างงอีก ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่จะอะไรก็ช่าง ตอนนี้ที่เธอรู้ก็คือ เธอกำลังหิวมาก
“ฉันหิวอ่ะ หาอะไรให้ฉันทานหน่อยสิ ยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เย็น” เพราะมัวแต่แต่งองค์ทรงเครื่องจนลืมหาอะไรใส่ท้องน่ะสิ
“โอเค งั้นเราไปห้องอาหารกัน” เขาส่ายหน้าน้อยๆ อดเอ็นดูท่าทางออดอ้อนตอนหิวของเธอไม่ได้ ‘เห็นเปิ่นๆ แบบนี้ เวลาอ้อนก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย’
“โอ้โห! ที่นี่มีร้านอาหารแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย ฉันนึกว่ามีแต่เหล้าซะอีก” ทันที่ที่เขาพามาถึงร้านอาหารสุดหรูซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยมาก ‘ถ้าได้มากับคนรู้ใจสักครั้ง ก็คงดีสินะ’
“อยากทานอะไรสั่งเลย มื้อนี้ผมเป็นเจ้ามือเอง ถือเป็นการฉลองที่เราได้รู้จักกัน” เขาบอกก่อนที่จะยื่นเมนูอาหารไปให้
“ก็แหงล่ะ ฉันมากับคุณ คุณก็ต้องจ่ายสิ มันเป็นหน้าที่สุภาพบุรุษอยู่แล้ว” เรื่องงกมันไม่เข้าใครออกใคร โดยเฉพาะกับเธอ
“โอว! งั้นคงเป็นเกียรติกับผมอย่างยิ่งที่จะได้เลี้ยงสุภาพสตรีอย่างคุณ เชิญเลยครับตามสบาย อยากได้อะไรสั่งได้เลยครับ” ‘ไหนๆ ก็ได้เข้ามาแล้ว ขอกินของหรูดูสักทีเถอะวะ แม่จะฟาดให้เรียบ เอาให้อิ่มพุงกางกันไปข้างหนึ่งเลย หึๆๆ ก็เจ้ามือเขาเสนอมา เราก็ต้องสนองไปสิ’
“เอ่อ! งั้นฉันขอ............................” เธอสั่งรายการอาหารยืดยาว ชนิดที่เจ้ามือยังหนาว จากนั้นไม่นาน อาหารที่สั่งก็เริ่มทยอยออกมาจนเต็มโต๊ะ
“สั่งมาเยอะแยะขนาดนี้ จะทานหมดได้ยังไง หรือคุณคิดจะแกล้งผม แต่บอกไว้ก่อนนะว่าทานไม่หมดมีจูบลงโทษแน่” ริคาโด้ยิ้มมุมปาก รู้หรอกว่าเธอกำลังแกล้งเขาด้วยการสั่งอาหารมากมายมาเพื่อผลาญเงินเขา ‘แต่ขอโทษ ระดับนี้ไม่มีจนแน่’
“คุณไม่ได้แอ้มฉันหรอกย่ะ เฮ้! นี่ เดี๋ยวๆๆ คุณจะทานด้วยเหรอ” เธอท้วงขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะตักอาหารที่เธอสั่งมา
“ก็ใช่ไง ผมเองก็ยังไม่ได้ทานอะไรมา นี่อย่าบอกนะว่าอาหารตั้งเยอะแยะแบบนี้ แต่คุณกลับไม่คิดที่จะแบ่งผม ทั้งที่ผมเป็นคนจ่ายเนี่ยนะ” เขาทำหน้าไม่อยากเชื่อ เกิดมาเพิ่งเคยเจอผู้หญิงแบบนี้ก็มีด้วย
“ก็ใช่ไง คุณบอกเองนะว่าจะเลี้ยงฉัน แล้วคุณก็ไม่ได้บอกนี่ว่าคุณจะทานด้วย ฉันก็เลยไม่ได้สั่งมาเผื่อ เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากทานด้วย คุณก็สั่งใหม่ละกัน ส่วนบนโต๊ะนี่ของฉัน” ริคาโด้ถึงกับกัดฟันกรอด ก็แม่คุณเล่นทานเอาๆ โดยไม่สนใจเขาเลยสักนิด ทั้งที่ทั้งหมดนี่เป็นเงินเขา แต่เขากลับต้องมานั่งรออาหารที่เพิ่งสั่งเพิ่มไป แบบนี้มันยุติธรรมกับเจ้ามืออย่างเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ
“โห! อาหารที่คุณสั่งน่าทานๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ” หลังจากที่บริกรยกอาหารที่เขาสั่งเพิ่มมาเสิร์ฟ ชมพูแพรถึงกับมองตามตาเป็นมัน เพราะดูจากหน้าตาของมันก็รู้แล้วว่า รสนิยมการสั่งอาหารของเขาคงดีกว่าเธอเยอะ
“อย่าแม้แต่คิด นี่มันของผม คุณก็ทานของๆ คุณโน่น ใครสั่งใครทาน แล้วก็เลิกมองอาหารของผมได้แล้ว มองขนาดนี้จืดหมดแล้วมั้ง” เขาทำแสร้งหวงอาหารของตัวเองอย่างที่เธอทำกับเขาในตอนแรกบ้าง
“ชิ! งก” เธอเบ้หน้าให้ ก่อนจะหันกลับไปจัดการของตัวเองต่อ
“นี่ ให้มันน้อยๆ หน่อยแม่คุณ ไอ้ที่คุณทานอยู่น่ะมันก็เงินผมไม่ใช่เหรอ แล้วยังมาหาว่าผมงกอีก แบบนี้มันสมควรเลี้ยงดีไหมเนี่ย”
“สมควรสิ ก็คุณบอกเองว่าจะเลี้ยงฉัน คุณก็ต้องรักษาคำพูดสิ สัจจะของลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น ห้ามคืนคำเด็ดขาด” เอ่อ...ในขณะที่คุณผู้หญิงจ้องแต่จะผิดคำพูดเขาท่าเดียว
“เอาเถอะ! พูดไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องเลี้ยงอยู่ดี เชิญคุณทานต่อให้สบายใจเถอะ” เขายกมือยอมแพ้ และจัดการกับอาหารของตัวเองบ้าง
“เอ้า! ทำไมคุณทานไม่หมดล่ะ น่าเสียดายออก” หลังจากจัดการกับอาหารของตัวเองเสร็จ เธอก็หันไปมองเขาที่วางช้อนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้คือเขาทานไม่หมดซึ่งต่างกับเธอโดยสิ้นเชิง ‘ทีเมื่อกี้มาทำเป็นงกไม่ให้เรากิน สุดท้ายก็กินไม่หมดอยู่ดี เสียดายชะมัด ของดีๆ ทั้งนั้น หรือเราจะขอใส่ถุงกลับบ้านดี’ ในขณะที่ความงกกำลังครอบงำ จู่ๆ เสียงเขาก็ดังขึ้นมา พาเอาความงกหายไปในที่สุด